บทที่ 38 กลับอย่างปลอดภัย
ตงหลี่เช่อได้แต่รออยู่ในถ้ำต้นไม้ด้วยใจกระวนกระวาย ในที่สุดคนส่งข่าวของหลิวฉงเหวินก็มาถึง เมื่อเขาได้ยินว่าจินต้าจงกับทูหลางอาจตายไปแล้ว และสิบสามธงแห่งเยี่ยนเป่ยไม่อาจเป็ภัยคุกคามต่อหลิวฉงเหวินได้อีกต่อไป เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็เื่จริง แต่เมื่อเขาได้รู้ว่าเสียงูเาถล่มที่น่าพรั่นพรึงเป็ฝีมือของลั่วถู เขาก็หมดคำจะกล่าว แต่ในใจของเขาก็ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ครั้งนี้เมื่อกลับเมืองม่อหลานได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพาเ้าเด็กนี่มาเข้าตระกูลให้ได้ ถึงพลังในการสู้รบของคนธรรมดาจะอ่อนแอมาก แต่ตระกูลตงหลี่ไม่ขาดแคลนยอดฝีมือ ทว่ากลับขาดมันสมอง ที่ปรึกษาที่กล้าหาญ ต่อให้ไม่อาจเปิดิญญาแล้วจะอย่างไรเล่า สังหารคนไม่จำเป็ต้องลงมือด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว เดิมทีตอนที่เขาได้ยินว่าจินต้าจงกับทูหลางมาเพื่อกำจัดเขา ในใจของเขาก็มืดมนไร้ทางออก กระทั่งมีความคิดจะเสี่ยงตากฝนเร่งเดินทางด้วยซ้ำ ทว่าศัตรูที่เป็ภัยคุกคามอย่างร้ายกาจทั้งสองของเขา กลับถูกคนธรรมดาคนหนึ่งลงมือจัดการเสียแล้ว ยิ่งทำให้เขาหลงใหลในพร์นี้ขึ้นไปอีก
“ให้ฉงเหวินลงมือตามสะดวก!” ตงหลี่สูดลมหายใจเข้าลึก หากไม่มีจินต้าจงกับทูหลาง ลำพังคนที่เหลือไม่พอคุกคามพวกเขาได้แน่นอน ต่อให้มีใจคิดจะลงมือ การจะขยี้ธงซ้ายแห่งเยี่ยนเป่ยให้สาหัสก็ไม่ใช่เื่ยากเย็นอะไร
……
กลุ่มคนของธงซ้ายแห่งเยี่ยนเป่ยะโอยู่บนดินเหนียวที่อ่อนตัวลง ตามหาร่องรอยของจินต้าจงและทูหลางจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบ เื่นี้ไม่ปกติแล้ว เกรงว่าพวกเขาคงถูกูเาถล่มไร้สาเหตุกลืนเข้าไปแล้วเป็แน่
ผืนดินขนาดั์ที่ยาวนับสิบกว่าลี้ราวกับัั์นอนทอดตัว เมื่อมองจาก้าลงมาก็ดูราวกับูเาลูกใหญ่สั่งน้ำมูกออกมายาวเหยียด ฝนยังคงตกหนัก เสียงูเาถล่มยังดังอยู่บ้างเป็ครั้งคราว และดินเหนียวที่ดูคล้ายกับันอนทอดกายยังคงขยับอย่างเชื่องช้าอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่ได้บ้าคลั่งเหมือนตอนแรกแล้ว ไม่มีใครสงสัยเลยว่าภัยพิบัติครั้งนี้อาจเป็ฝีมืุ์ จะมองอย่างไรก็ดูเหมือนเป็เพราะฝนตกหนักทำใหู้เาถล่มเสียมากกว่า พลังของมนุษย์ที่มีอำนาจทำลายล้างมากขนาดนี้จะไปมีจริงได้อย่างไร... เพียงแต่ขณะที่พวกเขากำลังค้นหาทูหลางกับจินต้าจง ก็พบเข้ากับปัญหาอย่างหนึ่ง นั่นก็คือในป่าแห่งนี้ไม่ได้มีเพียงพวกเขากลุ่มเดียว เมื่อสูญเสียผู้นำไป สภาพจิตใจของคนจากธงซ้ายแห่งเยี่ยนเป่ยก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว ไม่มีใจจะระวังตัวอะไรนัก คิดเพียงตามหาคนที่หายตัวไป... และในเวลานี้เองที่พวกของหลิวฉงเหวินและฉีหลางทั้งสองกลุ่มค่อยๆ เข้าประชิดอย่างเงียบเชียบ
การสังหารครั้งนี้ คนของสิบสามธงแห่งเยี่ยนเป่ยกระจายตัวออกค้นหาพวกเขาในระยะสิบกว่าลี้ แต่คนของหลิวฉงเหวิน มีเป้าหมายคือการกวาดล้าง ภายใต้การลอบโจมตีของหน้าไม้แกร่ง ก็แทบไม่พบกับการตอบโต้สักครั้ง ผู้โชคร้ายเ่าั้ได้แต่ล้มลงไปทีละคน ละคน กว่าศัตรูจะรู้ตัวว่าสถานการณ์ไม่ปกติก็เสียกำลังพลไปมากกว่าครึ่งเสียแล้ว ท่ามกลางฝนตกหนัก ศพถึงขนาดถูกดินเหนียวฝังไปจนหมด และจมหายไปในที่สุด...
ลั่วถูถอนหายใจไปพลางค้นหาศพที่ถูกสังหารไปพลาง คนอื่นไปล่าสังหาร ส่วนเขารับผิดชอบเก็บกวาดสนามรบ ก่อนที่ศพจะจมลงไปในดินเหนียว เขานำเหรียญซิงเหิน เม็ดยา แก่นอสูรและทรัพย์สินอื่นๆ ออกมาจากศพของฝ่ายตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว แถมยังมีอาวุธด้วย
โชคดีที่ทุกคนออกไล่ล่ากันหมด ทำให้ไม่ได้มีใครตามเขามา เพียงแค่หาศพมาบังสักหน่อยก็เก็บของทั้งหมดเข้าแหวนมิติได้อย่างง่ายดายแล้ว เมื่อพวกหลิวฉงเหวินจัดการพวกธงซ้ายแห่งเยี่ยนเป่ยเรียบร้อย เกรงว่าศพพวกนั้นก็คงถูกฝังในดินเหนียวไปหมดแล้ว ไม่มีทางรู้ว่าทรัพย์สินบนศพถูกกวาดไปจนเกลี้ยงแล้วแน่นอน ในความเป็จริงนั้นแค่สังหารคนขวางทางพวกนี้ได้ พวกเขาก็พอใจมากแล้ว อีกทั้งคนพวกนี้ไม่ใช่คนต่างเผ่า ศีรษะและหูของพวกเขาไม่ถูกวิหารเสินจั้นนับเป็ผลงานทหารแต่อย่างใด
การไล่ล่าครั้งนี้ดำเนินไปเรื่อยๆ จนฝนหยุดลง หลังจากท้องฟ้าเริ่มมืดลงก็หยุดมือ ต่อให้พวกหลิวฉงเหวินจะรอบคอบอย่างไร ก็ยังไม่อาจไล่สังหารคนของธงซ้ายแห่งเยี่ยนเป่ยได้หมด ยังมีบางคนหนีเข้าป่าไป การคิดจะหาคนไม่กี่คนที่หนีเข้าป่านั้น ก็ไม่ต่างไปจากงมเข็มในมหาสมุทร ดังนั้นหลิวฉงเหวินจึงถอยทัพกลับ การสังหารครั้งนี้ เป็การไล่สังหารหมู่อยู่ฝ่ายเดียว ถึงจะมีคนเจ็บหลายคน แต่กลับไม่มีใครเป็อันตรายจนถึงชีวิต ต้องเรียกว่าเป็เื่น่ายินดีอีกอย่างหนึ่ง
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง หลังจากฝนตก เส้นขอบฟ้ากลับปรากฏแสงสีขาวสายหนึ่ง ซึ่งก็คือแสงอาทิตย์ตกทางูเาตะวันตก แม้จะมีเพียงแสงเล็กน้อยจากพระอาทิตย์ตก แต่ทุกคนไม่ได้หยุดมือแต่อย่างใด เื่ที่คนของธงซ้ายแห่งเยี่ยนเป่ยถูกกำจัด เป็ไปได้สูงมากที่ข่าวนี้จะถูกส่งต่อไปอย่างรวดเร็ว ถ้าพวกเขาไม่รีบกลับไป เกรงว่าทางข้างหน้าคงได้เกิดเื่ขึ้นอีกแน่ ตอนนี้ขอเพียงพวกเขากลับไปถึงูเาหมังได้ ก็สามารถทำแพล่องตามแม่น้ำไป ยิ่งตอนนี้ฝนตกลงอย่างหนักไปแล้วรอบหนึ่ง น้ำในแม่น้ำต้องไหลเชี่ยวมากแน่นอน ล่องแพไปตามแม่น้ำอาจมีอันตรายก็จริง แต่ก็ทำให้พวกเขาเดินทางได้เร็วขึ้นมากเช่นกัน
……
ปากทางูเาหมังเป็ทางเข้าสู่แม่น้ำ พายุใหญ่ครั้งนี้ ราวกับเติมทั้งแม่น้ำจนเต็ม สายน้ำไหลหลากที่ไหลมากัน หลังจากนั้นไหลเข้าสู่แม่น้ำม่อหมัง เมื่อมาถึงปากทางูเาหมัง ฟ้าก็มืดเสียแล้ว แสงจันทร์และแสงดาวบนฟ้าไม่สว่างเท่าไรนัก ทว่าไม่ได้มืดเสียจนเป็อุปสรรคในการต่อแพของพวกเขาแต่อย่างใด
การจุดไฟหลายกองไว้แถวๆ ปากแม่น้ำ ถึงไม้จะเปียกจนชุ่ม แต่แค่ผิงไฟให้นานเสียหน่อยก็ใช้ได้แล้ว คนหลายสิบคนขึ้นแพสักสิบแพก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากตอนนี้แม่น้ำมีน้ำสูงมาก ทั้งยังไหลเชี่ยว ทำให้ข้ามพวกกองหินได้ง่ายดาย แถมขนาดแพก็ไม่ใช่เล็กๆ จากนั้นคนกลุ่มหนึ่งเดินลงไปในน้ำเพื่อนำแพลงน้ำ ทุกอย่างล้วนราบรื่นไร้อุปสรรค หรือบางทีคงไม่มีใครขัดขวางพวกเขาได้ง่ายๆ แล้ว นอกจากจะมีคำสั่งเรียกรวมเรือใหญ่เข้าสู่น่านน้ำแห่งนี้ ทว่าที่นี่ใกล้เมืองม่อหลานแล้ว คิดจะใช้เรือจำนวนมากเข้าขว้างทางแม่น้ำไว้โดยไม่ให้คนสนใจ เกรงว่าคงมีคนไม่มากนักที่จะทำเช่นนี้ได้
พอขึ้นแพไม้ได้ ลั่วถูได้นอนอย่างปลอดภัยสักที เขาต้องวิ่งไปวิ่งมาตลอดทั้งวันทั้งคืน ทำเอาเขาเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดส่วนเจียงิ่ไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าไรนัก ในตอนที่ฝนตกนางเป็คนธรรมดาคนหนึ่งได้แค่คอยเฝ้าอยู่ที่ถ้ำต้นไม้ ได้หลับตานอนพักผ่อนอย่างดี ทว่าลั่วถูกลับต้องวิ่งเทียวไปเทียวมา พาคนของหลิวฉงเหวินต่อกรกับธงซ้ายแห่งเยี่ยนเป่ยใต้ผาปากเหยี่ยว หลังจากนั้นเก็บกวาดสนามรบ เปียกชุ่มไปทั้งตัวใต้สายฝน ถ้าไม่ใช่ว่าตอนที่มัดแพไม้ เขาได้โอกาสผิงไฟให้ร่างกายตัวเองแห้งล่ะก็ เกรงว่าป่านนี้คงมีสภาพดูไม่จืดราวกับไก่เปียกน้ำเป็แน่
หลังจากฝนตกแม่น้ำก็ไหลเชี่ยวมาก ใช้เวลาเพียงสองชั่วยาม พวกเขาก็มาถึงแม่น้ำใกล้ๆ เมืองม่อหลานแล้ว ทุกคนไม่ปล่อยให้แพไหลไปตามน้ำอีกแม้จะยังไม่ถึงจุดหมาย เพราะหากแพไหลเลยไป การจะหันกลับมันช่างยุ่งยากเสียเหลือเกิน สู้ยอมลงเดินนิดหน่อย ดีกว่านั่งแพเลยไปเป็ไหนๆ แถมยังเป็ยามวิกาล ทำให้ยากจะระบุตำแหน่งของสถานที่ริมฝั่งได้ ขณะที่ทุกคนไปถึงนอกเมืองม่อหลาน ก็เป็เวลาเที่ยงคืนแล้ว ในเวลานี้เมืองม่อหลานไม่มีทางเปิดประตูตามใจเด็ดขาด ต่อให้ตงหลี่เช่อจะแสดงตัวออกมาก็เปล่าประโยชน์ ดังนั้นทุกคนจึงเลือกตั้งค่ายอย่างมิดชิด นับว่าเป็การพักผ่อนเสียหน่อย การพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ต้องหนีตายอย่างน่าอดสู ราวกับทุกคนล้วนหมดแรงกันถ้วนหน้า ก่อนฟ้าจะสาง ทุกคนต้องพักผ่อนให้ดี เพราะถ้าประตูเมืองเปิดออกเมื่อไร จะได้พร้อมเข้าเมืองในทันที เมื่อถึงเวลานั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง เื่นั้นจะเป็หน้าที่ของตงหลี่เช่อ
การกลับมาของตงหลี่เช่อ สร้างแรงกระเพื่อมกับเมืองม่อหลานอย่างมาก หลังจากแม่ทัพตงหลี่กลับมาก็ไปที่วิหารเสินจั้นทันที พวกชาวบ้านในเมืองได้แต่ถกเถียงเื่นี้กันไปสารพัด อย่างไรเสียในครั้งนี้ทหารในทัพของตงหลี่เช่อก็เกือบจะหายสาบสูญไปกันหมด นักรบที่กระจัดกระจายกันไปทยอยกลับมา เพียงแต่พวกเขาก็ไม่ทราบสาเหตุของการพ่ายศึกนี้เช่นกัน กล่าวเพียงว่าถูกลอบโจมตี จากนั้นก็พ่ายแพ้อย่างไม่มีสาเหตุ... ก่อให้เกิดการคาดเดามากมาย เกี่ยวกับตงหลี่เช่อ บ้างก็เกี่ยวกับเผ่ามาร...
คนจากตระกูลตงหลี่ก็มาด้วยเช่นกัน แต่ก็เฝ้าอยู่ที่วิหารเสินจั้นตลอดเวลา ไม่มีใครรู้ว่าตงหลี่เช่อเป็หรือตาย การพ่ายแพ้ที่ไร้สาเหตุครั้งนี้ แท้จริงแล้วมีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่ ตระกูลตงหลี่ก็้าทราบเื่นี้เช่นกัน
และการที่ทหารของตงหลี่เช่อถูกลอบโจมตี ทำให้าหลักของเผ่ามนุษย์สูญเสียครั้งใหญ่ เป็เพราะตงหลี่เช่อใช้ทหารไม่เป็ หรือเพราะสาเหตุอื่น วิหารเสินจั้นเองก็้าเหตุผลให้กับแม่ทัพใหญ่เิเถิงเช่นกัน
ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าตงหลี่เช่อตายในสนามรบไปแล้ว หากเป็เช่นนั้นจริง แม้ตงหลี่เช่อจะต้องแบกรับความผิดฐานสั่งการทหารผิดพลาด แต่ก็จะไม่ได้รับโทษแต่อย่างใดเพราะกับคนตายแล้วก็ต้องจบกันไป แต่ในเมื่อตงหลี่เช่อรอดชีวิตกลับมา ก็อาจมีผลลัพธ์หลายอย่างเกิดขึ้น อย่างแรก จากเื่ที่ตงหลี่เช่อสั่งการผิดพลาดจึงต้องถูกลงโทษ และสอง เื่นี้มีเหตุผลซับซ้อนซ่อนอยู่ วิหารเสินจั้นย่อมไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่ เื่ที่เกิดขึ้นที่ป้อมมู่สือทำให้วิหารเสินจั้นและกองทัพเผ่ามนุษย์เสียหน้ามากพอแล้ว มิหนำซ้ำยังมีเื่ของตงหลี่เช่ออีก... วิหารเสินจั้นจะไม่ทนอีกต่อไป!
เื่เหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวกับลั่วถูสักนิด เขาเป็เพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง คนขนศพที่ยังไม่แม้แต่เปิดิญญา เื่แรกที่เขาทำเป็อย่างแรกหลังจากกลับถึงเมืองคือไปส่งภารกิจ หลังจากได้รับคะแนน ก็ไปหาฉีหลางกับซ่งตง ทั้งสองอยู่ในกองทัพ หลังจากกลับเมืองก็กลับเข้าค่ายทหาร อีกทั้งตำแหน่งของพวกเขายังต่ำอยู่ต่อให้เกิดอะไรขึ้นกับตงหลี่เช่อก็ไม่เกี่ยวกับพวกเขาเท่าไรรัก ไม่เหมือนพวกหลิวฉงเหวินกับเฉิงอิง พวกเขาถูกวิหารเสินจั้นเรียกไปสอบปากคำ พวกองครักษ์ส่วนตัวของตงหลี่เช่อก็เช่นกัน
เหตุผลที่ลั่วถูตามหาฉีหลางเป็เพราะเขาไม่อยากมีเื่กับลั่วเหยียน ไม่อยากให้สมาคมซานชิงมาตามหาเื่อีก ทำให้ในเขตค่ายทหารกลายเป็สถานที่พักผ่อนที่ดีที่สุด
ถึงตงหลี่เช่อจะไปวิหารเสินจั้น ทว่าอิทธิพลของตระกูลตงหลี่ยังคงยิ่งใหญ่นัก ในค่ายทหารยังคงให้การดูแลนักรบที่กลับมาพร้อมตงหลี่เช่อครั้งนี้เป็อย่างดีด้วย กล่าวได้ว่าคนเหล่านี้เสี่ยงเป็เสี่ยงตายพร้อมกับตงหลี่เช่อ นับว่ามีผลงานการอารักขา ลั่วถูเองก็คิดว่าตนคงได้รับรางวัลอะไรบ้างเช่นกัน จากที่เขาดู ตงหลี่เช่อต้องไม่เป็อะไรแน่นอน เช่นนั้น อีกไม่นานคงได้กลับเข้าค่ายทหาร และเขาที่สามารถพาทุกคนกลับมาได้อย่างราบรื่นนับเป็ผู้สร้างผลงานได้ดีทีเดียว ตงหลี่เช่อคงไม่ขี้เหนียวนักหรอกกระมัง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้