มือจ้าวซีเหอสั่นขณะเขียนชื่อ ในขณะที่สายตาของหนิงมู่ฉือเอาแต่จ้องมองไปทางจ้าวซีเหออยู่ตลอดเวลา ในมือเต็มไปด้วยเหงื่อเนื่องจากอาการลุ้นระทึก
ขันทีผู้รับผิดชอบเก็บกระดาษทั้งหมดมา เดินขึ้นไปบนเวที ใช้เสียงเล็กแหลมประกาศชื่อซึ่งอยู่ในกระดาษแต่ละใบ ทำให้สายตาของขุนนางรวมถึงพระสนมทั้งหลายต่างจับจ้องไปที่บนเวทีเป็จุดเดียวกัน
“เวลานี้ผลการแข่งขันได้ออกมาแล้ว หมายเลขหนึ่งได้ห้าสิบสองคะแนน หมายเลขสองได้สี่สิบแปดคะแนน”
สิ้นประโยคนี้ ทุกคนต่างคาดเดากันไปต่างๆ นานา ทั้งบางคนยังะโบอกให้ขันทีผู้รับผิดชอบรีบประกาศชื่อผู้ชนะได้แล้ว แม้แต่ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินยังจ้องมองขันทีผู้รับผิดชอบอย่างรอคอยเช่นกัน
หนิงมู่ฉือเครียดจนเหงื่อไหลซึมเต็มหน้าผาก ขันทีหัวหน้าพ่อครัวซึ่งยืนอยู่ด้านข้างจ้องไปที่ขันทีผู้รับผิดชอบอย่างร้อนใจ
“หมายเลขหนึ่งคือน้ำแกงเต้าหู้ปลากุ้ยอวี๋ของพ่อครัวหลวง ส่วนหมายเลขสองคือแม่นางหนิง เช่นนั้นการแข่งขันในครั้งนี้ผู้ชนะคือพ่อครัวหลวง”
จบประโยค ขันทีพ่อครัวหลวงทั้งหลายะโโลดเต้นดีอกดีใจยกใหญ่ ปรบมือกันอย่างชอบใจ ทั้งยังหันไปมองหนิงมู่ฉืออย่างย่ามใจ แม้แต่เต๋อเฟยซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งยกสูงยังยิ้มอย่างลำพองใจมองหนิงมู่ฉือ ในขณะที่มองแววตาเต็มไปด้วยแววเย้ยหยัน
จ้าวซีเหอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มองเวทีการแข่งขันอย่างไม่อยากจะเชื่อ นั่นก็คือฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน
ครั้นหนิงมู่ฉือได้ฟังผลการแข่งขันที่ออกมา ก็ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก หันไปส่งยิ้มให้ขันทีหัวหน้าพ่อครัวซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง ก่อนจะยอบกายคำนับ “ท่านกงกงมีฝีมือการปรุงอาหารยอดเยี่ยมมากเ้าค่ะ”
ถึงแม้ขันทีหัวหน้าพ่อครัวจะขอยืมเกลือมาจากหนิงมู่ฉือ แต่ก็รู้ฝีมือของอีกฝ่ายดี จึงมองหนิงมู่ฉืออย่างไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัยขณะเอ่ยถาม “แม่นางหนิง นี่ข้าชนะท่านจริงๆ หรือ”
หนิงมู่ฉือยิ้มกว้างให้ขันทีหัวหน้าพ่อครัวพลางพยักหน้า “ใช่เ้าค่ะ ท่านชนะข้าจริงๆ เช่นนั้นตำแหน่งเทพพ่อครัวคงต้องยกให้ท่านแล้ว”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินขมวดคิ้วขณะมองเวทีการแข่งขัน สำหรับหนิงมู่ฉือแล้ว ฝีมือการทำอาหารเป็สิ่งที่นางภาคภูมิใจที่สุด และด้วยความสามารถของนาง สามารถเอาชนะพ่อครัวหลวงได้สบาย จึงคิดไม่ถึงว่าผลจะออกมาเป็เช่นนี้…
“เป็อันใดไป เ้ามีข้อสงสัยในเื่นี้อย่างนั้นหรือ” ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม น้ำเสียงทรงอำนาจ
ขันทีหัวหน้าพ่อครัวมองฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แค่ถูกฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินใช้พระเนตรคมกริบมองมา ก็ทำเขาพูดไม่ออกแล้ว
ขันทีหัวหน้าพ่อครัวเอ่ยตอบเสียงสั่นอย่างเห็นได้ชัด “ทูลฝ่าา เมื่อสักครู่บ่าวได้รับความช่วยเหลือจากแม่นางหนิง ทำให้เครื่องปรุงของแม่นางหนิงไม่เพียงพอพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินได้ฟังก็ตรัสออกมาว่า “เช่นนั้นเ้ามาลองชิมน้ำแกงทั้งสองถ้วยนี้ดู ดูสิว่าแตกต่างกันตรงที่ใด”
ขันทีหัวหน้าพ่อครัวกำลังจะเดินเข้าไปชิม กลับถูกหนิงมู่ฉือรั้งแขนห้ามเอาไว้เสียก่อน
หนิงมู่ฉือยิ้มอ่อน ทำให้เห็นลักยิ้มบ้างไม่เห็นบ้าง แลดูน่ารักเหลือประมาณ “ฝ่าา บ่าวมีคำที่อยากกล่าวเพคะ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินพยักหน้าอนุญาต
“ทูลฝ่าา ความจริงบ่าวแค่ช่วยเหลือขันทีหัวหน้าพ่อครัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แค่มอบเกลือที่มีเหลือเฟือให้เขาเท่านั้นเพคะ”
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินยิ้มพร้อมกับเอ่ย “ไม่เป็ไร ลองชิมเดี๋ยวก็รู้”
ขันทีหัวหน้าพ่อครัวโค้งกาย ก่อนจะเดินไปยังถ้วยน้ำแกงทั้งสองถ้วย ยกถ้วยหนึ่งขึ้นมา ใช้ช้อนค่อยๆ ตักเข้าปาก น้ำแกงรสชาติละมุนลิ้น เต้าหู้นุ่มลื่น เพียงแต่ที่น่าแปลกคือ รสชาติของน้ำแกงอ่อนไปหน่อย ส่วนเต้าหู้ก็ดูคล้ายกับเคยนำไปนึ่งมาก่อน
สีหน้าขันทีหัวหน้าพ่อครัวเปลี่ยนไปในทันใด ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินโดยตลอด ตรัสถามออกมาว่า “เป็อย่างไรบ้าง บอกมาสิว่าถ้วยนี้รสชาติแปลกที่ใด”
ขันทีหัวหน้าพ่อครัวเดินไปคุกเข่าตรงหน้าฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน หนิงมู่ฉือเห็นเช่นนั้นรู้สึกกังวลใจยิ่งนัก สิ่งที่นางตั้งใจทำมาทั้งหมดกำลังจะเสียเปล่าในไม่ช้านี้แล้ว
“ทูลฝ่าา เต้าหู้ของน้ำแกงถ้วยนี้เคยผ่านการนึ่งมาก่อนพ่ะย่ะค่ะ เมื่อทานเข้าไปจึงนุ่มลื่นมาก น้ำแกงก็ละมุนลิ้น ถ้าพูดถึงความสดใหม่ของวัตถุดิบที่อยู่ในน้ำแกง บ่าวเป็ฝ่ายแพ้ให้แม่นางหนิงพ่ะย่ะค่ะ ทว่าสิ่งเดียวที่ขาดหายไปในน้ำแกงถ้วยนี้คือ ใส่เกลือน้อยไปหน่อย เห็นได้ชัดว่าตั้งใจพ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าหนิงมู่ฉือเปลี่ยนไปทันที รีบเอ่ยตอบทันควัน “ทูลฝ่าา นี่เป็แค่เื่เข้าใจผิดกัน ถึงแม้กงกงท่านนี้จะขอยืมเกลือจากบ่าว แต่เกลือที่ยังเหลืออยู่ก็เพียงพอที่จะทำน้ำแกงถ้วยนี้เพคะ เป็บ่าวที่ใส่เกลือลงไปไม่เพียงพอเองเพคะ”
“เป็ครั้งแรกที่เราเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เ้าไม่อยากเป็ผู้ชนะหรือ” ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินเอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ ที่โต๊ะทำอาหารของหนิงมู่ฉือไม่มีเกลือเหลืออยู่แล้วจริงๆ เกลือถูกใส่ลงไปในน้ำแกงหมดแล้ว เห็นได้ชัดว่าหนิงมู่ฉือตั้งใจแกล้งแพ้ให้แก่ขันทีหัวหน้าพ่อครัวจริงๆ ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินยิ้มขณะเอ่ยกับขันทีหัวหน้าพ่อครัว “ไหนเ้าบอกมาสิว่าที่หนึ่งควรให้ผู้ใดดี”
ขันทีหัวหน้าพ่อครัวตัวสั่นงกด้วยความกลัว แม้แต่มือก็ยังสั่น เขาเหลือบมองหนิงมู่ฉือครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปเหลือบมองบรรดาขันทีพ่อครัวทั้งหลายอีกผาดหนึ่ง ความจริงแล้วควรเป็หนิงมู่ฉือที่ชนะ
“ทูลฝ่าา บ่าวคิดว่าผู้ชนะควรเป็ของแม่นางหนิงพ่ะย่ะค่ะ” กล่าวจบ ขันทีหัวหน้าพ่อครัวก็หลับตาอย่างยอมแพ้
ขันทีพ่อครัวทั้งหลายต่างถอนหายใจออกมา ปากบ่นพึมพำว่า “อาจารย์เลอะเลือนแล้วจริงๆ เื่เช่นนี้… ไม่พูดแล้ว น่าเสียดาย ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
เต๋อเฟยมองขันทีหัวหน้าพ่อครัวอย่างเคียดแค้น ทั้งเป็แค้นที่ฝังลึกลงไปในกระดูก ทว่านางคือสตรีที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี เพียงแค่ครู่เดียว สีหน้าก็กลับมามีรอยยิ้มตามมารยาทดั่งเดิม
ซูเฟยยิ้มขณะมองด้านล่างแท่นยกสูง ก่อนจะหันไปมองเต๋อเฟยอย่างเหยียดหยามผาดหนึ่ง เห็นสีหน้าที่ดูไม่ดีนักของเต๋อเฟยก็ยิ่งได้ใจ หันไปส่งยิ้มให้แก่องค์หญิงซีเยวี่ยคราหนึ่ง
จ้าวซีเหอลอบถอนหายใจออกมา ไม่คิดเลยว่าฝีมือในการเล่นละครของหนิงมู่ฉือจะแย่ถึงเพียงนี้ โชคดีที่ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินไม่สืบสาวเอาเื่ต่อ มิเช่นนั้นนางจะต้องถูกลงโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงเป็แน่
ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินมีสีหน้าลึกล้ำขณะส่งยิ้มบางๆ ให้หนิงมู่ฉือ เพียงแค่ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินมองมาก็กดดันจนหายใจแทบไม่ออกแล้ว “แม้แต่ขันทีหัวหน้าพ่อครัวยังพูดออกมาเช่นนี้ เ้ายังจะปฏิเสธอีกหรือไม่”
หนิงมู่ฉือหน้าแดงใจเต้นรัวแรง คุกเข่าเบื้องหน้าฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจิน “ทูลฝ่าา บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”
“เช่นนั้นผู้ชนะคือเ้า เทพแม่ครัว แต่ว่า…” เสียงของฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินหยุดชะงักไป ทำให้หนิงมู่ฉืออดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยความประหวั่น นึกว่าฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินจะเอาเื่กับนาง
“แต่ว่าเราจะมอบหน้าที่หนึ่งให้แก่เ้า” ฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เต๋อเฟย เ้าเอ่ยแทนเราที”
เต๋อเฟยที่ถูกเอ่ยชื่อเบนสายตาไปยังฮ่องเต้จ้าวเจี้ยนเจินผาดหนึ่ง ทันใดนั้นเองนางก็คิดบางอย่างออก นางเลื่อมใสในฝีมือการทำอาหารของหนิงมู่ฉือ เช่นนั้นสู้ให้อีกฝ่ายมาเป็คนของนาง ให้นางได้ใช้งานมิดีกว่าหรือ
ริมฝีปากเต๋อเฟยยกเป็รอยยิ้มขณะลุกขึ้นยืน มองหนิงมู่ฉือด้วยแววตาอ่อนโยน “ก่อนหน้านี้ฝ่าาตรัสกับข้าว่า ทรงชื่นชมในฝีมือการทำอาหารของเ้ามาก ข้าเลยอยากจะให้เ้าทำหน้าที่สอนขันทีพ่อครัวรุ่นใหม่ปรุงอาหาร”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้