หลินฟู่อินขอบคุณชายที่เข้ามาช่วยนางเอาไว้ ทว่าอีกฝ่ายกลับมองนางโดยไม่กล่าวคำใด
นางเดาจุดประสงค์เขาไม่ออกจึงได้แต่หรี่ตามองก่อนจะเสไปทางอื่น
บุรุษผู้นี้มีมวลบรรยากาศเข้มข้นเกินไป เมื่อยืนอยู่ใกล้ๆ ก็คล้ายกับอากาศจะหนักขึ้นมา
ในตอนนี้เอง ชาวบ้านเพิ่งจะมีท่าที ดาวหายนะที่กำลังจะถูกเผากลับมีบุรุษลึกลับจากฟ้าเข้ามาช่วยเอาไว้
หลี่เจิ้งย่อมมีสายตาอยู่บ้าง เมื่อเห็นเครื่องแต่งกายอีกฝ่ายก็ทราบว่าคนผู้นี้ย่อมไม่ธรรมดา
เขาไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่หวังว่าชาวบ้านคงไม่มีใครทำเขาขายหน้า
ทว่าจ้าวซื่อกลับออกตัวโดยไม่ลังเล
ทันทีที่รู้สึกตัว คนก็ะโออกมาชี้หน้าหวงฝู่จินแล้วว่า “เ้าเป็ใคร เหตุใดจึงมาห้ามเราเผานาง?”
“ตัดลิ้นนางเสีย” ริมฝีปากบางของหวงฝู่จินเม้มแน่น สีหน้าเรียบเฉย ทว่ายามกล่าวออกมากลับทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเยือก
เมื่อคำนั้นหลุดออกมา ผู้ติดตามในชุดสีน้ำตาลคนหนึ่งก็ตวัดดาบออกมาจากฝักทันที
“เดี๋ยวก่อน” ทันใดนั้นหลินฟู่อินก็กล่าวขัด มองหนุ่มหล่อเหลาเ็าด้วยสายตากระจ่างใส “นางบอกว่าข้าทำให้นางโชคร้าย หากเ้าตัดลิ้นนางก็คงเป็เช่นนั้นจริงๆ แล้ว”
“โง่เง่า!” หวงฝู่จินมองหลินฟู่อินที่เพิ่งจะถูกจับเผา ทั้งกางเกงและรองเท้ายังคงมีรอยไหม้ ก่อนจะพ่นออกมาได้เพียงสองคำ
หลินฟู่อินย่อมทราบความหมายอีกฝ่าย
ผู้ติดตามของเขาหยุดมือจริงๆ เนื่องจากมิได้รับคำสั่งให้ลงมือต่อ
“ชื่อเสียงดาวหายนะของข้าก็ได้มาจากนาง นางกล่าวว่าเป็ข้าที่ทำร้ายผู้คน ข้า้าให้ชาวบ้านรู้ว่าข้าไม่อาจทำให้นางโชคร้ายได้” หลินฟู่อินยิ้มอ่อนโยน
รอยยิ้มนั้นชัดเจนยิ่ง
หวงฝู่อินย่อมเห็นแผลไหม้บนขาของนาง เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้งก็ให้ตกตะลึงขึ้นมา
ไม่เจ็บบ้างหรือ?
ยังคงสามารถยิ้มได้อีก?
“ท่านช่วยข้าเช่นนี้ย่อมต้องมีอะไรให้ข้าช่วยเหลือสินะเ้าคะ?” หลินฟู่อินก้าวเข้าหาอีกฝ่าย จงใจลดเสียงลง
นางดูออกว่าอีกฝ่ายย่อมไม่ใช่คนธรรมดา
มาช่วยเหลือนางตอนนี้ คง้าความช่วยเหลืออะไรจากนางเป็แน่
นางย่อมไม่กลัวที่จะตกลงเจรจาด้วย
หวงฝู่จินเลิกคิ้ว ดวงตาคู่นั้นส่องประกายแวววาว
“ฉลาดยิ่ง”
จากนั้นชายหนุ่มจึงโบกมือสั่งการ
ผู้ติดตามของเขาพลันถอยออก ขณะที่จ้าวซื่อใจนแทบจะฉี่ราดกางเกงแล้ว
คนใบหน้าซีดขาว มองคนแปลกหน้า ในที่สุดก็ทราบว่าอีกฝ่ายไม่เอาผิดตน
หลินฟู่อินเลิกคิ้ว มองอีกฝ่ายจากระยะไกล บนริมฝีปากผุดรอยยิ้มเย็น “จำไว้ให้ดี ที่ลิ้นเ้ายังเก็บไว้ได้เพราะยังมีประโยชน์ต่อข้า”
แข้งขาจ้าวซื่อพลันอ่อนเปลี้ย ใบหน้าทอแววหวาดกลัวสุดขีด
หวงฝู่จินย่อมไม่้าเสียเวลาอีก เขาผิวปาก ทันใดนั้นม้าสีดำงดงามตัวหนึ่งก็ส่งเสียงร้องแล้วทะยานเข้ามา
รวดเร็วดั่งสายฟ้า เพียงพริบตาก็มาปรากฏเบื้องหน้า
ชายหนุ่มดึงบังเหียนม้าเอาไว้แล้วะโขึ้นหลังของมัน จากนั้นจึงควบม้าไปยังแม่น้ำที่หลินฟู่อินยังคงยืนอยู่
ผู้คนล้วนเบิกตากว้าง คาดว่าเด็กหญิงจะโดนม้าเหยียบตายเสียแล้ว ทว่าบุรุษรูปงามผู้นี้กลับยื่นมือออกมา ดึงตัวหลินฟู่อินเข้าไปในอ้อมแขน
หลินฟู่อินถูกรวบตัวเข้าสู่อ้อมอกของบุรุษแปลกหน้าบนหลังม้า
นางรู้สึกคลึ่นไส้ทันใดนั้นก็อาเจียนเอาน้ำหลายอึกที่กลืนเข้าไปออกมา
จากนั้นจึงได้แต่นั่งเงียบ เอนลงตัวอ่อนเปลี้ยราวกับตุ๊กตา
ั์ตาหงส์ของผู้ที่หวงฝู่จินอุ้มขึ้นมายังคงสั่นสะท้าน ผ่านไปเนิ่นนานเขาจึงเอ่ยว่า “นามของเ้าคือ?”
“หลินฟู่อิน” แม้หลินฟู่อินจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักทว่ายังคงตอบออกไป
บุรุษผู้นี้หาใช่คนที่นางควรล่วงเกิน นางเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่ริมน้ำนั่นแล้ว
“ฟู่อิน…หลินฟู่อิน…” หวงฝู่จินแค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง “แปลว่าลางดี เื่ดี ดีต่อโลก ทว่ายังถูกจับเผาทั้งเป็อีกหรือ?”
หลินฟู่อินกลอกตาใส่เขาเงียบๆ
หากเขาสนใจจะคุยกับนางจริง ก็ควรให้นางได้นั่งดีๆ ก่อนมิใช่หรือ?
“คายน้ำออกมาหมดหรือยัง?” หวงฝู่จินถามเสียงเย็นเมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบ
หลินฟู่อินนิ่วหน้า ทว่าทำเพียงผงกหัวเท่านั้น
ในใจทราบว่าอีกฝ่ายเพียง้าให้นางอาเจียนเอาน้ำออกมาให้หมด ทว่าวิธีการออกจะดุดันไปเสียหน่อย
“ตอบมา!”
หลินฟู่อินลอบสั่นสะท้าน ทราบว่าคงไม่ใช่เวลามากะเกณฑ์เื่บุคลิกอีกฝ่ายแล้ว จึงได้แต่ตอบกลับไป “คายออกมาหมดแล้ว”
ในขณะเดียวกันนางก็ลอบคิดในใจ บุรุษผู้นี้หล่อเหลาใจแข็งไม่มีความเห็นอกเห็นใจสักนิด
เมื่อลุกขึ้นก็วิงเวียนจนชายหนุ่มต้องประคองเอาไว้
“ได้ยินว่าเ้าใช้กรรไกรผ่าท้องมารดาเอาตัวทารกออกมาหรือ?”
เมื่อหลินฟู่อินได้ยินก็เลิกคิ้วขึ้น
ที่แท้เขาก็ได้ยินเื่นี้จึงมาหานางหรอกหรือ?
หรือจะมีคนใกล้ตัวของคนคนนี้คลอดยาก? หรือภรรยาคลอดยากเลยอยากให้นางไปทำคลอดให้กันแน่?
“ใช่หรือไม่?” หวงฝู่จินถามอย่างหมดความอดทน ยามนี้เขาอารมณ์ไม่ดีอย่างรุนแรง ทว่าเด็กหญิงเบื้องหน้ายังคงนิ่งใส่เช่นนี้
“ถามทำไม?” หลินฟู่อินเม้มปาก ท่าทีดื้อดึงชัดเจน “ไปได้ยินมาจากไหนกันแน่?”
“ตอนนี้ข้าถามเ้าอยู่!” ดวงตาหวงฝู่จินเ็า มือยื่นออกไปกำรอบคอ ราวกับหากนางตอบไม่ถูกใจ เขาก็พร้อมจะหักคอนางทุกเมื่อ
“เพียงตอบคำถามข้ามาตามตรงก็พอ” ทว่าเขากลับมิได้ออกแรงบีบลำคอเรียวขาวนั้น
ร่างเดิมนี้เคยเรียนวรยุทธ์มาบ้าง หลินฟู่อินย่อมได้รับสืบทอดจากเ้าของร่าง แน่นอนว่าสามารถััถึงกลิ่นอายสังหารจากอีกฝ่าย ทว่านางเอกก็พร้อมโต้ตอบ มือนางเกร็งเข้าคล้ายกรงเล็บ หากเขากล้าบีบคอนาง นางก็กล้าฆ่าเขา…
ทว่าตอนนี้นางไม่คิดอยากทำอะไรกับบุรุษอันตรายตรงหน้า
นางหายใจเข้าลึก กล่าวเบา “พูดตรงๆ ก็คือข้าทำคลอดน้องชายจากท้องท่านแม่ ส่วนน้องสาวเอาออกมาจากท้องนาง”
“ต่างกันอย่างไร?” หวงฝู่จินถามทันที
นางััได้ถึงความกังวลทั้งยัง...ความหวัง ในน้ำเสียงของอีกฝ่าย
เด็กสาวตัดสินใจทันที
แน่นอนว่านางคิดถูก!
“ต่างกันที่น้องชายข้าเกือบคลอดสำเร็จก่อนท่านแม่จะสิ้นลม ข้าเห็นเท้าน้องจึงได้ดึงออกมา แต่ท่านแม่สิ้นลมแล้ว จึงทำได้เพียงแต่ผ่าท้องเอาน้องสาวออกมา…”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้