บทที่ 11 : หลบหนีอย่างปลอดภัย
หากเทียบกับศิษย์มาร ศิษย์ปีศาจหรือศิษย์าแล้ว ซ่งตงกับลั่วถูนับว่าช่างอาภัพเหลือหลาย ในความมืดนี้ ซ่งตงมองไม่เห็นรายละเอียดระหว่างลั่วถูกับใต้เท้าตงจื่อได้ชัดเจนนัก เพราะในใจของเขาจดจ่ออยู่กับการอารักขามากกว่า กังวลว่าในความมืดจะมีทัพศัตรูโผล่ออกมาอีกไหม
ในเวลานี้แสงดาวและพระจันทร์เริ่มมอดแสงลงแล้ว พระจันทร์กำลังตกลงทางตะวันตกถึงแม้ระหว่างธารหุบเขามีแสงจำนวนไม่น้อยส่องลงมา แต่กลับไม่เพียงพอให้เขามองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบได้เลย อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้มีสายตาดีเลิศเหมือนลั่วถู บทสนทนาระหว่างตงจื่อกับลั่วถู เขาก็ได้ยินติดขัดไม่ค่อยชัดเจนนัก อีกทั้งตงจื่อผู้มีเืท่วมปากพูดไม่ค่อยชัดเป็ทุนเดิมอยู่แล้วเสียด้วย...
แต่หากว่าด้วยเื่เก็บกวาดสนามรบ เขาทำได้ไม่เลวทีเดียว โซ่เข็มขัดเป็เส้นถูกดึงออกมา กวาดเอาขวดกระป๋องสารพัดเทเข้าไปในถุงทั้งหมด หลังจากนั้นก็คลำเจอเหรียญซิงเหินมากมาย จะสีอะไรเขาก็ไม่มีเวลาดูให้ละเอียดเท่าไร จึงได้แต่เทลงถุงไปทั้งหมดเช่นกัน
และสำหรับอาวุธทหาร เขายังเลือกอาวุธสองชิ้นของนักรบเผ่ามนุษย์ คนพวกนี้ต้องเป็ยอดฝีมือในหมู่ทหารไม่ผิดแน่ เพราะปลอกอาวุธของพวกเขาล้วนแต่เป็ของชั้นเลิศ อย่างน้อยก็เหนือกว่าพวกศิษย์มารศิษย์ปีศาจธรรมดาโข เห็นได้ว่าระดับของปรมาจารย์อาวุธแห่งเผ่ามนุษย์อยู่สูงกว่าเผ่ามารและปีศาจหลายขุม
ซ่งตงเลือกมีดสั้นและดาบมาอย่างละเล่ม จากนั้นเขาหันไปเห็นลั่วถูใช้ดาบของตงจื่อฟันต้นไม้ใหญ่หลายต้นและไม้ไผ่จำนวนหนึ่งอยู่พอดี
“มาช่วยที” ลั่วถูนำดาบตัดเสื้อผ้าของพวกศิษย์มารศิษย์ปีศาจทั้งหมดออกมา ตัดผ้าเป็เส้นยาว จากนั้นใช้เชือกผ้ามัดไม้ไผ่พวกนี้ต่อกัน ผ่านไปไม่นาน ก็กลายเป็แพไม้แบบง่ายๆ
ซ่งตงตื่นเต้นยินดี ตอนที่เขากำลังกังวลว่าตนเก็บสินามากเกินไปหรือเปล่า ด้วยแรงของเขากับลั่วถูสองคนไม่มีทางขนไปไหวแน่ แต่ตอนนี้ขนไหวแล้ว แม้แต่ลูกศรพวกนั้นก็ไม่ปล่อยให้เล็ดลอดสายตา ทั้งหมดไม่ว่าเป็สิ่งใดก็ขนขึ้นแพไม้ได้อย่างง่าย
ขณะลั่วถูกำลังจะออกเดินทาง เขากลับฟันไปที่แขนทั้งสองข้างของม่อฉงมาด้วย ต่อให้อยู่ในที่มืดก็ดูออกว่าแขนทั้งสองข้างนั้นไม่ธรรมดา เขาไม่มีเวลาศึกษามันอย่างละเอียดนัด ทำได้แค่ตัดมันออกมาตรงๆ หลังจากนั้นผลักแพไม้ลงแม่น้ำ ใช้ไม้ไผ่เป็ไม้พายมุ่งไปที่กลางแม่น้ำ!
ภายใต้แรงดันน้ำของน้ำตกขนาดใหญ่ ทำให้กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ส่งผลให้แพไม้ลอยไปตามน้ำด้วยความเร็วสูง
ตอนนั้นเองที่ซ่งตงเริ่มนับสินาอย่างช้าๆ แยกเข็มขัดออกเป็เส้นให้เรียบร้อย ในความมืดเช่นนี้เขามองไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง ได้แต่รอให้ฟ้าสว่างแล้วค่อยแบ่งอีกครั้ง ลั่วถูเองก็เจอถุงมือเหล็กที่หนักเอาการสองข้างสวมอยู่บนแขนของม่อฉง จากความรู้สึกเย็นวาบที่มือ บอกได้เลยว่าของชิ้นนี้เป็สิ่งล้ำค่าอีกชิ้นหนึ่ง
อีกทั้งบนแขนเขายังพบเกราะไหลชั้นสูงด้วย แต่ของทั้งสองสิ่งนี้หนักเหลือเกิน เขาลองใส่มันบนแขนของตนดู ก็พบว่ามันปรับขนาดได้ดั่งใจนึก เพียงแต่การขยับแขนทั้งสองข้างนั้นดูจะไม่ใช่เื่ง่าย พละกำลังของเขาตอนนี้ไม่อาจเทียบได้แม้แต่เสี้ยวของม่อฉงด้วยซ้ำ
ถ้าหากวันหนึ่งเขาเปิดิญญาได้แล้ว หรือใช้มันได้ก็คงยอดเยี่ยมไม่หยอก แต่เขาก็ฉุกคิดเื่หนึ่งขึ้นมาได้ ในใจฮึกเหิมขึ้นมาทันที นั่นก็คือเื่ที่เมื่อวานเช้า ก่อนที่เื่ทุกอย่างจะเกิดขึ้น ในสถานการณ์ที่เขายังคงแบกถุงศพเดินนับร้อยลี้ และดูเหมือนมีพลังให้ใช้ได้ไม่รู้หมด พลังทั้งหมดนี้คงมาจากภาพเต่าแบกหินไม่ผิดแน่
ภาพเต่าลึกลับแบกหิน ดูคล้ายเป็รูปแบบของการกำหนดลมหายใจแบบหนึ่ง เมื่อลั่วถูเคลื่อนพลังตามวิธีกำหนดลมหายใจขั้นต่อไปของภาพเต่าลึกลับแบกหิน ผลปรากฏว่าพลังทั่วร่างของเขาก็เพิ่มมากขึ้นจริง เกราะไหล่และถุงมือที่หนักเกือบร้อยจินเริ่มเบาลง! สามารถขยับได้ดั่งใจนึกในทันที
ในใจลั่วถูยินดีลิงโลด ของสิ่งนี้ถ้านำไปใช้ต่อสู้ ต้องทำให้เขาใช้พลังได้มากกว่าปกติอย่างแน่นอน แม้เขาจะยังไม่ได้เปิดิญญาก็ตาม
“ได้อะไรมาบ้าง?” ซ่งตงขยับเข้าหาด้วยความตื่นเต้น บนแพไม้อย่างง่ายนี้พวกเขาทำได้เพียงคลานไปมาเท่านั้น เนื่องจากเวลากระชั้นชิดจนเกินไปพวกเขาไม่มีเวลาตัดไม้และไผ่มากนัก แต่ก็เพียงพอจะรับน้ำหนักพวกเขาสองคนได้ ยาวห้าจั้ง กว้างหกฉื่อ ความจริงพื้นที่สำหรับคนสองคนเท่านี้ก็นับว่าใหญ่พอสมควร เพียงแค่ตอนนี้ฟ้ายังมืดครึ้ม มีเพียงฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าในแม่น้ำสายนี้จะมีหินหรือท่อนไม้โผล่ขึ้นมาหรือไม่ ถ้ายืนขึ้นมาอาจไปชนกับโขดหินได้ เช่นนั้นมีแต่ต้องตกลงแม่น้ำแน่นอน
“ได้มาเยอะทีเดียว พวกใต้เท้าตงจื่อถึงขนาดจัดการัประหลาดตัวนั้นได้ด้วย มีแก่นัเม็ดหนึ่ง เ้านี่ต่างหากถึงเรียกว่าสมบัติล้ำค่า นอกจากนั้นบนร่างยังมีเหรียญซิงเหินไม่น้อย ของอย่างอื่นข้ายังไม่ได้จัดการ รอให้ฟ้าสางแล้วเดี๋ยวก็รู้ ข้าเอาถุงมือคู่หนึ่งมาจากแขนของปีศาจลูกสุนัขตัวนั้น เ้าดูสิ” ลั่วถูส่งถุงมือให้ซ่งตงดู พอซ่งตงได้ลองถือดูก็รู้สึกได้ถึงหนักอึ้งของมันในทันที และคืนกลับให้บนมือลั่วถู จากนั้นเอ่ยอย่างหมดหวัง “เ้าสิ่งนี้หนักเกินไปแล้ว เกรงว่าต่อให้เปิดิญญาได้ ก็ไม่รู้จะใช้อย่างไรอยู่ดี ของเล่นเผ่าปีศาจ ก็มีแต่พวกประหลาดอย่างเผ่าปีศาจถึงใช้ได้ เ้าเก็บไว้ก่อนเถอะ”
“ถ้าอย่างนั้นของชิ้นนี้ให้ข้าสินะ” ลั่วถูไม่ได้เอ่ยขึ้นเพราะความเกรงใจ แต่สำหรับกล่องที่ตงจื่อมอบให้เขา เขาไม่ได้บอกซ่งตง จากการวิเคราะห์ของเขา เกรงว่าของในกล่องเล็กๆ นี่เองคือของสำคัญ เป็สมบัติที่ใต้เท้าตงจื่อและศิษย์าชั้นสูงข้างกายเขาใช้ชีวิตปกป้องเอาไว้ ต้องความสำคัญอย่างยิ่งยวด
“เ้าอยากได้ก็เอาไปสิ ให้ข้าก็เป็แค่เหล็กขยะก้อนหนึ่ง!” ซ่งตงไม่ได้สนใจ ของชิ้นนี้เลยสักนิด มันเทียบกับดาบตรงในมือเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ขนาดด้วยพละกำลังของเขายังตัดต้นไม้ได้ในดาบเดียว ความคมของมันทำให้เขารู้สึกยินดีอย่างบอกไม่ถูก
“เ้าเก็บหน้าไม้ชั้นสูงมาให้ข้าหมดแล้วไม่ใช่หรือ? เอาลูกศรใส่ไว้บนหน้าไม้ให้หมดเลย...” ลั่วถูเห็นแสงสว่างจากที่ไกลลิบ จึงต้องสั่งการซ่งตงอย่างช่วยไม่ได้ หน้าไม้ชั้นสูงหลายคัน ถึงเขาจะไม่สามารถใช้งานมันได้ทุกคัน แต่ถ้าใส่ลูกศรไว้ทุกคันแล้ว เหลือแค่หยิบหน้าไม้ชั้นสูงมายิงออกไปอย่างไม่ต้องรอเติมลูก ต้องช่วยเพิ่มความเร็วได้มากแน่นอน
ในเวลานี้ตอนที่ฟ้ายังมืด พวกเขาหมอบบนแพไม้อย่างระมัดระวัง แม่น้ำกว้างเพียงยี่สิบกว่าจั้งซึ่งเรียกได้ว่าไม่กว้างพอให้ซ่อนตัว ถ้าเป็ตอนที่ฟ้าสว่างแล้ว คงหนีไม่พ้นสายตาของทหารเผ่ามารและเผ่าปีศาจที่ตามล่าทหารหนีทัพในป่าแน่นอน
แต่ตอนนี้พระจันทร์ลับฟ้าไปทางตะวันตกแล้ว ทั้งที่ใกล้จะถึงเวลาฟ้าสางทว่าเหนือผิวน้ำยังคงมืดสนิท แพไม้ลำน้อยดูคล้ายจะผสานเป็หนึ่งเดียวผิวน้ำยามค่ำคืนอย่างสมบูรณ์
เพียงแค่ไม่จุดไฟ ก็ไม่ถูกคนพบเจอง่ายๆ แน่
พวกเขาเพียงหวังว่าแพไม้นี้จะสามารถล่องไปในแม่น้ำไกลๆ ได้เร็วพอ หลังจากฟ้าสว่าง ถ้าออกห่างได้สักห้าสิบลี้ เช่นนั้นก็นับได้ว่าหลบหนีได้อย่างปลอดภัยแล้ว
ไม่เช่นนั้นหากฟ้าสว่างขึ้นเสียก่อน พวกเขามีแต่ตายสถานเดียว เมื่อไร้แมกไม้คอยบดบัง แพไม้เหนือผิวน้ำจะกลายเป็เป้าที่เด่นชัดที่สุด
……
ป้อมมู่สือกลายเป็ซากไร้ประโยชน์ และป่าหลังป้อมก็ผ่านค่ำคืนที่ไม่อาจหลับลงได้ไปแล้ว ในค่ำคืนนี้ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่เอาชีวิตรอดหนีออกจากป่าไปได้ และมีนักรบเผ่ามารกับเผ่าปีศาจมากเพียงใดที่ทิ้งชีวิตไว้ในป่าผืนนี้ สิ่งที่ทิ้งร่องรอยและาแเอาไว้แก่พวกนักรบอย่างแท้จริงไม่ใช่ทหารหนีทัพแต่อย่างใด ทว่าเป็สัตว์อสูร งูและแมลงมีพิษต่างหาก ในความมืด สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่สัตว์อสูรขนาดใหญ่เลย แต่เป็พวกแมลงและงูที่เข้าใกล้คนได้อย่างไร้สุ้มเสียง
เมื่อฟ้าสว่าง ลั่วถูกับซ่งตงมาถึงปากแม่น้ำที่กว้างใหญ่ ผู้คนมากมายที่ต้องตายลงในป่าสำหรับพวกเขามันไม่สำคัญอีกต่อไป กระทั่งที่นี่คือที่ไหน พวกเขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ!
ทั้งสองฝั่งเต็มไปด้วยูเาสูงและหน้าผา แม่น้ำที่กว้างเกือบหนึ่งร้อยจั้งนี้ ทำให้แพไม้ลำเล็กจ้อยดูแล้วยิ่งเล็กจิ๋วเข้าไปใหญ่ ไม้พายที่เตรียมมาก่อนหน้านี้พังไปั้แ่ครึ่งทางแล้ว แถวนั้นต้องผ่านปากูเาที่แน่นขนัด ทางน้ำทั้งสี่ทิศล้อมด้วยโขดหินที่โผล่ขึ้นมาแทรกเป็ระยะ ถ้าไม่ใช่ดวงตาของลั่วถูมองเห็นในความมืดได้ชัด เกรงว่าแพไม้ของพวกเขาคงเข้าปะทะโขดหินจนกลายเป็เศษไม้ไปหมดแล้ว หรือแม้แต่ตัวพวกเขาเองก็อาจตกลงไปในปากของสัตว์อสูรที่รออยู่ในแม่น้ำไปแล้วก็เป็ได้
ไม้พายหักลงขณะที่กำลังลดความเร็วของแพไม้ แพนี้ก็ล่องลงสู่แม่น้ำใหญ่สายนี้ด้วยความโชคดีหาใดเปรียบ
ที่นี่ราวกับเป็ที่ที่แม่น้ำเล็กหลายสายรวมเข้าไว้ด้วยกัน และกลายเป็แม่น้ำที่กว้างเกือบร้อยจั้ง ซ่งตงใช้ไม้ที่เหลาจนเรียบควบคุมทิศทางของแพไม้ ตอนจัดการกับกระแสน้ำเชี่ยว ลั่วถูเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด จนบัดนี้เขาถึงได้นอนนิ่งอยู่บนแพไม้อย่างกับปลาตายไม่ขยับแม้แต่ปลายนิ้ว
หน้าไม้ชั้นสูงเ่าั้ ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่คันที่ยังอยู่บนแพ ภายใต้กระแสน้ำไหลเชี่ยวและกำลังจะพุ่งชนเข้ากับสิ่งกีดขวาง แม้แต่ร่างกายของซ่งตงเองก็ยังอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ ลั่วถูเองก็กลิ้งไปทั่วไม่ต่างกัน พยายามปกป้องไม่ให้แพไม้ชนกับก้อนหิน ลำพังแค่แพไม่พลิกคว่ำก็เรียกได้ว่าฟ้ามาโปรดแล้ว จะไปมัวแต่สนใจหน้าไม้พวกนั้นไม่ได้ แม้แต่ลูกศรที่ใส่เตรียมไว้ก็ตกน้ำไปด้วย ลั่วถูเริ่มรู้สึกเสียใจเสียแล้วไม่น่าใส่ลูกศรไปในหน้าไม้ทั้งหมดเลย ตอนนี้ก็เสียเปล่าไปจนหมด
“เ้าว่าพวกเราต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรถึงจะถึงูเาม่อหลาน?” ซ่งตงถามออกมาด้วยความหวัง หลังจากเมื่อวานเหนื่อยมาแล้วทั้งคืน ตอนนี้เขารู้สึกหิวจนน้ำย่อยแทบล้นออกมา แต่ในแม่น้ำที่กว้างขวางนี้ จะไปหาอาหารที่ไหนกัน? ถ้าเป็แผ่นดินต้นกำเนิด นอกสนามรบฝานเหริน เขายังกล้าลงน้ำไปลองไปจับปลามากิน แต่ในที่แสนพิลึกพิลั่นอย่างสนามรบฝานเหรินแล้ว แค่ตอนที่เห็นน้ำกระเซ็นขึ้นมารอบๆ แพไม้ ก็พลอยได้เห็นครีบที่โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำที่เห็นได้ชัดแม้ไม่ได้ตั้งใจสังเกตด้วยซ้ำ ฉะนั้นแม้แต่ตอนใช้ไม้พายก็ต้องระวังให้มาก กลัวว่าจะไปทำให้สิ่งเหล่านี้ที่ว่ายอยู่ใต้น้ำใเข้า
“คงยังเหลืออีกครึ่งทาง บางทีคงไปถึงตอนฟ้ามืด” ลั่วถูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ เขาก็อยากให้มันเร็วกว่านี้อยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไหลไปตามกระแสน้ำ ใช่ว่าพออยากให้มันเร็วมันก็จะเร็วขึ้นมาให้เสียหน่อย โชคดีว่าเชือกที่ใช้มัดแพนี้เอามาจากเสื้อผ้าบนร่างพวกศิษย์มารและศิษย์ปีศาจ คนพวกนั้นมีใครบ้างที่ยังไม่เปิดิญญา เสื้อผ้าบนร่างไม่ว่ามากหรือน้อยล้วนมีคุณสมบัติป้องกันอยู่ทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้ เนื้อผ้าที่ใช้ตัดเสื้อล้วนเป็วัตถุดิบทนทานที่ผ่านกระบวนการพิเศษมาแล้ว เมื่อนำมาพันไม้พวกนี้ก็นับว่าแข็งแรงไม่เลวเลย อย่างน้อยตอนที่ผ่านปากหุบเขาแสนอันตราย ก็ไม่แตกไม่หักสักนิด
“ข้าหิวจัง...” ซ่งตงถอนหายใจ
“ทนหน่อยเถอะ พวกเราหนีออกมาได้ก็เยี่ยมแล้ว อีกทั้งครั้งนี้เรียกได้ว่ารับทรัพย์ใหญ่เชียว เมื่อถึงฐานูเาม่อหลาน พวกเราพักกันนิดหน่อย แล้วค่อยออกจากสนามรบฝานเหรินนี้ทันที าใหญ่ครั้งนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล คนตัวเล็กๆ ที่น่าสงสารแบบพวกเรา ต้องรักชีวิตของตัวเองไว้ให้มากๆ จะดีกว่า!” ลั่วถูคิดแล้วก็ถอนหายใจออกมา
“อืม ออกไปครั้งนี้ข้าจะเตรียมตัวทะลวงเปิดิญญาครั้งที่ห้า หวังว่าจะทำสำเร็จ ผลตอบแทนครั้งนี้มากพอให้ข้าแลกยาเปิดิญญาได้หลายเม็ด เท่านี้ข้าก็มียาครบแล้ว!” ซ่งตงกล่าวออกมา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้