หลินฟู่อินรู้สึกเหน็ดเหนื่อย หิวโหยทั้งยังอ่อนแรงราวกับผ่านนรกภูมิและสายน้ำหลาก ผ่านความยากลำบากมามากมาย...
ทันใดนั้นนางพลันตื่นตัวขึ้นมาเมื่อได้กลิ่นคาวเืเข้มข้น หญิงสาวสลัดความหนักอึ้งบนหนังตา ฝืนเบิกตาให้กว้างขึ้น
เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า ั์ตาพลันแข็งทื่อ เสียงสั่นะเืดังลั่นในหัว
ตรงนั้นมีผู้หญิงท้องโตที่สวมชุดโบราณสีกรมท่า ท่อนล่างมีเืไหลอาบ ผ้าปูเตียงสีน้ำตาลและผ้าห่มต่างก็กลายเป็สีดำจากเืเสีย
ดวงตางามของหญิงสาวผู้นั้นเหลือกขึ้น มองเพียงแวบเดียวก็รู้เห็นเป็หลักฐานว่านางตายแล้ว
ใจของหลินฟู่อินกระตุกวูบ สายตานางเฉียบคมขึ้น ไม่ทันคิดอะไรก็กระโจนเข้าไปตรวจสอบบริเวณช่องคลอดของหญิงสาวผู้นั้นทันที
เห็นในมือหญิงสาวกำของบางอย่างเอาไว้แน่น หลินฟู่อินก็มุ่นคิ้วแล้วโยนมันไปข้างเตียง ไม่คิดต่อทันที
เมื่อเปิดดูส่วนล่างของอีกฝ่ายก็เห็นว่ามีขาเด็กโผล่ออกมาแล้ว
หลินฟู่อินขมวดคิ้ว ค่อยๆ ใช้มือขวาจับเท้าเล็กนั่นดึงออกมาช้าๆ
ผลุบ
เมื่อดึงเด็กออกมาจากร่างมารดาได้ก็มีเสียงร้องดังเบาๆ แต่ตัวเด็กเริ่มกลายเป็สีม่วงเสียแล้ว ทั้งใบหน้ายังเป็สีฟ้า
แต่เด็กยังมีชีวิต!
หลินฟู่อินไม่มีเวลาตัดสายสะดือ รีบตบก้นเด็กด้วยมือที่สั่นเทาทันที
"แงงง...." เสียงร้องไห้โยเยของเด็กทารกดังขึ้นมา
หลินฟู่อินมองสำรวจพื้น ยังมีน้ำต้มเดือดอยู่ในอ่าง ทั้งในนั้นยังมีกรรไกรใหม่ๆ เล่มหนึ่งวางอยู่
เห็นว่ากรรไกรถูกฆ่าเชื้อแล้วก็ดีใจขึ้นมา เมื่อตวัดตาไปมองหญิงสาวผู้นั้น คนที่มาจากยุคโบราณกับท้องของอีกฝ่าย หัวใจก็สั่นสะท้านอีกครั้ง
ท้องของสตรีผู้นี้ไม่ได้แบนราบสนิท ดูเหมือนเมื่อครู่จะยังเห็นท้องเคลื่อนไหวอีกด้วย
อาจจะเป็แฝด...
นางแทบหายใจไม่ทัน แต่ก็รีบวางเด็กในอ้อมแขนลงแล้วแตะหน้าท้องของคนบนเตียงอีกครั้ง
จริงด้วย ท้องขยับอย่างรุนแรง ยังมีเด็กอีกคนหนึ่ง!
ผู้หญิงคนนี้มีลูกแฝดจริงด้วย...
กระทั่งในยุคปัจจุบันหลินฟู่อินไม่เคยผ่าตัดทำคลอดมาก่อน แต่นางรู้วิธี
มือเรียวหยิบกรรไกรจากอ่าง สายตาแน่วแน่ จากนั้นก็ตัดลงไป!
ไม่เช่นนั้นแล้วเด็กอีกคนในท้องผู้หญิงคนนี้ต้องตายจริงๆ แน่
นางถือกรรไกรไว้ในมือ ทำใจแข็ง เล็งไปยังบริเวณเหนือสะดือสามนิ้วแล้วลงมือกรีดอย่างรวดเร็ว
ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ได้แต่ต้องใช้กรรไกรผ่าตัดทำคลอด...
"แง..."
ทันทีที่เด็กคนที่สองถูกนำออกมาจากท้องมารดาก็ส่งเสียงร้องดังสนั่นทันที
โชคดีเหลือเกินที่ไม่เป็อะไร...
เด็กคนนี้สุขภาพดีกว่าคนแรก ทันทีที่ออกมาก็ส่งเสียงร้องไห้ได้เลย
หลินฟู่อินเช็ดเนื้อเช็ดตัวเด็กๆ จนสะอาดสะอ้านและตัดสายสะดือ จากนั้นจึงนำผ้าอ้อมมาห่อตัวทั้งสอง พับมุมอย่างประณีตเรียบร้อยแล้วค่อยถอนใจอย่างโล่งอก
นางหมดแรงทั้งยังรู้สึกเหนื่อยล้าราวกับหมูี้เี จนต้องนั่งลงบนพื้นดินเย็นเฉียบ
จากนั้นก็ค่อยๆ คิดถึงเื่ที่เกิดขึ้น
เมื่อความทรงจำจากผู้อื่นค่อยๆ ถ่ายเข้ามาอย่างพร่าเลือน ดวงตาของหญิงสาวก็เบิกกว้าง
ตอนนี้นางอยู่ในยุคสมัยต้าเว่ยจากในนิยาย เป็ลูกสาวของผู้ที่ตายทั้งกลมอยู่บนเตียงนี่เอง เพิ่งจะอายุสิบสามปี ทั้งยังมีแซ่หลิน ชื่อฟู่อินเหมือนกัน
ผู้ตายบนเตียงที่เพิ่งคลอดลูกนี้แซ่ฉู่ ทุกคนเรียกว่าฉู่ซื่อ ท้องได้แปดเดือนกว่าก็เกิดน้ำคร่ำแตก แต่ฟู่อินไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้เกิดปัญหาตอนคลอด
เพราะความทรงจำของร่างนี้จบลงหลายวันก่อนผู้เป็แม่จะคลอดยาก เื่ราวหลังจากนั้นจึงว่างเปล่า
หลินฟู่อินเดาว่าเด็กน่าสงสารผู้นี้น่าจะประสบภาวะจนตรอกทั้งยังหวาดกลัวที่มารดาตายไปต่อหน้าต่อตาตอนคลอดน้องๆ ส่วนเื่หลังจากอีกฝ่ายตายไปนางไม่อยากจะคิด
ร่องรอยความเสียใจปรากฏในดวงตา เด็กทั้งสองที่นางทำคลอดออกมาเป็แฝดชายหญิง ตอนนี้ทั้งสองก็ถือเป็น้องชายน้องสาวของนางแล้ว
พ่อของเด็กพวกนี้ชื่อหลินหยวน เป็บุตรคนที่สามของบ้านตระกูลหลินในหมู่บ้านหูลู่ เป็นายพรานฝีมือโดดเด่น
แต่ความสัมพันธ์ของเขากับบิดามารดากลับไม่ดีเนื่องจากเขาแต่งกับฉู่ซื่อ จึงได้ย้ายออกจากบ้านของตระกูลมานานแล้ว ในตอนที่ฉู่ซื่อคลอดยากจึงไม่มีใครมาช่วยเหลือ
หลินฟู่อินมองเด็กทั้งสองที่นอนอยู่ข้างมารดาผู้ล่วงลับ หัวใจเกิดบีบรัดขึ้นมา
ชาติก่อนนางเองก็เป็เด็กกำพร้าที่เติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้า จากนั้นก็เข้าเรียนที่โรงเรียนพยาบาลตามความฝัน ตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานจนได้เป็นางพยาบาลผดุงครรภ์ในแผนกสูตินรีเวชในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ความเ็ปของการเป็เด็กกำพร้านั้นนางย่อมรู้ดี แต่เด็กสองคนนี้ยังมีนางอยู่ นางจะมาแทนที่ร่างนี้ รับหน้าที่พี่สาว แล้วเลี้ยงเด็กๆ ให้ดี!
ส่วนสาเหตุที่ทำให้นางเดินทางข้ามเวลามานั้น...จำได้ว่าวันนั้นมีคนมาคลอดลูกเยอะเป็พิเศษ นางกับคุณหมอจางจากแผนกสูติฯ กำลังช่วยผู้หญิงคนหนึ่งที่ประสบภาวะคลอดยาก ก่อนอีกฝ่ายจะคลอดสำเร็จ นางก็หมดสติไปเสียก่อน
ไม่นึกเลยว่าจะได้มาเกิดในร่างใหม่ที่ต่างยุคต่างสมัย...
นางเดินทางข้ามเวลา ช่วยคนตายคลอดลูกจนสำเร็จ เกิดเป็เด็กแฝดคู่หนึ่งออกมา
เมื่อครุ่นคิดอย่างถี่ถ้วน พ่อของร่างนี้เป็นายพรานมากฝีมือ อีกฝ่ายขึ้นเขาไปล่าสัตว์ได้สี่วันแล้วยังไม่กลับมา
แล้วจะหาอาหารจากไหนมาป้อนเด็กๆ กัน?
ศีรษะของหลินฟู่อินเจ็บแปลบจนต้องกลับตาลง
ตอนนี้ควรจะพาเด็กๆ ออกไปก่อน จำได้ว่าร่างนี้มีห้องส่วนตัวอยู่ข้างๆ กัน
จะว่าไปแล้วครอบครัวนี้ก็มีฐานะพอสมควร ในบ้านมีสามห้องใหญ่ เ้าบ้านก็ล่าสัตว์เก่งกาจ บ้านจึงไม่เคยขาดเงินทอง
พอคิดๆ สักหน่อยก็รู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่เลวร้าย
"ฉู่ซื่อ..."
"ฉู่ซื่อ รีบส่งเ้าเด็กลางร้ายนั่นมาได้แล้ว!"
"ใช่ ส่งดาวหายนะนั่นมาให้เราได้แล้ว!"
หลินฟู่อินเพิ่งจะพาอุ้มน้องสาวเข้ามาวางในห้องนอนก็ได้ยินเสียงะโคุ้นหูของคนหนุ่มคนแก่ดังเข้ามา
เมื่อได้ยินเสียงนั้นนางก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาดี
ยิ่งกว่านั้นยังอยากได้ดาวหายนะอะไรนั่นอีก
"ฟู่อิน..."
"ฟู่อินอะไร! นางเป็ดาวหายนะ! จับนางมัดแล้วเผานางเสีย!" สตรีร่างอวบหนาหน้าตาน่าเกลียดดุดันะโลั่นใส่สตรีวัยกลางคนหน้าตาร้ายกาจด้านหลัง
ดวงตาหลินฟู่อินทอประกายวาบ สตรีร่างอวบคืออู๋ซื่อผู้เป็ย่าของร่างนี้ ส่วนคนที่หน้าตาร้ายกาจคือจ้าวซื่อซึ่งเป็ป้านั่นเอง
"อ๊า..."
จ้าวซื่อและอู๋ซื่อเร่งร้อนบุกเข้าไปในห้องมารดา เมื่อเห็นภาพเตียงท่วมเืก็พากันกรีดร้องออกมา
"มีคนตาย!" ป้าของนางกรีดร้องวิ่งออกไปราวกับสตรีบ้าคลั่ง
อู๋ซื่อผู้เป็ย่าอาจจะตัวสูงใหญ่แต่แก่ชราแล้ว เมื่อเห็นร่างฉู่ซื่อที่ล่วงลับก็ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู จ้องมองเตียงและของที่ฟู่อินยังไม่มีเวลาเก็บกวาดอย่างเหม่อลอย
คนที่ทำให้จ้าวซื่อและอู๋ซื่อหวาดกลัวจนกรีดร้องออกมาก็คือน้องชายที่เพิ่งคลอดนั่นเอง
"ฉู่ซื่อ...คลอดเด็กหรือ?" ในที่สุดดวงตาของอู๋ซื่อก็ขยับ อีกฝ่ายหันมามองหลินฟู่อิน
หลินฟู่อินไม่คิดจะมองอีกฝ่ายแม้แต่น้อย นางเดินไปหาเด็กน้อยแล้วลูบเขาอย่างอ่อนโยน
"ใช่ เป็ลูกของท่านแม่ข้า"
นางรู้จากความทรงจำของร่างนี้ว่าคุณย่าคนนี้กับคุณป้าใหญ่ไม่ชอบฉู่ซื่อมานานหลายสิบปี ทั้งสองมักปองร้ายบ้านสามตลอด
ดังนั้นย่อมไม่จำเป็ต้องสุภาพด้วย
อู๋ซื่อมองใบหน้าซีดขาวเจือฟ้าของผู้ตายแล้วตัวสั่น "เด็กนั่น...เป็หญิงหรือชาย?"
แม้ฉู่ซื่อจะคลอดลูกจนตายแต่นางก็ไม่สนใจ หากอีกฝ่ายคลอดลูกชายออกมาได้ บ้านสามก็จะมีผู้สืบทอดแล้ว
แผนของบ้านใหญ่ย่อมกลายเป็หมัน แน่นอนว่านางไม่้า!
"ท่านย่า สนเพียงเื่นี้หรือ?"หลินฟู่อินมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเ็า
คนเป็ย่ากลับมีเพียงสายตาคิดคำนวณ ไม่มีความโศกเศร้าเสียใจหรือสงสารแม้แต่น้อย ทำให้หัวใจของหลินฟู่อินรู้สึกเย็นเยือกขึ้นมาราวกับธารน้ำแข็งท่ามกลางฤดูหนาวเลยทีเดียว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้