ในห้องโถง ยังไม่มีผู้ใดเดินออกไปไหน
มู่เอ้าเทียนและหยวนเป่า เจียงจื่อเฮ่าและมู่จี้หง ทุกคนต่างรอให้สองสาวพี่น้องคุยกันให้แล้วเสร็จ แต่พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าจะเห็นฉากที่มู่ชิงอวิ้นคุกเข่าให้
มู่จี้หงและเจียงจื่อเฮ่ารีบร้อนะโขึ้นมาทันที ทั้งสองคนล้วนทำท่าจะพุ่งเข้าหา
“ไม่ ไม่ใช่ ท่านพ่อ คุณชายเจียง พวกท่านเข้าใจผิดแล้ว เป็ข้าเองที่ขอความช่วยเหลือจากพี่หญิง พวกท่านอย่าเข้ามานะเ้าคะ”
มู่ชิงอวิ้นะโด้วยความเร่งรีบ
ั์ตานางแดงก่ำ คิ้วตาล้วนวิจิตร ยามนางร่ำไห้งดงามราวดอกสาลี่ต้องฝน กระตุกหัวใจผู้ที่พบเห็นเป็อย่างยิ่ง
เหล่าผู้ชมล้วนไม่เข้าใจ แต่พวกเขาก็มิได้ก้าวไปข้างหน้าอีก
ฮวาเหยียนมองอากัปกิริยาของมู่ชิงอวิ้น ดวงตาพลันฉายประกายเ็า
“น้องรอง เ้าทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? ้าให้พวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าข้ารังแกเ้าหรือ?”
ฮวาเหยียนเปิดปากกล่าวตามตรง
นางเกลียดการติดกับดักที่ผู้อื่นวางเอาไว้เป็ที่สุด ั้แ่คราแรกที่พวกนางพบกัน นางก็ไม่ชอบนิสัยของมู่ชิงอวิ้น อ่อนแอบอบบาง ยังไม่ทันพูดจาหรือทำอันใดก็ร่ำไห้ออกมาแล้ว ราวกับว่าคนทั้งใต้หล้าต้องคอยพะเน้าพะนอดูแลเช่นนั้น
เดิมทีเนื่องจากคำพูดของท่านพ่อกับพี่ชายใหญ่ นางจึงอยากสร้างความใกล้ชิดสนิทสนมกับน้องรองผู้นี้ แต่ก็อย่างที่เห็น ความประทับใจแรกนั้นสำคัญยิ่ง ตอนนี้นางรำคาญมู่ชิงอวิ้นมากจริงๆ
“ไม่ ไม่ใช่นะเ้าคะ พี่หญิง เมื่อครู่ข้ารีบร้อนไปหน่อย เพียงอยากขอให้พี่หญิงช่วยข้าด้วย”
เมื่อมู่ชิงอวิ้นโดนฮวาเหยียนกล่าวใส่เยี่ยงนั้น ราวกับรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติ นางจึงรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่ายังคงร่ำไห้อยู่เช่นเดิม ดูแล้วน่าสงสารนัก
ฮวาเหยียนประหลาดใจ ชั่วขณะนั้นนางไม่เข้าใจน้องรองอยู่บ้างจริงๆ ว่าจะทำท่าทางเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใด? เป็เพราะสถานะอันทรงเกียรติของชายารององค์รัชทายาทหรือ? หรือยังมีเหตุผลอื่น?
“ข้าจะช่วยเติมเต็มความปรารถนาของเ้าได้อย่างไร? เ้า้าแต่งงานกับผู้ใด นั่นย่อมถือเป็อิสระของเ้า ไยจึงมาขอร้องข้าเล่า?”
ฮวาเหยียนกล่าว พลางมองมู่ชิงอวิ้นด้วยความเย้ยหยัน
เวลานี้นางตระหนักได้แล้วว่านางมองมู่ชิงอวิ้นไม่ออกจริงๆ เดิมคิดว่าเป็เพราะหลิ่วซื่อจากครอบครัวรอง มารดาของอีกฝ่ายเป็ผู้บังคับให้แต่งงาน แต่ยามนี้เมื่อดูจากท่าทีจริงจังของคนตรงหน้าแล้ว ราวกับมู่ชิงอวิ้นปรารถนาจะแต่งงานด้วยตนเอง
“พี่หญิง ท่านลุงใหญ่ฟังคำของท่านมากที่สุด ขอเพียงท่านพูดกับท่านลุงใหญ่สักคำ พระราชโองการอภิเษกสมรสย่อมถูกประกาศออกมาเป็แน่ เช่นนั้นข้าก็สามารถแต่งเข้าจวนขององค์รัชทายาทได้แล้วเ้าค่ะ”
มู่ชิงอวิ้นอ้อนวอนด้วยท่าทางเศร้าสร้อยเป็ที่สุด
เมื่อได้ยินคำพูดของมู่ชิงอวิ้น ฮวาเหยียนพลันกระตุกยิ้มเ็า กล่าวต่อว่า “ให้ข้าไปขอร้องท่านพ่อ? ทว่าคำพูดเมื่อวานเ้ายังฟังไม่เข้าใจอีกหรือ? ท่านพ่อของข้ายังพูดไม่ชัดเจนพออีกหรือ?”
ดวงตาของมู่ชิงอวิ้นแดงก่ำ นางคิดเื่นี้มาทั้งคืน และยังคงไม่้าให้โอกาสนี้หลุดลอยไป
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ว่าใจนางหลงรักองค์รัชทายาทผู้สูงส่งมาโดยตลอด
เมื่อหลายปีก่อน นางได้รู้ว่าบุรุษผู้สง่างามและโดดเด่นที่สุดในต้าโจวคือคู่หมั้นพี่หญิงของตน ยามนางเห็นบุรุษผู้นั้น เขาทั้งเปล่งประกายราวเทพเซียนผู้ยิ่งใหญ่ สูงส่งงดงาม และเดินเข้ามาในหัวใจนางเช่นนั้นเอง
ทว่านางย่อมทราบดีว่าตนมิคู่ควร ผู้ที่ควรคู่กับโอรส์ย่อมคือธิดา์
และนางไม่มีวันได้รับแม้เพียงโอกาส
ถึงกระนั้น พี่สาวของนางกลับเกิดเื่ขึ้น พวกเขาจึงยกเลิกการหมั้นหมาย!
แต่นางก็ทำได้แค่มองดูอยู่ห่างๆ
ยามนี้ เมื่อที่สุดนางก็ได้รับโอกาสที่ได้มามิง่าย ซึ่งสามารถทำให้นางยืนเคียงข้างคนผู้นั้นได้ นางจะเต็มใจปล่อยไปได้อย่างไร? จะยอมแพ้ได้อย่างไร? นั่นคือโอกาสที่นางรอคอยมาตั้งหลายปี!
แม้นางจะไม่เหลือสิ่งใด ต่อให้ต้องสูญเสียทุกสิ่งอย่าง แต่นางก็อยากคว้าโอกาสนี้ไว้ให้แน่น
“พี่หญิง ท่านแม่ของข้าใช้ความตายมาข่มขู่ ตอนนี้นางนอนป่วยอยู่บนเตียง เมื่อเช้ายังมิอาจฟื้นคืนสติ ตัวข้าในฐานะบุตรสาว จะทนเห็นท่านแม่ทรมานเช่นนี้ได้อย่างไร? ดังนั้นข้ายินดีจะแต่งงาน ขอพี่หญิงช่วยทำความปรารถนาของข้าให้เป็จริงด้วยเถิดเ้าค่ะ”
มู่ชิงอวิ้นร่ำไห้ หยาดน้ำตาไหลริน น้ำเสียงของนางเปี่ยมด้วยความเศร้าโศกและเ็ป
ฮวาเหยียนมองอย่างประหลาดใจ คราก่อนอารมณ์ของมู่ชิงอวิ้นกระตือรือร้นเป็อย่างยิ่ง เผยให้เห็นว่าเป็นางเองที่ปรารถนาจะแต่งงาน ทว่าวันนี้กลับบอกว่าเป็เพราะท่านแม่ของนางบีบบังคับ ดังนั้นจึง้าแต่งงาน?
“เป็มารดาบังคับเ้า หรือเป็เ้าเองที่้าแต่งงาน?”
ฮวาเหยียนถามอย่างตรงไปตรงมา
มู่ชิงอวิ้นชะงักไปชั่วครู่ ก่อนเอ่ยว่า “คำพูดของท่านแม่ ข้ามิอาจไม่ฟังได้ อีกทั้งองค์รัชทายาทมีฐานะสูงส่ง เป็โอรส์ ข้าสามารถเข้าไปอยู่ในสายพระเนตรของพระองค์ได้ นับว่าเป็พรของข้าแล้ว เป็ข้าเองที่ปรารถนาจะแต่งงานเ้าค่ะ”
มู่ชิงอวิ้นรู้ถึงความฉลาดของฮวาเหยียน ในวาจาจึงมีความจริงใจถึงห้าส่วน นางมิกล้าพูดปด
“เช่นนั้นเ้ายังจำคำที่ท่านพ่อของข้ากล่าวเอาไว้ได้หรือไม่ ว่าหากเ้าแต่งให้องค์รัชทายาท ครอบครัวรองของเ้าต้องแยกออกไปตั้งตัวด้วยตนเอง เช่นนั้นเ้าก็ยังยินยอมหรือ?”
ฮวาเหยียนเอ่ยถามอีกครั้ง
มู่ชิงอวิ้นไม่ตอบในทันที หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดนางก็พยักหน้า “ยินยอมเ้าค่ะ”
โอ้...
เมื่อเจรจามาถึงจุดนี้แล้ว ฮวาเหยียนยังสามารถพูดอันใดได้อีก? หากปฏิเสธอีกครา ก็จะดูเหมือนนางมีแรงจูงใจซ่อนเร้นจริงๆ
เพียงแต่นางไม่นึกว่าครอบครัวรองจะมีจิตใจที่ทระนงในศักดิ์ศรีเยี่ยงนี้ แยกตระกูล ตั้งตัวขึ้นใหม่ ยอดเยี่ยมนัก
“ตกลง เื่ที่น้องรองขอมา ข้ามู่อันเหยียนรับปากแล้ว”
ฮวาเหยียนกล่าวประโยคนี้จบก็มิได้เอ่ยคำใดต่ออีก เพียงหันหลังเดินจากไป ชายกระโปรงของนางปลิวไสว บรรยากาศเ็าฉายชัด
มู่ชิงอวิ้นยังคงอยู่ที่เดิม สายตามองตามแผ่นหลังของฮวาเหยียน นางรู้ดีว่าครั้งนี้เป็ตนที่บุ่มบ่าม เกรงว่าครานี้คงได้สูญเสียหัวใจที่รักนางของพี่หญิงไปแล้วจริงๆ
นางย่อมรู้ หลังจากผ่านไปสี่ปี นับั้แ่วันที่พี่หญิงกลับมา นางก็มิได้รับความโปรดปรานอีกต่อไป พี่หญิงปฏิบัติต่อนางอย่างเหินห่าง นาง้าจะแก้ไข แต่ผลที่ได้กลับมาช่างน้อยนัก
นางคิดว่าวันเวลายังอีกยาวไกล ย่อมมีสักวันที่นางจะกลับไปอยู่ในสายตาของพี่หญิงได้
เมื่อก่อนมิได้เป็เช่นนั้นหรือ? ความสัมพันธ์ของนางกับพี่หญิงเรียกได้ว่าดีที่สุด ทุกคนล้วนต้องอิจฉา
แต่คราวนี้ นางอดทนรอต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ
โอกาสที่จะได้เป็ชายารองของคนผู้นั้น เกรงว่าครั้งนี้อาจเป็โอกาสเดียวในชีวิตของนาง ดังนั้นนางจึงไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้
นางมองสถานการณ์ในตระกูลตอนนี้ออกอย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนล้วนรักใครเอ็นดูมู่อันเหยียน ดังนั้นนางจึงทำได้แค่นำเื่นี้มาขอร้องกับอีกฝ่าย ขอเพียงพี่หญิงรับปาก เช่นนั้นเื่ราวก็ถือว่าใกล้จะสำเร็จแล้ว ท่านลุงใหญ่ย่อมมิอาจกีดกันได้อีก
มู่ชิงอวิ้นถอนหายใจออกมาอย่างแ่เบา
มองดูท้องฟ้าที่มีแดดจ้าเหนือหัว พลางคิดว่าอย่าได้กระทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีก
...
ทันทีที่ฮวาเหยียนจากไป เจียงจื่อเฮ่าก็ะโขาเดียวมาตรงหน้ามู่ชิงอวิ้น ความกังวลฉายชัดในแววตาเขา
“คุณหนูรองตระกูลมู่ เ้าไม่เป็อันใดใช่หรือไม่? มู่อันเหยียนรังแกเ้าหรือไม่?”
เจียงจื่อเฮ่าถามด้วยความโมโห
เวลานี้เขาจัดให้มู่ชิงอวิ้นเป็สหายของตนแล้ว คุณหนูรองตระกูลมู่ผู้งดงามและจิตใจดีคนนี้ย่อมดีกว่ามู่อันเหยียนหลายเท่านัก
“มิใช่เช่นนั้นเ้าค่ะ คุณชายเจียงเข้าใจผิดแล้ว เป็ข้าเองที่ขอร้องพี่หญิง เื่ราวค่อนข้างเร่งด่วน ข้าจึงเสียกิริยาไป ทำให้คุณชายเจียงต้องขบขันแล้ว”
มู่ชิงอวิ้นหลุบสายตา แสดงความอ่อนแอ เส้นผมไหลผ่านไหล่ยามนางก้มลง ทำเจียงจื่อเฮ่าที่เห็นต้องหน้าแดง
“เช่นนั้นก็ดี ไม่ได้รังแกเ้าก็ดีแล้ว”
เขาเอ่ยพึมพำ
“คุณชายเจียง ให้ข้าเป็ผู้ไปส่งยังที่พำนักของท่านเถิด สภาพแวดล้อมไม่ใคร่ดีนัก ใช้แก้ขัดไปก่อนนะเ้าคะ”
“อืม ต้องรบกวนคุณหนูรองแล้ว”
เมื่อเห็นเจียงจื่อเฮ่าสุภาพยิ่ง มู่ชิงอวิ้นจึงก้มหน้าลงยิ้มบาง “คุณชายเจียงเรียกข้าว่าแม่นางชิงอวิ้นก็พอเ้าค่ะ”
คิ้วตาของเจียงจื่อเฮ่าสว่างวาบขึ้น เขาพยักหน้าตอบรับ “ชิงอวิ้น มู่ชิงอวิ้น เป็นามที่ดีจริงๆ ดีกว่านามของมู่อันเหยียนนัก”
“ที่ใดกันเล่า...คุณชายเจียงหยุดล้อข้าเล่นเถิดเ้าค่ะ”
มู่ชิงอวิ้นเช็ดหางตาแล้วปิดปากยิ้ม นี่เป็ครั้งแรกที่ได้ยินผู้อื่นกล่าวว่านางดีกว่าพี่สาวของนาง มิอาจไม่บอกได้ว่าภายในใจของนางมีความปีติเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าขาและเท้าของอีกฝ่ายเดินไม่มั่นคง มู่ชิงอวิ้นจึงเอื้อมมือไปช่วยเขา
ทั้งสองค่อยๆ เดินออกไปทีละก้าว เงาด้านหลังถูกแสงแดดสาดส่องจนยืดยาว ดูกลมกลืนกันมากทีเดียว
เมื่อมู่จี้หงเห็นฉากนี้เข้า จึงลูบคางของตนก่อนหันไปถามมู่เอ้าเทียนว่า “พี่ใหญ่ ท่านคิดว่านายน้อยตระกูลเจียงผู้นี้ต้องใจอวิ้นเอ๋อร์แล้วหรือไม่? ยังไม่พูดถึงว่าสองคนนี้เข้ากันได้ดีจริงๆ และตระกูลเจียงก็มิได้เลวร้าย หากทั้งสองมีใจต่อกัน การแต่งงานที่มีสุขย่อมเป็สิ่งที่งดงาม”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้