บทที่ 49 เมืองเว่ยยางที่แสนคึกคัก
ลั่วถูนอนไม่หลับทั้งคืน ไตร่ตรองปัญหามากมายที่ได้พบเจอ เขาไม่รู้ว่าการที่มีเจียงิ่อยู่ด้วยเป็เื่ร้ายหรือดี ทว่าตอนนี้ เขากับเจียงิ่ลงเรือลำเดียวกันแล้ว คิดเสียว่าเป็คนโชคร้ายอยู่ด้วยกันสองคน ไม่แน่ว่าศัตรูของเขาอาจอ่อนแอกว่าศัตรูของเจียงิ่เสียด้วยซ้ำ หากตระกูลลั่วคิดสังหารเขา คนที่ถูกจ้างวานมาก็มีไม่น้อยทีเดียว เื่ของสมาคมซานชิงหากเป็ตามที่เซวี่ยหลิงเอ๋อร์บอก พวกนั้นย่อมไม่ปล่อยพวกเขาไปง่ายๆ แน่นอน ตลอดเส้นทางครั้งนี้เกรงว่าคงคึกคักไม่เบาทีเดียว
ลั่วถูผลักประตูให้เปิดออก กลับได้เห็นว่าประตูห้องตรงข้ามเปิดออกเช่นกัน และคนที่ออกมาจากห้องก็ทำให้ลั่วถูตะลึงจนอ้าปากค้าง...
“นี่มัน... พี่สาวเซวี่ยนี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ลั่วถูจับจ้องอย่างตะลึงงันไปยังเซวี่ยหลิงเอ๋อร์ที่เปิดประตูออกมา ขอบตาทั้งสองข้างดำคล้ำจนเหมือนหมีแพนด้าอย่างไรอย่างนั้น แขนพันผ้าพันแผลห้อยคล้องไว้กับคอ หน้าตาท่าทางปรากฏร่องรอยของความอ่อนล้าอย่างชัดเจน ไหนเลยจะยังเหลือความงดงามเหมือนเช่นเมื่อวานได้ ส่วนทางด้านหม่าทงเทียนที่อยู่ข้างกันก็ใบหน้าเขียวคล้ำ แต่พอได้เห็นลั่วถูโผล่หน้ามา ก็แทบทนไม่ไหวอยากพุ่งตัวไปลงมือสังหารเขาใจจะขาด...
“ไสหัวไปพ้น!” หม่าทงเทียนะโออกมาด้วยความโมโห เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าที่แท้แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเซวี่ยหลิงเอ๋อร์กันแน่ เพียงแต่เมื่อตื่นมาในตอนเช้าเซวี่ยหลิงเอ๋อร์ก็พบว่าข้อมือของตนกลับหักไปเสียแล้ว อีกทั้งดวงตาก็เ็ปเหลือเกิน ทว่ากลับจำไม่ได้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ราวกับเป็เพียงฝันร้ายว่ามีคนมาทำร้ายเท่านั้น ทว่าพอตื่นขึ้นมาก็กลายเป็สภาพเช่นนี้ไปเสียแล้ว เื่ราวเช่นนี้จะไปเที่ยวเล่าผู้อื่นฟังได้อย่างไรกัน เซวี่ยหลิงเอ๋อร์รู้ดีว่าไม่ใช่ฝันแน่นอน เพียงแต่ผู้แข็งแกร่งที่นางพบไม่ใช่คนที่นางจะต่อกรได้ โชคดีที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้คิดเอาชีวิตนาง ไม่เช่นนั้นเกรงว่าคงไม่จบลงง่ายๆ เช่นนี้
“พี่ชายหม่าไม่เห็นต้องโมโหเช่นนี้เลย อย่างไรน้องลั่วก็เป็ศิษย์น้องของท่าน... ” เซวี่ยหลิงเอ๋อร์ส่งยิ้ม จากนั้นกล่าวต่อ “เมื่อคืนข้าไม่ทันระวังถึงได้นอนตกเตียง จนกลายเป็เช่นนี้... ส่วนน้องลั่ว เ้าอย่าลืมสัญญาของพวกเรานะ... ”
ในใจของหม่าทงเทียนเคียดแค้นเหลือเกิน ทว่าในเวลานี้เขาไม่มีอารมณ์หาเื่ลั่วถูแล้ว เซวี่ยหลิงเอ๋อร์เป็ว่าที่ภรรยาของเขา แถมตระกูลหม่าของเขายังหวังประจบเซวี่ยหลิงเอ๋อร์เพื่อยกฐานะของตระกูลตนให้สูงขึ้น ดังนั้นถึงจะอยากขึ้นเตียงกับเซวี่ยหลิงเอ๋อร์เท่าไร ก็ต้องปฏิบัติต่อนางราวองค์หญิงอยู่ดี หากไม่ใช่เซวี่ยหลิงเอ๋อร์เป็ผู้เริ่มก่อน เขาย่อมไม่กล้าขัดความคิดเห็นของเซวี่ยหลิงเอ๋อร์แม้แต่น้อย ทว่าตอนนี้ทั้งเซวี่ยหลิงเอ๋อร์ทั้งเขาล้วนาเ็กันทั้งคู่เช่นนี้ เขาจะมีหน้าไปอธิบายกับตระกูลเซวี่ยได้อย่างไร ถ้าจัดการเื่นี้ไม่ได้ คงทำให้ตระกูลเซวี่ยมีน้ำโหแน่นอน การหมั้นหมายของพวกเขาอาจถึงคราวสั่นคลอนได้
เพียงแต่เื่ที่ทำให้หม่าทงเทียนหดหู่ที่สุดคือเื่ที่กระทั่งตัวเซวี่ยหลิงเอ๋อร์เองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้าเ็หนักเช่นนี้ได้ แต่ที่มั่นใจได้อย่างหนึ่งนั่นคือมีคนมาปั่นหัวพวกเขาเข้าเสียแล้ว แต่ถึงขั้นทำให้เซวี่ยหลิงเอ๋อร์าเ็อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวได้เช่นนี้ ศัตรูผู้นี้ต้องไม่ใช่คนที่พวกเขาจะจัดการได้เองแล้ว ถึงจะเป็เถ้าแก่อ้วนศิษย์าขั้นหกก็ทำไม่ได้ขนาดนี้ด้วยซ้ำ เื่นี้เองที่ทำให้หม่าทงเทียนถึงกับหวาดกลัวไปชั่วขณะ ถ้าคนสร้างเื่น่ารังเกียจครั้งนี้ไม่ได้คิดทำร้ายพอเป็พิธี แต่เปลี่ยนเป็คิดเอาชีวิตของเซวี่ยหลิงเอ๋อร์แทน เกรงว่าสิ่งที่เขาจะได้เห็นย่อมเป็ศพของเซวี่ยหลิงเอ๋อร์แน่นอน เช่นนั้นตระกูลหม่าของเขาคงไม่วายต้องตัดสัมพันธ์กับตระกูลเซวี่ยด้วยเหตุผลนี้ ต่อให้เขาเป็ผู้สืบทอดตระกูลหม่า ก็คงถูกบิดาส่งตัวให้ตระกูลเซวี่ยจัดการอยู่ดี
เมื่อมองเซวี่ยหลิงเอ๋อร์และคนอื่นๆ เดินจากไปจนลับสายตา ลั่วถูก็ต้องรู้สึกประหลาดใจขึ้นจนได้ เมื่อคืนเซวี่ยหลิงเอ๋อร์ยังสดใสร่าเริง ทรงเสน่ห์ล่อลวงไม่ใช่ย่อย ทว่าเพียงหลับไปตื่นเดียวก็กลับกลายเป็เช่นนี้ไปแล้ว อีกทั้งเมื่อคืนนอกจากการที่เจียงิ่ถูกลักพาตัว ก็ไม่รู้สึกถึงความเคลื่อนไหวอื่นใดอีก มิหนำซ้ำอาการาเ็ของเซวี่ยหลิงเอ๋อร์ก็ไม่ได้คิดบัญชีกับเ้าอ้วนแต่อย่างใด ทั้งที่เกิดเื่ขึ้นในโรงเตี๊ยมฉางหลายแท้ๆ หากจะว่ากันตามเหตุผลแล้ว เื่ครั้งนี้เ้าอ้วนต้องเป็ฝ่ายรับผิดชอบ
“ว้าว วันนี้ช่างอากาศดีเสียจริง... ” น้ำเสียงของเจียงิ่เอ่ยขึ้นพลางบิดี้เี กระโปรงสีขาวชวนให้รู้สึกง่วงงุนและเปี่ยมเสน่ห์แสนอ่อนหวานไปพร้อมๆ กัน ฟันที่ขาวสะอาดเรียงตัวสวยงามรวมและดวงตาที่แพรวระยิบระยับดั่งดวงดารา ทำให้ลั่วถูได้แต่กลืนน้ำลายอย่างตะลึงงัน แต่ก็ไม่วายสบถด่าออกมาในใจ แม่นางคนนี้พอยืดตัวคลายความเมื่อยล้าทรวดทรงองค์เอวก็ปรากฏเสียชัดเจน ช่างไม่รู้จักระวังเอาเสียเลย
“สามี... ” ฝ่ายเจียงิ่เมื่อเห็นลั่วถูเข้า ก็เข้าเคลื่อนกายเข้าใกล้อย่างนุ่มนวลพลางเอื้อมมือจับแขนของเขา ช่างดูสมเป็กุลสตรียิ่งนัก
“ฮ่าฮ่า สหายลั่วกับน้องสะใภ้ตื่นเช้ายิ่งนัก... ” เ้าอ้วนยิ้มแห้งพลางเดินเข้ามาทักทาย แต่ใบหน้ากระตุกราวรู้สึกไม่สู้ดีนัก
“เกิดอะไรขึ้นเถ้าแก่ ได้ยินมาว่าเ้าชอบนอนตื่นสาย แต่วันนี้เ้าตื่นเร็วใช้ได้เชียว!” ลั่วถูพอเห็นท่าทางของเถ้าแก่อ้วน ก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดเื่บางอย่างขึ้นเสียแล้ว เขาเห็นกระทั่งว่าที่เบ้าตาของเ้าอ้วนมีรอยคล้ำปรากฏเป็วงด้วย
“อย่าไปพูดถึงเลย เมื่อคืนในเมืองเว่ยยางครึกครื้นไม่เบา ทำเอาพี่อ้วนอย่างข้า ไม่ได้นอนทั้งคืน!” เถ้าแก่อ้วนส่ายหน้าอย่างหมดคำจะพูด
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” ลั่วถูใ เมืองเว่ยยางเป็ถึงหนึ่งในเมืองใหญ่ของเผ่ามนุษย์ ควรจะเงียบสงบไร้ปัญหาสิถึงจะถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองที่มีผู้พิทักษ์และผู้รักษากฎสุดแข็งแกร่งอยู่ตั้งมากมาย
“เ้าดูสินี่อะไร?” เ้าอ้วนส่งลูกศรในมือที่ยาวราวหนึ่งฉื่อให้ลั่วถูดู
สีหน้าของลั่วถูเปลี่ยนไปทันควัน เพราะบนลูกศรที่มีคราบเืเปื้อนอยู่ดอกนั้น เป็หนึ่งในลูกศรสองดอกที่เขายิงออกไปเมื่อคืน เป็ลูกศรของหน้าไม้แกร่งที่ใช้เฉพาะในกองทัพ อีกทั้งเขายังได้ทำลวดลายสลักไว้ที่บนนั้นด้วย หากให้คนมากมายลองมองลวดลายพวกนี้ก็คงเห็นเพียงความสวยงาม ทว่าคนที่รู้เื่จริงๆ ย่อมรู้ดีว่าเป็ตัวอักษรพื้นฐานที่ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำของลูกศรเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ลั่วถูยังไม่ได้เปิดิญญาอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นตัวอักษรที่เขาสลักไว้จึงทำได้แค่ใช้ประโยชน์จากพลังลมในฟ้าดินนี้เพื่อช่วยให้ศรดอกนี้เคลื่อนที่คล่องตัวมากขึ้นด้วยการลดแรงต้านในอากาศลง การยิงก็ยิ่งมั่นคงขึ้น หากลั่วถูเปิดิญญาได้เมื่อไร ดีไม่ดีเขาอาจใช้พลังธาตุสลักลงบนลูกศรได้ก็เป็ได้ ประสิทธิภาพของมันต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน
เมื่อลั่วถูได้เห็นลูกศรดอกนั้น เขารู้ได้ทันทีว่าเป็ลูกศรของเขา อีกทั้งยังเป็ลูกศรที่เขายิงถูกมือสังหารผู้ปิดบังหน้าที่บุกเข้ามาอีกด้วยเพียงแต่เหตุใดศรดอกนี้ถึงอยู่ในมือเ้าอ้วนได้
“คุ้นตามากใช่หรือไม่?” เถ้าแก่อ้วนถาม
“นี่คือลูกศรของข้า แต่เหตุใดมันจึงอยู่ในมือเ้าได้!”
“เขาตายแล้ว มีคนพบศพเขาในเมือง เมื่อกลางดึกถึงได้มีคนเรียกข้าออกไป ถึงหมอนั่นจะตายแล้ว แต่ข้ารู้ว่าต้องเป็เขาแน่นอน!” เ้าอ้วนยักไหล่ ทว่าดูราวกับเป็การเขย่าไขมันบนร่างกายเสียมากกว่า จนแทบเห็นคลื่นไขมันกระเพื่อมเป็ชั้นๆ บนร่างอ้วนท้วนอยู่แล้ว
ลั่วถูประหลาดใจ คนปิดหน้าที่ถูกเขายิงจนถึงแก่ชีวิต ผู้นั้นเป็ถึงผู้แข็งแกร่งศิษย์าขั้นหก และบนลูกศรสองดอกนั้นเดิมทีก็ไม่ได้ทายาพิษไว้ อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้อยู่ในสนามรบฝานเหรินแล้ว ในเมื่อกลับมาถึงเมืองเว่ยยาง ที่ที่คนส่วนมากเป็เผ่ามนุษย์ หากทายาพิษไว้บนอาวุธ ผลลัพธ์ที่จะตามมานั้นเกรงว่าไม่ใช่ของที่คนธรรมดาผู้ยังไม่ได้เปิดิญญาคนหนึ่งจะรับไหว ถึงเขาจะมีความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่ไม่ได้ผยองจนคิดว่าตัวเองจะทำตามใจเสียทุกอย่างได้
“เช่นนั้นข้าควรสบายใจได้แล้วใช่หรือไม่ อย่างไรเสียเขาก็คือศัตรูที่ทำให้ข้าต้องเป็กังวล” ลั่วถูหัวเราะ การที่คนคนนี้ตายไปสำหรับเขาแล้วเป็เื่ที่ไม่เลวเลยทีเดียว ส่วนเื่ที่ว่าตายอย่างไร ก็ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับเขา แต่พวกผู้พิทักษ์ในเมืองต้องปวดหัวแน่
“นั่นก็ใช่... ของที่เ้า้า มีคนเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดถูกเตรียมไว้นอกเมือง อีกสักครู่ข้าจะให้ซูต้าส่งพวกเ้าออกจากเมืองเอง!” เ้าอ้วนเปลี่ยนเื่และเอ่ยถามว่า “จะไม่กินข้าวเช้ากับพี่อ้วนของเ้าก่อนเสียหน่อยแล้วค่อยไปหรือ?”
ลั่วถูโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นกึ่งลากกึ่งจูงเจียงิ่ไปพลางกล่าวว่า “ไม่กินก็เสียของแย่สิ”
……
แม้ว่าากำลังดำเนินไป ทว่าเมืองเว่ยยางก็ทะยานขึ้นสู่ความรุ่งโรจน์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ที่นี่คือเส้นทางเส้นเดียวที่ไปเชื่อมต่อกับสนามรบฝานเหรินของเผ่ามนุษย์ ทุกคนที่นำทรัพยากรกลับจากสนามรบฝานเหรินต้องผ่านเข้าเมืองเว่ยยางทั้งนั้นและอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหลายก็ผ่านเข้าสู่สนามรบฝานเหรินจากเมืองเว่ยยางไม่หยุดเช่นกัน
ทหารรับจ้างเป็สิ่งที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในแผ่นดินต้นกำเนิด ไม่ว่าจะเป็ตระกูลใหญ่หรือสำนักนิกายไหนๆ พวกเขาล้วนใช้บริการของทหารรับจ้างกันทั้งนั้น แน่นอนว่ามีศิษย์ของสำนักบางส่วนที่ออกหาประสบการณ์ด้วยตัวเองเช่นกัน พวกเขามักรวมกลุ่มกันแต่ก็มีหน้าที่ไม่ต่างกับทหารรับจ้างเท่าไรนัก และกลุ่มพวกนี้เองที่มักทำให้ผู้คนทั้งหวาดกลัวและเคารพไปพร้อมๆ กัน
การจะเป็ทหารรับจ้างได้ อย่างน้อยก็ต้องเป็ระดับศิษย์า หากจะกล่าวไปแล้วสมาคมทหารรับจ้างก็เหมือนกับหน่วยงานอิสระสาขาหนึ่งของวิหารอิงหลิง เหมือนกับวิหารเสินจั้นที่จัดการเื่การทหารทั้งหมดของเผ่ามนุษย์ ทหารรับจ้างก็คือกองทัพของวิหารอิงหลิง ดังนั้นทหารรับจ้างทุกคนล้วนมีป้ายบอกสถานะ เพียงแต่พวกเขามีอิสระมากกว่านักรบในกองทัพมาก พวกเขาจะรับภารกิจหรือไม่นั้นสิทธิ์ในการตัดสินใจเป็ของพวกเขาแต่เพียงผู้เดียว
“คุณชายลั่ว พวกท่านจะเดินทางเป็กลุ่มหรือไม่?” ซูต้าถามอย่างระมัดระวัง
“ทำไมหรือ เส้นทาง่นี้ไม่ค่อยสงบหรือ?” ลั่วถูถามกลับไป
“่นี้ดีขึ้นแล้วขอรับ ไม่ได้ยินว่ามีเื่ใหญ่อะไรเกิดขึ้น อย่างไรเสียตอนนี้ก็มีกลุ่มพ่อค้ามากมาย บนเส้นทางมีพ่อค้าสัญจรกันไม่ขาดสาย กลุ่มพ่อค้าที่เดินทางแทบจะจ้างทหารรับจ้างมาคุ้มกันทั้งหมด แต่บางส่วนก็ไม่มีทหารรับจ้าง เพราะพวกเขาแข็งแกร่งอยู่แล้ว เ้าดูสิ คนกลุ่มนั้นมาจากซีอวี่ ได้ยินว่าเป็กลุ่มเยี่ย ระยะทางหลายพันลี้ที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยจ้างทหารรับจ้าง ได้ยินว่าเมื่อตอนที่พวกเขาเริ่มออกเดินทาง ยังมีม้าไม่ถึงครึ่งหนึ่งของตอนนี้ด้วยซ้ำ แต่หลังจากมาถึงเมืองเว่ยยาง สินค้าของพวกเขากลับเพิ่มขึ้นมาเป็เท่าตัว... ”
“เ้าไปได้ยินมาจากไหนกัน? เป็ไปได้ไหมว่าพวกเขาปล้นของโจรมาตลอดทาง สินค้าถึงได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ได้?” ดวงตาของลั่วถูเป็ประกาย นี่มันช่างวิเศษเหลือเกิน เดินทางมาหลายพันลี้ ไม่เพียงไม่มีสินค้าหาย แต่กลับเพิ่มขึ้นเท่าตัวอีกต่างหาก
“เ้าก็คิดเช่นนั้นใช่ไหมเล่า โจรบนเส้นทางนี้ แค่เห็นธงของกลุ่มเยี่ย ก็เผ่นแน่บแล้ว ใครจะไปอยากเอาเนื้อตัวเองไปป้อนเข้าปากพยัคฆ์กัน... ได้ยินว่าหนานไห่ก็มีคนมาที่เมืองเว่ยยางด้วย พวกนั้นทุกคนทั้งบุรุษและสตรีล้วนมีรูปโฉมงดงามกันทั้งนั้น ดูแล้วงามตาเหลือเกิน แต่นายท่านบอกว่า คนหนุ่มสาวพวกนั้นล้วนเป็คนใจคอเหี้ยมโหดนัก ว่ากันว่าเป็ศิษย์ลึกลับจากเกาะชางเยี่ยแห่งหนานไห่ มิหนำซ้ำยังเย่อหยิ่งเสียเหลือเกิน วันก่อนมาเยือนโรงเตี๊ยมของพวกข้า ท่านเดาสิว่าเกิดอะไร พวกเขานำไข่มุกขนาดเท่าไข่ไก่เม็ดหนึ่งมาจ่ายค่าที่พัก นายท่านเก็บของพวกนั้นอย่างดีราวกับสมบัติชั้นเลิศทีเดียว ข้าคิดจะขอลองจับดูเสียหน่อย ยังถูกนายท่านเตะกลิ้งไปตั้งสองตลบ... ” ซูต้าเป็คนช่างพูดช่างจาใช้ได้ ด้วยความสัมพันธ์ฉันท์อาหลานของเ้าอ้วนและซูต้า ทำให้เข้าใจเื่ราวระหว่างลั่วถูกับเ้าอ้วนเป็อย่างดี จึงไม่ได้เกรงใจอะไรนัก มีอะไรก็พูดออกมาเสียหมด เล่าเื่ที่ได้เห็นได้ยินในเมืองเว่ยยางออกมาจนหมด แต่ละเื่ที่ลั่วถูได้ฟังล้วนเป็เื่แปลกใหม่สำหรับเขาทั้งสิ้น
แต่ก็ทำให้ลั่วถูได้รู้แล้วว่า ในเมืองเว่ยยางนี้เต็มไปด้วยเสือซ่อนเล็บอยู่มากมาย ส่วนเื่ตัวตนที่แท้จริงของคนที่ปิดบังหน้านั้น ก็ยิ่งกลายเป็เื่ยากจะคาดเดามากขึ้นไปอีก ทั้งยังเื่ที่ว่าคนผู้นั้นตายได้อย่างไร ก็ยากจะกล่าวได้ อย่างไรเสียเมืองเว่ยยางในเวลานี้ก็เต็มไปด้วยยอดฝีมือมากมายราวมวลเมฆบนฟ้า คนที่แข็งแกร่งจนสังหารศิษย์าขั้นหกได้ก็มีอยู่มากมายนัก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้