จูมามารออยู่ในห้องโถงเล็กด้านนอกเป็เวลานาน เห็นเพียงสาวใช้สองคนเดินออกมาจากห้องอาบน้ำก็รู้สึกแปลกใจจึงเอ่ยถามสาวใช้
หลังจากได้ยินเื่ราวทั้งหมดแล้ว จูมามาก็เลิกคิ้ว ดึงหูสาวใช้ทั้งสองคนอย่างแรงและดุด่า "ข้ารับใช้ต่ำต้อยอย่างพวกเ้าใจแคบนัก! แม้แต่การรับใช้ยังเลือกปฏิบัติ การเก็บพวกเ้าไว้จะมีประโยชน์อันใด! ไม่เห็นหรือว่าตอนกลับจวนมาสตรีผู้นั้นถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมของผู้ใด? นางเป็สตรีที่ท่านอ๋องประคบประหงมและพากลับมา! หากท่านอ๋องทราบเื่นี้ ท่านจะไม่ถลกหนังพวกเ้าหรอกหรือ!?”
สาวใช้ถูกจูมามาดุด่าจนพูดไม่ออก จึงรีบกลับไปที่ห้องอาบน้ำและช่วยประคองฉีซีออกมา โดยไม่สนใจว่าฉีซีจะขัดขืนหรือวิงวอนอย่างไร สวมอาภรณ์ให้ฉีซีอย่างรวดเร็ว ทายาอย่างเอาใจใส่ เกล้าผมทรงมวยเมฆลอย สวมเครื่องประดับหยกมรกตฝังทองและต่างหู หลังจากแต่งหน้าและเขียนชาดบนหน้าผากจนดูงดงามแล้ว จึงประคองนางออกมาอย่างระมัดระวัง
เมื่อจูมามาเห็นฉีซีก็ตะลึงงัน
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสตรีผู้มีใบหน้าเปื้อนเืและสิ่งสกปรกเมื่อครู่ เมื่อล้างหน้าล้างตาแล้วกลับงดงามราวกับซุ่นหวา รูปโฉมงามสง่าเหนือใคร
เห็นนางผู้มีใบหน้าราวกับมึนเมาด้วยฤทธิ์สุรา ยามสาวใช้ประคองร่างแน่งน้อยออกมา ท่วงท่างดงามดั่งต้นหลิวที่ไหวระริกตามสายลมยามค่ำคืน ยามนี้เองที่ได้เข้าใจความหมายของ ‘ยามเช้าอันหนาวเหน็บทรงประทานให้อาบน้ำที่สระหวาชิง น้ำแร่อุ่นชะล้างผิวพรรณอันเนียนนุ่ม เหล่าสาวใช้พยุงร่างอันอ่อนระหงส์ไร้เรี่ยวแรง ยามนี้เองที่ได้ััพระคุณอันล้นพ้น[1]’
เมื่อได้ยินว่าซีอ๋องซื้อนางมาจากตรอกโกวหลานในราคาทองคำสองร้อยแท่ง จูมามายังสงสัย เพียงได้เห็นรูปลักษณ์อันงดงามและสง่างามของนางจึงไม่แปลกใจที่ซีอ๋องจะสนใจ ยามเห็นรูปร่างอันบอบบางของนาง ใครเล่าจะไม่หลงใหล ใครเล่าจะกล้าเมินเฉย?
จูมามาไม่รู้ว่าฉีซีได้รับาเ็ที่ฝ่าเท้า จึงนำฉีตัวซีไปที่ตำหนักของซีอ๋องอย่างรีบเร่ง
ฉีซีมองไปบริเวณโดยรอบและเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ตำหนักที่คุ้นเคย ทว่าบรรยากาศกลับไม่คุ้นเคยอีกต่อไป
ความรู้สึกขัดแย้งที่สิ่งของยังอยู่ ทว่าคนเปลี่ยนไปทำให้ฉีซีหยุดนิ่งอยู่หน้าประตูตำหนักบรรทม เสียงหัวเราะแ่เบาดังออกมาจากภายใน ทำให้ไม่แน่ใจว่าควรจะก้าวเข้าไปดีหรือไม่
ซีอ๋องแห่งต้าจิ้งยึดครองห้องส่วนตัวของนางไว้ และยังเล่นสนุกกับสตรีภายในนั้นอย่างไม่ละอายใจอีกหรือ?
พวงแก้มของฉีซีแดงก่ำ ไม่รู้ว่าควรรู้สึกโกรธเคืองหรือโศกเศร้า โกรธที่ซีอ๋องเข้ายึดครองตำหนัก โศกเศร้าเพราะหยวนฉีถูกทำลายจนพินาศย่อยยับ ความรุ่งโรจน์ที่เคยเป็ของนางดั่งพลุไฟที่สว่างไสวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แปรเปลี่ยนเป็หมอกควันและสูญหายไปไม่มีวันหวนกลับ
ขณะที่กำลังลังเล เสียงเกียจคร้านของโม่ซีก็ดังมาจากภายใน "เข้ามาได้"
ฉีซีตกตะลึง เขารู้ได้อย่างไรว่านางมาแล้ว?
นางไม่รู้ว่าโม่ซีฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และมีทักษะการได้ยินที่ยอดเยี่ยม เขาได้ยินเสียงอาภรณ์ของนางที่ละกับพื้นและเสียงฝีเท้าที่สับสนวุ่นวายเนื่องมากจากอาการาเ็ที่ฝ่าเท้าจากระยะไกล
ฉีซีขอให้จูมามาประคองเข้าไปในตำหนัก ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นเพราะกลัวว่าเขาจะจำตัวตนของตนได้และฆ่าทิ้งทันที
เครื่องเรือนภายในไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก เตียงที่ฉีซีเคยนอน บัดนี้มีโม่ซีและเหล่าสตรีนอนอยู่
เหล่าสตรีรูปโฉมงดงามซึ่งต่างก็มีท่วงท่าที่แตกต่างกัน บางคนนั่ง บางคนนอน พิงอยู่กับร่างกายผอมเพรียวของเขา
สตรีนางหนึ่งถือถือชิ้นลูกแพร์ไว้เตรียมป้อนโม่ซี อีกนางหนึ่งกำลังโอบรอบคอของโม่ซีและพิงอยู่บนอกที่เสื้อเปิดออกเล็กน้อย อีกสองนางที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยกำลังวิ่งไล่กันอย่างสนุกสนาน
โม่ซีไม่รู้ว่าาแที่เท้าของฉีซีเริ่มเจ็บ เห็นเพียงฉีซีวางมือบนมือของจูมามาแล้วขมวดคิ้ว ฉีซีคล้ายคลึงกับภาพเหมือนขององค์หญิงหลิวเฟิงแห่งหยวนฉีที่เขาเคยเห็นบนผนังห้องสมุดในตำหนักองค์หญิงยามที่เขายกทัพบุกเข้าไป
ด้วยร่างกายที่โคลงเคลงไปมาทำให้เขารู้สึกว่านางนั้นตัวเล็กบอบบาง ท่าทางละมุนละไมและอ่อนหวานนี้คล้ายกับหลี่อวิ๋นเจินที่จากเขาไป นางมักจะมีท่าทีอ่อนหวานและบอบบางอยู่เสมอ ในใจของเขาจึงเริ่มปรากฏความไม่พอใจขึ้นอย่างเงียบ ๆ
“หมดสติในอ่างอาบน้ำอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อโม่ซีเอ่ยปาก เห็นได้ชัดว่ากำลังตำหนิฉีซีที่ปล่อยให้เขาต้องรอเป็เวลานาน เหล่าสตรีได้ยินเช่นนั้นต่างก็หยุดการเคลื่อนไหว หันไปมองที่ฉีซีซึ่งสวมอาภรณ์สีขาวราวกับหิมะโดยมีเข็มขัดสีชมพูผูกอยู่รอบเอว ดูเป็คนอ่อนหวานและเปราะบาง
จูมามารีบกล่าวว่า "ทาสเฒ่าสมควรตาย แม่นางอาจจะเขินอายเล็กน้อยเมื่อต้องให้ผู้อื่นมาดูแลเป็ครั้งแรก ทำให้การเปลี่ยนอาภรณ์และทายาใช้เวลานานกว่าปกติ ท่านอ๋องโปรดลงโทษข้าด้วยเถิด!"
คำพูดเหล่านี้คือการผลักความรับผิดชอบให้ฉีซี ทว่าฉีซีไม่มีอะไรจะพูด เพราะนางขัดขืนไม่สวมเสื้อผ้าเหล่านี้อยู่พักหนึ่งจริงๆ หากซีอ๋องแห่งต้าจิ้งเป็เหมือนพี่ชายของเขาโม่เว่ยฮ่องเต้แห่งต้าจิ้ง บางทีเขาอาจจะโหดร้ายและไร้ความปราณี ไม่รู้ว่าเขาจะข่มเหงนางอย่างไร?
นางดึงมือที่วางอยู่บนแขนของจูมามาออกอย่างประหม่า ประสานมือเข้าด้วยกัน ฝ่ามือของนางมีเหงื่อออกเล็กน้อย
จูมามารู้สึกว่าแขนเบาลงจึงเหลือบมองฉีซี เห็นว่านางก้มหน้าไม่พูดอะไรและเห็นไม่ชัดว่ารู้สึกอย่างไร นางคิดว่าฉีซีคงโกรธมากเมื่อได้ยินที่ตนโยนความผิดทั้งหมดให้เลยรู้สึกไม่พอใจ
ทว่านางไม่กลัว เป็ความจริงที่ว่าฉีซีไม่ร่วมมือ หากโวยวายขึ้นมาก็คงถูกท่านอ๋องลงโทษเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นนางรับใช้ซีอ๋องมานานหลายปีแล้ว นางจะไม่รู้นิสัยของเขาได้อย่างไร? เหล่าสาวใช้ในตำหนักล้วนให้เกียรตินาง แล้วแม่นางผู้นี้เป็ใครกัน ? นอกจากนี้ซีอ๋องยังไม่ชอบสตรีที่เอาแต่ใจ แม้ว่าเจินมี่[2]จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งก็ไม่มีอะไรน่าหวาดกลัว
อารมณ์เสียขนาดนี้เลยหรือ เป็ครั้งแรกที่มีคนมารับใช้จริงหรือ? รูปร่างเช่นนั้นใช่นางกำนัลจริงหรือ? จูมามากำลังหลอกลวงใครอยู่กัน?
โม่ซีเห็นพฤติกรรมของฉีซีกับตาของตน และเข้าใจผิดนางเช่นเดียวกับจูมามา เมื่อนึกถึงสิ่งที่นางพูดในตรอกโกวหลาน ช่างทำให้ผู้คนอยากจะทำลายความภาคภูมิในใจหยวนฉีที่เหลืออยู่นั่นเสียจริง
โม่ซีลุกขึ้นยืน ถอดเสื้อคลุมของตนออก เหลือเพียงเสื้อผ้าชั้นในและพูดเสียงเรียบ "เข้ามาช่วยข้าทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย"
เมื่อเหล่าสตรีรอบตัวได้ยินดังนั้นจึงรีบมาถอดเสื้อผ้าชั้นในของโม่ซีออก ทว่ากลับได้ยินโม่ซีะโ "หยุดมือเสีย! พวกเ้าทุกคนออกไปให้หมด!"
เหล่าสตรีมองหน้ากันและมองไปที่ฉีซี สตรีที่เคยซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของโม่ซี ขมวดคิ้วและปล่อยมือออกจากเสื้อผ้าชั้นในอย่างไม่เต็มใจ สตรีอีกสองนางที่วิ่งไล่กัน ปิดปากหัวเราะคิกคักอย่างคลุมเครือ ดวงตากับคิ้วเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม และทยอยเดินออกจากตำหนักไป
ในตอนท้ายจูมามาก็เดินออกไปจากตำหนัก และปิดประตูให้โม่ซีอย่างเอาใจใส่
ฉีซีที่ก้มศีรษะลงได้ยินเสียงปิดประตูจึงหันกลับไปมองจูมามา ภายในใจรู้สึกหวาดหวั่น นางจึงใช้นิ้วเรียวจับที่รอยแยกของประตูและขอร้องเสียงแ่ "มามา อย่า..."
จูมามามองฉีซีที่สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและคำขอร้อง นางเพียงส่ายหน้าแล้วกระซิบว่า "อีกครู่ ข้าจะให้คนนำน้ำร้อนมา เ้าจงปรนนิบัติท่านอ๋องให้ดี" จากนั้นก็ปิดประตูตำหนักลง
“ยังยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นล่ะ?” เสียงเ็าและเกียจคร้านของโม่ซีดังมาจากด้านหลัง
------------------------------------------------------------------------------------
[1] มาจากบทกวีเื่ลำนำโศกนิรันดร์ (长恨歌) ของไป๋จวีอี้
[2] เจินมี่ หญิงงามผู้โด่งดังในประวัติศาสตร์จีนโบราณ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้