ขณะประคองฝ่าเท้าขาวราวหยกของเซียวหนิงเอ๋อร์เอาไว้ในมือ ผิวอ่อนนุ่มช่างสบายมือนัก นั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ เนี่ยหลีมองเห็นเรียวน่องขาวผ่องแน่นกระชับของเซียวหนิงเอ๋อร์ ช่างงดงามสมบูรณ์แบบนัก
“เ้าอย่าเข้าใจข้าผิด ข้าแค่ช่วยรักษาอาการป่วยให้เ้า คนที่ข้าชอบคือเยี่ยจื่ออวิ๋น ข้าดีใจที่ได้รู้จักกับเ้า หวังว่าพวกเราจะเป็เพื่อนที่ดีต่อกันในอนาคตข้างหน้า” เนี่ยหลีอธิบายขณะจ้องมองใบหน้าชวนมองของเซียวหนิงเอ๋อร์
ได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี สองไหล่ของเซียวหนิงเอ๋อร์สั่นสะท้านเล็กน้อย นางพยักหน้าและพึมพำเบาๆ “อืม” แล้วไม่พูดไม่จา แต่เล็กจนถึงบัดนี้ นอกจากบิดาของนางแล้ว เนี่ยหลีเป็บุรุษเพียงคนเดียวที่ได้ััตัวนาง ทว่าคนที่เนี่ยหลีชื่นชอบกลับเป็เยี่ยจื่ออวิ๋น เซียวหนิงเอ๋อร์คิดมาถึงตรงนี้จมูกก็รู้สึกแสบตื้อขึ้นมา
เนี่ยหลีกุมเท้าเล็กๆ ของเซียวหนิงเอ๋อร์ ปลายนิ้วกดลงบนจ้ำแดงและเริ่มถูนวดเบาๆ
“อา” เซียวหนิงเอ๋อร์อดที่จะส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเ็ปมิได้
“ครั้งแรกย่อมต้องเจ็บมากหน่อย เ้าอดทนอีกนิด” เนี่ยหลีพูด ทันใดนั้นก็คิดถึงอะไรบางอย่าง สักพักก็อายขึ้นมา ตนกุมเท้าของเด็กสาวอยู่และยังพูดจาเช่นนี้ ฟังดูออกจะกำกวมเกินไปสักหน่อยแล้ว เซียวหนิงเอ๋อร์แม้เป็เพียงเด็กสาวอายุสิบสามปี ทว่านางแต่เล็กจนเติบโตอยู่ในครอบครัวชนชั้นสูง ปกติคงต้องมีความรู้อยู่บ้างไม่ว่ากับเื่ใดๆ เด็กสาวบางคนในรุ่นราวคราวเดียวกันนี้ก็แต่งงานมีลูกแล้ว
เซียวหนิงเอ๋อร์ก้มหน้างุดๆ แก้มแดงระเรื่อและอดที่จะบังเกิดความรู้สึกพิกลขึ้นมาในใจไม่ได้
แก้มแดงระเรื่อของเซียวหนิงเอ๋อร์ยิ่งชวนมอง เนี่ยหลีเห็นแล้วใจไหววูบ เซียวหนิงเอ๋อร์เป็สตรีงดงามเท่าๆ กับเยี่ยจื่ออวิ๋น แม้เพิ่งอายุสิบสาม แต่ก็สามารถทำให้ผู้คนจิตใจหวั่นไหวได้แล้ว เด็กหนุ่มๆ ในชีวิตหนก่อนต่างพูดกัน ไม่ว่าจะเป็เซียวหนิงเอ๋อร์หรือเยี่ยจื่ออวิ๋น ทั้งสองล้วนเป็เทพธิดาที่พวกเขาใฝ่หา เยี่ยจื่ออวิ๋นงดงามสง่า เซียวหนิงเอ๋อร์เ็ามีเสน่ห์ ทั้งคู่ล้วนเป็นางในฝัน
แต่เมื่อคิดถึงเยี่ยจื่ออวิ๋น เนี่ยหลีก็เลิกคิดฟุ้งซ่านแล้ว เวลานี้ตั้งใจจดจ่อกับการรักษาเซียวหนิงเอ๋อร์
ภายใต้การนวดอันอ่อนโยนของเนี่ยหลี เซียวหนิงเอ๋อร์รู้สึกเ็ปยิ่งยวดในตอนแรก ทว่าต่อมาก็ถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่นจากฝ่ามือของเนี่ยหลีที่ถ่ายทอดไปถึงหลังเท้าของนาง ผ่านไปครู่หนึ่ง รู้สึกทั้งร้อนและเหมือนถูกเข็มทิ่ม ทั้งคันทั้งชา เซียวหนิงเอ๋อร์อดที่ส่งเสียงครวญครางออกมาคำหนึ่งมิได้ จากนั้นก็พลันเขินอาย
รอยจ้ำเกิดขึ้นมาร่วมหกเจ็ดเดือนแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมานางต้องเ็ปเพราะมันอย่างแสนสาหัส เซียวหนิงเอ๋อร์ได้แต่อาศัยกำลังใจของตนอดทนต่อความเ็ปนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่านางจะมุมานะเพียงใด ความเ็ปนี้ก็ทรมานนางอยู่ตลอดเวลา เซียวหนิงเอ๋อร์เดิมทีคิดว่าการรักษารอยจ้ำนี้คงต้องเ็ปยิ่ง แต่นางต้องแปลกใจ การนวดของเนี่ยหลีนุ่มนวลยิ่งนัก นางรู้สึกว่าความเ็ปที่ทรมานนางมาโดยตลอดกำลังบรรเทาลงไปมาก
เซียวหนิงเอ๋อร์อดน้ำตารื้นขึ้นมามิได้ ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางต้องทนเ็ปมากเพียงใด ทุกๆ คืน นางจะแอบร้องไห้ พอปาดน้ำตาที่ไหลรินออกมา นางก็จะฝึกยุทธ์ต่อไป นางไม่เคยคิดว่าหลังจากที่เนี่ยหลีนวดให้ ความเ็ปจะลดลงไปถึงเพียงนี้ ในใจจึงเต็มไปด้วยความยินดี
ใต้แสงจันทรา ใบหน้าของเนี่ยหลีเด่นชัด สีหน้าจริงจัง เห็นใบหน้าของเนี่ยหลีจิตใจของเซียวหนิงเอ๋อร์สั่นไหว ทำให้นางยากจะสงบใจได้
“เสร็จแล้ว” เนี่ยหลีหยุดมือและยิ้ม “ครั้งต่อไปยังจะมีความเจ็บอยู่บ้าง แต่ก็มิใช่ปัญหาใหญ่โตต่อการฟื้นฟูร่างกาย”
“อืม” เซียวหนิงเอ๋อร์พยักหน้า สองแก้มของนางแดงระเรื่อขึ้นมาอีกครั้ง “ข้ายังมีรอยจ้ำที่อื่นอีก เ้าช่วยนวดให้ข้าได้หรือไม่?”
“ยังมีรอยจ้ำอีกรึ?” เนี่ยหลีใ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จริงสิ... คงต้องมีที่อื่นอีก หากรอยจ้ำของเซียวหนิงเอ๋อร์มีอยู่แต่ที่เท้า คงไม่พอที่จะทำให้นางต้องป่วยอยู่ถึงสองปีเป็แน่ คงต้องมีจุดที่สาหัสกว่านี้อยู่ “ตรงไหนรึ?”
เซียวหนิงเอ๋อร์รู้สึกขัดแย้งในใจ หากนางให้เนี่ยหลีนวดแค่หลังเท้า นี่ยังพอรับได้ แต่หากเป็ที่ตรงนั้น... เซียวหนิงเอ๋อร์ลังเลอยู่ครู่ใหญ่ สองแก้มของนางก็แดงระเรื่อจนร้อนผ่าว เขินอายยิ่งนัก
“หากไม่สะดวก...” เนี่ยหลีเริ่มพูดเมื่อเห็นสีหน้าของเซียวหนิงเอ๋อร์ เนี่ยหลีพลันคิดได้ว่ารอยจ้ำนี้คงจะอยู่ในบริเวณที่ไม่ค่อยสะดวกนัก
“เนี่ยหลี คนที่เ้าชอบคือเยี่ยจื่ออวิ๋นใช่หรือไม่?”
“ถูกต้อง” เนี่ยหลีพยักหน้าและหวนนึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้ว เขาและนางผ่านความเป็ความตายมาด้วยกัน แค่เพียงคิดถึง หัวใจของเขาก็พลันเต็มไปด้วยความสุข เมื่อเขากลับมาเกิดใหม่ เขาจะต้องปกป้องเยี่ยจื่ออวิ๋นให้จงได้
ขณะนี้เซียวหนิงเอ๋อร์เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี ไม่ทราบว่าในใจมีความรู้สึกเป็อย่างไรบ้าง เนี่ยหลีเป็บุรุษคนแรกที่ทำให้นางรู้สึกหวั่นไหว ทว่าคนที่เนี่ยหลีชอบกลับมิใช่นาง แต่เป็เยี่ยจื่ออวิ๋น
เซียวหนิงเอ๋อร์ดวงตาทอแววผิดหวัง ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงถาม “เช่นนั้น เยี่ยจื่ออวิ๋นก็ชอบเ้าด้วยหรือไม่?”
เยี่ยจื่ออวิ๋นในตอนนี้ยังไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับตัวเนี่ยหลี แค่ไม่เกลียดเขาก็นับว่าดีมากแล้ว เนี่ยหลีส่ายหน้า ยิ้มแย้มและกล่าวอย่างเชื่อมั่น “นางจะต้องชอบข้าอย่างแน่นอน!”
เซียวหนิงเอ๋อร์จ้องมองเนี่ยหลีแล้วหัวเราะ ที่แท้เนี่ยหลีก็รักเขาข้างเดียว ไม่ทราบว่าเขาไปหาความเชื่อมั่นเช่นนี้มาจากไหน กล้าคิดว่าผู้หญิงถือตัวเช่นเยี่ยจื่ออวิ๋นจะชอบเขาได้หรือ? มิใช่เซียวหนิงเอ๋อร์คิดว่าเนี่ยหลีไม่คู่ควรกับเยี่ยจื่ออวิ๋น ทว่าคนทั้งสองไม่มีโอกาสได้ทำความเข้าใจกัน โอกาสที่ทั้งสองจะได้เป็คู่กันนั้นจึงน้อยยิ่งนัก เยี่ยจื่ออวิ๋นยังไม่รู้จักเนี่ยหลีแต่อย่างใด ดังนั้นนางย่อมต้องไม่มีความรู้สึกพิเศษใดๆ ต่อเนี่ยหลีอย่างแน่นอน แต่หากวันหนึ่งข้างหน้า เยื่ยจื่ออวิ๋นรู้จักเนี่ยหลีดีพอแล้ว นางอาจจะหลงรักเขาจริงๆ ก็ได้
จนถึงเวลานี้ ยังไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงพร์ของเนี่ยหลี อย่างไรก็ตาม สักวันหนึ่งเนี่ยหลีจะต้องเจิดจรัสอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นเกรงว่าแม้แต่สตรีเย่อหยิ่งเช่นเยี่ยจื่ออวิ๋นก็อาจจะถูกเนี่ยหลีปราบเอาได้
ในสายตาของผู้อื่น เนี่ยหลียังคงเป็เพียงเด็กหนุ่มไม่ได้เื่คนหนึ่งจากครอบครัวชนชั้นสูง มีเพียงเซียวหนิงเอ๋อร์ที่ล่วงรู้ว่าความสามารถของเนี่ยหลีนั้นมากมายเกินกว่าผู้คนจะนึกถึงได้ เนี่ยหลีจะต้องกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับตำนานเช่นท่านเยี่ยโม่ได้ในอนาคตข้างหน้าอย่างแน่นอน
ในใจของเซียวหนิงเอ๋อร์ขัดแย้งอยู่ครู่หนึ่ง หากอาการเจ็บป่วยไม่ได้รับการรักษา ข้าก็จะทิ้งห่างจากเพื่อนๆ ที่มีพร์ในวัยเดียวกัน ในเมื่อบุคคลที่ช่วยนางเป็เนี่ยหลี ก็ไม่ยากที่จะยอมรับได้ นางกัดฟัน เริ่มปลดกระดุมเสื้อของตน
เห็นการกระทำของเซียวหนิงเอ๋อร์ เนี่ยหลีอดเขินอายขึ้นมาไม่ได้ เขาถูจมูกและพูดว่า “นี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ข้าเป็คนซื่อนะ”
เขาจ้องมองเซียวหนิงเอ๋อร์ค่อยๆ ปลดเสื้อของตน ร่างของนางเปี่ยมเสน่ห์ชวนมองยากจะบรรยายได้
เซียวหนิงเอ๋อร์จ้องมองเนี่ยหลีขณะครุ่นคิด นางเป็หญิงต่ำช้าหรือไม่?
หากมิใช่เพื่อการรักษาตัว นางคงไม่ยอมเป็ฝ่ายเริ่มถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของตนเป็แน่ ขณะปลดกระดุม สองมือสั่นระริก ภายในใจก็บังเกิดความขัดแย้งจนมองเห็นได้
เนี่ยหลีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ข้ารู้ว่านี่เป็ไปเพื่อการรักษาเ้า ดังนั้นข้าจึงคิดมากเกินไปมิได้ ข้าไม่อาจปล่อยให้ความหวังของเซียวหนิงเอ๋อร์ต้องแหลกสลายลงเพราะโรคร้าย
บรรยากาศรอบด้านเปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ กระดุมเม็ดแรก จากนั้นก็กระดุมเม็ดที่สอง ผิวขาวผ่องนวลเนียนเริ่มมองเห็นรำไร ค่อยๆ กระจ่างขึ้นใต้แสงจันทร์
เมื่อกระดุมเม็ดที่ห้าถูกปลดลง ส่วนโค้งเว้าสมบูรณ์แบบของเซียวหนิงเอ๋อร์เผยออกมาเต็มที่ ทรวงอกของนางมีผ้าพันรอบผืนใหญ่ ส่วนอกนูนอิ่มงดงาม แม้เนี่ยหลีกลับมาเกิดใหม่ เห็นภาพฉากเช่นนี้ก็อดที่จะต้องกลืนน้ำลายลงท้องมิได้ เขาคิดย้อนกลับไปยังชีวิตหนหลัง แม้ชุดที่เซียวหนิงเอ๋อร์สวมใส่ปกปิดมิดชิด เงาร่างของนางนับว่าเร่าร้อนยิ่ง เพียงชำเลืองมองคราเดียว นางก็สามารถกระตุ้นให้บุรุษมากมายคลั่งได้แล้ว
ไม่นาน เซียวหนิงเอ๋อร์ก็จะเติบโตกลายเป็สตรีที่เปี่ยมเสน่ห์ดึงดูดใจ บุคลิกสูงส่งเ็าของนางยังคงทำให้บุรุษมากมายคิดอยากเอาชนะ
เนี่ยหลีสงบจิตใจลง สองตาจับซี่โครงของเซียวหนิงเอ๋อร์ ที่บริเวณซี่โครงซี่ล่างมีรอยจ้ำที่ดูน่าสะพรึงกลัวอยู่ไม่น้อย แม้มีขนาดเพียงนิ้วหัวแม่มือ สีของรอยจ้ำนี้กลับเข้มนัก หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสารเซียวหนิงอ
แม่นางน้อยแสนงามและน่าสงสารผู้นี้ทนต่อความเ็ปยิ่งยวดปานนี้ได้อย่างไรกัน? เขาถามกับตัวเอง
เนี่ยหลีวางนิ้วลงบนบริเวณรอยจ้ำและเริ่มนวดอย่างเบามือ ผิวของเซียวหนิงเอ๋อร์เย็นเยียบราวน้ำแข็ง เรือนร่างได้ส่วน มีผิวนุ่มลื่น ััผ่านมือหัวใจก็หวั่นไหว เขาเอนศีรษะเหลือบมองใบหน้าของเซียวหนิงเอ๋อร์ นางหน้าแดงก่ำแล้ว แทบเหมือนคนเมาสุรา ส่งผลให้ดูงดงามยากจะบรรยาย เมื่อมองจาก้าลงไป เห็นไหล่ขาวงามราวหยกของเซียวหนิงเอ๋อร์ และยังได้กลิ่นกายหอมอ่อนของอิสตรี
ทุกอย่างเงียบสงบ ต่างฝ่ายต่างมิได้พูดจา ป่าไม้ก็เงียบสงบ
เซียวหนิงเอ๋อร์รับรู้ได้ถึงความอุ่นจากฝ่ามือของเนี่ยหลี แต่เล็กจนถึงบัดนี้ นี่เป็ครั้งแรกที่มีเด็กหนุ่มผู้หนึ่งมาััใกล้ชิดกับเรือนร่างของนาง เวลานี้เสื้อตัวสั้นของนางกึ่งเปลือยออก เผยให้เห็นผิวพรรณข้างใน ทำให้นางขวยเขินยิ่ง แม้หัวใจของนางแข็งแกร่ง อยู่ภายใต้ราตรีเงียบสนิท ในใจของนางเหงาหงอยยิ่ง ขณะพบกับความเ็ปเจียนตายจากรอยจ้ำเหล่านี้ นางเคยคิดอยากจะพึ่งพาใครสักคน ทว่าในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็พี่น้องหรือบิดา นางมักรู้สึกห่างเหิน เนี่ยหลีเวลานี้เป็เพียงคนเดียวที่นางรู้สึกว่าพึ่งพาได้
นางเผยเรือนร่างงดงามต่อหน้าเนี่ยหลี ดวงตาของนางก็ชำเลืองมองไปทางเนี่ยหลี และพบว่าเนี่ยหลีเวลานี้กำลังจดจ่ออยู่กับการนวดบริเวณรอยจ้ำ ท่าทางเคร่งขรึมจริงจังของเขาทำให้นางรู้สึกพอใจ ทว่าในเวลาเดียวกันก็รู้สึกค่อนข้างงวยงง
ขณะที่นิ้วหัวแม่มือของเนี่ยหลีกำลังนวดคลึงบริเวณรอยจ้ำ เขาบังเอิญแตะถูกต้นแขนขาวผ่องราวหยกของเซียวหนิงเอ๋อร์เป็บางครั้ง ััตรึงใจทำให้ผู้คนไขว้เขว ต่อให้เป็เนี่ยหลีก็ตาม จิตใจของเนี่ยหลีหวนกลับไปคิดถึงภาพระหว่างตนกับเยี่ยจื่ออวิ๋นในค่ำคืนแห่งความดื่มด่ำ
เยี่ยจื่ออวิ๋นในเวลานั้นเติบโตกว่าเซียวหนิงเอ๋อร์ในเวลานี้ ทว่าเซียวหนิงเอ๋อร์ขณะนี้ยังเพิ่งเป็เด็กสาว หากนางเติบโตขึ้นก็คงไม่ต่างจากเยี่ยจื่ออวิ๋นมากนัก
เสน่ห์และความงามของเยี่ยจื่ออวิ๋นปรากฎขึ้นในใจของเนี่ยหลีเป็บางครั้ง และเขาก็จดจำได้ว่าเยี่ยจื่ออวิ๋นต้องตายเพื่อช่วยชีวิตเขาไว้ ดังนั้น เมื่อเขาเกิดใหม่ เนี่ยหลีย่อมไม่อาจปล่อยนางไปได้ คิดถึงตรงนี้ จิตใจของเนี่ยหลีจึงสงบลงในที่สุด
ขณะที่เนี่ยหลีตั้งใจนวดบริเวณรอยจ้ำด้วยนิ้วหัวแม่มืออย่างระวัง เขาต้องกดลงบนบริเวณจุดประสาทสำคัญๆ หลายจุด เพราะร่างสมบูรณ์งดงามของเซียวหนิงเอ๋อร์ บางครั้งนวดถูกจุดประสาทที่ไวต่อความรู้สึกและยังรับรู้ถึงความอวบอิ่ม ทำให้เนี่ยหลีต้องขวยเขินอยู่บ้าง
เซียวหนิงเอ๋อร์รู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่ถ่ายทอดมาจากมือของเนี่ยหลีขณะเคลื่อนไปรอบชายโครงของนาง บางครั้งก็รู้สึกชาสบาย มือของเนี่ยหลีบางครั้งแตะถูกยอดอกที่ยังไม่เคยมีบุรุษผู้ใดได้ัั ทำให้สองแก้มของนางแดงก่ำ ภาพที่นางกำลังแก้มแดงขวยเขินชวนมองยิ่ง ความงดงามและเสน่ห์ของแม่สาวน้อยผู้นี้สามารถทำให้ผู้คนไม่อาจทำอะไรต่อไปได้อีก คิดอยากแต่จะดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด
นี่ช่างเป็เื่ทารุณเหลือแสน หลังจากนวดครึงอยู่ครู่ใหญ่ เนี่ยหลีจึงผ่อนลมหายใจออกมา ยิ้มแย้มกล่าว “เสร็จแล้ว!”
เมื่อรู้สึกว่ามือของเนี่ยหลีเคลื่อนห่างออกไป เซียวหนิงเอ๋อร์รู้สึกคล้ายงวยงง นางต้องยอมรับ เคล็ดวิธีการนวดของเนี่ยหลีช่างน่าอัศจรรย์นัก ช่วยให้นางพ้นจากความเ็ปที่ทรมานมาเป็เวลาแสนนาน
“ขอบคุณ” เซียวหนิงเอ๋อร์กระซิบกระซาบขณะเริ่มติดกระดุมเสื้อ เห็นผิวขาวผ่องกับสัดส่วนตระการตาค่อยๆ หายลับไปจากสายตา อารมณ์แกว่งขึ้นแกว่งลงของเนี่ยหลีจึงค่อยสงบลง
เนี่ยหลีกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “หลายวันนี้พักผ่อนให้มากๆ นี่จะช่วยบรรเทาความเ็ปได้ ข้าจะมานวดให้เ้าทุกๆ สามวัน อีกสักสองสามครั้งสาเหตุของอาการเจ็บป่วยของเ้าก็จะหายไป ก่อนถึงระดับทองแดง อย่ามาฝึกพลังิญญากลางดึกกลางดื่นอีก การดูดซับพลังจันทรามากเกินไป หากเ้าไม่อาจประสานกับมันได้ อาจส่งผลร้ายแรงได้!”
“อืม” เซียวหนิงเอ๋อร์พยักหน้า จะอย่างไรนางก็ไม่กล้าฝึกอีกแล้ว หากมิใช่เพราะเนี่ยหลี นางวาดภาพออกทีเดียวว่าสถานการณ์จะย่ำแย่ลงถึงเพียงใดในอนาคตข้างหน้า ความพยายามทั้งหมด ความบากบั่นทั้งหมดของนางก็คงจะสูญเปล่า
เห็นเซียวหนิงเอ๋อร์ไม่มีเื่อะไรอีก เนี่ยหลีจึงลุกขึ้น “ได้เวลาที่ข้าต้องกลับไปแล้ว”
“อ้อ”
นางบอกไม่ได้ว่าขณะนี้ตนรู้สึกอย่างไร เซียวหนิงเอ๋อร์พยักหน้าและนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยขึ้น “เนี่ยหลี เ้าช่วยข้า หากมีสิ่งใดที่เ้า้าให้ข้าช่วยในอนาคต ข้าจะช่วยเ้าอย่างเต็มที่!”
เห็นสีหน้าจริงจังของเซียวหนิงเอ๋อร์ เนี่ยหลียิ้ม เขาพยักหน้าพูด “ตกลง หากอีกหน่อยข้า้าความช่วยเหลือจากเ้า ข้าจะมาหาเ้า!”
ความจริงก็คือ เนี่ยหลีช่วยเซียวหนิงเอ๋อร์ก็เพราะสงสารนาง เขาไม่เคยคิดถึงสิ่งตอบแทนใดๆ
เนี่ยหลีหมุนตัวจากไป เงาร่างของเขาค่อยๆ หายลับเข้าป่าไป
เซียวหนิงเอ๋อร์จ้องมองเงาที่จากไปของเนี่ยหลี นางยังยืนอยู่ตรงจุดเดิมเป็เวลานาน รู้สึกว่าอาการเจ็บป่วยในร่างกายบรรเทาลงไปเป็อันมาก อารมณ์ของนางก็กลับมาสดชื่นอีกครั้ง
“เนี่ยหลี แท้จริงแล้วเ้าเป็คนแบบไหนกัน?” เซียวหนิงเอ๋อร์พึมพำ เฝ้ามองเนี่ยหลีจากด้านหลัง เมื่อไม่สามารถมองเห็นเขาอีกแล้ว นางจึงหมุนตัวและออกเดินไปทางประตูสนามฝึก
ค่ำคืนเย็นชื่นราวสายน้ำ แสงจันทร์กระจ่างโปรยปรายลงมาราวผ้าคลุมบางเบาผืนหนึ่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้