ใจคนเรานี่ก็แปลก หากหวังเค่อจับกุมตัวองค์หญิงโยวเยว่ได้ บางทีอาจมีคนจำนวนมากหงุดหงิดที่ตนเองไม่ได้เป็คนจับนาง ถึงขั้นเกลียดชังนาง เริ่มตั้งคำถามถึงความจริงเท็จ แต่พอหวังเค่อจับตัวองค์หญิงโยวเยว่ที่มีหน้าตาอัปลักษณ์ได้ ความคิดอ่านของทุกคนกลับค้นพบสมดุลได้อย่างน่าพิศวง ถึงกับมีคนจำนวนมากยอมรับ กระทั่งมั่นใจว่านี่จะต้องเป็ตัวจริงอย่างแน่นอน หวังเค่อนับว่ามองการณ์ไกลโดยแท้จริง
ย่างเข้าวันที่สิบ คนที่มาดูองค์หญิงโยวเยว่ลดน้อยลง แต่คนที่มาชิงตัวนางกลับยิ่งเพิ่มขึ้น
ว่ากันว่าเพราะเสียงการต่อสู้ในสวนหลังตระกูลหวังเมื่อคืนนี้ทำให้ผู้ฝึกฌานนับไม่ถ้วนไม่อาจข่มตาหลับขับตานอน มีพวกมันหลายคนที่รู้ว่านี่คือครั้งที่สี่แล้ว ไม่รู้ว่าปฏิบัติการชิงตัวองค์หญิงโยวเยว่เมื่อคืนนี้สำเร็จลุล่วงหรือไม่
สวนหลังตระกูลหวัง
ศพในชุดดำหลายต่อหลายศพกำลังถูกข้ารับใช้ของตระกูลหวังทยอยขนกันออกมา
หนังตาของจางเจิ้งเต้ากระตุก “หวังเค่อ กลไกอาวุธของตระกูลหวังเ้าช่างน่าสะพรึงโดยแท้! เกาทัณฑ์วิเศษนั่นลมปราณของผู้บรรลุขอบเขตเซียนเทียนทั่วไปล้วนไม่อาจต้านทานได้เลย ข้าจำได้ว่าเกาทัณฑ์วิเศษมีราคาแพงมาก แต่ตระกูลของเ้ากลับมีติดไว้มากมายเป็กระบุงเชียวหรือนี่”
“ข้ามีเงินทั้งที ของที่มีไว้เพื่อรักษาชีวิตอย่างนี้ก็ต้องซื้อตุนไว้มากหน่อยซี!” หวังเค่อตอบอย่างสงบ
“เ้ามีเงินแล้วทำไมถึงได้ขี้เหนียวกับข้านัก? กำไรจากค่าเข้าชมมากมายล้นฟ้า แต่ศิลาิญญาสักก้อนเ้าก็ยังไม่เจียดให้ข้าเลย!” จางเจิ้งเต้าหน้าบูดอารมณ์เสีย
หวังเค่อทำท่าเหมือนกำลังมองดูตัวปัญญาอ่อน “ตัวเ้ากินดีอยู่ดี ตระกูลเ้าไม่มีใครอดอยากปากแห้ง เ้ารู้หรือไม่ว่าข้าต้องหาเลี้ยงกี่ปากท้อง? ไม่ว่าจะมีเงินมากแค่ไหนก็ไม่อาจใช้จ่ายพร่ำเพรื่อได้!”
“ข้า...! ข้าเองก็มีคนที่ต้องเลี้ยงเหมือนกันนะ! ทั้งมารดาที่ผมเผ้าขาวโพลนหรือลูกที่ยังแบเบาะ...!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยด้วยท่าทีน่าเห็นใจ
ทว่าเมื่อเจอแววตารังเกียจเดียดฉันท์ของหวังเค่อเข้าไป มันก็ได้แต่ยิ้มกระอักกระอ่วน
“เ้าว่าเนี่ยเทียนป้าจะมาสืบดูสถานการณ์ นี่ก็ปาเข้าไปสิบวันแล้ว มันยังไม่เห็นโผล่มาเลย! คราวนี้เ้าเล่นใหญ่เกินไปหน่อยหรือไม่?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างกังวล
หวังเค่อส่ายหน้า “ไม่มีทาง! เนี่ยเทียนป้ายอมทนอยู่สิบวันก็ยังไม่ยอมออกหน้ามาถามไถ่ด้วยตัวเอง สมเป็จิ้งจอกเฒ่าโดยแท้ ประมุขตระกูลในเมืองจูเซียนส่วนใหญ่ก็มากันหมดแล้ว แต่มันกลับยังไม่มา? ช่างมีน้ำอดน้ำทนดีเหลือเกิน!”
“มันจะมาจริงหรือ” จางเจิ้งเต้าถามอย่างใคร่รู้
“ข้าใช้เวลาบ่มสถานการณ์นานถึงสิบวัน ตลอดทั้งเมืองต่างก็ถูกคนที่ข้าจัดวางไว้จูงจมูกจนไม่เหลือข้อกังขาอันใดอีกต่อไป ไหนจะการบุกชิงตัวองค์หญิงโยวเยว่สี่ครั้งนั่นอีก ตอนนี้ไม่มีใครในเมืองที่ไม่เชื่อ เนี่ยเทียนป้าจะต้องส่งคนไปสืบข่าวจากทุกซอกมุม และทุกแหล่งข่าวก็จะบอกมันว่าองค์หญิงโยวเยว่ในมือข้าต่างหากที่เป็ตัวจริง ทุกครั้งที่มันได้ข่าวลักษณะนี้ จิตใจของมันก็จะยิ่งสั่นคลอน นี่ก็ปาเข้าไปสิบวันแล้ว สิบวันที่จิตใจของมันถูกเล่นงาน นี่ยิ่งกว่าสามคนกลายเป็เสือแล้ว! ข้ามั่นใจว่ามันจะต้องทนไม่ไหวอีกต่อไป! หากข้าเดาไม่ผิด วันนี้คือวันที่มันจะมา!” ดวงตาของหวังเค่อปรากฏแววมั่นใจวาบผ่าน
“เ้าไม่อวดเบ่งไปหน่อยรึ เ้าว่ามันจะมาวันนี้ มันก็มาวันนี้เลย?” จางเจิ้งเต้าไม่เชื่อ
“รายงานท่านประมุข ประมุขตระกูลเนี่ย เนี่ยเทียนป้ามาถึงแล้ว!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยเข้ามารายงาน
“มาจริงหรือนี่? เห็นมั้ยล่ะข้าบอกแล้ว!” จางเจิ้งเต้ากล่าวอย่างหน้าไม่ขัดเขิน
ศิษย์ตระกูลหวังที่อยู่ด้านข้างทำหน้าพิกล แต่หวังเค่อกลับชินเสียแล้ว
“มาแล้วรึ? มาได้ประเสริฐ!” หวังเค่อตาลุกวาว
หน้าประตูตระกูลหวัง
เนี่ยเทียนป้านำศิษย์ตระกูลเนี่ยมาด้วยห้าคน พวกมันทั้งหมดต่างก็มองประตูตระกูลหวังด้วยสีหน้าสลับซับซ้อน
ไม่มีใครรู้ว่าตลอดสิบวันมานี้เนี่ยเทียนป้าต้องผ่านวันเวลาแบบไหนมา แทบจะทุกหนึ่งชั่วยามที่มีคนเข้ามารายงานจนแทบจะเห็นภาพว่าองค์หญิงโยวเยว่ที่หวังเค่อจับได้ต่างหากที่เป็ตัวจริง
แรกๆ เนี่ยเทียนป้าก็ไม่เชื่อ แต่พอเจอการกราดระดมตลอดสิบวัน ความคิดอ่านของเนี่ยเทียนป้าก็เป็อันต้องสั่นคลอนรุนแรง หลายต่อหลายครั้งที่มันต้องไปเค้นถามจากองค์หญิงโยวเยว่ที่มันจับมาได้ แต่น่าเสียดาย องค์หญิงโยวเยว่ที่มันจับได้นั้นดูจิตใจห่อเหี่ยวซังกะตาย ร้ายดียังไงก็ไม่ยอมปริปากสักคำ ทำให้เนี่ยเทียนป้ายิ่งหัวเสียยิ่งกว่าเดิม
สุดท้าย วันนี้มันก็ทนไม่ไหวจนต้องออกมาหาความกระจ่างด้วยตัวเองในที่สุด
หวังเค่อยังไม่ทันจะโผล่มา แต่ผู้ดูแลตระกูลหวังก็ ‘ฉก’ เงินจำนวนหกสิบชั่งไปจากมันด้วยความคล่องแคล่วคุ้นเคยเสียแล้ว ถึงแม้ว่าศิษย์ตระกูลเนี่ยทางด้านหลังจะเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเพียงไร แต่ตัวเนี่ยเทียนป้าเองกลับไม่เก็บมาใส่ใจ
ศิลาิญญานับเป็อะไร? ก็แค่ฝากไว้กับตระกูลหวังชั่วคราวเท่านั้น ยังไงซะอีกแค่ไม่กี่วันตระกูลหวังก็จะถูกกวาดล้าง แล้วทุกอย่างก็ต้องตกมาเป็ของตนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?
เนี่ยเทียนป้านึกอยากเห็นองค์หญิงโยวเยว่ที่หวังเค่อจับมาด้วยตาของตัวเอง
“ประมุขเนี่ย? ขออภัยด้วยที่ไม่ได้ออกมาต้อนรับแต่เนิ่นๆ ลมอะไรหอบท่านมาถึงนี่ได้?” ตอนนั้นเอง หวังเค่อก็ออกมากล่าวต้อนรับ
“ประมุขหวัง? ไม่พบกันเสียนาน วันนี้ข้ามาที่นี่ก็เพื่อขอยลโฉมองค์หญิงโยวเยว่ที่ท่านจับตัวมาได้สักหน่อย!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยเสียงทุ้มลึก
“อยากขอยลโฉมองค์หญิงโยวเยว่? ประมุขเนี่ยมาทั้งที ข้าจะทำให้ท่านผิดหวังได้ยังไง!” หวังเค่อยิ้มกล่าว จากนั้นหันไปมองผู้ดูแลที่อยู่ด้านข้าง “ประมุขเนี่ยจ่ายเงินแล้วหรือยัง”
“จ่ายแล้วขอรับ ศิลาิญญาหกสิบชั่ง ทั้งหมดอยู่นี่แล้ว!” ผู้ดูแลคนนั้นรีบส่งตระกร้าสานให้หวังเค่อตรวจดู
“ประมุขเนี่ยอุตส่าห์มาเยือนตระกูลหวังของเราทั้งที ไหนเลยจะเก็บเงินจากท่านได้? เ้ากล้าเก็บเงินจากประมุขเนี่ยได้ยังไง? เ้าตาบอดไปแล้วรึ?” หวังเค่อพลันดุด่าคนของตนขึ้นมา
แต่ด่าก็ส่วนด่า เพราะเงินจำนวนหกสิบชั่งที่ได้มาไม่ได้ถูกส่งคืนกลับไปแต่อย่างใด ตรงกันข้ามหวังเค่อกลับผลักไสไล่เตะผู้ดูแลที่หอบหิ้วตะกร้าสานใบนั้นกลับเข้าตระกูลไปเสียฉิบ
ใบหน้าของเนี่ยเทียนป้าที่ยืนมองอยู่ด้านข้างเริ่มแข็งทื่อ “ช่างเถอะ ประมุขหวัง ในเมื่อคนอื่นๆ เอง ต่างก็ทำตามกฎ ข้ามาถึงตระกูลหวังก็ย่อมต้องทำตามกฎด้วยเช่นกัน ศิลาิญญาหกสิบชั่งไม่อาจนับเป็อย่างไรได้!”
“ประมุขเนี่ยช่างใจกว้างนัก เชิญเข้ามาก่อน!” หวังเค่อเอ่ยชวนทันที
ราวกับว่าเื่การตำหนิกล่าวโทษผู้ดูแลที่กล้าคิดเงินจากเนี่ยเทียนป้าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เนี่ยเทียนป้า “…”
แต่สุดท้ายเนี่ยเทียนป้าก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา พาคนของมันเดินตามหวังเค่อไปยังสวนหลังตระกูลหวัง
การเก็บกวาดสวนหลังตระกูลหวังยังคงไม่เสร็จดี ภาพการขนศพที่สวมชุดสีดำจึงยังเป็ที่ประจักษ์
“ท่านประมุข นี่น่าจะเป็กลุ่มมือลอบสังหารที่เข้ามาชิงตัวองค์หญิงโยวเยว่เมื่อคืนนี้ แต่พวกมันกลับถูกกวาดล้างจนเกลี้ยง ดูเหมือนว่าในตระกูลหวังนี้จะมีภยันตรายซุกซ่อนอยู่!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนหนึ่งกระซิบบอกเนี่ยเทียนป้า
เนี่ยเทียนป้ามองดูศพพวกนั้นแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป มันกระทั่งรู้ว่าศพพวกนี้เป็ของศิษย์ตระกูลไหนในเมือง เพียงแต่ว่าหน้ากากที่ศพชุดดำพวกนี้สวม หวังเค่อกลับไม่ได้ถอดออกเสียอย่างนั้น
“ประมุขหวัง ศพพวกนี้ท่านไม่คิดจะสืบประวัติสักหน่อยหรือ” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยปากถามหวังเค่อ
“ทำไมต้องสืบด้วยเล่า?” หวังเค่อทำหน้างง
“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าใครที่้ามาแย่งตัวองค์หญิงไปจากท่าน? เช่นนี้ก็จะได้เตรียมการล่วงหน้าได้ด้วย” เนี่ยเทียนป้าจ้องหวังเค่อขณะถาม
“คนก็ตายไปแล้ว ยังมีอันใดให้ต้องสืบ! อีกอย่าง ศพพวกนี้นำเงินเป็ถุงเป็ถังมาให้ข้า ข้าเองก็ควรจะต้องไว้หน้าพวกมันบ้างไม่ใช่หรือ!” หวังเค่อยิ้ม
“นำเงินเป็ถุงเป็ถังมาให้? ไม่ใช่ว่าท่านตรวจดูข้าวของของพวกมันหมดแล้วหรือ? ยังมีแหล่งเงินมาจากไหนอีก?” ศิษย์ตระกูลเนี่ยโพล่งถามขึ้นด้วยความฉงนสงสัย
“อ้อ ที่จริงแล้วข้าเปิดร้านโลงศพอยู่แห่งหนึ่งในเมืองจูเซียน ศพพวกนี้สามารถนำไปขายที่ร้านเพื่อทำเงินต่อได้! หนึ่งร้อยชั่งต่อหนึ่งศพ!” หวังเค่อกล่าวอธิบาย
“ศพ? ท่านสามารถขายศพเป็เงิน? แถมยังหนึ่งร้อยชั่งต่อศพ? นี่มันปล้นกันแล้ว!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
“เฮ้อ คงจะเชื่อยากสินะ แต่ศพพวกนี้น่ะขายดีเป็เทน้ำเทท่า พอลำเลียงพวกมันถึงไปที่ร้าน ศพพวกนี้ก็ถูกขายออกไปในเสี้ยวพริบตา บรรยากาศความประพฤติของเมืองจูเซียนเวลานี้ยากที่จะเข้าใจได้โดยแท้! โลกใบนี้เป็อะไรไปกันหมดแล้ว!” หวังเค่อยิ้มเจื่อน
ศิษย์ตระกูลเนี่ยทุกคน “…”
แต่ศิษย์ตระกูลเนี่ยกลับเข้าใจถึงสาเหตุ คนชุดดำพวกนี้คือคนที่ตระกูลเลื่องชื่อตลอดทั้งเมืองส่งตัวมา ในเมื่อคนก็ตายไปแล้ว พวกมันเลยทำได้แค่ยอมกลืนฟันลงท้อง[1] เพื่อมอบคำอธิบายต่อตระกูล จึงจำยอมต้องจ่ายเงินเพื่อนำศพกลับไป
แต่เ้ากลับบอกว่าไม่อาจเข้าใจได้? เ้ามันพ่อค้าหน้าเืใจน้ำหมึก ฆ่าศิษย์ตระกูลเขายังไม่พอ ยังมีหน้ามาคิดเงินกับเขาอีก? เ้าไม่มียางอายบ้างเลยรึ?
“ประมุขหวัง ท่านช่างมีพร์ด้านการหาเงินจริงๆ!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยด้วยสีหน้าแปลกพิกล
“มิกล้าๆ ก็แค่หาเงินมาจุนเจือครอบครัวเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น!” หวังเค่อเอ่ยยิ้มๆ
ศิษย์ตระกูลเนี่ย “…”
หนึ่งร้อยชั่งต่อหนึ่งศพ ตรงนี้มีอยู่ยี่สิบศพ นั่นมันเงินตั้งสองพันชั่ง! แต่เ้ากลับบอกว่าเงินเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้จุนเจือครอบครัว? ข้ารับใช้ตระกูลหวังของเ้าล้วนแต่รับประทานโอสถเซียนกันหมดหรือยังไงไม่ทราบ?
“ประมุขเนี่ย เรามาถึงแล้ว ท่านดู นั่นก็คือองค์หญิงโยวเยว่อย่างไรล่ะ!” หวังเค่อชี้ไปทางกรงขนาดใหญ่ที่อยู่หลังสวน
เนี่ยเทียนป้ามองเห็นกรงขนาดใหญ่ทั้งสองที่ตั้งอยู่ได้ในทันที
ภายในกรงก็คือพี่หญิงใหญ่และพี่หญิงรองของหวังเค่อ แต่ดูเหมือนว่าพวกนางจะได้รับยาบางชนิด เนื้อตัวจึงได้ป้อแป้ แอบอิงกรงขังอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรงกันอย่างนั้น
เนี่ยเทียนป้าแม้จะได้ยินได้ฟังข่าวลือมาจนหูชา แต่นี่เองก็เป็ครั้งแรกที่มันได้เห็นพี่หญิงใหญ่ ทันทีที่เห็น หนังศีรษะของมันก็ต้องชาวาบเพราะหนวดอันน่าตะลึงนั่น
ถึงแม้ว่ามันจะได้ยินลิ่วล้อพรรณนาถึงความอัปลักษณ์ขององค์หญิงโยวเยว่นางนี้มาโดยตลอด แต่นั่นคือตอนที่มันยังไม่ได้ประสบพบเจอมาด้วยตัวเอง! เพราะเมื่อได้มาเห็น ตาของมันก็แทบติดไฟลุกพรึบ!
“ท่านประมุข นั่นแหละนาง นั่นแหละองค์หญิงโยวเยว่!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยรีบชี้ตัวพี่หญิงใหญ่
เนี่ยเทียนป้าหนังตากระตุก “ประมุขหวัง องค์หญิงโยวเยว่ที่ท่านจับ จับ...มาได้นี้ช่างมีรูปโฉมโนมพรรณที่ไม่เหมือนใครดีแท้!”
“แล้วใครว่าไม่ใช่เล่า ไม่อย่างนั้นพรรคอีกาทองคำก็คงจะติดรูปนางเอาไว้แล้ว!” หวังเค่อพยักหน้าเห็นด้วย
“แล้วท่านแน่ใจได้ยังไงว่านางคือตัวจริง? ถ้าเกิดว่าคนที่ท่านจับมาได้เป็ตัวปลอมล่ะ?” เนี่ยเทียนป้าจ้องหวังเค่อตาไม่กะพริบขณะถาม
“ตัวปลอม? ไม่มีทางเป็ไปได้!” หวังเค่อเอ่ยอย่างมั่นอกมั่นใจ
“อ้อ?”
หวังเค่อยิ้ม แต่ไม่คิดจะมอบคำอธิบายออกมา
“ประมุขหวัง ไหนๆ ท่านก็จับตัวนางได้แล้ว งั้นท่านพอจะให้ความกระจ่างแก่พวกเราได้หรือไม่ว่าท่านจับตัวนางมาได้อย่างไร” เนี่ยเทียนป้าไม่ยอมรามือง่ายๆ
หวังเค่อมองเนี่ยเทียนป้า ถอนใจก่อนเอ่ยตอบ “ช่างเถอะ ในเมื่อประมุขเนี่ยเอ่ยปาก ข้าก็ต้องมอบคำอธิบายเสียหน่อย ความจริงแล้วยังไม่มีใครล่วงรู้ถึงเื่นี้!”
“โฮ่?”
“ท่านดูอีกคนหนึ่งในกรงนั่นเสียก่อน!” หวังเค่อชี้ไปทางพี่หญิงเล็ก
ทุกคนชะโงกดู แต่สีหน้าของพวกมันก็มีแต่ความงุนงงสงสัย หนึ่งในศิษย์ตระกูลเนี่ยพูดขึ้นมา “ข้าได้ยินมาว่านางก็คือข้ารับใช้ขององค์หญิงโยวเยว่! แต่ประหลาดนัก ทั้งที่ข้ารับใช้ของนางงดงามปานนี้ ส่วนองค์หญิงโยวเยว่กลับ...!”
“มิผิด เฮ้อ ดูเหมือนว่าข้ารับใช้ตระกูลหวังของข้าจะปากไม่มีหูรูดกันสักราย แม้แต่เื่นี้พวกท่านก็ยังทราบ ถูกแล้ว นางก็คือข้ารับใช้ขององค์หญิงโยวเยว่! พวกเราจับตัวนางมาได้ก่อน! จากนั้นภายใต้ความแตกตื่นใกลัว นางถึงได้ขายองค์หญิงโยวเยว่ แจ้งพวกเราถึงพิกัดขององค์หญิง พวกเราถึงสามารถจับตัวองค์หญิงมาได้ง่ายๆ! ไม่งั้นละก็ ใครมันจะคาดคิดว่าองค์หญิงโยวเยว่แท้ที่จริงกลับมีโฉมหน้าเช่นนี้! ฮ่าฮ่า!” หวังเค่อหัวร่อ
“ท่านหมายความว่ายังไง?” เนี่ยเทียนป้าถามอย่างใคร่รู้
“รางวัลนำจับที่พรรคอีกาทองคำเป็ผู้ออก ที่จริงแล้วพวกองค์หญิงโยวเยว่เองก็รู้เื่นี้ด้วยเช่นกัน เพื่อเป็การปกป้ององค์หญิง ข้ารับใช้เจ็ดคนต่างพาผู้คุ้มกันสองคนแยกย้ายกันไปตามเจ็ดเส้นทาง! ข้ารับใช้เจ็ดคนปลอมตัวเป็องค์หญิงโยวเยว่ สร้างความสับสนลวงตาแก่ผู้คน ต่อให้ถูกจับไปก็ไม่มีปัญหา เพราะพวกนางทุกคนล้วนแล้วแต่เป็ตัวปลอม ทั้งหมดก็เพื่อให้องค์หญิงตัวจริงนางนี้หนีไปยังที่ปลอดภัยอย่างไรล่ะ!” หวังเค่ออธิบาย
“อะไรนะ มีองค์หญิงโยวเยว่ปลอมตัวหลบหนีไปเจ็ดเส้นทาง?” เนี่ยเทียนป้าเปลี่ยนสีหน้าทันควัน
“ใช่แล้ว ข้าจับตัวข้ารับใช้นางนี้ได้แต่เนิ่นๆ จากหนึ่งในเส้นทางนั้น แต่โชคร้ายที่นางไม่ได้ภักดีมากนัก ข้าเพิ่งจะจับนางได้ไม่ทันไร นางก็เล่นสารภาพออกมาซะหมดเปลือก ทั้งยังนำทางพวกเราไปจับตัวองค์หญิงโยวเยว่ตัวจริงมาได้ในที่สุด ฮ่าฮ่าฮ่า! โชคช่วยแท้ๆ เลยเชียว ที่จริงข้าต้องขอบคุณนางนะนี่!” หวังเค่อหัวเราะ
เนี่ยเทียนป้าและศิษย์ตระกูลเนี่ยสีหน้าไม่สู้ดี เพราะในที่สุดเนี่ยเทียนป้าก็จับใจความบางอย่างได้จากคำพูดของหวังเค่อ องค์หญิงโยวเยว่ที่มันจับมาได้เป็เพียงแค่ข้ารับใช้ขององค์หญิงโยวเยว่หนวดเฟิ้มตรงหน้า ข้ารับใช้นางนั้นจงรักภักดีต่อนายของตนยิ่ง ต่อให้ถูกตนจับก็ยังคงปิดปากสนิทไม่ยอมทรยศต่อผู้เป็นาย?
ดวงตาของเนี่ยเทียนป้ามีทั้งแววตกตะลึงทั้งแววโทสะ
“ประมุขเนี่ย ท่านเป็อะไรไป?” หวังเค่อถามด้วยความฉงนสงสัย
“ประมุขหวัง ท่านไม่ได้สอบปากคำนาง องค์หญิงโยวเยว่ผู้นี้อาจโป้ปดต่อท่านก็ได้นี่? ไม่ลองทรมานนางเพื่อเค้นคำสารภาพดูสักหน่อย? ถ้าเกิดว่านางโกหกท่านขึ้นมาจริงๆ ล่ะ?” เนี่ยเทียนป้าจ้องตาหวังเค่อขณะถาม
“เค้นคำสารภาพจากการทรมาน? หยา ข้าไหนเลยจะกล้า!” หวังเค่อพูดออกมา
“อ๋า?” เนี่ยเทียนป้าไม่อาจเข้าใจ
“พรรคอีกาทองคำกำชับว่าจะต้องทำการจับเป็องค์หญิงโยวเยว่เท่านั้น ดีไม่ดีอาจมียอดฝีมือในพรรคอีกาทองคำที่หมายตานางอยู่ก็ได้? หรือไม่ก็คิดรับนางเข้าเป็ศิษย์ ไม่ก็ตั้งใจจะเอานางไปเป็คู่ฝึกวิชา เกิดข้าล่วงเกินนางจนเกินงามแล้วนางเกิดได้ดิบได้ดีจนมาตามคิดบัญชีเอากับข้าในภายหลังขึ้นมาจะทำยังไง?” หวังเค่อส่ายหน้าดิก
เนี่ยเทียนป้าหน้าแข็งค้าง ศิษย์ตระกูลเนี่ยเองก็มองพี่หญิงใหญ่ด้วยสีหน้าแปลกพิลึก มีคนคิดนำเ้าสิ่งนี้ไปเป็คู่เคียงเรียงหมอนด้วยรึ? ใช่ตาบอดแล้วหรือไม่?
คล้ายจะมองออกถึงความขยะแขยงของทุกคน หวังเค่อจึงส่ายหน้าก่อนเอ่ยออกมาว่า “ลางเนื้อชอบลางยา คนหนึ่งอาจไม่ชอบ แต่อีกคนอาจชอบก็ได้ พวกท่านไม่มีใครชอบองค์หญิงโยวเยว่ แต่บางทีอาจมีคนบางจำพวกที่ชอบสตรีลักษณะนี้ก็ได้นี่? ข้าไม่อยากหาเหาใส่หัวหรอกนะ!”
เนี่ยเทียนป้า “…”
“แต่ไม่ใช่ว่าท่านฆ่าล้างบางคนขององค์หญิงโยวเยว่ไปหมดแล้วหรอกหรือ!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยเอ่ยถามอย่างไม่ลดละ
“ไม่มีปัญหา เมื่อคนของพรรคอีกาทองคำมาถึงข้าก็จะได้เข้าร่วมพรรคอีกาทองคำ ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะพูดยังไงข้าก็ถือเป็ศิษย์ของพรรค รับรองว่าจะต้องไม่มีปัญหาแน่!” หวังเค่ออธิบาย
ศิษย์ตระกูลเนี่ยพากันเงียบเสียงไปพักใหญ่
มองดูพี่หญิงใหญ่หนวดเฟิ้มในกรงกับข้ารับใช้ผู้สะสวยแล้วทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึง ‘องค์หญิงโยวเยว่’ ที่พวกตนจับมาผู้นั้น พวกมันกลับจับตัวปลอมมาได้หรือนี่?
“ประมุขเนี่ย ที่นี่ดูได้แต่ตา ห้ามััเข้าใกล้! ข้ายังไม่อยากถูกพรรคอีกาทองคำกล่าวโทษหรอกนะ!” หวังเค่อห้ามทุกคนที่ขยับตัวเข้าใกล้
“ฮึ่ม!” เนี่ยเทียนป้าแค่นเสียงเย็น
จากนั้นมันก็สะบัดชายเสื้อเดินนำออกไปด้านนอก พ่วงท้ายด้วยศิษย์ตระกูลเนี่ย
“ประมุขเนี่ย มีเวลาก็มาเยี่ยมหาข้าบ่อยๆ นะ!” หวังเค่อะโส่งลาเนี่ยเทียนป้า
คล้อยหลังคนของตระกูลเนี่ยที่หายลับไปในตรอกมืด จางเจิ้งเต้าถึงค่อยโผล่ออกมาอย่างเงียบเชียบ
“หวังเค่อ เ้านี่ตบตาผู้คนเก่งนักแล! ประมุขเนี่ยนั่นถูกเ้าต้มซะเปื่อยไปเลย ฮ่าฮ่า ข้าว่าตอนนี้มันอาจจะตายเพราะความโกรธจัดเลยก็ได้ วิ่งวุ่นอยู่ครึ่งค่อนวัน แต่สุดท้ายที่จับมาได้กลับเป็แค่ข้ารับใช้ขององค์หญิงโยวเยว่ ฮ่าฮ่า!” จางเจิ้งเต้าหัวเราะชอบใจ
แต่หวังเค่อกลับเผยสีหน้าเคร่งขรึม ส่ายหน้ากล่าว “ไม่ใช่ เมื่อครู่เนี่ยเทียนป้าก็แค่แสร้งทำท่าออกมาอย่างนั้น มันไม่ได้บันดาลโทสะจริงๆ!”
“อ๋า? มันกลับไม่ได้โมโห? งั้นทำไมเมื่อกี้มันถึงได้...?” จางเจิ้งเต้าไม่อาจเข้าใจ
“มันแค่้าให้ข้าตายใจ จากนั้นมันก็จะลงมือ!” หวังเค่อเอ่ยเสียงเครียด
“ลงมือ?” จางเจิ้งเต้าเองก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา
หวังเค่อหรี่ตาลง “พวกเราเองก็ต้องลงมือแล้ว! พี่จาง ต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว!”
“ข้าเนี่ยนะ?”
ลึกเข้าไปในตรอก ศิษย์ตระกูลเนี่ยเดินตามหลังประมุขตระกูลเนี่ย
“ท่านประมุข ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดีขอรับ คนที่พวกเราจับได้กลับเป็องค์หญิงโยวเยว่ตัวปลอม! ส่วนตัวจริงตกอยู่ในกำมือของหวังเค่อ!” ศิษย์คนหนึ่งร้องขึ้นมาอย่างเดือดเนื้อร้อนใจ
“ใครว่าคนที่เราจับได้เป็ตัวปลอม?” เนี่ยเทียนป้าสายตาเ็าน่าขนลุก
“เอ๋? แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้...!”
“จะให้ข้าเชื่อคำพูดของหวังเค่อเพียงฝ่ายเดียวได้รึ? เฮอะ!” เนี่ยเทียนป้าใบหน้าเ็าแข็งกระด้าง
“แต่ถ้าเกิดว่าใช่ละขอรับ? ถ้าเกิดว่าฝั่งนั้นเป็ตัวจริงล่ะ?” ศิษย์ตระกูลเนี่ยคนนั้นยังคงกังวลไม่หาย
เนี่ยเทียนป้าหรี่ตา “แล้วมันยากตรงไหน? ไม่ว่าองค์หญิงโยวเยว่คนไหนที่เป็ตัวจริง ขอแค่จับพวกนางมาไว้ในมือเราได้ เท่านั้นก็พอแล้วไม่ใช่รึ?”
“จับพวกนางมาไว้ในมือเราได้?” ศิษย์ตระกูลเนี่ยตาลุกวาว
“คืนนี้เราจะทำการชิงตัวองค์หญิงโยวเยว่มาจากหวังเค่อ!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“แต่ท่านประมุข ก่อนหน้านี้มีคนตายไปตั้งขนาดนั้น...!”
“ตระกูลอื่นเทียบชั้นตระกูลเนี่ยเราได้รึ? ข้าไม่เพียง้าชิงตัวองค์หญิง แต่ยัง้าทำลายตระกูลหวังด้วย ฮึ่ม! เ้าแกะอ้วนหวังเค่อ ทีแรกข้าว่าจะให้เวลามันอีกสักหน่อย แต่ตอนนี้ไม่จำเป็อีกต่อไปแล้ว! ข้าจะใช้โอกาสนี้เชือดมันทิ้งซะ ให้ทุกคนในเมืองจูเซียนได้รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็ตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองนี้ ใครกันแน่ที่เป็าาของเมืองนี้ ฮึ่ม!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยเสียงเย็น
“ทราบ!” ศิษย์ตระกูลเนี่ยเอ่ยอย่างตื่นเต้นคันไม้คันมือ
“ท่านประมุข เราจะลงมือกันตอนไหนดีขอรับ”
“ระหว่างวันมีหูตามากเกินไป เพื่อเลี่ยงไม่ให้มีคนมาชุบมือเปิบตอนน้ำขุ่น เราจะลงมือกันคืนนี้!”
“ทราบ!”
“จงกลับไปบอกศิษย์ตระกูลทุกคน คืนนี้พวกเราจะลงมือตอนเที่ยงคืนตรง! ฆ่ามันไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก!” เนี่ยเทียนป้าเอ่ยเสียงเหี้ยม
“ทราบ!”
[1] เป็สำนวนหมายถึง กล้ำกลืนโทสะเพราะจำนนต่อสถานการณ์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้