แท้จริงแล้วสิ่งที่มู่จื่อหลิงไม่รู้ก็คือ ลุงฝูไม่เคยหาหลงเซี่ยวอวี่พบ ยิ่งมิต้องพูดถึงโอกาสที่จะไปพูดกับเขา
ที่หลงเซี่ยวอวี่ปรากฏตัวขึ้นก็เพราะเขาหารือกับฮ่องเต้อยู่ในวังมาั้แ่เช้า
ต่อมาเป็กุ่ยหยิ่งที่ไปรายงานเขาเื่มู่จื่อหลิงถูกไทเฮาเรียกเข้าวัง
หลังจากที่เขาออกมาจากห้องทรงอักษรก็คอยจับตามองอย่างเงียบเชียบ ดังนั้นทุกการกระทำ ทุกคำพูดในวังของมู่จื่อหลิงล้วนตกอยู่ในสายตาของหลงเซี่ยวอวี่อยู่ก่อนแล้ว
เดิมทีหลงเซี่ยวอวี่อยากจะดูว่ามู่จื่อหลิงจะรับมือเช่นไร มิได้คิดจะออกหน้า
ทว่าตอนที่มู่จื่อหลิงก้มหน้าลงคิดว่าจะนำรังนกไปป้อนให้คางคกม่วงอย่างไรนั้น หลงเซี่ยวอวี่จึงโผล่หน้าออกมา
เพราะการกระทำนี้ทำให้หลงเซี่ยวอวี่ที่อยู่บนหลังคาจับตามองมู่จื่อหลิงอยู่นั้นเห็นเป็ว่ามู่จื่อหลิงมีท่าทีจะดื่มรังนกลงไปจริงๆ หลงเซี่ยวอวี่ชะงักไปครู่หนึ่ง จึงลงมาจากหลังคา......
-
หลังจากมู่จื่อหลิงสั่งเสี่ยวหานอยู่หลายประโยค จึงให้เสี่ยวหานออกไป และสั่งเสี่ยวหานอย่างจริงจังว่าไม่มีเื่สำคัญอย่าให้ผู้อื่นเข้ามารบกวน
หลังจากเสี่ยวหานเดินไป มู่จื่อหลิงจึงนำกล่องไม้จันทน์อันประณีตที่มีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือออกมา นางเปิดออกอย่างไม่รีบร้อน
ทว่าสิ่งเล็กๆ ข้างในเหมือนจะรับรู้ว่าเ้านายพามันออกมา มันได้กลิ่นหอมของอาหารโอชะจนรอไม่ไหว ส่งเสียงร้อง “โอ๊กๆ” อย่างรีบร้อนอยู่ตลอดเวลา
“เสี่ยวไตกู ถ้าเ้าเสียงดังอีก ข้าจะใส่เ้ากลับเข้าไป ไม่ให้เ้ากินหนอนกู่แล้ว” มู่จื่อหลิงเหลือบมองกล่องที่มีเสียงออกมา ข่มขู่เสียงเบา
ดังคาด เมื่อมู่จื่อหลิงพูดออกไป ในกล่องก็สงบลงโดยพลัน
มู่จื่อหลิงยิ้มพึงพอใจ เสี่ยวไตกูเป็ชื่อที่นางตั้งให้คางคกม่วง ตอนแรกนั้นนางไม่รู้ว่าคางคกม่วงฟังภาษาคนออก ต่อมาใกล้ชิดกันมากขึ้นจึงได้รู้ นางเองก็รู้สึกว่าน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
มู่จื่อหลิงนำแว่นตาที่มีความแม่นยำสูงและเครื่องมือบางส่วนออกมาจากระบบซิงเฉิน
แว่นตาที่มีความแม่นยำสูงนี้มีบทบาทเหมือนกับกล้องจุลทรรศน์ มันมีความสะดวกมากกว่า ประสิทธิภาพก็ทรงพลังมากนัก มันเชื่อมต่อกับระบบซิงเฉิน เมื่อสวมใส่แล้วมันจะแสดงข้อมูลที่ตรวจสอบได้ขึ้นมาในสมองโดยตรง
มู่จื่อหลิงเทรังนกที่นำมาจากในวังลงบนภาชนะ สวมใส่แว่นตาแล้วตรวจสอบโดยละเอียด เพียงแวบแรกก็แทบจะทำให้นางพูดไม่ออก ในรังนกนั้นมีหนอนกู่ชอนไชอยู่เนืองแน่น แม้จะผ่านความร้อนอุณหภูมิสูงมา พวกมันก็ยังคงมีชีวิตชีวา
เวลานี้ก็มีข้อมูลของหนอนกู่ควบคุมใจส่งมาที่สมอง หนอนกู่ควบคุมใจไม่เหมือนหนอนกู่ชนิดอื่นๆ ต่อให้เปลี่ยนรูปร่างแล้วร่างกายของมันก็ยังมีขนาดเล็กมาก หนอนกู่เหล่านี้ล้วนเพิ่งจะฟักออกมา
หากไม่มีการดูแลเป็พิเศษ ระยะเวลาในการเจริญเติบโตนั้นจะนานมาก เว้นเสียแต่ว่าจะเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ ต่อให้เป็หนอนกู่ควบคุมใจที่เติบโตแล้ว ตาเปล่าก็เห็นเป็เพียงจุดเล็กกระจ้อยร่อย
มู่จื่อหลิงคร่ำครวญเงียบๆ ก่อนหน้านี้นางเพียงเคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งน่ากลัวเช่นหนอนกู่นี้เท่านั้น นี่เป็ครั้งแรกที่นางได้ัั หากไม่มีระบบซิงเฉิน วันนี้นางอาจจะกลายเป็หุ่นเชิดให้ฮองเฮาไปแล้วก็ได้
ไม่คิดเลยว่าฮองเฮาจะโเี้เช่นนี้ กระทำการละเอียดถี่ถ้วน ไม่มีช่องโหว่รอยรั่ว ไม่เหมือนผู้ที่้าทำร้ายผู้อื่นโดยเข้าไปวางยาพิษอย่างโง่เขลา แต่เป็การใส่กู่
มิแปลกใจที่ฮองเฮาให้นางนำรังนกออกมาอย่างวางใจยิ่งนัก ที่แท้ฮองเฮาไม่มีความกังวลว่านางจะมองเห็นสิ่งใดเลยสักนิด ทว่าต่อให้คนในยุคก่อนจะแข็งแกร่ง ก็ยังคงมิอาจแข็งแกร่งไปกว่าเทคโนโลยี
นางรู้ว่าแผ่นดินใหญ่ิเยว่นั้นมีกู่น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ฮองเฮาเป็สตรีที่อยู่ในส่วนลึกของวังหลังถึงกับมีวิธีหาสิ่งนี้มาได้ ดูท่าสายสัมพันธ์ที่อยู่เื้ัฮองเฮามิอาจดูเบาได้เลย
ฮองเฮามีความสามารถทั้งยังมีความปรารถนาดีถึงเพียงนี้ วันหน้านางไม่ส่งของขวัญให้ฮองเฮาคืนคงละอายใจแย่
มู่จื่อหลิงเทรังนกออกมาส่วนหนึ่ง นำไปวางไว้ในระบบซิงเฉิน หลังจากเก็บสิ่งของจนหมด ก็เตรียมปล่อยคางคกม่วงออกจากกล่อง
กล่องขนาดเล็กยังไม่ทันเปิดออกจนหมด คางคกม่วงก็รอไม่ไหวจนรีดตัวออกมาจากช่องเล็กๆ
จุดเล็กๆ เรืองแสงสีม่วงะโผ่านหน้ามู่จื่อหลิงไป จุดเล็กๆ ะโขึ้นลงไปรอบๆ ห้องอยู่พักใหญ่ จึงค่อยๆ ลงบนโต๊ะอย่างมั่นคง นี่เป็ครั้งแรกที่เ้านายตัวน้อยปล่อยมันออกมาโลกข้างนอก มันดีใจนัก
นี่คือคางคกม่วง ที่ยังมีขนาดไม่ถึงหนึ่งนิ้ว ขนาดกระจุ๋มกระจิ๋ม สวยงามน่ารักนัก ลำตัวเล็กๆ นั่นเปล่งแสงสีม่วงอันเฉลียวฉลาดออกมา อย่าได้มองที่มันตัวเล็ก เพราะไอพิษที่มันปล่อยออกมาสามารถล้มช้างได้ฝูงหนึ่งเลยทีเดียว
ยามนี้เสี่ยวไตกูกำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนสามขา ไม่ผิด เสี่ยวไตกูมีสามขา ตอนที่ขาหลังของมันงอกออกมา ดูไปแล้วเหมือนหางมากกว่านัก น่ารักเป็อย่างยิ่ง
ดวงตาสีแดงสดสว่างไสวของมันจ้องไปที่รังนกจานนั้นอย่างเอาเป็เอาตาย แลบลิ้นออกมายาวๆ พร้อมจะออกตัวทุกเมื่อ
อาหารอันโอชะชั้นเลิศ ของขวัญชิ้นใหญ่ ขอเพียงนายน้อยสั่งมันก็จะโผเข้าไปทันที อย่ามองว่าลำตัวมันเล็ก ปริมาณการกินของมันเยอะมากเลยนะ
หากไม่เพราะกลัวเ้านายน้อยจะมิให้มันกิน แล้วนำมันกลับเข้าไปไว้ในระบบซิงเฉินอีกล่ะก็ มันคงถลาเข้าไป กินอาหารโอชะจานนี้จนหมดไปแล้ว ไม่แยแสสามเจ็ดยี่สิบเอ็ด [1] นี่อยู่หรอก
ทว่ารออยู่นานแล้วนายน้อยก็ยังไม่เอ่ยปากเสียที มันอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา “โอ้กๆ โอ้กๆ”
มู่จื่อหลิงมองท่าทางตะกละจนน้ำลายไหลของเสี่ยวไตกูอย่างขบขัน นางรู้ว่ามันชอบรังนกจานนี้มากมายนัก ไม่เสียแรงที่นางผ่านความยากลำบากสารพัดรูปแบบเพื่อนำกลับมาจากในวัง
“รีบกินเถิด อย่า...” วาจามู่จื่อหลิงยังไม่ทันจบ พลันเกิดเสียง ‘จ๋อม’ ทั้งตัวเสี่ยวไตกูะโเข้าไปในภาชนะ มันว่ายอย่างสำราญเสียสองรอบ แล้วเริ่มกินเข้าไปคำใหญ่ๆ
มู่จื่อหลิงใจนตาโตอ้าปากค้าง เดิมทียามอยู่ในระบบซิงเฉิง ปกติเสี่ยวไตกูหนึ่งมื้อกินเพียงหนอนพิษหนึ่งถึงสองตัวเท่านั้น
ตอนแรกนางคิดว่าเสี่ยวไตกูดื่มเพียงสองคำก็คงอิ่มแล้ว ไม่คิดว่ายามนี้มันจะกินรังนกชามใหญ่เพียงนั้นลงไปได้ กระเพาะของเสี่ยวไตกูทำจากสิ่งใดกัน ท้องก็เล็กๆ เพียงนั้น จะไม่เป็อันใดใช่หรือไม่
“เสี่ยวไตกู กินไปมากเสียขนาดนี้จะไม่เป็อันใดใช่หรือไม่?” มู่จื่อหลิงถามอย่างกังวล หากเสี่ยวไตกูเป็อันใดไปนางต้องเสียใจภายหลังมากแน่ๆ
“โอ้กๆ โอ้กๆ” เสี่ยวไตกูเลียลิ้นยาวๆ ร้องออกมาอย่างไม่หายอยาก แสดงออกว่าตนเองไม่เป็อันใด ต่อให้มีมาอีกชามมันก็กินลงไปได้
มู่จื่อหลิงรู้สึกตื่นตะลึง!
กระเพาะของคางคกม่วงนี่ต่อเรือได้จริงๆ
ไม่รอให้เสี่ยวไตกูพักผ่อนเพียงพอ มู่จื่อหลิงก็หิ้วขามันขึ้นมาขาหนึ่ง โยนกลับไปในกล่องเล็ก จนปัญญาที่เสี่ยวไตกูกินจนอิ่มมากเกินไป ขยับมิได้แม้แต่น้อย ได้แต่ใช้วิธีกลิ้งเท่านั้นแล้ว
สุดท้ายเสี่ยวไตกูก็มองโลกใหม่อันน่าพิศวงนี้อย่างอาลัยอาวรณ์ หลับใหลไปอย่างพึงพอใจ รอจนมันย่อยอาหารโอชะในท้องแล้ว มันจะต้องทำให้นายน้อยปล่อยมันออกมาไถลอีก โลกใหม่อันน่าพิศวงนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน!
-
อุทยานจื่อจู๋
เล่อเทียนนั่งอยู่บนม้านั่งตัวเล็กอย่างเงียบขรึมสง่างาม ถกแขนเสื้อขึ้นก้มหน้าก้มตาคัดแยกสมุนไพรที่ตากแดดไว้ในลานอย่างเคร่งขรึม แสงแดดอันอบอุ่นปกคลุมกายเขา เสมือนโอบอุ้มชายสุภาพอ่อนโยนผู้นี้ด้วยแสงสีทองอร่าม
ยามนี้เอง หลงเซี่ยวอวี่เดินเข้ามาจากนอกลาน
เล่อเทียนมองผู้ที่มาจึงลุกขึ้น ปัดเศษยาในมือพลางเอ่ยถาม “เซี่ยวอวี่ เสด็จพ่อฮองเต้ของเ้ามีเื่อันใด ครั้งนี้เ้าถึงอยู่ในวังนานไปหน่อยนัก”
“ไม่มีอันใด ดูสิ่งนี้” หลงเซี่ยวอวี่ตอบอย่างเรียบเฉย โยนผ้าเช็ดหน้าสีดำใส่อกเล่อเทียนที่อยู่ใกล้มือ
เล่อเทียนยื่นมือออกมารับไปดมกลิ่น นอกจากกลิ่นรังนกแล้ว ก็มิได้พบความผิดปกติใด เขาถามอย่างไม่เข้าใจ “สิ่งนี้คือ?”
“มีความผิดปกติหรือไม่?” หลงเซี่ยวอวี่ไม่ตอบ ถามกลับ
“มีกลิ่นรังนก ไม่มีความผิดปกติ สิ่งนี้นำมาจากที่ใด?” เล่อเทียนตอบตามความจริง เขาประหลาดใจเล็กน้อย
เขารู้ว่าหลงเซี่ยวอวี่ไม่มีทางนำผ้าเช็ดหน้าที่มีหยดรังนกมาให้เขาโดยไร้เหตุผล หากมองไม่เห็นสิ่งผิดปกติจากภายนอก นั่นอาจจะเป็ปัญหาใหญ่แล้ว
“ฮองเฮาเตรียมให้มู่จื่อหลิง” หลงเซี่ยวอวี่ตอบอย่างไม่สลับซับซ้อน
หากวันนี้หลงเซี่ยวอวี่ไม่เห็นท่าทีของมู่จื่อหลิงต่อพวกฮองเฮาด้วยตาตนเอง บางทีหลงเซี่ยวอวี่อาจจะไม่นำรังนกที่ฮองเฮาเตรียมให้มู่จื่อหลิงมาให้เล่อเทียนตรวจดูก็เป็ได้ ยามนี้หลงเซี่ยวอวี่เพียงแค่อยากแน่ใจเื่บางอย่างเท่านั้น ส่วนเป็เื่ใดนั้นมีเพียงเขาเองที่รู้
“หวางเฟย!” เล่อเทียนอุทานอย่างใ
ภาพลักษณ์สุภาพอ่อนโยนของเขาในยามนี้ถูกทำลายเสียแล้ว อย่างแรกคือเขาคิดไม่ถึงว่าฉีอ๋องที่สูงส่งไร้ความรู้สึกและเ็าจะสนใจสตรีอื่นนอกจากหมู่เฟยของเขา ช่างเป็เื่อัศจรรย์ยิ่งนัก
เมื่อสันนิษฐานว่าเหตุผลที่หลงเซี่ยวอวี่มาในเย็นวันนี้มีเหตุมาจากฉีหวางเฟยถึงแปดเก้าส่วนจากสิบส่วน พูดออกมาต้องไม่มีคนเชื่อแน่ๆ ทำให้คนฟังใยิ่งนัก!
หลงเซี่ยวอวี่พลันไม่พอใจขึ้นมา เหลือบมองเขาอย่างเ็า
เล่อเทียนก้มคอลงอย่างฝืนๆ มิกล้าพูดสิ่งใด แล้วนำผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาดมอย่างละเอียด แต่ก็ยังไม่พบว่ามีปัญหาใด ไม่มีปัญหาจริงๆ หรือว่าเป็ปัญหาใหญ่นะ
“อาจจะเป็แค่รังนกธรรมดาที่ไม่มีปัญหาใดก็ได้?” เล่อเทียนไม่กล้าหยอกเย้าอีก เอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ
ไม่รู้ว่าหลงเซี่ยวอวี่ยอมรับอย่างเงียบๆ หรือว่ามิเชื่อ เขากำลังครุ่นคิด ไม่พูดสิ่งใดอีก
“ข้ามองไม่ออกว่ามีปัญหาใด แต่หากมีปัญหาจริงๆ นั่นจะเป็ปัญหาใหญ่แล้ว”เล่อเทียนพูดต่อไป เขาเห็นหลงเซี่ยวอวี่เช่นนี้จึงพูดเสริมอีกประโยค
“ตรวจสอบได้อย่างไร?” หลงเซี่ยวอวี่ถามอย่างเ็า
เขายิ่งเชื่อเข้าไปอีกว่าไม่มีปัญหานั่นจึงเป็ปัญหาใหญ่ มีปัญหาหรือไม่อยู่ที่ความคิดเท่านั้น
“สิ่งนี้นำมาจากที่ใด? อาจจะเป็เพราะยามนี้ผ้าเช็ดหน้าแห้งแล้ว จึงมองไม่ออก ยังนำมาเพิ่มอีกได้หรือไม่ ข้าจะตรวจสอบให้ละเอียดอีกที” เล่อเทียนถาม
หลังจากมู่จื่อหลิงถอนพิษให้กุ่ยหยิ่งแล้ว เขาก็รู้ว่าฉีหวางเฟยนั้นไม่ธรรมดา
คราก่อนเขาแค่เสนอกับหลงเซี่ยวอวี่เล่นๆ ว่า อาจจะขอให้มู่จื่อหลิงไปตรวจโรคทางสมองของหลงเซี่ยวหนาน คิดไม่ถึงว่ามู่จื่อหลิงจะรักษาจนหายแล้ว
เขาอยากรู้มาโดยตลอดว่ามู่จื่อหลิงรักษาอย่างไร เขาถามหลงเซี่ยวอวี่มาหลายต่อหลายครั้ง ทว่าหลงเซี่ยวอวี่ปิดปากเงียบ
เฮ่อ ให้ฉีอ๋องเปิดปากทองคำของเขาบอกว่ามู่จื่อหลิงรักษาหลงเซี่ยวหนานอย่างไร ยากยิ่งกว่าขึ้น์เสียอีก
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกนับถือมู่จื่อหลิงผู้ที่เคยถูกคนทั้งโลกมองว่าเป็กระสอบฟางมาก่อน นางต้องมีความลับที่พวกเขายังไม่รู้อีกมากมายเป็แน่ หากไม่เป็เพราะ่นี้เขายุ่งจนไฟลุกล่ะก็ เขาคงไปเยี่ยมเยือนขอคำแนะนำจากฉีหวางเฟยไปแล้ว
แม้ยามนี้เขาจะมองไม่ออกว่าหลงเซี่ยวอวี่คิดสิ่งใดอยู่ ทว่าเขารู้สึกได้ว่าหลงเซี่ยวอวี่สนใจเื่นี้ บางทีมีปัญหาหรือไม่อาจจะพิสูจน์อะไรบางอย่างได้
ตอนนี้ดวงตาลุ่มลึกของหลงเซี่ยวอวี่นั้นลึกเสียจนไม่เห็นจุดสิ้นสุด ราวกับวินาทีต่อไปจะดึงดูดผู้คนเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น มิอาจมองออกว่าเขาคิดสิ่งใดอยู่
หลังจากนั้นไม่นาน
“รอก่อน” หลงเซี่ยวอวี่เอ่ยขึ้นมาสองคำ แล้วจากไป......
--------------------------------------
เชิงอรรถ
[1] ไม่แยแสสามเจ็ดยี่สิบเอ็ด หรือไม่สนใจสามเจ็ดยี่สิบเอ็ด หมายถึง กระทำโดยไม่สนกฎเกณฑ์ใดๆ ทั้งสิ้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้