เป็เขาจริงๆ ด้วย พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของนาง
โจวอวี่ชางสวมชุดสีขาวและมีใบหน้ายิ้มแย้ม เขาโค้งทำความเคารพพวกฮูหยิน เมื่อรับรู้ถึงสายตาของเวินซีก็พลันหันหน้าไปหา
เวินซีถูกจับได้ จึงค่อยๆ ละสายตาออกอย่างไม่ทำให้ดูผิดสังเกต
ในความทรงจำของเ้าของร่างเดิม ไม่ได้มีเื่ราวเกี่ยวกับโจวอวี่ชางมากนัก นางไม่รู้ว่าเขาเป็คนเช่นไรกันแน่ แต่ในเมื่อเขาเป็คนของตระกูลเวิน นางย่อมไม่เชื่อว่าเขาจะเป็น้ำที่ใสสะอาดท่ามกลางบ่อน้ำโคลน
“อวี่ชางจำเวินซีได้หรือไม่?” ฮูหยินซ่งถาม
“เวินซีเป็น้องสาวลูกพี่ลูกน้องของข้าขอรับ”
หลังจากที่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เขาก็นั่งลงในตำแหน่งผู้ตัดสินทางขวาสุด
ขณะนั้นตัวแทนของตระกูลไป๋ขึ้นสู่เวที เป็เด็กสาวที่ดูอ่อนโยนบอบบาง อายุราวสิบสองสิบสามปี
ส่วนตัวแทนของตระกูลเวินก็คือเวินเยียน
“ฮูหยินซ่ง เหตุใดผู้ที่เป็ตัวแทนตระกูลเวินมิใช่อวี่ชางล่ะเ้าคะ?” เวินซีลดเสียงลงถาม
“อวี่ชางรู้จักกับคนในพระราชวังดี เพื่อความยุติธรรมจึงให้เขามาอยู่ที่นี่ และให้ตระกูลเวินเลือกตัวแทนคนอื่น” ฮูหยินซ่งเอ่ยตอบ
ในเวลานั้นผู้ที่ดำเนินการแข่งขันก็ขึ้นมาบนเวที มีเสียงฆ้องดังขึ้น บรรยากาศที่วุ่นวายพลันเงียบลงในทันใด
“กฎของการแข่งขันรอบแรกมีดังนี้ขอรับ เราได้เตรียมส่วนประกอบเครื่องหอมกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบชนิดให้ทั้งสองท่าน ทั้งสองสามารถทำเครื่องหอมกันได้ตามใจ เวลาในการทำเครื่องหอมคือหนึ่งก้านธูปขอรับ”
“เมื่อทำเสร็จแล้ว ผู้ตัดสินที่อยู่ด้านล่างเวทีจะเป็คนเลือกผู้ชนะ การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นได้ ณ บัดนี้”
ธูปบอกเวลาถูกจุดขึ้น ควันก็ฟุ้งกระจายไปตามลม
ตัวแทนของตระกูลไป๋นำหน้าเวินเยียนไปหนึ่งก้าว นางวางแผนไว้อย่างชัดเจนว่าจะไปหยิบส่วนประกอบใดบ้าง
ส่วนเวินเยียนมองดูอยู่นานกว่าจะเคลื่อนตัว มุมปากก็ยกขึ้นพร้อมกับสีหน้าที่ราวกับเป็ผู้ชนะ
รากมู่หยาง ก้านใบ หญ้าซานจื่อ...
เวินซีมองดูส่วนประกอบที่นางถืออยู่ พลันขมวดคิ้ว
สูตรนี้มัน...
“ตระกูลเวินมักจะทำให้ผู้คนประหลาดใจได้เสมอเลยนะ”
ฮูหยินซ่งมองไปที่เวทีด้วยความประหลาดใจ
รากมู่หยางมีคุณสมบัติเป็พิษเล็กน้อย เมื่อผสมกับหญ้าซานจื่อจะสามารถขจัดพิษนั้นได้ ทั้งยังมีคุณสมบัติในการดูแลิัได้อย่างดีเยี่ยม เป็ยาที่คนธรรมดายากจะคิดได้
“เวินซี เ้าก็ทำเครื่องหอม เ้าคิดเช่นไร?” ฮูหยินซ่งมีความกระตือรือร้นเป็อย่างยิ่ง
“ฮูหยินซ่ง สูตรเครื่องหอมนี้ดีมากเ้าค่ะ” เวินซีตอบด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย สายตาเอาแต่จับจ้องอยู่บนเวที
ในเวลานั้นธูปมอดลงไปกว่าครึ่ง ทั้งเวินเยียนและตระกูลไป๋ต่างก็เตรียมเครื่องต้มส่วนผสมแล้ว
กลิ่นหอมอันเป็เอกลักษณ์ของสมุนไพรอบอวลอยู่ภายในสนามแข่ง ผู้คนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่
“ตระกูลเวินน่าจะชนะนะ เช่นไรตระกูลเวินก็เป็ผู้ชนะคราวก่อน”
“อย่าเดามั่วๆ สิ ตระกูลไป๋ก็เก่งมากเชียวนะ”
“น่าเสียดายที่ไม่มีเวินอี๋เหนียง หากเป็นาง การแข่งขันจะต้องสนุกกว่านี้แน่”
“์ช่วยลูกด้วย ลูกลงเงินทั้งหมดพนันให้ตระกูลไป๋”
...
ในเวลานั้นเสียงของผู้ชมดังขึ้นเรื่อยๆ เวินเยียนคนส่วนผสมของยาในหม้อตามขั้นตอน เมื่อยาเดือด นางก็กรองกากออก แล้วเตรียมตัวเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย
ทางฝั่งของตระกูลไป๋ เด็กสาวคนนั้นทำเสร็จแล้ว เพียงแค่ยืนนิ่งรอเวลา
“เวินซี เ้าคิดว่าตระกูลใดจะชนะ? เรามาพนันกันดีกว่า”
เมื่อเห็นว่าการแข่งขันใกล้จะจบลง ฮูหยินซ่งก็รีบละสายตาออกมามองเวินซี
“ฮูหยินซ่งจะพนันกับสิ่งใดเ้าคะ?”
“หากเ้าแพ้ เ้าต้องเข้าร่วมการแข่งขัน หากข้าแพ้ ข้าจะรับปากทำตามเงื่อนไขของเ้าหนึ่งอย่าง”
“ก็ได้เ้าค่ะ ข้าพนันตระกูลเวิน”
แววตาของเวินซีฉายประกายเยือกเย็น ก่อนที่นางจะยิ้มออกมาเบาๆ
“เช่นนั้นข้าพนันตระกูลไป๋”
......
ขี้เถ้าท่อนสุดท้ายร่วงลงมา ไฟธูปมอดดับ เสียงฆ้องดังขึ้นส่งสัญญาณว่าให้หยุดการแข่งขัน
ขณะนั้นเ้าหน้าที่สองคนขึ้นไปบนเวที ก่อนจะนำเครื่องหอมลงมาด้านล่าง
เครื่องหอมทั้งสองชนิดต่างก็ส่งกลิ่นหอมที่แปลกใหม่ ไม่สามารถใช้กลิ่นเป็ตัวตัดสินแพ้ชนะได้เลย พวกมันถูกส่งไปให้ฮูหยินซ่ง นางนำเครื่องหอมทั้งสองแบ่งทาลงบนหลังมือเล็กน้อย
เครื่องหอมของตระกูลไป๋เมื่อัักับผิวก็กลายเป็หยดน้ำแล้วซึมลงในผิว หลังมือที่ขาวแต่เดิมทีก็เปลี่ยนเป็นุ่มเด้งราวกับลูกท้อ
“ดีนะ” ฮูหยินซ่งกล่าวชม
ส่วนเครื่องหอมของตระกูลเวินยังไม่มีปฏิกิริยา จึงทำได้เพียงรอดูมันช้าๆ
“เวินซี เ้าน่าจะแพ้แล้วนะ” ฮูหยินซ่งหัวเราะเบาๆ
“ฮูหยินรอเดี๋ยวสิเ้าคะ”
เวินซีหยิบถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นมาจิบด้วยท่าทางที่มั่นใจมาก ฮูหยินซ่งเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งทวีความสงสัยในใจมากขึ้น
ในที่สุดก็มีััเย็นๆ เกิดขึ้นบนหลังมือ จากนั้นเครื่องหอมก็ค่อยๆ ละลาย เห็นได้ชัดว่าหลังมือของนางขาวและชุ่มชื้นขึ้นโดยพลัน ความแห้งกระด้างถูกขจัดออกไป
“ฮูหยินซ่ง เครื่องหอมตัวนี้ยังมีประสิทธิภาพอีกเ้าค่ะ เพียงแค่ต้องใช้เป็เวลานานสักหน่อย” ขณะนั้นเวินเยียนที่อยู่บนเวทีก็เอ่ยขึ้นมา
“ว่ามาสิ”
“สามารถช่วยชะลอความแก่ ทำให้ผิวงามขึ้นได้ อีกทั้งกลิ่นหอมนั้นยังช่วยบรรเทาความอ่อนล้า และช่วยในการนอนหลับด้วยเ้าค่ะ”
ความแก่ เป็ความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของสตรีทุกคน แม้จะเป็เครื่องหอมที่ดีเลิศเพียงใดก็มิอาจจะยับยั้งร่องรอยที่เกิดขึ้นตามวัย ส่วนเื่ที่ช่วยในการนอนหลับก็เป็สิ่งที่ดีเช่นกัน
ฮูหยินซ่งนำเครื่องหอมขึ้นมาดมและรู้สึกผ่อนคลายขึ้นจริงๆ
“เชิญผู้ตัดสินทุกท่านลงคะแนนขอรับ” ผู้ดำเนินพิธีกล่าว จากนั้นฮูหยินหลายคนก็ร่วมปรึกษากัน
เวินซีหลับตาลงพักสายตา ผลการตัดสินเป็ไปอย่างที่มิต้องคาดเดา
ผู้ชนะคือตระกูลเวินจริงๆ
เวินเยียนก้าวลงจากเวทีอย่างสง่างามท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน
จากนั้นการแข่งขันรอบต่อไปก็เริ่มขึ้น แต่ผู้คนไม่ได้รู้สึกเฝ้ารอเหมือนกับรอบก่อนหน้านี้
ขณะนั้นฮูหยินซ่งแอบไปคุยกับเวินซี “กล้าพนันก็ต้องยอมรับผล รอให้เ้าออกเงื่อนไขนะ แต่เ้ารู้ได้เช่นไรว่าตระกูลเวินจะชนะ? เพราะส่วนผสมพวกนั้นหรือ?”
เวินซีส่ายหน้าและพูดอย่างถ่อมตัวว่า “ข้าก็แค่โชคดีน่ะเ้าค่ะ”
“เราดูกันต่อเถิดเ้าค่ะ”
การแข่งขันทำเครื่องหอมใน่เช้าจบลงอย่างรวดเร็ว
ในเวลาต่อมา เวินซีได้พบกับจ่างกุ้ยที่หน้าประตู แต่สีหน้าของเขาดูแย่มาก
“คุณหนูเวินซี ตระกูลเวิน...”
“ข้ารู้ เครื่องหอมนั้นเป็สูตรของเวินอี๋เหนียง” เวินซีพูดขัดจังหวะเขา ในตอนที่เวินเยียนหยิบส่วนประกอบนั้นออกมา นางก็มองออกแล้ว
คิดไม่ถึงเลยว่าในรอบแรกตระกูลเวินจะใช้สูตรเครื่องหอมของเวินอี๋เหนียง ดูท่าแล้วคงจะมีสูตรของเวินอี๋เหนียงมากพอที่จะทำให้พวกเขาคว้าชัยชนะได้แน่
“คนตระกูลเวินช่างชั่วเสียจริง พวกเขายังมีหน้าใช้สูตรเครื่องหอมของเวินอี๋เหนียง”
จ่างกุ้ยดุด่าด้วยความโกรธ เสียงของเขาทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมองมา
“กลับไปค่อยพูดเถิด”
มีผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา หากคำพูดนั้นไปเข้าหูคนไม่ดีอาจจะสร้างปัญหาได้
เวินซีรีบพาจ่างกุ้ยกลับไป ระหว่างทางนั้นผ่านร้านเครื่องหอมตระกูลเวินที่เดิมทีปิดและกลับมาเปิดใหม่ เพราะการแข่งขันเมื่อครู่นี้จึงมีคนพากันมาต่อแถวยาวเหยียด ถึงกับมีพ่อค้าหาบเร่นำของมาขายให้ผู้ที่ต่อแถวรอ
จ่างกุ้ยยังคงดุด่าตลอดทาง ประตูร้านเครื่องหอมเวินเซียงเก๋อถูกเขาชนจนเปิดออก เมื่อเข้าไปแล้วเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้
“มิต้องกังวลเื่สูตรเครื่องหอมของเวินอี๋เหนียงหรอก ข้าจะทำให้ตระกูลเวินสารภาพจากปากของพวกเขาเองว่าทั้งหมดเป็สูตรเครื่องหอมของนาง”
เวินซีปลอบโยนจ่างกุ้ยที่โกรธเคือง หากตอนนี้พวกเขาออกไปพูดว่าสูตรนั้นเป็ของเวินอี๋เหนียงก็มีแต่จะโดนคนของตระกูลเวินจัดการ เื่นี้จำต้องวางแผนระยะยาว
“คุณหนูเวินซี พวกเราก็เข้าร่วมการแข่งขันด้วยเถิดขอรับ พวกตระกูลเวินแหกตาทุกคนเกินไปแล้วนะขอรับ”
“เื่นี้ค่อยว่ากันเถิด” นางยังคงตัดสินใจมิได้
ผ่านไปอยู่นาน ในที่สุดอารมณ์โกรธของจ่างกุ้ยก็ลดลง เวินซีเห็นเช่นนั้นจึงเดินกลับเข้าไปในห้อง
จ้าวซานยังคงหลบหน้านางไม่กลับมา ภายในห้องจึงมืดมิด แต่นางมิได้ใส่ใจ พลันจุดตะเกียงขึ้นแล้วเริ่มทำเครื่องหอม
ในตอนกลางดึก มีเสียงความเคลื่อนไหวดังมาจากหน้าต่าง นางหันไปมองอย่างระมัดระวังจึงเห็นว่าเป็จ้าวซานที่โชกเืคลานเข้ามาด้วยร่างกายที่บอบช้ำมาก
เขาหายใจรวยริน เมื่อเห็นเวินซีก็รีบวิ่งเข้าไปหา แต่ก้าวไปได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงบนพื้นเพราะาเ็สาหัส
“คุณหนูเวิน...คุณหนูเวินซี...” เขาอาเจียนออกมาเป็เื
เวินซียืนขึ้นแล้วมองอย่างเ็า
“คุณหนูเวินซี เกิดเื่กับนายท่านขอรับ พวกเขาถูกซุ่มโจมตีตอนที่ออกไปจากเมือง ตอนแรกเขาก็ได้เปรียบ แต่จู่ๆ หนอนกู่ในตัวก็กำเริบ”
“เราควบคุมนายท่านไว้และถอยออกมา แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีคนอีกพวกหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันทำให้นายท่านาเ็สาหัส”
“ตอนนี้นายท่านซ่อนตัวอยู่ในถ้ำเขาเซียงจวิน ได้โปรดช่วยเขาด้วยนะขอรับ”
“นายท่านจะอดทนไม่ไหวแล้วขอรับ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้