บทที่ 9 : สมบัติล้ำค่า
“ยันต์ะเิปีศาจ...” ซ่งตงเอ่ยเสียวต่ำ ศิษย์าเผ่ามนุษย์คนนั้นถึงกับเลือกใช้ยันต์ะเิปีศาจะเิตัวเอง เปลี่ยนร่างของเขาเป็ะเิลูกหนึ่งในพริบตา เพื่อเปิดเส้นทางที่ถูกปิดล้อมให้ตงจื่อ
“ใต้เท้าอย่า! พะพวกเรา...” ศิษย์าเผ่ามนุษย์ที่เหลือยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาเลิกตั้งรับเปลี่ยนไปโจมตีแบบชีวิตแลกชีวิต ร่างกายของพวกเขาถูกฟันเป็แผลขนาดใหญ่ในทันที ทว่าดาบคมของพวกเขากลับปลิดชีวิตของศัตรูได้มากกว่าหลายเท่าตัว
“ตายซะ!...” เสียงะเิดังกัมปนาทขึ้นอีกครั้ง ศิษย์าผู้ร่างเกือบขาดจุดะเิบนยันต์ะเิปีศาจอีกครั้ง เปลี่ยนตัวเองเป็ฝนโลหิตห่าหนึ่ง ทว่าสิ่งนั้นกลับสร้างาแฉกรรจ์แก่นักรบเผ่ามารและเผ่าปีศาจ ศิษย์ปีศาจหลายตนถูกะเิกระเด็นตกสระน้ำและถูกน้ำซัดหายไป
ตงจื่อถอนหายใจด้วยความหม่นหมอง เขารู้ว่าคนกลุ่มนี้เตรียมใจตายไว้แล้ว ยันต์ะเิปีศาจไม่ได้มีพลังทำลายล้างมากขนาดนั้น แต่เมื่อพวกเขามาถึงจุดสิ้นหวัง ยันต์ะเิปีศาจกลับสามารถะเิร่างและรากิญญาทั้งหมดได้ในพริบตา เช่นเดียวกับะเิลูกหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
โดยทั่วไปแล้วมนุษย์ไม่ใช้ยันต์ะเิปีศาจ ของพวกนี้จะมอบให้แค่กลุ่มนักรบพลีชีพเท่านั้น เมื่อพวกเขารู้ว่าตนเองต้องตาย ก็ต้องสร้างาแให้ศัตรูให้ได้มากที่สุดไปด้วย ตงจื่อทราบดีว่าพวกพ้องข้างกายตนทุกคนมียันต์ะเิปีศาจอยู่ใน พวกเขาไม่ได้หวั่นเกรงความตาย นี่ก็เป็อีกหนึ่งเหตุผลที่เลือกพวกเขามาทำภารกิจนี้กับตนให้สำเร็จลุล่วงนั่นเอง
เมื่อเห็นตงจื่อคิดหนี ศิษย์มารพวกนั้นก็คลั่งขึ้นมา จนไม่สนใจการโจมตีของศิษย์าเผ่ามนุษย์ด้านหลัง จากนั้นพุ่งเป้าไปยังตงจื่อทันที แม้ระหว่างทางที่บุกไปจะถูกศิษย์าเผ่ามนุษย์สังหารไปพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นนักรบเผ่ามารและเผ่าปีศาจยังคงเป็ต่อในด้านจำนวนไม่น้อย แม้จะถูกสังหารไปมาก แต่ก็พวกที่เหลือก็สู้สุดตัวสร้างแรงกดดันแก่ศิษย์าเผ่ามนุษย์อย่างรวดเร็ว ทว่าตงจื่อก็อาศัยช่องว่างที่เกิดขึ้นพุ่งออกไปทันที ร่างของเขามุ่งเข้าไปในป่าเขาอันมืดมิดอย่างไร้ซึ่งความลังเล
“พลั่ก...” ร่างของตงจื่อพุ่งหายเข้าไปในป่า ทันใดนั้นร่างพลันสั่นสะท้าน เมื่อมือขนาดใหญ่ตบเข้าที่ร่างของเขา ความรู้สึกนี้เหมือนกับตอนที่ชนเข้ากับัประหลาดไม่มีผิด ในเวลาเดียวกันกับที่เขาล้มลงในป่า เสียงคำรามกลับดังขั้นแทรก จังหวะที่การโจมตีกำลังจะถึงร่างของตงจื่อนั้นเอง เขาใช้กระบวนิญญาอันไร้เทียมทานเหวี่ยงดาบสั้นออกไป
“พลั่ก...” ร่างของตงจื่อกระแทกเข้ากับหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง จนหินก้อนนั้นส่งเสียงแตกหัก และเืกระอักออกมาหนึ่งอึก
“ใต้เท้าตงจื่อ!” ความโกรธของศิษย์าเผ่ามนุษย์ปะทุขึ้นทันที ต่อให้ต้องตายก็ต้องปกป้องตงจื่อให้หนีรอดให้ได้ แต่กว่าหนีเข้าป่าได้อย่างยากลำบากกลับถูกซัดกระแทกกลับมาคืน นั่นหมายความว่าในป่าต้องมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ไม่ผิดแน่ และยอดฝีมือผู้นั้นสามารถโค่นตงจื่อได้ในกระบวนท่าเดียว อย่างน้อยน่าจะเป็ศิษย์มารหรือศิษย์ปีศาจขั้นสามขึ้นไป
“ตงจื่อ เ้าต้องตาย...” เสียงคำรามต่ำด้วยความพิโรธดังออกมาจากป่า ตามด้วยร่างที่บึกบึนราวกับหมีั์ลอยออกมาจากป่า ตกลงบนพื้นเสียงดังลั่นเหมือนกลองศึก กระแทกพื้นจนหินแตกกระจายไปทั่ว แถมบนร่างที่ดูคล้ายกับหมีั์ของศิษย์ปีศาจตนนั้นมีดาบสั้นเล่มหนึ่งแทงทะลุหัวไหล่อยู่ด้วย
“ม่อฉง...” ดวงตาของตงจื่อกะพริบอย่างเย็นเยียบ คนที่ก้าวเข้ามาไม่ใช่แปลกหน้าสำหรับเขา ในสนามรับพวกเขาประมือกันหลายหน ผู้นำกองร้อยผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่กองทัพทหารของเผ่าปีศาจ ทว่าพลังรบที่แท้จริงกลับใกล้เคียงกับผู้นำกองพันก็ว่าได้
“ส่งแหวนคงหลิงมา แล้วข้าจะละเว้นศพให้เ้า...” ในดวงตาของม่อฉงเต็มไปด้วยความโเี้ เขาไม่คิดว่าตงจื่อจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ทุกครั้งที่เขาปะทะกับตงจื่อ ฝ่ายของเขากลับเสียเปรียบอยู่ไม่น้อย ทั้งที่เขามีคุณสมบัติร่างกายอันหายากของเผ่าปีศาจ แถมสายเืจะยังไม่ถูกเปิดผนึกเสียด้วย ทว่าเพียงกล้ามเนื้อของเขาอย่างเดียวก็มากพอให้เขา่ชิงความเหนือกว่าได้แล้ว ดังนั้นต่อให้เสียเปรียบกี่ครั้งเขาก็เอาชีวิตรอดไปได้อยู่ดี ดังนั้นจนถึงตอนนี้เขาถึงไม่กล้าเสี่ยงลงมือกับตงจื่อ ได้แต่รอโอกาสที่ดีที่สุดอยู่ด้านนอก และตอนที่ตงจื่อกำลังจะหนีพ้นนั่นเอง เขาถึงได้จังหวะลงมือ แต่กลับคาดไม่ถึงว่าในตอนที่โจมตี กลับถูกฝ่ายตรงข้ามเอาดาบสั้นแทงไหล่ ทำให้เขาโกรธมาก
“คิดว่าน้ำหน้าอย่างเ้าจะคู่ควรให้ข้าเอาของสิ่งนั้นออกมาอย่างนั้นหรือ?” ตงจื่อแค่นหัวเราะอย่างดูถูก แม้การโจมตีของม่อฉงเมื่อครู่จะทำให้เขาาเ็ไม่น้อย แต่คราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ คนอื่นไม่มีวันชิงแหวนคงหลิงไปจากเขาได้แน่ แหวนวงนั้นคือสมบัติเทพชิ้นหนึ่ง ทั้งป้อมมู่สือต้องพินาศก็เพราะมัน ไม่ว่าของชิ้นนี้จะตกไปอยู่ในมือของใครก็ตาม ขอเพียงไม่ใช่ในมือของเผ่ามารเผ่าปีศาจสองเผ่านี้ก็เพียงพอ ทว่าตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าในป้อมมู่สือต้องมีไส้ศึกซ่อนอยู่แน่นอน อีกทั้งตัวตนและตำแหน่งต้องไม่ธรรมดา ไม่เช่นนั้นฝ่ายตรงข้ามจะรู้ว่าแหวนคงหลิงอยู่ในมือตนได้อย่างไร
สำหรับแหวนคงหลิงตงจื่อเองก็ไม่แน่ใจเื่ของมันเท่าไรนัก แต่เขาทราบดีว่าในแหวนคงหลิงมีช่องว่างมิติภายในที่กว้างไม่น้อย หากนำสิ่งนี้ไปมอบให้นิกายระดับหกที่ไหนสักแห่ง เกรงว่าบางทีแค่ให้ตระกูลระดับห้า คงแลกกับรายชื่อของผู้ที่ถูกส่งไปยังโลกชั้นสูงได้หลายสิบคน ดังนั้นเพื่อสมบัติชิ้นนี้แล้ว เผ่ามารและเผ่าปีศาจพร้อมใจจับร่วมมือกันลอบโจมตีป้อมมู่สือ และในความเป็จริงแหวนวงนี้เพิ่งมาถึงป้อมมู่สือในวันนั้นเอง นักรบเผ่ามนุษย์คนหนึ่งเจอสิ่งนี้ในซากศิลา แต่กลับถูกนักรบเผ่ามารและปีศาจทั้งสองเผ่าตามล่า กว่าจะหนีมาถึงป้อมมู่สือได้อย่างยากลำบาก พอส่งมอบของก็สิ้นชีพทันที แต่การเคลื่อนไหวเผ่ามารและปีศาจมันช่างรวดเร็วเสียจนพวกเขาตั้งตัวไม่ทัน
ไม่มีใครกล้าดูิ่สมบัติที่ถูกซากปรักหักพังของศิลาที่ซุกซ่อนไว้ เพราะที่แห่งนั้นเคยเป็ที่ที่ผู้แข็งแกร่งสมัยโบราณนับไม่ถ้วนได้ทิ้งชีวิตของตนไว้ พวกเขานำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาทั้งชีวิตใส่ไปในศิลาา เพื่อรอคอยการสืบทอดต่อไป เมื่อเหล่าผู้มีความสามารถล่วงลับ มนุษย์เทพปีศาจอันตรธานไป แต่สมบัติของพวกเขายังคงกระจัดกระจายอยู่ ณ ที่นั่น บางครั้งผู้มีโชคชะตาก็ค้นพบสมบัติโบราณ ก่อให้เกิดเกิดการแย่งชิงไม่รู้จบ
ซากศิลาตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ห่างจากศิลากำเนิดเทพไปพันลี้ ที่จริงแล้ว มันอยู่ใกล้กับเผ่าปีศาจและเผ่ามารมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ทว่าศิษย์าเผ่ามนุษย์ผู้นั้นโชคดี แต่การค้นพบสมบัติชิ้นนี้ก็เป็เื่โชคร้ายของเขาด้วยเช่นกัน
“เ้ายังมีแรงสู้อีกหรือ? กระดูกซี่โครงหักเช่นนี้ ต่อให้ข้าไม่สังหารเ้า เกรงว่าเ้าก็คงอยู่ได้ไม่นาน...” แววตาของม่อฉงส่อแววหยอกล้อ เมื่อครู่เขาลอบโจมตีเต็มกำลัง เขารู้ถึงพลังของตนดี ต่อให้บนร่างตงจื่อจะมีเกราะรองรับอยู่ หมัดของเขาก็หนักพอจะหักกระดูกซี่โครงของศัตรู ทิ้งอาการาเ็สาหัสไว้ให้กับศัตรูได้ แน่นอนว่าเขาเองก็โดนคมดาบแทงทะลุไหล่เช่นกัน แต่อย่างน้อยาแของเขาก็ไม่ถึงชีวิต
“แต่บางทีก่อนตายข้าอาจควรทำลายแหวนคงหลิงวงนี้ทิ้งเสีย” ตงจื่อกล่าวอย่างโเี้
ม่อฉงอดหัวเราะไม่ได้ สายตาที่มองตงจื่อเหมือนมองคนโง่ และกล่าวอย่างดูถูก “เ้าคิดว่าแหวนคงหลิงเป็อะไรกัน ถ้าคนเช่นเ้ากับข้าสามารถทำลายมันได้ เช่นนั้น ทำไมพวกเราต้องเคลื่อนทัพเข้าโจมตีครั้งใหญ่ด้วย? เ้ามันเสียสติไปแล้ว!”
“ใต้เท้าตงจื่อ… หนีไป… ” ม่อฉงยังพูดไม่ทันจบ เงาสายหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่จากด้านข้าง การสู้รบที่สระน้ำจบลงแล้ว เป็ผลจากยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิตกับกลุ่มนักรบธรรมดาของเผ่ามารและปีศาจ สุดท้ายเผ่ามนุษย์ก็ถูกสังหารจนหมดสิ้น ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ก็เหลือเพียงศิษย์าขั้นสองที่ร่างกายอาบชุ่มไปด้วยเื
ใช่แล้ว ทั้งร่างอาบไปด้วยเื แต่เขาไม่ได้สนใจมันแม้แต่น้อย ในความคิดของเขาถึงต้องตายก็จะลากศัตรูไปด้วย เขาหวังจะใช้พลังชีวิตเฮือกสุดท้ายสู้ต่อเพื่อยื้อเวลาให้ตงจื่อหลบหนี อย่างไรเขาก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่พ้นคืนนี้แน่แล้ว
“รนหาที่ตาย...” ม่อฉงกล่าวเสียงเ็า หนึ่งดาบใต้แสงจันทร์ เย็นเยียบราวสายธารยามฤดูใบไม้ร่วง ราวกับว่าบรรยากาศหม่นหมองยามสารทกำลังหลั่งไหลเข้าใส่
“ฟุบ...” เสียงนั้นดังอย่างแ่เบา ศิษย์าที่พุ่งไปทางม่อฉงยังไม่ทันได้ใช้งานยันต์ะเิปีศาจ ศีรษะก็หลุดลอยไปแล้ว เป็ฝีมือของดาบที่ตงจื่อใช้แทงอยู่บนไหล่ของม่อฉงนั่นเอง แต่เมื่อครู่ม่อฉงดึงดาบออกจากไหล่ของตนในเสี้ยววินาที ไม่เพียงเท่านั้น ยังใช้ดาบฟันไปที่ศีรษะของศิษย์าจนขาดออกอย่างง่ายดาย เืทะลักออกมา เืสดบนร่างของม่อฉงไหลอยู่สักพักก็หยุดลงไปเอง าแนั้นอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง ถึงกับห้ามเืให้หยุดไหลเองได้
จิตใจของตงจื่อเย็นะเื เหมือนกับว่าผู้ที่ตายไปไม่ใช่พวกของตน แท้จริงแล้วเขาไม่เสียใจนัก เพราะอีกไม่นานเขาก็จะได้ไปพบเหล่าพี่น้องที่ตายไป เพียงแต่ในใจของเขายังไม่ยอมจำนน หรือครั้งนี้แหวนคงหลิงจะต้องตกอยู่ในมือเผ่าปีศาจเข้าแล้ว เขารู้ดีว่าาแบนร่างเขาสาหัสเพียงใด จากการเข้าโรมรันไม่หยุดพัก ั้แ่เหนือน้ำตก สู้กับัประหลาด หลังจากนั้นสู้ศึกใหญ่กับนักรบเผ่ามารและปีศาจสองเผ่า สุดท้ายถูกน้ำซัดตกลงไปในสระน้ำ จากนั้นลุกขึ้นมารบต่อ เขาเหนื่อยล้ามานานแล้ว ท้ายที่สุดเขาใช้พลังทั้งหมดที่มีคิดจะหลบหนี แต่กลับถูกม่อฉงลอบโจมตีเข้าอีก กระบวนท่านี้เหมือนจะใช้พลังทั้งหมดของม่อฉง กระบวนท่านั้นคือหมัดเหล็กคู่หนึ่ง หมัดชุดที่หล่อหลอมด้วยเหล็กกล้า ทำให้หมัดของม่อฉงเป็อาวุธที่ดีที่สุด
“ข้าใช้ดาบของเ้าฆ่าเขา เช่นนั้นไม่นับเป็การเหยียดหยามเขา...” ม่อฉงทิ้งดาบของตงจื่อไว้ที่พื้น และสายตาของเขาแฝงไว้ด้วยความโลภ ตอนนี้ที่นี่มีเพียงเขาคนเดียว หากเขาชิงแหวนคงหลิงมาได้ ก็ไม่มีใครรู้ สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ถ้ามีโอกาสใครเล่าจะไม่อยากเก็บไว้ใช้เอง
“เ้าอยากได้มันนักใช่ไหม?” ตงจื่อยิ้มเล็กน้อย ทันใดนั้นในมือของเขาได้มีแหวนโบราณปรากฏขึ้น แม้จะมีเพียงแสงจันทร์ แต่ไม่อาจบดบังรัศมีความมหัศจรรย์นี้ได้
นั่นคือแหวนคงหลิง ม่อฉงตื่นเต้นในทันที เขาอดไม่ได้ที่จะคำรามเสียงต่ำ “เอามา...” ส่วนร่างกายก็พุ่งไปทางตงจื่อไวกว่าความคิด
“ถ้าอยากได้นัก ข้าก็จะให้เ้า...” ตงจื่อยิ้มเ็า ทันใดนั้นเขวี้ยงแหวนเก่าแก่วงนั้นไปทางกระแสน้ำที่ปั่นป่วน
“บัดซบ!” ความโกรธของม่อฉงปะทุทันที แต่เขาต้องยอมแพ้เื่สังหารตงจื่อไว้ก่อน และพุ่งไปยังทิศทางที่แหวนวงนั้นตกลงไป
“ฟุ่บ ฟุ่บ… ” ตอนที่ร่างของม่อฉงพุ่งไปทางแหวนวงนั้น ขณะที่กำลังหมุนกายเปลี่ยนทิศทาง เสียงที่แ่เบาของลูกศรหลายเสียงดังขึ้น ในมือของตงจื่อปรากฏหน้าไม้ขนาดเล็กคันหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้ยิงได้แม่นยำราวจับวาง ลูกศรทะลุเข้าไปในร่างของม่อฉงโดยตรง
ทั้งหมดนี้ราวกับเป็ส่วนหนึ่งในแผนการของเขา
อนิจจา! ม่อฉงทำได้เพียงส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอ เพราะถูกลูกศรที่ยิงออกมาทะลุเข้าอย่างจัง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้