บทที่ 42 ออกจากสนามรบ
ลั่วถูเตรียมตัวออกเดินทางแล้ว แต่ตงหลี่เช่อก็ยังไม่กลับมา มีเพียงหลิวฉงเหวินที่กลับมาแล้ว มาพร้อมกับถุงขนาดใหญ่ถุงหนึ่งและจดหมายจากตงหลี่เช่อ
ชัดเจนว่าตงหลี่เช่อคงไม่ได้กลับค่ายทหารใน่นี้แน่นอน คนจากตระกูลตงหลี่มาถึงแล้ว และตงหลี่เช่อยังคงาเ็สาหัส ตระกูลตงหลี่ไม่มีทางยอมให้เขาพักในค่ายทหารเด็ดขาด จึงพาเขากลับตระกูลตงหลี่เพื่อรักษาตัว การเป็อัจฉริยะของตระกูลตงหลี่ ทั้งยังมีชีวิตรอดจากเงื้อมมือปรมาจารย์เผ่ามารถึงสองตน ก็เรียกได้ว่าหายากแล้ว ตระกูลตงหลี่ไม่มีทางปล่อยให้เหลืออาการาเ็บนร่างของตงหลี่เช่อแม้แต่น้อย
ในเมื่อตงหลี่เช่อถูกพาตัวไปแล้ว แต่กลับทิ้งเหรียญซิงเหินไว้ถุงหนึ่ง จดหมายและยาหลายขวดไว้กับหลิวฉงเหวิน ในส่วนของเนื้อความในจดหมาย ตงหลี่เช่อหวังว่าลั่วถูจะสามารถหาเวลาไปเยือนตระกูลตงหลี่สักครั้ง ตระกูลตงหลี่ยินดีให้ที่พักกับเขา ช่างเป็การเชิญชวนที่ชัดเจนจนทำให้ลั่วถูประหลาดใจมาก ไม่มีตระกูลไหนให้ความสำคัญกับคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่ตงหลี่เช่อกลับไม่เป็เช่นนั้น ทำให้เขามองตงหลี่เช่อดีขึ้นหลายส่วน
ในถุงใบที่ว่ามีเหรียญซิงเหินจำนวนไม่น้อยเลย มีเหรียญฟ้าสองพันเหรียญกับเหรียญม่วงอีกร้อยเหรียญ สำหรับลั่วถูนับว่าเป็เงินก้อนโตทีเดียว มันมากกว่าที่เขาสะสมมาตลอดหลายปีนี้เสียอีก ที่จริงแล้วก็มีแค่การออกเดินทางสองครั้งล่าสุดนี้เองที่ลั่วถูได้รับเหรียญซิงเหินมามากหน่อย ทว่าเมื่อนับรวมกันก็ยังเป็แค่เหรียญม่วงสิบกว่าเหรียญ เหรียญฟ้าอีกสามร้อยสี่ร้อยเหรียญ และเหรียญขาวซิงเหินอีกสองสามพันเท่านั้น แถมเพื่อการเปิดิญญาครั้งนี้ก็ใช้ไปหมดแล้วด้วย มิหนำซ้ำยังต้องขอให้ลุงเต๋อช่วยซื้อยาเปิดิญญาให้อีกหลายเม็ด จากนั้นซื้อยาิญญาเพื่อใช้หลอมกาย เท่านี้ก็ใช้เงินไปเกือบหมดแล้ว ตอนนี้บนร่างของเขามีเหลือแค่ไม่กี่สิบเหรียญฟ้าเท่านั้น แต่จู่ๆ เขาก็ได้รับลาภก้อนโต เรียกว่าเป็ความยินดีในความประหลาดใจก็ไม่ผิดนัก เวลาไม่กี่วันที่อยู่ในค่ายทหารไม่เสียเปล่าแล้ว
สำหรับบรรดายาทั้งหลาย มีหนึ่งขวดเป็ยาเปิดิญญา ยาต้านปีศาจชั้นสูงหนึ่งขวด ยาต้านมารชั้นสูงหนึ่งขวด ยาติ้งซวี ยาเจิ้นเยาและยาสีกู่อย่างละหนึ่งขวด
ถึงจะไม่ใช่ของดีที่สุด แต่ก็ล้ำค่ามาก เห็นได้ชัดว่าตงลี่เช่อไตร่ตรองเื่ที่เขาเป็คนขนศพมาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นถึงได้เตรียมของเหล่านี้ให้เขาโดยเฉพาะ
เพราะทั้งหมดแทบจะเป็ยาที่ใช้รับมือกับกระบวนวิชาพิเศษของแต่ละเผ่าในบรรดาเผ่ามืดทั้งห้า มีทั้งประเภทยารักษาและยาระงับ ไม่ใช่ของที่จะได้มาง่ายๆ เลย
ในส่วนของคำเชิญจากตงหลี่เช่อ ลั่วถูไม่ได้ปฏิเสธ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เขาจะไปเยือนตระกูลตงหลี่แน่นอน ตงหลี่เช่อยังติดค้างเื่คำขอของเขาข้อหนึ่ง และนั่นไม่ใช่สิ่งที่เหรียญฟ้าสองพันเหรียญกับเหรียญม่วงร้อยเหรียญจะแทนได้
พอคิดๆ ดูแล้วหัวของจินต้าจงกับทูหลางไม่มีทางมีค่าแค่นี้แน่
ทางด้านหลิวฉงเหวิน ในครั้งนี้เขาย่อมได้รับรางวัลอย่างงามเช่นกัน ลำพังแค่รางวัลที่ตระกูลตงหลี่มอบให้เขาก็เยอะมากแล้ว หลังจากตงหลี่เช่อมอบเหรียญซิงเหินให้ลั่วถูถุงหนึ่งเสร็จ เขาก็นำอีกถุงออกมาจากอกเสื้อของตนเพื่อแสดงความขอบคุณอีกครั้ว ทั้งยังบังคับให้ลั่วถูรับไว้ให้ได้ มิเช่นนั้นจะถือเสียว่าไม่เห็นเขาเป็สหาย
ของที่อีกฝ่ายตั้งใจเอามามอบให้ถึงหน้าประตูเช่นนี้ เขาไม่ปฏิเสธแน่นอน ถึงแม้ว่าผลงานครั้งนี้เขายกให้หลิวฉงเหวินทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่ของในถุงเล็กๆ ใบนี้ก็ยังเป็สิ่งที่เขาสมควรได้รับอยู่ดี เพียงแต่หลังจากรับของชิ้นนี้ เื่ที่ไม่สมควรกล่าวก็ต้องเก็บไว้กับตัวเอง
หลิวฉงเหวินเองก็ประทับใจในความเข้าอกเข้าใจของลั่วถูไม่เบา แต่เขาไม่สามารถออกจากเมืองม่อหลานได้ ในเมื่อตงหลี่เช่อกลับตระกูลตงหลี่ที่ตูชางไปแล้ว ทว่ายังเหลือผลประโยชน์ของตระกูลตงหลี่ในเมืองม่อหลานที่ไม่อาจปล่อยปละละเลยได้ และหลิวฉงเหวินก็ได้รับหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของตระกูลตงหลี่ในเมืองม่อหลานเป็การชั่วคราว เป็หนึ่งในผลจากผลงานครั้งใหญ่ที่ตระกูลตงหลี่ตบรางวัลให้และแสดงถึงการให้การยอมรับในตัวหลิวฉงเหวินเช่นกัน
ทางด้านหลิวฉงเหวินเองก็รู้ใจลั่วถูเช่นกัน เมื่อรู้ว่าลั่วถูจะออกจากสนามรบฝานเหริน จึงสั่งองครักษ์ของตระกูลตงหลี่หลายคนไปส่งลั่วถูที่นอกเมืองช่วยลดความยุ่งยากของลั่วถูลงไปโข
่หลายวันมานี้นอกค่ายทหาร มีคนน่าสงสัยเดินวนเวียนอยู่ตลอดเวลา บ้างก็ว่าเป็คนของสมาคมซานชิง แถมคนเหล่านี้ช่างเ้าเล่ห์นัก พวกเขาไม่กล้าหาเื่กับกองทัพ แค่การทำตัวลับล่อๆ ก็ทำให้ลั่วถูระมัดระวังตัวขึ้นมากทีเดียว ความตั้งใจสังหารเขาของลั่วเหยียนยังไม่จบลงแค่นี้
สมาคมซานชิงเพิ่มการติดตามเขามากขึ้น ในเมื่อตอนนี้มีคนของตระกูลตงหลี่คอยคุ้มกัน พวกที่คิดจะลงมือก็ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ต่อให้เป็ลั่วเหยียน เขาจะมีหน้าไปเสี่ยงล่วงเกินตระกูลตงหลี่ได้เชียวหรือ?
ถึงพลังอำนาจที่แท้จริงของตระกูลลั่วจะไม่ด้อยกว่าตระกูลตงหลี่เท่าไรนัก ทว่าหลายปีมานี้ตระกูลลั่วตกต่ำลงทุกที ส่วนตระกูลตงหลี่กลับเป็เหมือนดวงตะวันกลางฟ้า เทียบกันแล้วตระกูลลั่วมีแต่ต้องยอมก้มหัวให้เสียแล้ว
……
ประตูเชื่อมมิติเป็เส้นทางที่พิเศษมาก ดูคล้ายกระจกตั้งตระหง่านสูงค้ำฟ้า เพียงแต่ผิวของกระจกบานนี้กลับดูเหมือนคลื่นน้ำอย่างไรอย่างนั้น ในสนามรบฝานเหรินแห่งนี้มีประตูกระจกขนาดั์เช่นนี้ทั้งหมดเก้าบาน และทุกบานจะปรากฏสถานที่สำคัญของแต่ละชนเผ่าในแผ่นดินต้นกำเนิด เพียงแค่ข้ามผ่านประตูเชื่อมมิติ ก็ไปยังแผ่นดินต้นกำเนิดที่แท้จริงได้แล้ว
มีคนกล่าวว่า สนามรบฝานเหรินเป็เพียงมิติลับแห่งหนึ่งของแผ่นดินต้นกำเนิด หลายพันปีก่อนเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ เดิมทีก็เคยเป็หนึ่งเดียวกับแผ่นดินต้นกำเนิด แต่ต่อมา หลังจากการโจมตีของหมื่นดวงดาว เมื่อศิลากำเนิดเทพใช้พลังจนหมดสิ้น กลับทำให้แผ่นดินผืนใหญ่ต้องแตกออกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อยและแยกออกจากแผ่นดินต้นกำเนิด ในเวลาต่อมาด้วยความสามารถอันยิ่งใหญ่ของทุกเผ่าพันธุ์ จึงได้วางอาคมขนาดใหญ่ไว้กลางอากาศ ทำการเชื่อมต่อมิติที่แตกสลายนี้เข้ากับแผ่นดินต้นกำเนิด แต่เนื่องจากความต่างของเวลา ทำให้ต้องผ่านประตูเชื่อมมิติเสียก่อนถึงจะเข้าสู่อีกโลกได้ และประตูเชื่อมมิติขนาดั์ทั้งเก้าบาน เดิมทีแล้วมันคือแกนกลางอาคมขนาดใหญ่ทั้งเก้านั่นเอง
ประตูเชื่อมมิติของเผ่ามนุษย์ตั้งอยู่ทางพื้นที่หลังเมืองม่อหลานห่างออกไปราวสองร้อยกว่าลี้ ที่แห่งนั้นคือหนึ่งในป้อมปราการสำคัญของเผ่ามนุษย์ บริเวณโดยรอบล้วนเป็ูเาล้อมสี่ทิศช่างดูพิสดารและเป็ทำเลที่อันตรายไม่หยอกเพราะเส้นทางทั้งคดเคี้ยวทั้งลาดชันตลอดทาง มีเพียงถนนหยางฉางที่ทอดยาวตรงอยู่เส้นเดียวเท่านั้นที่ใช้สัญจรได้ เหมาะสำหรับการเดินทางแค่ไม่กี่คน สองข้างทางเป็หุบเขาลึกและลำธาร นอกจากนี้หากเผ่ามนุษย์กังวลก็แค่ส่งกองทัพสักทัพมาประจำการไว้ จะเผ่าไหนก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
ในขณะที่ลั่วถูและคนอื่นๆ เร่งเดินทางมาจนถึงป้อม ท้องฟ้าก็มืดแล้ว แต่ป้ายคำสั่งทหารตระกูลตงหลี่ช่างแสนสะดวกสบาย ทำได้กระทั่งผ่านประตูเชื่อมมิติในยามค่ำคืน มุ่งสู่แผ่นดินต้นกำเนิดในเมืองเว่ยยางของเผ่ามนุษย์ได้อย่างง่ายดาย
……
หลังจากได้ออกจากสนามรบ ลั่วถูก็รู้สึกสบายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ถึงจะค่ำมืดแล้ว แต่กลับทำให้ลั่วถูรู้สึกอบอุ่นราวได้เกิดใหม่ภายใต้แสงตะวันก็ไม่ปาน
“นี่คือเมืองเว่ยยางของเผ่ามนุษย์หรือ? ใหญ่จริงๆ ... ” เจียงิ่ได้แต่ตื่นเต้นอย่างอดไม่ได้
“เมืองเว่ยยางก็มีชื่อเสียงพอกันกับเมืองหลิงหยิ่งของเผ่าิญญา เ้าไม่เคยไปเมืองหลิงหยิ่งหรือ?” ลั่วถูใเล็กน้อย เป็คนของเผ่าิญญาแต่ไม่เคยไปเมืองหลิงหยิ่ง ช่างแปลกพิลึกนัก เพราะหากจะเข้าสู่สนามรบฝานเหริน ย่อมต้องผ่านประตูเชื่มมิติที่เมืองหลิงหยิ่ง
“เมืองหลิงหยิ่ง... อ๋อ ข้าต้องเคยไปอยู่แล้ว แค่คิดไม่ถึงว่าเมืองเว่ยยางจะเทียบกับเมืองหลิงหยิ่งได้ดูสีเหมือนกัน สร้างได้งดงามไม่เลว!” เจียงิ่ใเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นก็เอ่ยได้อย่างมั่นใจ
“อ๋อ เมืองเว่ยยางไม่ใช่เมืองที่ใหญ่ที่สุดของเผ่ามนุษย์ เมืองเทียนตูของเผ่ามนุษย์ต่างหากถึงจะใหญ่ที่สุด คึกคักที่สุด แต่ตอนนี้พวกเราหาที่พักผ่อนกันก่อน เร่งเดินทางมาตลอดทั้งวัน ก็ต้องพักผ่อนดีๆ กันเสียหน่อย จริงสิ เ้าจะไม่กลับเผ่าิญญาจริงๆ หรือ?” ลั่วถูถามอย่างแปลกใจ
“ข้าไม่มีครอบครัวในเผ่าิญญาแล้ว ไม่เช่นนั้นข้าก็คงไม่เข้าไปสนามรบฝานเหรินคนเดียว แถมยังต้องมาถูกคนรังแกอีก...”
“นี่ นั่นมันแค่เื่เข้าใจผิด ข้าไม่ได้ตั้งใจ อีกอย่างตอนนั้นก็ไม่ใช่ให้คิดเสียว่าเ้าเป็บุรุษคนหนึ่งหรอกหรือ? ทั้งสวมเสื้อผ้าบุรุษ แถมยังผมรุงรังหน้าดำอีก... ” ลั่วถูอับอายอย่างหนัก แต่เขาต้องแก้ไขชื่อเสียงของตัวเอง เขาไม่ใช่อันธพาลหน้าไม่อาย จะว่าไป จนถึงตอนนี้คนผู้นี้ก็ยังคงผมยุ่งหน้าดำเช่นเดิม เอาผ้าพันศีรษะไว้ ทำให้ดูเหมือนบุรุษที่อ้อนแอ้น ดูแล้วช่างขาดความห้าวหาญเสียเหลือเกิน...
“พอที ข้าไม่สน เ้าทำลายความบริสุทธิ์ของข้า หลังจากนี้ข้าจะตามเ้า... ”
“เ้า ขะข้า...”
“เ้าอะไร ข้าอะไร... หรือไม่จริง? เ้าจับไปแล้ว กอดก็กอดไปแล้ว ตอนนี้บอกว่าทั้งหมดเป็แค่เื่เข้าใจผิด ถ้าต้องเป็เช่นนี้ ข้ายอมตายเสียดีกว่า หลังจากนี้ข้าจะมีหน้าไปพบคนอื่นได้อย่างไร... ”
“นี่ เื่นี้ไม่มีใครรู้เสียหน่อย แค่ข้าไม่พูดก็พอ จะถึงขั้นไม่มีหน้าไปเจอคนอื่นได้อย่างไร... ” ลั่วถูปวดหัวมาก นี่มันเื่อะไรกัน? ไปสนามรบฝานเหรินรอบหนึ่ง เปิดิญญาก็ไม่สำเร็จแถมเก็บตัวถ่วงกลับมาอีก ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เื่ที่เขาปวดหัวอีกเื่คือการที่ตัวเขาเป็ศิษย์ขั้นต้นของสำนักจ๋าเสวีย ด้วยตำแหน่งแสนต่ำต้อย เดิมทีก็ไม่มีสิทธิ์พาคนอื่นเข้าสำนักอยู่แล้ว กับตัวถ่วงผู้นี้เขาก็จนปัญญาจะจัดการเต็มที!
“เ้ากล้าพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร เ้ายังเป็ผู้ชายอยู่ไหม เ้ายังมีหัวใจอยู่ไหม... หึหึ... ” เสียงของเจียงิ่ดังขึ้นทันที... จนลั่วถูถึงกับใจนเอามือไปปิดปากนางไว้ ขืนะโออกไป เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ถึงแม้ต่อหน้าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตระกูลลั่วจะยังดีต่อกัน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉยชามาตั้งนานแล้ว ถึงเขาจะอยู่ด้วยตัวเองได้ ทว่าเขาช่างไร้ประสบการณ์รับมือสตรีอย่างสิ้นเชิง
“จะทำอะไร เ้าเป็ลูกผู้ชายแท้ๆ ถ้าไม่ได้ทำสิ่งได้ผิด แล้วเ้าจะปิดปากข้าทำไม?”
“พอแล้วๆ เลิกสร้างเื่ได้แล้ว แม่นางเจียง เ้าชนะแล้ว... ถ้าเ้าอยากตามก็ตามมา... ตอนนี้ไปหาที่พักคืนนี้กันก่อน! เ้าคงไม่คิดจะนอนบนถนนกระมัง ดูเ้าผมเฝ้ายุ่งเหยิงหน้าดำเลอะเทอะไปหมด ตอนอยู่ในสนามรบเ้าคงกังวลว่าคนพวกนั้นจะเห็นหน้าเ้าแล้วไม่ค่อยสะดวกใจเท่าไร แต่ตอนนี้ข้าว่าหน้าผีของเ้าคงไม่จำเป็ต้องใช้แล้ว ไม่เช่นนั้นคนอื่นคงคิดว่าข้ารสนิยมแย่ถึงขนาดเก็บขอทานกลับบ้าน เ้าไม่อายคน แต่ข้าอาย... ” ลั่วถูกล่าวออกมาอย่างโมโห
“รสนิยมแย่อะไรกัน? ข้าคนนี้มันแย่มากนักหรือ? หึ เ้าเป็คนบอกให้ข้าแต่งตัวเองนะ ถึงเวลาอย่ามาเสียใจทีหลังล่ะ” เจียงิ่เอ่ยด้วยความไม่พอใจอย่างสุดแสน
“ข้าน่ะหรือเสียใจ? เหอะ ข้าเสียใจหรือ สตรีที่ทำให้ข้าเสียใจยังไม่เกิดมาหรอก พูดจาไม่ดูตัวเองเอาเสียเลยนะ ไอ้ที่ควรโค้งก็ไม่โค้ง ที่ควรเว้าก็ไม่เว้า ถึงจะเป็สตรีแต่รูปร่างเหมือนบุรุษเสียขนาดนี้ พี่ชายคนนี้ถึงได้เข้าใจผิดว่าเ้าเป็ผู้ชายเอาอย่างไรเล่า!” ลั่วถูดูถูกสุดชีวิต สตรีนางนี้กล้าพูดออกมาได้ว่าตัวเขาจะเสียใจทีหลัง... หึ ต่อให้เสียใจจริงๆ ก็ดีกว่ามีขอทานสกปรกเดินตามเป็ไหนๆ ถึงตัวเขาจะเป็แค่คนธรรมดาที่เปิดิญญาสำเร็จเพียงเสี้ยวเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็ศิษย์ของสำนักจ๋าเสวีย เกิดบนโลกชั้นสูง หากมีขอทานคอยเดินตามหลัง ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ข้า ข้าจะสู้กับเ้าให้ตายกันไปข้าง เ้านี่มัน... ”
ลั่วถูจับมือที่เจียงิ่ฟาดใส่ตนได้ทันพอดี จากนั้นวางถุงเงินใส่มือนางและกล่าวว่า “สตรีนางหนึ่งโมโหจนจะทำร้ายคน ไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะเอาหรือ เ้าไปซื้อเสื้อผ้ามาสักสองสามชุด ใส่เสื้อผ้าผู้ชายหลวมโคร่งแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน แล้วก็ซื้อชั้นในมาให้เยอะหน่อยก็ดี ข้าล่ะเหลือทนกับคนแบบเ้าจริงๆ ทำเอาข้าโดนเื่พรรคหลอกเข้าจนได้... ” เขากลัวว่าหากเจียงิ่จะทะเลาะกับเขากลางถนนใหญ่จะน่าขายหน้าขนาดไหนกัน สู้เอาเงินให้นางไปหาใช้จ่ายเสียดีกว่าเป็ไหนๆ
“เ้าคนอันธพาล...” ใบหน้าของเจียงิ่พลันปรากฏสีแดงขึ้น สบถด่าออกไปอย่างแค้นเคือง จากนั้นแย่งถุงผ้าจากลั่วถูและเดินไปยังถนนที่แสงไฟสว่างไสวอยู่ไม่ไกลโดยไม่หันกลับมา
“อีกเดี๋ยวเ้าค่อยตามข้าไปที่โรงเตี๊ยมฉางหลายแล้วกัน... ” พอมองตามเจียงหมินที่เดินห่างออกไปด้วยความโมโห ลั่วถูก็มีความคิดหนึ่งแล่นวาบขึ้นมาในหัวทันที หรือว่าเขาจะใช้โอกาสนี้หนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ดี? อย่าปล่อยให้คนที่ชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิงแบบนี้ตามติดจะดีกว่า ที่นี่เป็ที่ของเผ่ามนุษย์ ตัวเขาคุ้นเคยดีอยู่แล้ว ถ้าคิดจะหนี ต่อให้เป็เจียงิ่ก็หาไม่เจอแน่... แต่เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างฉับพลัน พลางคิดล้มเลิกความคิดในหัวของเขาไปเสีย จะหนีไปนั้นง่าย ทว่าความเมตตาในใจของเขาไม่ปล่อยให้ทำเช่นนั้นแน่ จะให้ทิ้งสตรีไร้ญาติขาดมิตรของเผ่าิญญาไว้เพียงลำพังในเมืองเว่ยยางของเผ่ามนุษย์น่ะหรือ ถ้าจะพูดไปแล้ว เดิมทีก็เป็ความผิดของเขาเอง การกระทำเช่นนี้ไม่สมควรเอาเสียเลย...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้