ย่ำรุ่งอรุณฉาย
ใกล้ได้เวลาเข้าชั้นเรียนของอาจารย์เสิ่นซิ่วอีกคราหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เนี่ยหลี ตู้เจ๋อกับลู่เพียวรู้สึกว่าวิชาที่นางสอนช่างน่าเบื่อนัก ทุกวันเอาแต่พูดพล่ามอยู่หน้าชั้นเรียนเป็ประจำ เมื่อสอนเสร็จก็จะพูดถึงเื่ชนชั้นน่าเบื่อหน่าย ไม่มีสาระอันใด
แน่นอน ระหว่างการสอนของเสิ่นซิ่ว เนี่ยหลี ตู้เจ๋อและลู่เพียวต้องไปยืนอยู่หลังห้อง
ชั้นเรียนกำลังจะเริ่มในไม่ช้า พวกนักเรียนจับเป็กลุ่มเล็กๆ คุยกัน
เยี่ยจื่ออวิ๋นไม่ตั้งกำแพงขวางกั้นนักเรียนคนอื่นในชั้น ไม่นานก็มีเพื่อนหญิงมากมาย เสิ่นเยวี่ยนั่งยืดอกอยู่ด้านข้าง ด้วยฐานะของเขา ย่อมไม่ใส่ใจคบหานักเรียนในชั้น หากมิใช่เพราะเยี่ยจื่ออวิ๋นอยู่ในชั้นนี้ เขาก็คงไม่มาเข้าเรียนชั้นนี้ั้แ่แรก
อีกสองเดือนข้างหน้าจะมีการทดสอบ ไม่ว่าจะเป็เขาหรือเยี่ยจื่ออวิ๋น จะต้องได้เลื่อนขึ้นไปเรียนที่ชั้นผู้ควบคุมจิตอสูรเบื้องต้นได้อย่างแน่นอน
เสิ่นเยวี่ยชำเลืองมองเนี่ยหลีที่กำลังอยู่หลังชั้นเรียน บนใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มแดกดัน “สองเดือนก็จะสามารถเลื่อนขึ้นไปถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวได้อย่างนั้นหรือ หากขยะเช่นเ้าทำได้ ตะวันก็คงต้องขึ้นทางทิศตะวันตกแทนแล้ว!”
เนี่ยหลี ตู้เจ๋อกับลู่เพียวกำลังคุยกันอยู่หลังห้อง ยังมีนักเรียนสามัญชนบางคนเข้ามาผูกสัมพันธ์กับกลุ่มของเนี่ยหลี เพราะเนี่ยหลีมีความคิดต่างมากกว่าผู้อื่น บางครั้งก็ให้คำชี้แนะในการฝึกยุทธ์แก่พวกเขา กลายเป็ผู้นำกลุ่มเล็กๆ กลุ่มนี้ แม้แต่ตู้เจ๋อซึ่งเป็ที่นับถือในหมู่นักเรียนสามัญชนก็ยังเชื่อฟังในสิ่งที่เนี่ยหลีแนะนำ
เพียงไม่กี่วันเนี่ยหลีก็พาทั้งสองเก็บเงินได้มากกว่าหนึ่งหมื่นหกพันเหรียญจิตอสูรแล้ว ตู้เจ๋อไม่เคยคิดฝันว่าตนจะมีเงินมากมายเช่นนี้ได้ เขาจึงเชื่อใจและยอมรับเนี่ยหลีเต็มที่ รู้สึกว่าเนี่ยหลีเก่งกาจนัก
“เนี่ยหลี พวกเราควรทำอย่างไรต่อไป?” ตู้เจ๋อเอ่ยถาม เพราะเนี่ยหลีเคยบอกไว้ว่าพวกเขาจะไม่ออกไปล่าแกะเขาโค้งอีก เช่นนั้นควรทำอย่างไรต่อไป?
“เดี๋ยวเลิกเรียนเ้าก็รู้เอง!” เนี่ยหลียิ้มอย่างมีลับลมคมใน เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้แล้ว ก่อนอื่นต้องไปซื้อผลึกิญญาเพื่อนำมาทดสอบคุณสมบัติทางิญญา จากนั้นจึงเริ่มการฝึกของพวกเขา
เนี่ยหลีท้าพนันกับเสิ่นซิ่วไว้ เขาต้องก้าวหน้าเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวให้ได้ภายในเวลาสองเดือน!
นอกจากการฝึกยุทธ์แล้ว สายตาของเนี่ยหลีหันไปทางเยี่ยจื่ออวิ๋นที่นั่งห่างออกไป เยี่ยจื่ออวิ๋นโดดเด่นในหมู่เด็กสาว ข้าจะเข้าใกล้เยี่ยจื่ออวิ๋นได้อย่างไรหนอ? ทำอย่างไรให้เยี่ยจื่ออวิ๋นชอบข้า?
ชั่วขณะที่เนี่ยหลีกำลังใจลอยครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เซียวหนิงเอ๋อที่นั่งอยู่แถวหน้าจู่ๆ ก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาเนี่ยหลี
เซียวหนิงเอ๋อเป็เด็กสาวเพียงคนเดียวในชั้นที่มีความงามโดดเด่นเทียบได้กับเยี่ยจื่ออวิ๋น ทุกความเคลื่อนไหวและการกระทำของเด็กสาวทั้งสองย่อมอยู่ในสายตาของทุกคนในชั้น เยี่ยจื่ออวิ๋นมีนิสัยอ่อนโยน ไม่เคยดูแคลนผู้อื่น ไม่เคยทำตัวเย่อหยิ่ง ดังนั้นเด็กสาวสามัญชนมากมายจึงยินดีที่จะเป็เพื่อนกับนาง ส่วนสำหรับเซียวหนิงเอ๋อนั้น บุคลิกของนางเ็าโดดเดี่ยว ดั่งเ้าหญิงหิมะผู้หนึ่ง
แม้แต่เด็กนักเรียนหญิงในชั้นก็ไม่อาจเข้าใกล้นางได้ อย่าว่าแต่เด็กนักเรียนชาย
หรือว่าเนี่ยหลีไปล่วงเกินอะไรเซียวหนิงเอ๋อเข้า?
“เนี่ยหลีตายแน่!” เห็นแผ่นหลังของเซียวหนิงเอ๋อ นักเรียนจากครอบครัวชั้นสูงหลายคนในชั้นเรียนเริ่มยิ้มนินทา ในสายตาของพวกมัน เซียวหนิงเอ๋อเป็ฝ่ายลุกขึ้นไปหาเนี่ยหลีเช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องมิใช่เื่ดีแน่ เดาว่าคงต้องไปหาเื่เนี่ยหลีเป็แน่ หากมิใช่ เทพธิดาหิมะเช่นเซียวหนิงเอ๋อจะมีธุระอันใดกับเนี่ยหลีได้?
หากมีเื่เช่นนี้เกิดขึ้นจริง ตะวันก็คงต้องขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว
พลังยุทธ์ของเซียวหนิงเอ๋อเข้าใกล้ระดับทองแดงหนึ่งดาวอีกแค่เอื้อม หากมีเื่บาดหมางกัน คนที่จะกลายเป็ซากขยะก็ต้องเป็เนี่ยหลี!
พวกนักเรียนจากครอบครัวชั้นสูงกำลังเฝ้ารอชมละครที่กำลังจะเริ่มขึ้น หลายคนแอบชื่นชอบเซียวหนิงเอ๋อ ไม่ว่าอย่างไร เซียวหนิ่งเอ๋อก็เป็โฉมงามที่ไม่ด้อยไปกว่าเยี่ยจื่ออวิ๋น
วันนี้เซียวหนิงเอ๋อสวมชุดลูกไม้ลายตาราง เรือนผมดำขลับของนางปล่อยประแผ่นหลัง นางสวมกำไลอยู่บนข้อมือขาวผ่องราวหยก แลดูงดงามเปี่ยมเสน่ห์เป็พิเศษ เซียวหนิงเอ๋อปกติมักสวมชุดรัดรูปเพื่อสะดวกต่อการฝึกยุทธ์ ด้วยความงามของนาง ชุดรัดรูปนั้นกลับยิ่งช่วยขับเน้นความงามให้แก่นาง ทว่าวันนี้ดูเหมือนนางจงใจแต่งตัวงดงามกว่าเดิมเป็พิเศษ เพียงชำเลืองมองคราวเดียวก็ยากที่จะถอนสายตาจากไปได้
แต่งตัวเป็พิเศษปานนี้ ดูเหมือนจะเป็ครั้งแรกสำหรับเซียวหนิงเอ๋อ
เนี่ยหลี ตู้เจ๋อและลู่เพียวกำลังสนทนากันขณะที่เซียวหนิงเอ๋อเดินมาถึงหน้าโต๊ะของเนี่ยหลี
เซียวหนิงเอ๋อดูเหมือนจะมีรัศมีกายพิเศษบางอย่างรอบตัวนาง เมื่อเดินมาถึง ตู้เจ๋อกับลู่เพียวต่างรีบลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยความตื่นตระหนกเซียวหนิงเอ๋อมักดูเ็าเฉยเมยต่อผู้อื่น ทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้ ทั้งคู่เริ่มเป็ห่วงเนี่ยหลี
เซียวหนิงเอ๋อจ้องมองเนี่ยหลีที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสบายๆ สายตาเหลือบมองไปทางเยี่ยจื่ออวิ๋นเป็พักๆ ทำให้เซียวหนิงเอ๋ออดที่จะท้อแท้มิได้ เนี่ยหลีมีแต่เยี่ยจื่ออวิ๋นอยู่ในสายตา ดูเหมือนไม่ทันรู้ตัวว่านางมายืนอยู่ใกล้ๆ แล้ว
ั้แ่เมื่อคืนนี้ หลังจากที่เนี่ยหลีนวดรักษาให้ ร่างกายของเซียวหนิงเอ๋อสบายขึ้นเป็อันมาก นางได้หลับสบายอย่างยิ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาในรุ่งเช้า เซียวหนิงเอ๋อจึงรีบไปที่ห้องสมุดแต่เช้าตรู่ นางพยายามค้นหาเคล็ดวิชาเต๋าหยิ่น แต่พบว่าในห้องสมุดมีเพียงบันทึกเคล็ดวิชาเต๋าหยิ่นไว้คร่าวๆ เท่านั้น มันเป็เคล็ดวิชาลับที่ตกทอดมาจากยุคอาณาจักรวายุเหมันต์!
ยิ่งไปกว่านั้น เคล็ดวิชาที่เนี่ยหลีช่วยแก้ไขให้ก็มีความลึกซึ้งขึ้นเป็อันมาก เมื่อเช้านี้นางฝึกพลังิญญาอยู่เพียงครึ่งชั่วยาม พลังิญญาก็เพิ่มขึ้นถึงสองจุดแล้ว ยังมากกว่าการฝึกแบบเก่าทั้งวันเสียอีก!
ในหัวใจของเซียวหนิงเอ๋อร์ เนี่ยหลีช่างลึกลับและแข็งแกร่งนัก
และสิ่งที่ทำให้เซียวหนิงเอ๋อร์รู้สึกภาคภูมิใจก็คือ นางเป็เพียงคนเดียวในชั้นนี้ที่ล่วงรู้ถึงพร์ของเนี่ยหลี! สำหรับพวกที่หัวเราะเยาะเนี่ยหลี ล้วนเป็พวกเย่อหยิ่งจองหอง!
เซียวหนิงเอ๋อร์ยืนข้างโต๊ะที่เนี่ยหลีนั่งอยู่ เฝ้ามองเนี่ยหลีผู้กำลังสรวลเสเฮฮาอยู่เงียบๆ
นักเรียนจากหลายครอบครัวต่างพากันซุบซิบเื่นี้เงียบๆ
“เ้าคิดว่าเซียวหนิงเอ๋อร์จะสั่งสอนเนี่ยหลีอย่างไรบ้าง?”
“พลังิญญาของเนี่ยหลีเพิ่งจะห้าจุด เดาว่ามันคงต้องถูกโยนออกไปนอกห้องเรียนแน่ๆ!”
“ฮ่าๆ เนี่ยหลีไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง และมันก็ต่อต้านอาจารย์เสิ่นซิ่ว ตอนนี้ยังล่วงเกินเซียวหนิงเอ๋อร์อีก ชีวิตของมันต้องย่ำแย่แน่!”
แม้แต่ตู้เจ๋อและลู่เพียวก็ยังจ้องมองเซียวหนิงเอ๋อร์ด้วยความตึงเครียด พวกเขาไม่เข้าใจว่าเด็กสาวถือตัวเช่นเซียวหนิงเอ๋อร์จะเดินมาหาพวกเขาทำไม ทั้งคู่เริ่มด่าเนี่ยหลีในใจ เนี่ยหลีหาเื่ไปทั่วอีกแล้ว! หากเซียวหนิงเอ๋อร์คิดทำร้ายเนี่ยหลี พวกมันย่อมต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เพียงแต่ต่อให้ทั้งสามร่วมมือกัน พวกมันก็คงไม่สามารถรับมือกับพลังิญญาเจ็ดสิบแปดจุดของเซียวหนิงเอ๋อร์ได้
อีกไม่นานเซียวหนิงเอ๋อร์ก็จะเลื่อนขึ้นถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว กลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรที่แท้จริงผู้หนึ่ง
เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็เยี่ยจื่ออวิ๋นหรือเสิ่นเยวี่ย ทุกคนต่างมองไปทางเนี่ยหลีเป็ตาเดียว
เยี่ยจื่ออวิ๋นก็สงสัย นางไม่ทราบว่าเนี่ยหลีไปล่วงเกินเซียวหนิงเอ๋อร์อย่างไร หรือเนี่ยหลีทำอะไรเซียวหนิงเอ๋อร์? คนเสเพลเช่นเนี่ยหลีสมควรได้รับบทเรียนเสียบ้างจริงๆ!
สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความสงสัย
เห็นเซียวหนิงเอ๋อร์กำลังยืนอยู่ข้างโต๊ะด้วยท่วงท่างดงาม เนี่ยหลีก็อดสงสัยไม่ได้ เขาเงยหน้าขึ้นมองและถาม “มีเื่อะไรหรือ?” อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เนี่ยหลีไม่ทราบจะเรียกเซียวหนิงเอ๋อร์อย่างไรดี และพอเริ่มคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่บ้าง
เมื่อได้รู้จักเซียวหนิงเอ๋อร์เข้าจริงๆ เนี่ยหลีพบว่าเซียวหนิงเอ๋อร์ไม่ได้เ็าเย่อหยิ่งดังที่นางมักแสดงออก ความจริงแล้วเซียวหนิงเอ๋อร์เป็เด็กสาวที่อ่อนโยนน่ารักผู้หนึ่งทีเดียว!
เซียวหนิงเอ๋อร์ยื่นมือขวาออกไปและหยิบเอาถุงกระดาษออกมาจากแหวนมิติ นางเอ่ยเบาๆ “นี่เป็อาหารเช้าที่ข้าปรุง ข้าไม่รู้ว่าเ้าชอบกินอะไรบ้าง ดังนั้นจึงทำมาหลายอย่าง” เซียวหนิงเอ๋อร์วางถุงกระดาษลงบนโต๊ะเบาๆ
อะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น?
ทั้งห้องเงียบกริบ หากมีเข็มตกลงพื้นสักเล่มก็คงได้ยินชัดเจน ทุกคนต่างคิดว่าตนฟังผิดแล้ว
ตู้เจ๋อกับลู่เพียวปากอ้าตาค้างมองภาพฉากตรงหน้าอย่างเซ่อซ่า ปากกว้างจนแทบยัดไข่เข้าไปได้สักใบแล้ว พวกเขาไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง เซียวหนิงเอ๋อร์เป็หนึ่งในสองเทพธิดาประจำชั้นเรียน ต่อให้ทอดตาทั่วโรงเรียนเซิ่งหลัน เกรงว่าก็ยังเป็หนึ่งในสิบสตรีผู้มีรูปโฉมงดงามที่สุด และปกติเซียวหนิงเอ๋อร์มีนิสัยเ็า ค่อนข้างแปลกคน แต่มาวันนี้ พวกเขาเป็อีกอย่าง เซียวหนิงเอ๋อร์ทำอาหารเช้ามาให้เนี่ยหลี และยังมีตั้งหลายอย่าง
หรือตะวันจะขึ้นทางทิศตะวันตกเสียแล้วจริงๆ? นี่เป็เื่จริงรึ? ทุกคนรู้สึกราวกับถูกฟ้าฟาด
“ข้าคงกำลังฝันไปแน่ๆ ข้าต้องรีบกลับไปนอนสักตื่นแล้วค่อยกลับมาพูดใหม่!” นักเรียนคนหนึ่งพึมพำ
“ซี๊ด!” นักเรียนหลายคนคิดว่าพวกเขากำลังฝันไป จึงหยิกตัวเองสักทีหนึ่ง ความเจ็บจี๊ดบอกพวกเขาว่าตนมิได้ฝันไป
“นี่ไม่สมเหตุผลเอาเสียเลย!” นักเรียนจากครอบครัวชั้นสูงหลายคนคร่ำครวญในใจ พวกเขายังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ชุดที่เซียวหนิงเอ๋อร์สวมใส่วันนี้แฝงความอ่อนโยนที่ทำให้พวกเขาไม่อยากเชื่อ ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าเทพธิดาเซียวหนิงเอ๋อร์จะไปหาเื่เนี่ยหลี คิดไม่ถึงกลับกลายเป็การส่งอาหารเช้าให้เนี่ยหลีเสียอย่างนั้น
หากเซียวหนิงเอ๋อร์ส่งอาหารเช้าให้พวกเขาบ้าง ต่อให้เป็อาหารหมู พวกเขาก็ยังจะเห็นเป็อาหารอันหอมหวนโอชารสแล้ว
เซียวหนิงเอ๋อร์ปกติไม่ค่อยมีเพื่อนหญิง นางยังเกียจคร้านเกินกว่าจะสนใจเด็กหนุ่มคนอื่นๆ นี่กลับมาสนใจเ้าขยะเช่นเนี่ยหลีผู้นี้ ยังลดตัวลงมาส่งอาหารเช้าให้เนี่ยหลี นี่... นี่... ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี! หรือเป็เพราะเนี่ยหลีมีข้อขัดแย้งกับอาจารย์เสิ่นซิ่วหรือ? หากเป็เพราะเหตุนี้ ต่อให้ถูกทำโทษยืนไปสักหลายปี พวกมันก็อยากจะมีปัญหากับอาจารย์เสิ่นซิ่วเช่นกัน
เซียวหนิงเอ๋อร์ไม่ได้คิดมากมายปานนั้น นางเพียง้าแสดงความขอบคุณต่อเนี่ยหลี นางไม่สนใจว่าผู้อื่นจะคิดกับนางเช่นไร ไม่ว่ายังไงนางก็เป็หมาป่าโดดเดี่ยวผู้หนึ่งอยู่วันยังค่ำ เซียวหนิงเอ๋อร์จึงไม่สนใจความคิดของผู้อื่น พวกที่เยาะเย้ยดูแคลนเนี่ยหลีล้วนเป็พวกจองหอง ต้องมีสักวันหนึ่งที่พวกมันจะได้ตระหนักว่าสายตาของตนไม่รู้จักหยกเลี่ยมทอง
ในโลกใบนี้ มีเพียงนางผู้เดียวที่ล่วงรู้ถึงพร์ของเนี่ยหลี!
ขณะนี้ แม้แต่เยี่ยจื่ออวิ๋นและเสิ่นเยวี่ยก็รู้สึกเหมือนตนนั่งอยู่กลางหมอกหนา ไม่อยากเชื่อ ผลลัพธ์เช่นนี้ช่างเกินความคาดหมายของทั้งสองคนเสียจริง!
“เกิดบ้าอะไรกัน?” เสิ่นเยวี่ยสีหน้าอึมครึม “เด็กสาวถือตัวเช่นเซียวหนิงเอ๋อร์เหตุใดจึงสนใจขยะเช่นเนี่ยหลีได้ และยังเป็ฝ่ายเข้าไปตีสนิทกับมันอีก?”
เวลานี้เยี่ยจื่ออวิ๋นก็กำลังสงสัยเนี่ยหลีอย่างยิ่ง เยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อร์เคยเป็เพื่อนสนิทกันเมื่อครั้งยังเด็ก ต่อมา ครอบครัวของเซียวหนิงเอ๋อร์นับวันยิ่งตกต่ำ สองคนเพราะสภาพครอบครัวจึงมิได้ติดต่อกันอีก ั้แ่นั้นมา เยี่ยจื่ออวิ๋นไม่เคยมีเพื่อนที่จริงใจต่อกันอีกเลย ดังนั้นนับวันเยี่ยจื่ออวิ๋นก็ยิ่งคิดถึงวันเวลาที่เคยเล่นสนุกกับเซียวหนิงเอ๋อร์ เมื่อนางรู้ว่าเซียวหนิงเอ๋อร์สมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนเซิ่งหลัน เยี่ยจื่ออวิ๋นจึงขอบิดาของนางเข้าโรงเรียนเซิ่งหลันด้วยเช่นกัน
เพราะเซียวหนิงเอ๋อร์ เยี่ยจื่ออวิ๋นจึงเริ่มสนใจเนี่ยหลี สิ่งใดเป็เหตุผลให้เซียวหนิงเอ๋อร์กลายเป็ฝ่ายเริ่มไล่ตามเด็กหนุ่มที่ไม่มีอะไรดีเช่นเนี่ยหลีเล่า? นี่เป็สิ่งที่ยากจะเข้าใจ ความเคลื่อนไหวของเซียวหนิงเอ๋อร์ ที่แท้มีจุดมุ่งหมายอันใด
“ให้ข้านั่งกินอาหารกับเ้าด้วยคนจะได้หรือไม่?” เซียวหนิงเอ๋อร์มองเนี่ยหลีแล้วก็หันไปมองตู้เจ๋อกับลู่เพียวขณะเอ่ยถาม
สายตาของตู้เจ๋อกับลู่เพียวหล่นลงมาที่เนี่ยหลี แม้ทั้งสองไม่กล้าคิดอะไรกับเซียวหนิงเอ๋อร์ แต่การมีสาวงามเช่นเซียวหนิงเอ๋อร์มานั่งข้างๆ ยังคงดีต่อสายตายิ่ง
เนี่ยหลีนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาพยักหน้าตอบ “เอาสิ” ไม่รู้ทำไม พอเห็นเซียวหนิงเอ๋อร์ เนี่ยหลีก็อดคิดถึงภาพฉากเมื่อคืนมิได้ คิดถึงเงาร่างอ้อนแอ้นขาวผ่องของเซียวหนิงเอ๋อร์ ในใจจึงรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง
เซียวหนิงเอ๋อร์นำอาหารออกมา ข้างในเต็มไปด้วยขนมเปี๊ยะหลากหลายชนิด เห็นขนมเ่าั้ ผู้คนก็น้ำลายสอขึ้นมาทันที กลิ่นหอมลอยอบอวลไปทั่วทุกมุมห้อง
“ตู้เจ๋อ ลู่เพียว พวกเ้าก็มากินด้วยกันสิ!” เซียวหนิงเอ๋อร์หันไปมองตู้เจ๋อกับลู่เพียวและพูด
เทพธิดาเซียวหนิงเอ๋อร์จดจำชื่อของพวกเขาได้ นี่ทำให้พวกเขาดีใจยิ่ง เทพธิดาหิมะหนิงเอ๋อร์ดูไม่อยากที่จะคบหาด้วยดังผู้อื่นกล่าวขานเลย
“พวกเรามีลาภปากเพราะเนี่ยหลีแล้ว!” ลู่เพียวหัวเราะขณะหยิบเอาขนมเปี๊ยะชิ้นหนึ่งขึ้นมากิน ในปากเต็มไปด้วยอาหาร เขาพึมพำ “อร่อย!”
เห็นการกระทำของลู่เพียว ตู้เจ๋อชักจะพูดไม่ออกแล้ว
เซียวหนิงเอ๋อร์อดยิ้มออกมาไม่ได้ รอยยิ้มของนางทั้งเปี่ยมเสน่ห์ทั้งชวนมอง ทำให้บรรดานักเรียนในห้องจ้องมองอย่างแปกใจ พวกเขาไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มของเซียวหนิงเอ๋อร์ โลกทั้งใบจึงแทบพังทลายลงมาทีเดียว
เนี่ยหลีทอดถอนใจด้วยความปั่นป่วน เขาเคยร่วมเป็ร่วมตายกับเยี่ยจื่ออวิ๋นในชาติที่แล้ว สิ่งที่ประสบนับว่ามากมายเกินไป ดังนั้นเซียวหนิงเอ๋อร์กับเขาจึงเป็ได้แค่เพื่อนกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้