หยวนเป่าร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสารแต่เด็กน้อยกลับไม่ยอมให้คนเฝ้าประตูตัวอ้วนดูาแ หากคนเฝ้าประตูอีกคนไม่เข้ามาแล้วเขาจะใช้แผนนี้ได้อย่างไร? ดังนั้นหยวนเป่าจึงเอามือประสานไว้ด้านหลังและยังคงส่งเสียงร้องไม่หยุดอยู่ เขาร้องราวกับคนใจแหลกสลาย
คนเฝ้าประตูอ้วนดูวิตกกังวลและร้อนรนยิ่งนักเพราะเด็กตรงหน้าไม่ยอมให้เขาเข้าไปใกล้
“หลี่ซาน มานี่เร็ว เด็กน้อยคนนี้ถูกงูกัด หากเกิดเื่พวกเราต้องโดนลงโทษแน่”
คนเฝ้าประตูตัวอ้วนะโใส่ชายร่างผอมที่อยู่หน้าประตู
“เ้าอ้วน ระวังอาจเป็อุบาย”
ชายร่างผอมกล่าว
“เ้าประสาทหรือ เด็กเล็กเช่นนี้ จะไปมีเล่ห์อุบายอันใดเล่า? ตอนนี้เขาไม่ยอมให้เข้าใกล้เลย หากถูกงูกัดจริงและได้รับพิษจะทำอย่างไรเล่า?”
ชายร่างผอมขมวดคิ้ว พลางยกเท้าก้าวเข้าไปในห้องเก็บฟืน ชายคนนี้ดูโเี้ เขามีใบหน้าที่ดุร้าย
“หนูน้อย ไหนดูสิ ถูกงูกัดตรงไหน?”
เขาถามด้วยความเ็า
น้ำเสียงนี้ หากเป็เด็กทั่วไปก็คงจะถูกทำให้ใแล้ว
ในทางกลับกันหยวนเป่าที่กำลังร้องไห้อยู่ ดวงตาคู่เล็กถูกเคลือบด้วยความหวาดกลัว ร่างเล็กของเขาสั่นสะท้าน เมื่อมองแล้วก็นับว่าเป็ภาพของเด็กที่หวาดกลัวอย่างสมบูรณ์ แต่แท้จริงแล้วเ้าตัวเล็กนี้กลัวที่ใดกันเล่า?
“หลี่ซาน ทำให้มันดีๆ หน่อย เ้ากำลังทำให้เด็กคนนี้หวาดกลัวอยู่นะ”
คนเฝ้าประตูตัวอ้วนพูด
ชายร่างผอมที่ชื่อหลี่ซานกลอกตาและชักสีหน้าอย่างซังกะตาย “ไอ้หนู ขอดูหน่อยว่างูกัดเ้าตรงไหน? อีกประเดี๋ยวข้าจะพาเ้าไปหาท่านแม่...”
หยวนเป่ายื่นมือออกมาอย่างสั่นเทา
มีรอยกัดเล็กๆ อยู่บนนั้น อีกทั้งยังมีเืไหลซึม าแมีสีม่วงเข้มอย่างชัดเจนซึ่งเป็สัญลักษณ์ของการถูกพิษ
ในยามนั้นชายร่างผอมบางใเข้าแล้วเช่นกัน เพราะหยวนเป่าถูกงูกัดจริงๆ
อีกคนแล่นถลาเข้ามาดูอย่างรวดเร็ว “ขอข้าดูหน่อย”
ชายอ้วนก็รีบขึ้นวิ่งเข้ามาเช่นกัน ทั้งสองประคองมือเล็กของหยวนเป่าขึ้นมาดู
ในยามนั้นเอง หยวนเป่าพลันสะบัดนิ้วของเขา หยดเืที่เล็กราวลูกปัดสีโลหิตพลันกระเด็นจากปลายนิ้วเข้าใส่ใบหน้าของผู้คุ้มร่างผอมและอ้วนทั้งสองคนทันที
“อา...”
“หน้าข้า...”
เสียงกรีดร้องของทั้งสองดังขึ้นพร้อมกันทันที ทั้งคู่รู้สึกถึงความเจ็บแปลบ มือสองคู่ถูกยกขึ้นปิดหน้า ก่อนจะล้มลงกลิ้งกับพื้น สักพักใบหน้าของพวกเขาก็บวมราวกับหัวหมู
"ไอ้หนูตัวแสบ วางอุบายทำร้ายผู้ใหญ่ ข้าจะตีเ้าให้ตาย"
ชายร่างผอมมีใบหน้าที่ชั่วร้าย หรี่ตาและดุด่า หน้าของเขาบวมจนเหลือเพียงตาเป็เส้นขีดเดียว
แต่ไม่นานนักเขาก็หมดเรี่ยวแรงและล้มตัวลงนอนบนพื้น หอบหายใจด้วยหัวที่บวมเป็หมู
ในยามนั้น สายตาของทั้งสองคนจดจ้องไปที่หยวนเป่า ยังจะมีท่าทีร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นานนมนั้นได้อย่างไร ตุ๊กตาตัวน้อยที่ยืนอยู่ตรงนั้น ในขณะนั้นร่างน้อยยืนตรงด้านที่ย้อนแสง ดวงตาที่เห็นได้ว่ามันทั้งเฉยชาและเย็นเฉียบ มองออกเลยว่าเมื่อเขาโตขึ้นจะเป็ผู้ใหญ่เช่นไร
"ช่วย ช่วยด้วย...! "
คนเฝ้าประตูตัวอ้วนเฝ้าอ้อนวอนและขอให้เด็กน้อยยกโทษให้อย่างอ่อนแรง
หยวนเป่ามองดูทั้งสองคน เขาไม่ได้้าทำร้ายสองคนนั้นจริงๆ เขาแค่้าตามหาท่านแม่ แต่เขานั้นอ่อนแอและถูกเฝ้าด้วยผู้ใหญ่สองคน และนั่นทำให้เขาหนีไปไหนไม่ได้
เืของเขาเป็พิษ หากััเพียงเล็กน้อย สถานเบาที่สุดคือถูกวางยาพิษ หากรุนแรงกว่านั้นก็อาจจะตายได้
คนเฝ้าประตูสองคนนี้โดยแค่สถานเบา
“ข้าถามเ้าสองคำถาม ถ้าเ้าตอบตามความจริง ข้าจะให้ยาถอนพิษแก่เ้า แต่หากเ้ากล้าหลอกข้า ข้าจะปล่อยให้เ้าตายด้วยพิษอยู่ตรงนี้”
หยวนเป่ากล่าวอย่างเ็า
คนเฝ้าประตูทั้งสองพยักหน้าอย่างจริงจัง
หยวนเป่าเม้มปาก “นี่คือจวนขององค์ไท่จื่อหรือ? ท่านแม่ของข้าก็ถูกพวกเ้าจับมาด้วยหรือ? ”
ทันทีที่สิ้นเสียง คนเฝ้าประตูตัวอ้วนก็ะโขึ้นมาก่อน
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณชายน้อยพวกเราไม่รู้จริงๆ พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเ้าเป็ใคร ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย ข้ามีทั้งคนแก่และเด็กน้อยที่จำต้องดูแลอยู่ ฮือๆๆ...”
ที่จริงแล้วหยวนเป่านั้นแทบจะอดทนเอาไว้ไม่ไหวแล้ว คนเฝ้าประตูตัวอ้วนคนนี้ค่อนข้างดี เมื่อดูจากลักษณะของเขาแล้วก็รู้ว่าเขาพูดความจริง
"ที่นี่คือจวนขององค์ไท่จื่อใช่หรือไม่? ตอบ"
หยวนเป่าเดินเข้าไปหาชายร่างผอมแล้วเตะเขา เดิมทีชายร่างผอมนั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะจับหยวนเป่า แต่ตอนนี้เขากลับไม่สามารถแม้แต่จะยกแขนขาขึ้นได้ เขาถูกหยวนเป่าเอ่ยเรียก เป็นานกว่าจะเปิดปากกล่าว "ใช่"
หลังจากได้รับคำตอบยืนยัน หยวนเป่าก็หยิบขวดยาเล็กๆ ออกมาจากอกของเขา เทยาสองเม็ดออกมาและป้อนเข้าไปในปากของคนเฝ้าประตูทั้งสอง
ั้แ่เด็กจนโต เขาได้ระลึกถึงและจดจำคำสอนของท่านแม่เสมอว่าจะไม่ปล่อยผ่านใครก็ตามที่รังแกเขา แต่เขาต้องไม่รังแกผู้อื่นตามอำเภอใจเช่นเดียวกัน และต้องไม่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจด้วย
"ยาเม็ดนี้สามารถรักษาพิษที่เ้าได้รับ หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเ้าจะสามารถขยับตัวได้ แต่อาการบวมบนใบหน้านั้นจะหายไปในวันพรุ่งนี้"
หลังจากพูดจบ ก็ยกเท้าเดินออกจากห้องเก็บฟืนทันที
เหลือทิ้งไว้เพียงคนเฝ้าประตูสองคนที่มีหัวบวมเหมือนหมูนอนอยู่ที่นั่นและไม่สามารถขยับได้
“เป็เพราะเ้านั่นแหละ ข้าบอกแล้วว่าอย่าเข้าไปในนั้น แต่เ้าก็ยังดื้อจะเข้าไปให้ได้ เดินไปเข้าแผนที่เด็กคนนั้นวางไว้พอดี”
คนเฝ้าประตูร่างผอมบ่น และโทษความผิดให้อีกคน
“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กคนนั้นแค่เสแสร้งแกล้งทำ ยังเด็กยังเล็กแท้ๆ เหตุใดถึงแสดงได้เก่งขนาดนั้น? ”
คนเฝ้าประตูตัวอ้วนโต้กลับ
“อย่างไรก็เป็ความผิดของเ้าทั้งหมดอยู่ดี”
“เื่นี้เกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ? ” คนเฝ้าประตูตัวอ้วนพึมพำ
“มันเป็ความผิดของเ้า ดูคำพูดที่เ้ากล่าวเมื่อครู่สิ ช่างขี้ขลาดเหลือเกิน ยังมีทั้งคนแก่และเด็กที่ต้องดูแล เ้ามันตาแก่ไร้คู่ คนแก่และเด็กมาได้อย่างไร? ”
“หึ เ้าคนไม่ขี้ขลาด แค่เด็กน้อยถามเ้าว่าที่นี่คือจวนไท่จื่อหรือเปล่า เ้าก็รีบบอกอย่างรวดเร็วเชียว”
“หุบปาก...”
“ไม่หุบ...”
เมื่ออั้นจิ่วมาถึง สิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าคือภาพภาพนั้น
ภายในห้องเก็บฟืน คนเฝ้าประตูสองคนมีหัวเหมือนหมูสีอมเขียว ทั้งสองคนนอนอยู่บนพื้นและไม่อาจขยับตัวได้ แต่กลับกำลังทะเลาะพ่นคำด่าทอต่อกัน มองไปทางไหนก็ไม่พบเงาของเด็กน้อยเลย
ใบหน้าของอั้นจิ่วมืดครึ้มในทันที คำพูดของฮวาเหยียนแวบเข้ามาในหัวของเขา
"เกิดอะไรขึ้น? "
เขาเสียงดังด้วยความโกรธเกรี้ยว!!!
"ท่านอั้นจิ่ว เื่มันเป็เช่นนี้ขอรับ...! "
---
ทางด้านลานมืด ตี้หลิงหานปล่อยมือจากคอของฮวาเหยียนแล้วโยนนางทิ้งไปอีกด้านหนึ่ง รอผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาพาหยวนเป่าเข้ามา
ฮวาเหยียนไม่สนใจเขา นางหันหนี สมองก็คิดหาวิธี
อีกประเดี๋ยวหยวนเป่าจะมาแล้ว นางจะไปเอายาถอนพิษมาจากที่ใด?
ในยามนั้น ผู้ใต้บังคับบัญชาของตี้หลิงหาน อั้นจิ่วก็รีบร้อนเข้ามา "นายท่าน เกิดเื่แล้วขอรับ"
ยามที่พูดคำมาถึงตรงนี้ สายตาของตี้หลิงหานก็จับจ้องไปที่ฮวาเหยียน
คิ้วของฮวาเหยียนขยับ ในใจของนางครุ่นคิดไปสารพัด
"มีเื่อันใด? "
ตี้หลิงหานถาม
อั้นจิ่วเหลือบมองไปที่ฮวาเหยียน ท่าทีอึกอักเหมือนลังเลที่จะกล่าวออกไป ตี้หลิงหานขมวดคิ้ว “พูด”
“เด็กคนนั้นวางยาพิษคนเฝ้าประตู ตอนนี้หายไปไม่พบตัวแล้วขอรับ”
“ไม่พบ? ไม่พบตัวแล้ว หมายความว่าเช่นไร”
ตี้หลิงหานถาม
“นายท่านโปรดอภัย เด็กคนนั้นหนีไปแล้ว…”
อั้นจิ่วคุกเข่าลงเบื้องหน้าทันที
บรรยากาศรอบตัวของตี้หลิงหานเย็นเฉียบอย่างหาที่เปรียบมิได้ ตามมาด้วยความเยือกเย็นอย่างสุดขั้ว ความโมโหโกรธาแผ่ซ่านทั่วทุกอณู เขาเปิดปากพูดว่า "จวนไท่จื่อที่ใหญ่โตมโหฬาร แค่เด็กสี่ห้าขวบคนเดียวกลับปล่อยให้คลาดสายตาไปได้"
“ฝ่าา ข้าน้อยทราบความผิดแล้วขอรับ ข้าน้อยเพียงแค่ส่งคนเฝ้าประตูสองคนไปเฝ้าเด็กน้อยนั้น ไม่คิดว่า... เป็ข้าน้อยเองที่ประเมินเด็กนั่นต่ำเกินไป ฝ่าาได้โปรดลงโทษด้วยขอรับ”
อั้นจิ่วยอมรับความผิดพลาดของตน
“สมควรได้รับโทษจริงๆ ”
สายตาของตี้หลิงหานเย็นเฉียบไปถึงกระดูก "ไปที่โถงมืดเพื่อรับการลงโทษเสีย"
ร่างกายของอั้นจิ่วแข็งทื่อ เขาก้มหัวลง "ขอรับ"
“นี่ รออีกเดี๋ยวค่อยลงโทษเขาก็ได้เพคะ เพราะอีกไม่นานจะมีคนถูกลงโทษเพิ่มขึ้นอีก ค่อยรอรวมทีเดียวพร้อมกัน”
ทันใดนั้นฮวาเหยียนเปิดปากพูด...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้