เมิงหวงเฉาหายไปประมาณสิบกว่านาที และก็กลับมาที่ข้างกายเจียงไป๋แล้ว นอกจากเรียกให้เสิร์ฟอาหาร ก็ช่วยแนะนำคนพวกนี้ให้เจียงไป๋อีก
ก็เป็อย่างที่เจียงไป๋คิด คนที่มั่วสุมอยู่กับเมิงหวงเฉา ไม่มีใครง่ายดายสักคน เื้ัของแต่ละคนล้วนน่าใมาก และพัวพันกับทุกๆ ระดับชั้นของเมืองหลิงเฉวียน ช่างน่าใมาก
แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับเมิงหวงเฉาแล้ว เ้าพวกนี้ก็เป็แค่ลิ่วล้อ และก่อเื่อยู่ในหลิงเฉวียนกับเมิงหวงเฉาเท่านั้น ถ้าไปที่ตี้ตูจริงๆ คนพวกนี้ก็น่าจะออกหน้าออกตาไม่ได้แล้ว
และก็ใช้เวลาเพิ่มอีกสิบกว่านาที ของเตรียมครบถ้วนแล้ว อาหารที่เพียบพร้อมหนึ่งโต๊ะวางอยู่ตรงหน้าของเจียงไป๋
เจียงไป๋กลับไม่เกรงใจ และก็ทานไปแล้ว คนข้างๆ กลับแสดงอาการอย่างหมดสนุก ถึงแม้ยังคงใจจดใจจ่อมาก แต่ั้แ่ต้นจนจบกลับไม่ปริปากกันเท่าไร
สิ่งเหล่านี้แน่นอนว่าอยู่ในสายตาเจียงไป๋ แต่เขากลับไม่ใส่ใจ
แอบใช้แต้มบารมีสิบแต้มให้ระบบสแกนแล้วหนึ่งรอบ ในนี้ก็เป็อย่างที่เจียงไป๋คิดไว้พอดี เมิงหวงเฉาวางยา แต่ไม่ได้อยู่ในอาหาร แต่อยู่ในน้ำที่เจียงไป๋ดื่ม และก็ไม่ถึงชีวิต ก็แค่หลังจากที่ดื่มไปแล้ว มือเท้าก็จะไร้เรี่ยวแรง และเป็ยาประเภทเดียวกับยาสลบ
ใช้แต้มบารมีไปยี่สิบแต้มแล้ว เจียงไป๋ก็แก้ไขความลำบากนี้ไปได้
ด้วยเหตุนี้จึงไม่เปิดโปง ก็แค่อยากจะดูว่าเมิงหวงเฉายังจะมีลูกไม้อะไรอีก
เขาไม่ได้แค่วางยาแล้วก็จบเื่แน่นอน หากเป็เช่นนี้ เมิงหวงเฉาสู้วางยาพิษไปก็จบเื่
และก็เป็อย่างที่คาดไว้จริงๆ สองสามนาทีต่อมา ตอนที่เจียงไป๋กำลังทานอย่างหนำใจ ไกลออกไปมีรถขับมาหลายคัน มีรถสีต่างๆ ยี่สิบกว่าคัน ไม่ว่ารุ่นไหนก็มีหมด จอดอยู่ที่ลานของภัตตาคารแห่งนี้
“แอ๊ด แอ๊ด แอ๊ด … ”
เสียงเปิดประตูดังขึ้น มีคนลงมาจากรถเจ็ดสิบถึงแปดสิบคนทั้งหมดล้วนพกอาวุธ แต่ละอย่างราวกับผีห่าซาตาน และเดินเข้ามาโดยการนำของผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
ไม่ใช่แค่นี้ หลังจากที่คนพวกนี้ลงมาแล้ว ไกลออกไปรถทหารสองคันก็แล่นมาในเวลาเดียวกัน บนรถออฟโรดสองคันมีชายร่างกำยำลงมาจากรถแปดคน แต่ละคนร่างกายสูงใหญ่ และกระฉับกระเฉง แค่ดูก็รู้ว่าไม่ไช่คนดี
ถึงแม้จะมีแค่แปดคน แต่ละคนก็ล้วนไม่ง่ายเลย
ด้วยสายตาของเจียงไป๋แล้ว แปดคนนี้สามารถจัดการคนเจ็ดสิบแปดสิบคนของเ้าเมิงหวงเฉาได้อย่างสบาย และไม่มีปัญหาแม้แต่น้อย
แปดคนนี้ลงจากรถมา และก็ไม่ได้เดินเข้ามาเหมือนคนกลุ่มนั้น แต่ละคนยืนกันอย่างสบายอยู่ตรงนั้น บางคนพิงรถ บางคนก็หาที่นั่ง บางคนก็สนใจแต่จะวอร์มร่างกาย แต่กลับล้อมรอบอยู่ที่รถสองคันนี้ และไม่ขยับไปไหน
“นายหามาหรือ?”
เจียงไป๋มองเมิงหวงเฉาที่อยู่ตรงข้ามอย่างหยอกเย้า และพูดอย่างไม่ใส่ใจ
ทำให้เมิงหวงเฉาใจนพุ่งตัวถอยออกไปไกลหลายเมตร พอเห็นชายชุดดำที่อยู่ด้านหลังกลุ่มนั้นมาถึงข้างกายตนเอง จึงประคองตนอย่างมั่นคง และแสยะยิ้ม เขามองเจียงไป๋พลางพูดว่า “ฉันรู้ว่านายเก่ง คนที่มากับจ้าวอู๋จี๋ก็ไม่ได้ง่ายดาย ฉันยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ฉันดูถูกนายไปหน่อย แต่ครั้งนี้ไม่หรอก เมื่อครู่ในของที่นายดื่มไป ฉันใส่ของลงไปนิดหน่อย วางใจไม่ใช่ยาพิษ ก็แค่ทำให้มือเท้านายไร้เรี่ยวแรงเท่านั้น ที่นี่มีคนเจ็ดสิบถึงแปดสิบคน ฉันจะคอยดูว่านายจะเก่งแค่ไหน หากรู้ตัว ตอนนี้ก็คุกเข่าขอร้องซะ ฉันยังจะพอปล่อยนายไปได้ ไม่อย่างนั้นนายก็อย่ามาว่าฉันไม่เกรงใจล่ะ”
“แค่พวกเศษเดนพวกนี้?”
เจียงไป๋ยืนขึ้น และยืดเส้นยืดสาย หลังจากนั้นก็มองตัวเอง ทั้งตัวเหมือนกับว่าไม่มีของอะไรที่มีค่า และชี้พวกชายชุดดำพลางพูดดูถูก
“คุณชายเมิง เป็คนนี้ใช่ไหม?”
ชายวัยกลางคนที่นำทีมเดินเข้ามาที่ข้างกายของเมิงหวงเฉาพูดด้วยใบหน้าที่เอาอกเอาใจ
เขาคือบุคคลเทาๆ คนหนึ่งมีอำนาจในท้องที่มาก เมิงหวงเฉามักจะเที่ยวเล่นอยู่ด้านนอก ผับหนึ่งในนี้ก็เป็เขาที่เปิด ในบางโอกาส หลังจากที่รู้ถึงฐานะของเ้าเมิงหวงเฉาคนนี้แล้ว ก็จะใมากและเอาอกเอาใจเขาอย่างเต็มที่ เสียดายที่เมิงหวงเฉาไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา และก็ไม่สนใจเท่าไร
เดิมทีเขาคิดว่าหมดหวังที่จะประจบแล้ว แต่วันนี้จู่ๆ คุณชายเมิงก็โทรศัพท์มาหาให้เขาหาคนให้สักหน่อย และมาสั่งสอนไอ้คนมีตาหามีแววไม่ เขาก็ฮึกเหิมขึ้นมาทันที
เื่อย่างนี้เขาชำนาญเหลือเกิน ถึงแม้คุณชายเมิงจะพูดแล้วว่า อีกฝ่ายเหมือนจะสู้เก่งมาก โดยเฉพาะในเทียนตูก็มีเื้ัที่ไม่ค่อยสะอาด แต่เขากลับไม่ใส่ใจ
ล้อเล่นน่า สู้เก่งแล้วจะทำไม?
เรียกคนมามากหน่อยก็ได้แล้ว!
สำหรับที่บอกว่าทางเทียนตูมีเื้ัที่ไม่สะอาด?
นั่นก็มีอะไรต้องกลัว?
พูดอย่างกับว่าเบื้องลึกของใครสะอาดกันบ้าง ก็แค่ประจบคุณชายเมิงได้ ถึงจะมีเื้ัแล้วจะทำไม?
ดังนั้นเขาแค่จะคิดสักหน่อยก็ไม่คิด และก็พาทุกคนที่เขาพอจะรวบรวมได้มาให้ครบอย่างรวดเร็วที่สุด และก็รีบพุ่งมาแล้ว เพื่อจะได้เหลือความประทับใจดีๆ ไว้ให้คุณชายเมิง และตั้งใจประจบคุณชายเมิงสักหน่อย
แต่เขาก็ลืมไปเลยว่า ในเมื่อคุณชายเมิงเก่งกาจขนาดนั้น อีกฝ่ายก็ล้วนไม่กลัว และยัง้าให้เขาใช้วิธีการที่ไม่โจ่งแจ้งพวกนี้ อีกฝ่ายจะจัดการได้ง่ายเสียที่ไหนกัน?
แต่ตอนนี้ก็ถูกผลประโยชน์ทำให้ตาพร่าแล้ว กลับไม่คิดถึงจุดนี้เลยด้วยซ้ำ เวลานี้คนคนนี้ในหัวมีความคิดเพียงอย่างเดียวคือ ประจบประแจงคุณชายเมิง และเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็วได้
“ลงมือ!” เมิงหวงเฉาถอนหายใจอย่างเยือกเย็น เขาโบกมือพลางพูด
หลังจากนั้นชายชุดดำหลายสิบคนก็พุ่งตรงไปที่เจียงไป๋ ส่วนเมิงหวงเฉาก็ล่าถอยออกไป และพาคนพวกนั้นของตนเองถอยหลังไปแล้ว
ถึงแม้จะทำการเตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่เมิงหวงเฉาก็ยังคงไม่วางใจอยู่บ้าง ดังนั้นจึงกุเื่โกหก หลอกคุณลุงท่านหนึ่ง หาทหารที่มีฝีมือที่แท้จริงมาแปดคน และซื้อประกันชั้นสามให้ตนเอง
นี่จึงจะเป็ประกันที่แท้จริงของเขา และเป็ไม้ตายสุดท้าย
“พวกนายว่า คนพวกนี้จะไหวไหม?”
พันตรีที่รูปร่างสัดส่วนดี เรียวบางคนหนึ่ง มองเพื่อนที่อยู่ข้างกายตัวเองแวบหนึ่ง และก็พูดอย่างยิ้มแย้ม ตอนที่พูดก็ถอดแว่นตาดำของตัวเองออก และเผยใบหน้าที่งดงามเสียจนไม่เข้ากับฐานะของตัวเอง
ใช่ งดงาม … งดงามราวกับเด็กสาว และเป็ใบหน้าที่ไม่ควรจะปรากฏอยู่บนตัวของผู้ชายได้
“ผมว่าผู้กอง คุณอย่าล้อเล่นเลย คนเจ็ดสิบแปดสิบคน แต่ละคนล้วนพกอาวุธ ถึงจะเป็ยอดฝีมือก็รับมือได้ยาก พูดจริงๆ ให้ผมเข้าไปคนเดียวก็ไหว นอกจากว่าผมจะไปกับเ้าหัวค้อน แน่นอนว่าหากให้ลงมือฆ่า หากไม่จำกัดน้ำหนักมือ ผมคนเดียวก็จัดการได้ อย่าเห็นว่าคนพวกนี้อวดเก่ง ก็ล้วนเป็แค่พวกแข็งนอกอ่อนใน หากเอาให้ถึงตายไปสองสามคน คนอื่นๆ ก็ต้องหนีกระเจิดกระเจิง พูดไปพูดมาแล้ว เมิงหวงเฉาคนนี้จะพยายามมากขนาดนี้ทำไม และเรียกตัวพวกเรามาใน่ที่จะถือโอกาสมาฝึกทหารในหลิงเฉวียน คนพวกนี้ผมคิดว่าก็น่าจะพอแล้วนะ”
ชายร่างกายกำยำที่สุดคนหนึ่งหัวเราะ และพูดอย่างไม่สนใจ เขามองมาทางเจียงไป๋อย่างน่าสนใจ และเที่ยววิพากษ์วิจารณ์คนชุดดำพวกนั้น
“แบบนั้นก็ไม่น่าดูแล้ว?” พันตรีหัวเราะและพูดกับชายร่างกำยำ
“ดูไม่ออก ยังไม่ลงมือ ใครๆ ก็ดูไม่แม่น แต่ฉันคิดว่า ในเมื่อให้พวกเรามาแล้ว ก็น่าจะไม่ง่าย ไม่ใช่ว่าบอกแล้วหรือว่า เป็บุคคลที่เก่งกาจ ได้ยินว่าเมิงหวงเฉาเสียเปรียบให้แล้ว และก็มาหานายใหญ่ของพวกเราโดยตรง แค่กริ๊งเดียว จึงเรียกตัวพวกเรามาจากการฝึกทหาร ทุ่มเทมากมายขนาดนี้ เป็ไปไม่ได้ที่จะเป็พวกไก่อ่อน ดังนั้นฉันรู้สึกว่า คนพวกนี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้”
อีกคนหนึ่งปริปากแล้ว คือร้อยเอกที่สวมแว่นตา มือข้างหนึ่งกอดอก และมืออีกข้างหนึ่งเท้าคาง หลังจากที่ครุ่นคิดสักพัก ก็พูดอย่างนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้