เหยาหลานในตอนนี้ เธอยังคงรวยสวยพราวเสน่ห์เช่นเดิม แต่ใบหน้าน้อยๆ ที่งดงามกลับเคร่งขรึม ขาดความสวยหยาดเยิ้มไปนิด ซึ่งแตกต่างจากเหยาหลานที่เจียงไป๋รู้จัก ทำให้เขารู้สึกตะลึงงันไปทันที
“ท่านนี้คือคุณเจียง เพื่อนของผม ต่อไปกิจการภาพยนตร์หลงเถิงแห่งนี้ก็จะเป็บริษัทของคุณเจียงแล้ว เหยาหลาน ต่อไปคุณต้องช่วยเหลือคุณเจียงอย่างเต็มความสามารถนะ!”
ใน่ที่เจียงไป๋ตกตะลึงอยู่นั้น หม่าฉางหยางก็หัวเราะเสียงดัง และเริ่มแนะนำเจียงไป๋ให้รู้จักกับเหยาหลาน
“คุณเจียง ยินดีต้อนรับ”
เมื่อเหยาหลานได้ยินอย่างนี้แล้ว เธอก็ยืนมือเรียวสวยมาจับทักทายกับเจียงไป๋
ตอนที่จับมือกันเธอยังใช้นิ้วชี้สะกิดฝ่ามือของเจียงไป๋ ยั่วยุให้เจียงไป๋อารมณ์ร้อน ภายในใจมีอาการตึงเครียด
“อะแฮ่มๆ สวัสดีทุกคน สวัสดีทุกคน … ”
การกระทำของเหยาหลานทำให้เจียงไป๋กระแอมติดกัน ก่อนที่จะทักทายทุกคน
พวกเขาขึ้นไปบนอาคารพร้อมกัน และเปิดการประชุมพบปะแบบง่ายๆ ก่อนจะพูดถึงโครงการใหม่ของบริษัท ใน่เวลาสั้นๆ ก็ลงทุนหลายสิบล้านบุกเบิกภาพยนตร์เื่หนึ่ง จนทำให้ทุกคนกล่าวชมเชยมากมาย
ส่วนเจียงไป๋ก็กลับมาที่ห้องทำงานแล้ว ห้องนี้หันออกไปทางแม่น้ำ และมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่งดงามได้อย่างสบายตา
เจียงไป๋เพิ่งจะนั่งลงและเลขาฯกำลังจะเทน้ำให้ เขาเพิ่งนั่งก้นยังไม่ทันอุ่น ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะทันที
“เชิญ”
เจียงไป๋พูดอย่างมีมารยาท วินาทีต่อมาผู้หญิงรูปร่างอรชรงดงามสวมชุดทำงานสีดำก็ค่อยๆ เดินเข้ามา เธอกอดฉบับร่างมาด้วย ทั้งยังบิดตัวไปมาจนทำให้คนที่กำลังมองอยู่เกิดความรู้สึกบางอย่าง
“บอสคะ เมื่อครู่ในที่ประชุมคุณบอกว่าพวกเราเตรียมจะลงทุนน้อยที่สุดก็ยี่สิบล้าน ถ่ายทำภาพยนตร์เื่หนึ่งโดยเฉพาะ ไม่รู้ว่าคุณมีแผนการอะไร”
เหยาหลานเมื่อเดินเข้าประตูมา เธอก็ใช้น้ำเสียงหยาดเยิ้มพูดกับเจียงไป๋ทันที
ในขณะเดียวกัน เธอก็ยกเท้าเขี่ยประตูให้ปิดลง
“อะแฮ่ม ผมว่าเหยาหลาน ระหว่างคุณกับผมไม่ต้องทำอย่างนี้หรอก สถานการณ์ของบริษัทผมก็เข้าใจดีแล้ว พูดตรงๆ ความสามารถของคุณดีมาก บริษัทธรรมดาที่ไม่เอาไหนอย่างนี้ คุณกลับสามารถทำให้มีกำไรได้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ แต่ถึงอย่างไรบริษัทก็ไม่ได้เป็รูปเป็ร่างนัก แต่ไหนแต่ไรมาก็แค่ร่วมมือกับคนอื่น ไม่มีผลงานที่จะนำออกมาชื่นชมได้ ดังนั้นผมจึงอยากจะถ่ายทำภาพยนตร์เองสักเื่ เพื่อทำชื่อเสียงให้กับบริษัท”
เจียงไป๋กระแอมเบาๆ พลางพูดอย่างช้าๆ ตอนที่กำลังพูด สายตาของเขาก็มองไปที่หน้าอกของเหยาหลานโดยไม่รู้ตัว
“น้องชายผู้แสนดี เธอทำให้พี่ต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่จริงๆ เธอไม่ได้บอกว่าว่างงานอยู่หรือ? ทำไมแค่พริบตาเดียวถึงได้กลายเป็บอสของพี่ไปแล้ว? จุ๊ๆ และยังทำให้ประธานหม่าขายบริษัทให้ ประธานหม่าก็ไม่ใช่คนธรรมดา เธอเป็ใครกันแน่?”
เหยาหลานไม่สนใจเจียงไป๋ และใช้น้ำเสียงของเธอกระซิบข้างหูของเขาพลางพูดอย่างร้อนผ่าว
“เมื่อก่อนเป็คนว่างงาน ตอนนี้เป็บอสของบริษัทแห่งนี้ ผมว่าพี่สาว พวกเรามาคุยกันให้เป็การเป็งานจะดีกว่า ตอนนี้บริษัทของพวกเราสามารถถ่ายทำภาพยนตร์เองได้สักเื่ไหม?”
เจียงไป๋กลอกตาใส่
หากเป็เมื่อก่อน บางทีเจียงไป๋อาจจะมีความคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว แต่เขารู้จักกับเหยาหลานมานานขนาดนี้ เจียงไป๋จึงรู้อยู่นานแล้วว่าผู้หญิงคนนี้มองอยู่ห่างๆ ได้ แต่อย่าได้เล่นด้วย หากแค่คุยๆ กับเธอก็ยังพอได้ แต่หากจะคิดอะไรจริงๆ เหยาหลานก็จะโกรธและตบคุณหน้าแหกทันที
“ก็ได้อยู่นะ แต่เสี่ยงมาก ถึงแม้ฉันจะติดต่อดาราบางคนได้ แต่หากไม่มีบทหนังที่เหมาะสม เพียงแค่ออกเงิน อีกฝ่ายก็ใช่ว่าจะรับ หากเธอ้าถ่ายทำภาพยนตร์เองจริงๆ ก็ต้องคิดให้ดีล่ะ การตลาดทางภาพยนตร์ถึงจะเติบโตขึ้นทุกปี มีคนรวยชั่วข้ามคืนไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่ก็ล้มละลายชั่วข้ามคืนกันทั้งนั้น หนังเื่หนึ่งลงทุนจนหมดตัว สรุปยากจนข้นแค้น น้องชายผู้แสนดีเธอต้องคิดให้ดีก่อนนะ”
เมื่อพูดถึงเื่งาน สีหน้าของเหยาหลานก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที และมองเจียงไป๋พลางตอบอย่างจริงจัง
“ผมมีบทหนังอยู่เื่หนึ่ง ผมว่าไม่เลวเลย คุณว่าจะถ่ายทำได้ไหม?”
เมื่อพูดจบเจียงไป๋ก็หยิบบทหนังออกมาเล่มหนึ่ง
ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้เขาหมกมุ่นอ่านหนังสือ อาศัยความสามารถ “แค่ผ่านตาก็ลืมไม่ลง” จนความรู้เพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว และยังมีพื้นฐานของชาติก่อนอีก แค่บทหนังสักเื่ก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
หนังเื่นั้นก็คือโหด เลว ดี ของฮ่องกงที่ได้รับความนิยมในชาติก่อนเื่หนึ่ง และเคยเป็ที่ฮือฮาอยู่พักใหญ่ทีเดียว
เจียงไป๋แก้ไขเล็กน้อย แก้สถานที่ให้เป็เทียนตู เขาหยิบบทหนังออกมา
เหยาหลานหยิบมาดูโดยที่ไม่ได้พูดอะไรมาก
เหยาหลานที่อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี สำหรับความสามารถในการวิเคราะห์บทหนังก็ยังพอมีอยู่บ้าง เธอดูเื่ราวคราวๆ อยู่สักพัก และมองเจียงไป๋อย่างแปลกใจแวบหนึ่ง “เอามาจากไหน? เป็บทหนังที่ดีมาก ตอนนี้หากอยากจะถ่ายทำก็ไม่ยาก เพียงแค่หัวข้อเื่อ่อนไหวไปสักหน่อย ดีที่หลายปีมานี้หัวเซี่ยค่อยๆ เปิดข้อจำกัดทางภาพยนตร์แล้ว จัดการสักหน่อยก็น่าจะสามารถเข้าฉายได้ ใครเขียนหรือ? เื่ราวน่าประทับใจมาก!”
“ผม” เจียงไป๋พูดอย่างหน้าด้านๆ
“เธอ? จริงหรือ?”
เหยาหลานลุกขึ้นทันที ดวงตาอันงดงามคู่นั้นจ้องเจียงไป๋ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
“แน่นอนว่าเป็ผม แต่อย่าสนใจเื่พวกนี้เลย คุณแค่บอกมาว่าถ่ายทำได้ไหม!”
พูดจริงๆ ก็ใจฝ่อ เื่ลอกงานคนอื่นอย่างนี้ทำครั้งสองครั้ง ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ชิน หากไม่ใช่เพราะเพื่อสะสมแต้มบารมีให้ได้เร็วหน่อย เจียงไป๋ก็คงจะไม่ทำอย่างนี้แน่นอน
“ได้ ฉันจะไปติดต่อตอนนี้เลย แต่เงินของเธอมีพอไหม? ส่วนผู้กำกับและนักแสดงเธอมีคนที่ชอบไหม?”
เหยาหลานพูดอย่างจริงจัง แสดงออกถึงความเป็ผู้หญิงแกร่ง ไม่นานก็เข้าสู่โหมดทำงาน
“เื่นี้ … ผมไม่ค่อยเข้าใจวงการบันเทิงของหัวเซี่ย ทุกอย่างก็แล้วแต่คุณ ผมก็แค่เสนอบทหนัง”
เจียงไป๋ลูบหัวพลางพูดอย่างเคอะเขิน
“เื่นี้ … ได้สิ … ใช่แล้ว เธอไม่ใส่บทบาทของเธอเองลงไปด้วยล่ะ? ฉันว่าหากตัวเอกเป็เธอแสดงเองก็น่าจะไม่เลว หากเธอแสดงเอง พี่สาวคนนี้รับปากว่าจะช่วยหาดาราสาวที่สวยที่สุดให้สักคน เป็ทั้งตัวเอกเป็ทั้งบอส ไม่แน่ว่าพวกเธออาจจะเกิดความรักที่ทำให้ใครๆ ต้องอิจฉาก็ได้”
เหยาหลานรับปากอย่างไม่ลังเล และมองเจียงไป๋ั้แ่หัวจดเท้า พลางพูดอย่างคลุมเครือ ตอนที่เธอพูดน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความยั่วยวน
ตามจริงแล้วเจียงไป๋ก็ไม่ได้ถึงขั้นหล่อถล่มทลาย ก็แค่กลางๆ มีความหล่อเล็กน้อย หน้าจีน จมูกโด่งเป็สัน ดวงตากลมโต ปากเล็ก รูปร่างมาตรฐาน เมื่อกระชากเสื้อออกก็มีกล้ามเนื้อหน้าท้องแปดก้อนแน่นอนว่าไม่ขาดแม้แต่น้อย ก็แค่ดูจากภายนอกแล้วยังผอมบางอยู่บ้าง มาตรฐานอย่างนี้ เจียงไป๋ยอมรับว่าแสดงบทบาทของโจวเหวินฟะไม่ได้ แน่นอนว่าก็ขอขอบคุณ แต่มิอาจรับไว้ได้
“พอเถอะ อย่าล้อผมเล่นเลย ผมทำไม่ได้หรอก คุณรีบไปจัดการเถอะ”
เจียงไป๋กลอกตาใส่ทั้งยังปฏิเสธข้อเสนอของเหยาหลาน
ถึงแม้ว่าเขาก็อยากจะรู้จักกับดาราสาวที่มีผู้คนชื่นชอบมากมายบ้าง แต่จะให้เขาไปเป็นักแสดงชาย … เขาก็ทำไม่ได้หรอก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้