ใบหน้าของมู่เอ้าเทียนตึงเครียดเพราะเขาคิดไว้แล้วว่าองค์รัชทายาทนั้นต้องไว้หน้าเขาและคงไม่ดุด่ารุนแรงเกินไปนัก ทว่าสัญญานี้ กลับคิดที่จะบีบบุตรสาวเขาให้ไปสู่ทางตันจริงๆ
บุตรสาวของเขาคือสตรีอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรต้าโจว แม้ว่านางจะประสบกับความโชคร้ายเมื่อสี่ปีที่แล้ว แต่นางก็ยังคงเป็บุตรสาวคนโตแห่งตระกูลมู่ วันนี้ถึงแม้นางจะพาบุตรชายกลับมาด้วย ทว่านางก็ยังคงเป็สมบัติล้ำค่าของตระกูลมู่ จะยอมให้นางอับอายขายหน้าคนอื่นได้เช่นไร?
นี่ไม่ใช่ความอัปยศอดสูหรือ? คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ไปเป็สาวรับใช้ให้อดีตคู่หมั้นตนเอง หากข่าวเช่นนี้ถูกแพร่สะพัดออกไปจะไม่น่าฟังเพียงเพียงใดกัน?
เงินสามล้านตำลึง แม้พวกเขาตระกูลมู่จะอยากได้เงินสามล้านตำลึงมากเพียงใดก็คงไม่ใช่เื่ที่ง่ายดายนัก และถึงแม้พวกเขาจะระดมเงินแต่ก็ยังต้องใช้เวลา ทว่าองค์รัชทายาทกลับกำหนดเวลาไว้เพียงสามวัน ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ได้มุ่งหวังไปเพื่อเงิน แต่มุ่งหวังสำหรับเงื่อนไขที่เพิ่มเติมไว้ด้านหลัง
องค์รัชทายาท้าให้บุตรสาวตระกูลมู่ไปเป็สาวรับใช้ของพระองค์ ทว่ากลับเหลือทางรอดไว้ให้ตระกูลเพียงทางเล็กๆ เท่านั้น
หลังจากที่คิดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงนี้ ใบหน้าของมู่เอ้าเทียนพลันมืดดำราวกับน้ำหมึก
ความแค้นเคืองเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? องค์ชายผู้นี้พูดจาวกวนอยู่เป็เวลานาน ทว่าสุดท้ายก็พุ่งเป้ามาที่การทำให้บุตรสาวของตนอับอายขายหน้า...
...
“องค์รัชทายาท ทรงหมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
ใบหน้าของมู่เอ้าเทียนนั้นจริงจัง เขาทนไม่ได้ที่บุตรสาวอันล้ำค่าของเขาจะถูกองค์รัชทายาททำให้อับอายขายหน้าเช่นนี้
เมื่อได้ยินคำถามของมู่เอ้าเทียน ตี้หลิงหานพลันลืมตาขึ้นอย่างสงบ "ท่านอ๋องมู่ ท่านคิดว่าข้อตกลงนี้ไม่เหมาะสมหรือ?"
“แน่นอนว่ามิใช่ ฝ่าา แม้ว่าบุตรสาวของกระหม่อมจะทำผิด แย่งชิงดอกบัวพันปีของพระองค์ไป แต่ตระกูลมู่ของเราได้แสดงความจริงใจที่จะยอมรับผิดและชดใช้ ทว่าเหตุใดพระองค์ถึงทำเช่นนี้ องค์รัชทายาท พระองค์้าให้บุตรสาวกระหม่อมต้องอับอายขายหน้าหรืออย่างไร?
พระองค์้าเรียกเก็บเงินกี่ตำลึงก็ย่อมได้ กระหม่อมจะไปหาไปเก็บรวบรวมมาให้ ทว่าเหตุใดถึงกำหนดเวลาเพียงสามวันเล่า?
กระหม่อมมองออกว่าฝ่าาประสงค์จะทำให้บุตรสาวกระหม่อมต้องอับอายขายหน้า"
มู่เอ้าเทียนมีอุปนิสัยตรงไปตรงมา ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาตรงๆ ถึงขนาดเตรียมหันหน้ามาเพื่อปะทะเลยทีเดียว
...
อีกด้านหนึ่ง อารมณ์ของเจียงจื่อเฮ่าพุ่งสูงขึ้นทันที เมื่อเห็นสีหน้าดำทะมึนของคนในตระกูลมู่ก็พาให้อารมณ์ของเขาพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง ในยามนี้เขาได้ยินคำถามของมู่เอ้าเทียนอย่างชัดเจนและเขาก็มีความสุขยิ่งนัก นอกจากนี้เขาก็มักจะขยิบตาให้กับองค์รัชทายาทอยู่บ่อยครั้งเพราะเขามองออกว่าองค์รัชทายาทนั้นดีกับเขามาก และนี่คือการที่พระองค์ช่วยเขาระบายโทสะออกมานั่นเอง
“เฮอะ...”
สิ้นเสียงของท่านอ๋องมู่ ทว่าตี้หลิงหานกลับเหยียดยิ้มอย่างเ็า
กลิ่นอายรอบตัวเขาเย็นลงทันใด
ั์ตาเ็าคู่หนึ่งที่ทั้งยาวและแคบดุจหินหมึกที่ฝังอยู่ใต้ดินเป็เวลาหลายพันปี แสดงถึงความสูงส่งและความยิ่งใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้
“ไม่ผิด เปิ่นกงพุ่งเป้าไปที่คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่”
สายตาของตี้หลิงหานเฉียบแหลมและเ็า สายตานั้นมองไปที่ร่างของฮวาเหยียนอย่างเย็นเฉียบ
มู่เอ้าเทียนไม่คาดคิดว่าใบหน้าของตี้หลิงหานจะเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขายอมรับว่าใจของเขาก็เริ่มเดือดขึ้นมาบ้างแล้ว หน้าอกของเขาพลันไหม้เกรียมด้วยความโกรธในทันใด “ฝ่าา พระองค์ไม่มีตระกูลมู่อยู่ในสายตาเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ”
มู่เอ้าเทียนกล่าว หน้าอกของเขากระเพื่อมขึ้นลง เขาไม่อาจเข้าใจองค์รัชทายาทได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่เข้าใจว่าตี้หลิงหาน้าทำอะไร เหตุใดถึงต้องจับบุตรสาวของเขาไว้ไม่ยอมลามือ? แค่ดอกบัวพันปีไม่ใช่หรือ? แต่ก่อนพระองค์มิได้ทรงใส่ใจถึงเพียงนั้นนี่
“เฮอะ จะมีผู้ใดขวัญกล้าเทียมฟ้าได้เท่าคุณหนูใหญ่มู่อีก”
ตี้หลิงหานเยาะเย้ยอย่างเ็า
“องค์รัชทายาททรงหมายความว่าอย่างไร?”
มู่เอ้าเทียนถาม ในยามนี้โทสะกำลังเผาไหม้ไปที่คิ้วของเขาแล้ว
ดวงตาของตี้หลิงหานมองข้ามมู่เอ้าเทียนไปทางฮวาเหยียน "คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ เ้าจะไม่บอกด้วยตัวเองหรือ?”
ฮวาเหยียนหลบซ่อนตัวอยู่เื้ัของมู่เอ้าเทียน เมื่อตี้หลิงหานเอ่ยขานชื่อนาง หญิงสาวผู้ฉลาดหลักแหลมเข้าใจจุดประสงค์ของตี้หลิงหานในทันที
นี่เป็การรวมเื่ราวทั้งหมดเป็ก้อนเดียวให้นาง
เื่การป้อนยาพิษนั่น...
"อะแฮ่ม…”
ฮวาเหยียนกระแอมไล่น้ำลายในคอ ก่อนจะก้าวเข้าไปข้างหน้า
“พระองค์ทรงพูดเื่อันใด? ยังมีเื่ใดที่กระหม่อมยังไม่ทราบอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ? ”
มู่เอ้าเทียนเห็นดวงตาของฮวาเหยียนสาดแสงประกายวาบผ่าน ท่าทางลังเลที่จะพูด
มู่เอ้าเทียนคิดถึง 'เื่ใหญ่' ที่บุตรสาวบอกเขาเอาไว้ หัวใจของเขาพลันเต้นผิดจังหวะ ชายหนุ่มเหลือบมองไปที่บุตรชายของตน และเห็นว่ามู่เสวียนเย่เองก็แสดงออกถึงท่าทีที่ไม่รู้เื่เช่นกัน
“ลูกรัก ยังมีเื่อะไรอีกหรือ? ”
เขาถามขึ้นมาอีกครั้ง
ตี้หลิงหานท่าทางสูงส่งเฉยเมย ริมฝีปากบางของเขาถูกปิดสนิทแน่น เขาดูเหมือนคุณชายสูงศักดิ์ที่เ็า ไม่มีความคิดที่จะเอ่ยสิ่งใด รอเพียงฮวาเหยียนที่คุกเข่าลงต่อหน้าและมอบยาแก้พิษให้ก็เท่านั้น
“นั่น...”
ฮวาเหยียนปัดผมที่หน้าผากของนาง ดูเหมือนนางลังเลที่จะพูด
ทุกคนกำลังมองมาที่นาง
เมื่อสักครู่ยังเต็มไปด้วยท่าทางดุร้ายเหี้ยมโหดแต่บัดนี้พลันสลายหายไปหมดสิ้นแล้ว
“ท่านลุงใหญ่ ท่านแม่คงก่อเื่อีกแล้วเป็แน่”
หยวนเป่าที่นอนอิงแอบอยู่ในอ้อมกอด กระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของมู่เสวียนเย่
มู่เสวียนเย่เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับถามเสียงต่ำ “เหตุใดเ้าถึงพูดเช่นนี้เล่า? "
"นี่เป็ท่าทีเมื่อตอนท่านแม่ก่อปัญหาและข้าก็คุ้นเคยกับมันมากที่สุดขอรับ...! "
มู่เสวียนเย่ "...! "
สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่นาง จะซ่อนก็คงซ่อนมิได้แล้ว เมื่อมองไปที่ตี้หลิงหานที่จ้องมองด้วยสายตาที่แหลมคมราวกับมีด ก่อนจะมองไปที่ดวงตาที่ให้กำลังใจและไว้วางใจของมู่เสวียนเย่ หัวใจของฮวาเหยียนพลันผ่อนคลายลง โชคดีที่นางมีท่านพ่อที่ดี
“ท่านพ่อ ไม่ว่าข้าจะทำอันใดลงไป ท่านก็จะปกป้องข้าใช่หรือไม่เ้าคะ? ”
ฮวาเหยียนยืนยันอีกครั้ง
ในยามนั้นนางรู้สึกว่าเื่ราวมีความร้ายแรงอยู่บ้างเล็กน้อย
อีกทั้งในยามนี้นางไม่สามารถพูดได้ว่าการป้อนยาพิษให้แก่ตี้หลิงหานนั้นนับเป็เื่ร้ายแรง หรือความเป็จริงที่ว่านางพ่นน้ำลายใส่ปากองค์รัชทายาท สิ่งใดร้ายแรงกว่ากัน
“ได้ มีพ่ออยู่ ไม่ต้องกลัว”
มู่เอ้าเทียนมีจิตใจแน่วแน่แข็งแกร่ง
ฮวาเหยียนรู้สึกสบายใจ นางกระแอมออกมาอีกครั้ง พยายามจะพูดอย่างรวดเร็วด้วยเสียงที่เบาว่า “แท้จริงแล้วก็ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไรหรอกท่านพ่อ ข้าไม่ทันระวังจึงป้อนยาพิษให้แก่ตี้หลิง… ไม่สิองค์รัชทายาทไปเ้าค่ะ..."
ฮวาเหยียนพูดอย่างสงบและเยือกเย็น ถึงขนาดเลือกใช้คำที่ให้เกียรติ ทว่าคำพูดเหล่านี้ย่อมเป็ะเิอย่างไม่ต้องสงสัย
ฟู่ว…
หา?
อันใดกันที่ว่าไม่ใช่เื่ใหญ่?
ป้อนยาพิษให้องค์รัชทายาท? นี่บอกว่าไม่ใช่เื่ใหญ่? นี่นี่นี่มันโทษร้ายแรงถึงขั้นปะาศีรษะเลยทีเดียว
ไม่เพียงแต่มู่เอ้าเทียนที่ใกับคำพูดของฮวาเหยียนเป็เวลานานเท่านั้น ใบหน้าของมู่เสวียนเย่เองก็ดูเคร่งขรึมจริงจังเพราะเขารู้สึกว่าเื่นี้ค่อนข้างร้ายแรงเช่นกัน
บุตรสาวสุดที่รักของตระกูลมู่ ก่อเื่ใหญ่ทันทีที่นางหวนคืนกลับมา
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตี้หลิงหานคิดจะลงโทษบุตรสาวตระกูลมู่ นี่ถือเป็การไว้หน้าตระกูลมู่อย่างมากแล้ว
บรรยากาศเงียบสนิทลงครู่หนึ่ง
“ลูกรัก เ้าอย่าได้พูดเหลวไหล เ้า... เ้าป้อนยาพิษให้องค์รัชทายาทจริงๆ หรือ? ”
มู่เอ้าเทียนใเป็อย่างยิ่ง เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากบุตรสาวสุดที่รักของเขา ตระกูลมู่ของพวกเขาจงรักภักดีต่อราชวงศ์ต้าโจวยิ่ง คิดไม่ถึงว่าจะมีเื่ป้อนยาพิษให้แก่องค์รัชทายาทปรากฏขึ้นในตระกูลมู่ของพวกเขา
สมองของมู่เอ้าเทียนะเิแล้ว
“อะไรนะ เ้าวางยาพิษลูกพี่ลูกน้องของข้า? เ้าวางยาพิษองค์รัชทายาท มู่อันเหยียน เ้าช่างขวัญกล้าเทียมฟ้า นี่มันโทษปะาทั้งตระกูลเก้าชั่วโครตแล้ว”
เดิมทีเจียงจื่อเฮ่ารู้สึกอารมณ์ดีเป็อย่างยิ่ง เนื่องจากองค์รัชทายาทช่วยเขาให้ได้ระบายโทสะออกมาและสั่งสอนบทเรียนให้แก่มู่อันเหยียน ทว่าเมื่อบทสนทนาเปลี่ยนไป เมื่อครู่เขาได้ยินอะไรกัน? มู่อันเหยียนป้อนยาพิษให้กับองค์รัชทายาทหรือ?
์ทรงโปรด!
เขารีบะโออกมาแล้วคำรามใส่ฮวาเหยียนทันที
"หุบปาก"
ฮวาเหยียนจ้องมองมาที่เจียงจื่อเฮ่า
ดวงตากลมโตคู่นั้นกลับมีแรงกดดันที่สยบเจียงจื่อเฮ่าได้ นางขู่คำรามจนเจียงจื่อเฮ่าทีหงอ แต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์ปัจจุบัน เขาก็จ้องเขม็งกลับไป "จะทำอะไร จะทำอะไร พวกเ้าตระกูลมู่กำลังก่อฏนี่นา คุณชายเช่นข้าคงต้องรีบไปทูลรายงานองค์ฮ่องเต้ที่วังแล้ว เ้ากล้าวางยาพิษองค์รัชทายาท เหตุใดถึงยังต้องไว้ชีวิตเ้าเล่า?”
เจียงจื่อเฮ่าคำราม และเมื่อคำพูดของเขาจบลง เขาก็ยกเท้าขึ้นจะก้าวออกไปข้างนอก
ไอ้เ้าโง่คนนี้ พูดจริงทำจริง
อีกทั้งเมื่อพระองค์พูดเช่นนี้ก็ถือเป็เื่ร้ายแรง เพิ่มระดับของการก่อฏขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง หากเื่นี้ลามไปถึงหูของฮ่องเต้แล้ว ตระกูลมู่ของพวกเขาคงถูกไฟเผาวอดวายกันหมดสิ้นแน่
เห็นได้ชัดว่ามู่อันเหยียนตระหนักดีว่าข้อกล่าวหาของเจียงจื่อเฮ่านั้นร้ายแรงเพียงใด
เดิมทีนี้เป็เพียงการแลกเปลี่ยนพูดคุยกันระหว่างนางกับตี้หลิงหาน นางทำเพื่อปกป้องตัวเองถึงได้คายสิ่งที่เรียกว่า 'ยาพิษ' ออกมา ตี้หลิงหานเองก็ทราบเื่นี้ดี ดังนั้นเขาจึงคิดเพียงแค่จะจัดการนางผู้เดียว ไม่ได้คิดจะลากตระกูลมู่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลยแม้แต่น้อย
ทว่าเจียงจื่อเฮ่าคนงี่เง่าทำให้คำพูดที่ออกจากปากเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
เพลิงโทสะที่อยู่ในท้อง เดิมก็ไม่มีที่ระบายออกไปอยู่แล้ว ทว่าฮวาเหยียนเห็นว่าเจียงจื่อเฮ่ากำลังจะออกไปข้างนอกจริงๆ เขาจะปล่อยข่าวเื่นี้จริงๆ สิ่งนี้จะเป็การสร้างปัญหา! นางก้าวผ่านมู่เอ้าเทียนไปทันที ก่อนจะเดินไปจนถึงหน้าเจียงจื่อเฮ่า นางไม่พูดพร่ำทำเพลงอันใดทั้งสิ้นก็เตะเข้าที่หน้าอกของเจียงจื่อเฮ่าทันที
ด้วยท่วงท่าที่สวยงาม การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่ว และการแสดงออกที่เยือกเย็นบนใบหน้าของฮวาเหยียน นางได้เตะเจียงจื่อเฮ่าลอยปลิวออกไป ร่างนั้นตกกระแทกลงกับพื้นเสียงดังสนั่น
เจียงจื่อเฮ่าตกลงไปด้วยความรุนแรงจนมึนงง นี่เป็การล้มกระแทกพื้นครั้งที่สองของเขาในวันนี้
ผู้คนล้วนตกตะลึง
กล่าวถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ผู้อ่อนโยน สง่างามและธรรมะสูงส่ง ทว่าดูเหมือนว่าอุปนิสัยจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
“แม่นางเช่นข้าอยากจะจัดการเ้ามานานแล้ว โตขึ้นมาแบบไร้สมอง ทุบรังตัวเองจนแตก”
ฮวาเหยียนกล่าวด้วยความโกรธ
ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงจื่อเฮ่าคนโง่ นางจะสามารถยั่วโมโหเ้าองค์รัชทายาทเฮงซวยได้หรือ? จะเสียหน้าต่อหน้าท่านพ่อและท่านพี่ได้อย่างไร?
มู่เอ้าเทียนสับสนเล็กน้อย สตรีที่แสนดุร้ายป่าเถื่อนคนนี้เป็บุตรสาวที่แสนน่ารักของเขาหรือ? บุตรสาวของเขาจิตใจดีมากถึงขนาดไม่กล้าเหยียบมดตายด้วยซ้ำ พูดจาอ่อนโยนน้ำเสียงละมุนละไม ไม่ะโเสียงดังใส่ผู้อื่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงการทุบตี นางไม่ทำแน่
นี่ๆๆ...
"พอได้แล้ว"
ตี้หลิงหานกล่าวด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เขารู้สึกว่ามู่อันเหยียนกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว แท้จริงแล้วเขาไม่มีเจียงจื่อเฮ่าในสายตาเลยสักนิด แต่การที่นางกล้าลงมือกับเจียงจื่อเฮ่าต่อหน้าเขา และก็ใช่ สตรีผู้นี้แม้แต่ตัวเขาเองนางยังกล้าลงมือ จะยังมีอะไรที่ไม่กล้าอีกหรือ
"ยาแก้พิษ"
ตี้หลิงหานพูดออกมาอย่างเ็า
ฮวาเหยียนกลอกตา
การกลอกตานี้เป็ซ่อนอารมณ์เอาไว้มากหลากหลาย มีทั้งการเยาะเย้ยและดูถูก น่าขบขันสุดที่จะพรรณนา
“ลูกรัก พ่อจะถามเ้าเป็ครั้งสุดท้าย บอกความจริงมา เ้าวางยาพิษองค์รัชทายาทจริงหรือ? ”
หัวของมู่เอ้าเทียนกำลังจะะเิแล้ว เขาจ้องมองไปที่ฮวาเหยียน หัวใจของเขากระเด็นกระดอนจนแทบจะหลุดออกมาจากคอแล้ว
วินาทีต่อมา พลันเห็นฮวาเหยียนกะพริบตากล่าวว่า “ท่านพ่อ ลูกไม่ได้วางยาพิษเขาเ้าค่ะ…”
“มู่อันเหยียน เ้าคิดว่าเ้าจะปฏิเสธยังทันหรือ?”
ตี้หลิงหานถามอย่างเ็า
ฮวาเหยียนเม้มริมฝีปากสีแดงของนาง “หม่อมฉันวางยาพิษพระองค์หรือไม่ ในใจของท่านมิได้ทราบดีอยู่แล้วหรือ? ฝ่าา เวลาก็ล่วงเลยผ่านมาเนิ่นนานถึงเพียงนี้แล้ว ร่างกายของพระองค์มีอันใดผิดปกติหรือ? ไม่มีเลยใช่หรือไม่ หม่อมฉันแค่หลอกให้พระองค์ใ ที่จริงแล้วไม่ได้วางยาพิษใดแก่พระองค์เลย หม่อมจะทำอย่างนั้นได้อย่างไรกันเพคะ"
ฮวาเหยียนกล่าวด้วยท่าทางตรงไปตรงมา
มู่เอ้าเทียนและมู่เสวียนเย่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของฮวาเหยียน
ทว่าใบหน้าของตี้หลิงหานกลับดูไม่ดีเลยสักนิด ได้ยินเพียงเขาที่พูดขึ้นว่า "ในเมื่อไม่มีพิษ แล้วของเย็นๆ ที่ผ่านมาเข้ามาในปากของข้าคือสิ่งใดกัน? "
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้