หลังจากที่สังหารสองพี่น้องหยาง เจียงเฉินเงยหน้าขึ้นฟ้าและตระหนักว่ามันสายแล้ว เขาเดินออกไปจากที่คับแคบแห่งนี้เมื่อออกไปก็พบเพียงแค่พื้นที่รกร้าง อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นเหม็นสาบ
ตามความทรงจำของเขาแล้ว ที่แห่งนี้อยู่ห่างไกลและเป็พื้นที่รกร้างภายในเมืองเทียนเซียง มันถูกเพิกเฉยมากว่าสิบปี ตามปกติแล้วจะไม่มีผู้ใดมาที่แห่งนี้ พี่น้องหยางหย่งช่างสรรหาสถานที่คุมขังเขาได้ดีเหลือเกิน
"ข้าเป็ผู้แข็งแกร่งในชีวิตที่แล้ว และชีวิตที่แล้วได้จบสิ้นลง ทุกสิ่งทุกอย่างได้มลายหายไปกับอากาศ เมื่อตอนนี้ข้าได้ร่างนี้จากนี้ไปข้าคือเ้า เจียงเฉินคนใหม่ ครอบครัวของเ้าคือครอบครัวของข้า ศัตรูของเ้าคือศัตรูของข้า เส้นทางไปสู่อนาคต พวกเราจักเดินไปด้วยกัน!"
ดวงตาของเขาลุกวาว เขาก้าวออกจากพื้นที่รกร้าง
คฤหาสน์เ้าเมืองตกอยู่ในความวุ่นวายั้แ่ที่เจียงเฉินได้หายตัวไปกว่าสามวัน ถึงแม้ว่าเจียงเฉินคนเก่าจะทำแต่สิ่งโหดร้ายและน่ารังเกียจ เขาไม่เคยหายตัวไปกว่าสามวัน
เขาเป็บุตรชายเพียงคนเดียวของเ้าเมือง แม้ว่าไม่มีวันใดที่เ้าเมืองจะไม่ต่อว่าเขา ในใจของเขานั้นรักใคร่เจียงเฉินอย่างถึงที่สุด ผู้คนสามารถบอกได้อย่างง่ายดายจากเม็ดยาล้ำค่าทั้งหมดที่เขามอบให้เจียงเฉิน
ยามทุกคนแห่งคฤหาสน์เ้าเมืองต่างถูกส่งออกตามหานายน้อยของพวกเขา พวกเขาหาทุกซอกมุมแต่ไม่มีสัญญาณว่าจะพบเขา ในที่สุดเ้าเมืองก็มีคำสั่งออกมาหากหานายน้อยไม่พบก่อนตะวันตกดิน ยามทุกคนไม่ต้องกลับมาอีก
ที่ดินรกร้างที่เจียงเฉินโดนจองจำ กลุ่มของยามได้เดินเข้ามาใกล้หลังจากที่ค้นหาในทุกๆที่แล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงพื้นที่ที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้
"เฮ้อ นายน้อยผู้นี้ไม่เคยให้พวกเราพักบ้างเลย เขาคงจะไปสำราญอยู่ที่ใดล่ะมั่ง แต่พวกเราต้องทนทุกข์ ข้าไม่ได้กินอะไรมาตลอดทั้งวันเลยนี่"
"หยุดบ่นเถอะ เขาเป็บุตรชายเพียงคนเดียวของท่านเ้าเมือง พรุ่งนี้จะถึงวันหมั้นหมายกับตระกูลมู่หรง หากพวกเราไม่อาจหานายน้อยพบ....อย่าได้คิดเลยว่าจะมีสิ่งดีๆรอพวกเราเลย"
"นายน้อยคงไม่มายังสถานที่ห่างไกลเช่นนี้หรอก พวกเรามาที่นี่เสียเวลาเปล่า..เดี๋ยว! มีคนตรงมาทางนี้!"
ขณะที่ยามทั้งหลายกำลังตำหนิ ยามผู้หนึ่งที่นำพวกเขาเห็นร่างของคนสวมชุดสีขาวกำลังเดินมาทางพวกเขา
"นายน้อย!"
ยามได้ะโออกมาด้วยความแปลกใจ มันขยี้ตาและมองดูอีกครั้งร่างของคนผู้นั้น มันจะสามารถเป็คนใดได้อีกนอกจากนายน้อย?
"หัวหน้า! นั่นมันนายน้อย พวกเราพบนายน้อยแล้ว ฮ่าฮ่า"
ยามได้ะโขึ้นจากที่ๆมันยืนอยู่ ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น น้ำตาเกือบไหลออกจากดวงตาของมัน ราวกับว่าผู้อยู่ตรงหน้ามิใช่นายน้อย แต่ว่าเป็พ่อของมัน
"นายน้อยล่ะ! เป็นายน้อยจริงๆ ขอบคุณพระเ้า!"
ยามสองสามคนวิ่งมาทางเจียงเฉิน แม้ว่าพวกมันจะไม่รู้ว่านายน้อยของพวกมันมาพื้นที่รกร้างทำไม มันไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกมันพบนายน้อยแล้ว ยังมีชีวิตอยู่และพวกมันตื่นเต้นมาก ดูไม่เหมือนกับคนที่แขนหรือขาขาดหายไป
"เจียงเฉิง เหตุใดพวกเ้าถึงมาอยู่ที่นี่?"
เจียงเฉินมองไปยังหัวหน้ายาม เขารู้จักชายคนนี้ นามของเขาคือเจียงเฉิง!
"นายน้อย ในที่สุดพวกเราก็พบท่าน! หากว่าท่านไม่ปรากฎตัว ท่านเ้าเมืองคงสังหารพวกข้าสิ้น!"
เจียงเฉิงพูดด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มันดูเหมือนว่ามันจะร้องไห้จากความยินดี
เจียงเฉินมีสีหน้างุนงง แต่ด้วยไหวพริบของเขา มันไม่ได้ทำให้เขาใช้เวลามากกว่าเสี้ยววินาทีในการเข้าใจทุกสิ่ง เขาได้หายตัวไปกว่าสามวัน ดังนั้นพ่อของเขาจึงเป็กังวลว่าจะพบกับอันตราย เขาสามารถที่จะนึกได้ว่าพวกยามอาจไม่สามารถนอนอย่างเป็สุขได้
เมื่อคิดถึงพ่อของเขา ผู้ที่เขาไม่เคยพบเจียงเฉินสามารถรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจได้ แม้ว่าเขาจะเป็ถึงนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตที่แล้วของเขา เขาไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ที่ปรารถนาที่จะดูแลเขาในชีวิตที่แล้ว เขาเป็เด็กกำพร้า เขาไม่เคยมีโอกาสได้รู้จักถึงความรักของครอบครัว
"มันดูเหมือนว่าข้าอาการหนักงั้นรึ? เ้าไม่จำเป็ต้องถูกถลกหนังแล้วล่ะ มาสิ กลับบ้านกันเถอะ"
เจียงเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม
"นายน้อยโปรดขี่ม้านี่เถิด"
เจียงเฉิงรีบส่งม้าที่ตัวเองนั่งไปให้เจียงเฉิน
"ไม่จำเป็ ข้าเดินเองได้ พวกเ้าทุกคนต่างพยายามกันมามาก เมื่อพวกเราไปถึงที่บ้าน ทุกๆคนสามารถรับสิบเหรียญทองจากคลังได้"
เจียงเฉินพูดเหมือนว่ามันไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
อะไรนะ สะ..สิบ เหรียญทองงั้นรึ?
เจียงเฉิงเกือบจะเป็ลมเมื่อมันได้ยินเช่นนั้น ไม่ใช่ได้เพียงแค่มันคนเดียว! ยามทุกๆคนต่างมึนงง สิบเหรียญทอง ค่าจ้างของพวกเขาได้เพียงสิบเหรียญเงินต่อเดือนเท่านั้น!
ครั้งหนึ่งเจียงเฉินเคยเป็ถึงนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้นเขาไม่จำเป็ต้องใส่ใจเงินมากเกินไป แต่สำหรับยามเหล่านี้สิบเหรียญทองนับเป็ทรัพย์สินมากมายนัก!
เกิดอะไรขึ้นกับนายน้อย? นี่มันไม่ใช่ตัวเขาเลยสักนิด
นายน้อยใจกว้างเช่นนี้ั้แ่เมื่อไหร่กัน?
เขาไม่ขี่ม้าและเมื่อพวกเขาพบกับนายน้อยเมื่อก่อนหน้านี้ เขาไม่ต่อว่าพวกมันเหมือนที่เขาทำอยู่ประจำ
หลังจากที่หายตัวไปสามวัน นายน้อยได้เปลี่ยนไปเป็อีกคนหนึ่งโดยสิ้นเชิง
"ไปกันเถอะ รีบตามนายน้อยไป"
เป็ครั้งแรกที่เจียงเฉินรู้สึกประหลาดใจมากเช่นนี้ ยามทั้งหลายต่างเร่งความเร็วและตามนายน้อยของพวกเขาไป พวกเขาไม่ได้ขี่ม้า ผู้ใดจะกล้าขี่ม้าในเมื่อนายน้อยของพวกเขาได้เดินอยู่ด้านหน้า?
ภายในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์เ้าเมือง
ชายวัยกลางคนเดินกลับมาอย่างรวดเร็วด้วยใบหน้ากระวนกระวาย ชายผู้นั้นสวมชุดไหม ร่างกายล่ำสันและสูงถึงหนึ่งจ้าง
เขาเป็เ้าเมืองแห่งเมืองเทียนเซียง เจียงเจิ้นไห่นั่นเอง!
"อย่าได้กังวลเลยท่านพ่อ ข้าแน่ใจว่าพวกเขาจะต้องพบน้องสองแน่นอน"
ชายหนุ่มดูดีสวมชุดสีขาวที่ยืนข้างเ้าเมือง เขาอายุราวสิบเจ็ดถึงสิบแปดปีและเมื่อมองครั้งแรกไม่ว่าผู้ใดก็รู้ว่าเขาเป็ัในหมู่ผู้คน ใบหน้าของเขาดูโศกเศร้า แต่ภายในมีความสุขยิ่ง
"เ้าเด็กนิสัยเสียเอ๊ยไม่เคยให้ข้าสบายใจได้ หากว่าเขามีความสามารถเพียงครึ่งเดียวของเ้า ข้าคงได้หัวเราะได้กระทั่งในฝัน"
เจียงเจิ้นไห่พูดอย่างอับจนหนทาง
"นายน้อยสองกลับมาแล้ว!"
ยามผู้หนึ่งได้เข้ามา ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
'อะไรนะ?!'
เจียงลู่หรงเกือบะโออกมา ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก
"เขากลับมาแล้ว?"
เจียงเจิ้นไห่รู้สึกโล่งใจและะโในทันที "บอกให้เขาเข้ามาที่นี่เดี๋ยวนี้!"
เมื่อััได้ถึงท่านเ้าเมืองกำลังอารมณ์เสีย ยามผู้นั้นกล่าวอย่างระมัดระวังว่า "ท่านเ้าเมือง นายน้อยบอกว่าเขาเหนื่อยแล้ว จากนั้นนายน้อยก็เข้าห้องไปเพื่อพักผ่อน เขาจะมาพบท่านในวันรุ่งขึ้น"
"อะไรกัน?! มารยาทของเด็กคนนี้ไปไหนหมด?!"
เจียงเจิ้นไห่ถลึงตาไปยังยามขณะที่เขาพูด
"ท่านพ่อ บางทีน้องสองอาจเหน็ดเหนื่อยจริงๆก็ได้ ยิ่งกว่านั้นพรุ่งนี้จะมีการจัดพิธีหมั้นหมายกับตระกูลมู่หรง ปล่อยให้น้องสองพักผ่อนเถอะขอรับ"
เจียงลู่หรงบอกกับพ่อบุญธรรมของตน
"ลู่หรง เ้าก็มักจะปกป้องมันอยู่เรื่อย เ้าเด็กบ้านี่นับวันยิ่งดื้อดึงขึ้นเรื่อยๆ"
เจียงเจิ้นไห่กล่าวอย่างโมโห
"อย่าได้อารมณ์เสียไปเลยท่านพ่อ ให้ข้าไปคุยกับน้องสองเอง"
เจียงลู่หรงกล่าว
"ก็ดี ส่งคนไปจับตาดูเขา และอย่าให้เขาเดินออกมาจากห้องแม้เพียงครึ่งก้าว ข้าไม่้าให้ความผิดพลาดใดๆเกิดขึ้นในพิธีหมั้นหมายในวันพรุ่งนี้"
เจียงเจิ้นไห่โบกแขนของเขาแล้วเดินจากไป
คฤหาสน์ของเ้าเมืองมีอาณาเขตกว้างขวาง มันเป็เื่ปกติที่เจียงเฉินจะมีคฤหาสน์ขนาดใหญ่ ยืนอยู่ในเรือนที่พักมือทั้งสองไขว้หลังและแสงจันทร์สาดส่องมายังเขา เขายืนรอคนที่เขารู้จัก เขารู้ว่าคนผู้นั้นจักมาหาเขาอย่างแน่นอน
ภายนอกประตู ร่างของคนไม่รู้ว่าปรากฎขึ้นจากที่แห่งใด มันคือเจียงลู่หรง เมื่อมันเห็นเจียงเฉินกำลังยืนในเรือนที่พักโดยที่ไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ดวงตาของมันเผยประกายเย็นเยียบออกมา
"เ้าพวกบ้านนอกไร้ประโยชน์ พวกมันกล้าดีอย่างไรถึงปล่อยให้เ้าบ้านี่รอดกลับมาได้?"
ด้วยคิ้วขมวดแน่นบนหน้ามัน ใบหน้าของเจียงลู่หรงเปลี่ยนกลับไปเป็ปกติขณะที่มันกำลังเดินไปยังตำหนักของเจียงเฉิน
"น้องสอง เ้าไปไหนมาตั้งสามวัน? เ้าไม่รู้หรือว่าพี่ใหญ่เป็กังวลมากขนาดไหน?"
เจียงลู่หรงพูดด้วยน้ำเสียงเป็กังวลและแฝงไปด้วยความสุขเมื่อได้พบเจียงเฉินอีกครั้ง
"พี่ใหญ่"
ทันใดนั้นเจียงเฉินได้ะโไปหาพี่ชายของเขาสวมกอดเขาแล้วก็พูดออกมา "พี่ใหญ่ ท่านได้เกือบสูญเสียน้องชายของท่านผู้นี้ไปแล้ว!"
ทำท่าเศร้าโศก น้ำตาของเจียงเฉินไหลรินลงบนบ่าของเจียงลู่หรง คิ้วของเจียงเฉินขมวดบนใบหน้าเขาขณะที่สวมกอดเจียงลู่หรง ขณะที่กำลังร่ำไห้มันได้นำมือมาวางบนบ่าของเจียงเฉิน
"น้องสอง เกิดอะไรขึ้น? ผู้ใดกล้ามารังแกเ้า? บอกพี่ใหญ่มา พี่ใหญ่จะล้างแค้นให้แก่เ้าเอง!" เจียงลู่หรง ถาม
"มันเป็พวกบ้านนอกทั้งสอง หยางหย่งและหยางชวง พวกมัน้าฆ่าข้า"
เจียงเฉินพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวขณะที่เขาเอาหัวออกจากบ่าของเจียงลู่หรง
รู้สึกตกตะลึงเมื่อได้ยินชื่อของพี่น้องหยาง ด้วยใบหน้าไม่แยแส เจียงลู่หรงกล่าว "อะไรนะ? เ้าพวกสารเลวนั่น! พวกมันกล้าดีอย่างไรถึงมาทำเช่นนี้กับเ้า? ข้าจะไม่ปล่อยพวกมันไปอย่างแน่นอน!"
"พี่ใหญ่ พวกมันตายไปแล้วล่ะ"
ขณะที่พูดด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว เจียงเฉินลอบสังเกตุสีหน้าของเจียงลู่หรง พยายามค้นหาเนื้อแท้ แม้ว่าเจียงลู่หรงซ่อนความรู้สึกได้ดี ผู้ที่เคยเป็ถึงนักบุญผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขา อย่างไรก็ตามเจียงเฉินมีดวงตาเฉียบคมเหมือนอินทรีย์ เขาสามารถที่จะสังเหตุเห็นถึงแม้เศษเสี้ยวการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเจียงลู่หรง
"พวกมันตายแล้วรึ? พวกมันอยู่ระดับขั้นที่หกขอบเขตฉีจิงเชียวนะ เ้าสังหารพวกมันได้อย่างไรกัน?"
เจียงลู่หรงถามด้วยความแคลงใจ ้าคำตอบ
"อย่าล้อกันเล่นสิพี่ใหญ่ ข้ามันเป็ผู้ฝึกตนที่โง่งม และข้าอยู่เพียงขอบเขตฉีจิงขั้นแรกเอง! ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสองพี่น้องหยางหรอก แต่ขอบคุณพระเ้าที่ส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตฉีจิงขั้นที่แปดมาช่วยข้าสังหารพี่น้องหยาง!แต่น่าเศร้านักที่ท่านผู้มีพระคุณจากไปโดยไม่้าสิ่งตอบแทนแต่อย่างใด เขาออกไปทันทีหลังจากที่สังหารพี่น้องหยาง....ข้าไม่ทราบกระทั่งนามของเขา..ช่างน่าเศร้า"
เจียงเฉินพูดด้วยความโล่งอกและเสียใจ
'บัดซบ เ้านี่ทำไมโชคดีเช่นนี้'
สบถในใจ เขาไม่ได้สงสัยในสิ่งที่เจียงเฉินพูดเพราะเพียงเท่านี้ก็สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดเจียงเฉินถึงสามารถกลับมาได้โดยปลอดภัย
ในเวลาเดียวกันเจียงลู่หรงก็รู้สึกโล่งใจด้วยเช่นกัน พี่น้องหยางได้ตกตายไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงความลับของเขา ยังมีโอกาสที่จะสังหารเจียงเฉินอีกในอนาคต
"มันไม่ได้เป็สิ่งเลวร้ายที่พวกมันได้ตกตายไป ที่สำคัญที่สุดคือเ้าได้กลับมาอย่างปลอดภัย!หากไม่เช่นนั้น ชีวิตที่เหลือของข้าจะจมอยู่ในความเสียใจที่ไม่อาจปกป้องเ้าได้!"
ใบหน้าที่ดูเป็กังวลของเจียงลู่หรงทำให้เจียงเฉินรู้สึกคลื่นไส้
"พี่ใหญ่เยี่ยมยอดที่สุด!"
เจียงเฉินแสร้งทำเป็ขอบคุณต่อ 'พี่ชายผู้นี้'
"อย่าได้พูดเช่นนั้นพวกเราเป็พี่น้องกันน่ะ พรุ่งนี้จะถึงวันพิธีหมั้นหมายกับตระกูลมู่หรง เ้าต้องเตรียมให้พร้อม น้องชายข้า สำหรับเ้านี่เป็โอกาสครั้งหนึ่งของชีวิต หากเ้าได้แต่งงานกับบุตรีของตระกูลมู่หรง เ้าจะนำพาสิ่งที่ดีมาสู่ตระกูลของพวกเรา"
เจียงลู่หรงกล่าวขณะเอามือวางบนบ่าของเจียงเฉิน มีตระกูลใหญ่ในเมืองเทียนเซียงอยู่สองตระกูล หนึ่งคือตระกูลของเ้าเมืองและอีกหนึ่งคือตระกูลมู่หรง ตระกูลมู่หรงเป็ขุมพลังด้านกิจการการค้า และความสัมพันธ์กับทั้งสองตระกูลไม่ได้ดีสักเท่าไร มีการแข่งขันชิงดีชิงเด่นอย่างรุนแรง หากว่าพวกเขาสามารถที่จะแต่งงานกันได้ ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะพัฒนามากขึ้น เป็การเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างมากทั้งสองฝ่าย
"แต่งงานกับบุตรีของพวกเขางั้นรึ? ข้าไม่้า"
เจียงเฉินส่ายหัวอย่างรวดเร็วและพูดยืนยันอย่างหนักแน่น
"น้องชาย เ้าอย่าได้สร้างปัญหาอีก ท่านพ่อบุญธรรมได้จัดเตรียมการต่างๆมากมายเพื่อการแต่งงานครั้งนี้ เ้าไม่อาจล้มเลิกมันได้แล้วตอนนี้"
เจียงลู่หรงพยายามที่จะเกลี้ยกล่อมเจียงเฉิน
"ข้าจริงจังนะ แม้ว่าข้าจะไม่ได้ยลโฉมบุตรีตระกูลมู่หรงว่าเป็อย่างไร? มันเป็เื่น่าขันหากท่านขอให้ข้าแต่งงานกับนาง ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังเด็กเกินไป หากว่าท่าน้าที่จะแต่งงานกันระหว่างสองตระกูล ข้าคิดว่าพี่ใหญ่เป็ผู้เหมาะสมที่สุด ท่านเองก็เป็บุตรชายของเ้าเมืองเช่นกัน และท่านก็าุโกว่าข้า ข้าไม่อาจที่จะแต่งงานก่อนท่านพี่ ไม่มีทาง!ข้าไม่จักทำมัน ท่านจักต้องทำด้วยตัวท่านเองหากว่าท่าน้า"
เจียงเฉินยืนยันในการตัดสินใจของเขาอย่างแน่วแน่
หลังจากที่ได้ฟังเจียงเฉินอธิบาย เจียงลู่หรงรู้สึกว่านี่เป็ครั้งแรกที่ 'น้องชาย'ผู้นี้ได้ทำสิ่งที่มีประโยชน์ครั้งแรก โดยเฉพาะเมื่อเหตุจูงใจที่จะสังหารเจียงเฉินเพื่อที่เขาจะได้แต่งงานกับบุตรธิดาของตระกูลมู่หรง เพื่อเลื่อนสถานะของตนเองในทั้งสองตระกูล!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้