ไม่ทันไรก็ผ่านไปครึ่งเดือนกว่าแล้ว
ครึ่งเดือนนี้ชีวิตของเจียงไป๋ชุ่มชื้นมาก ทุกวันเขาอ่านหนังสือ ความรู้จึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก เวลาแค่ครึ่งเดือนมานี้ในทุกๆ วิชาล้วนเทียบได้กับนักศึกษาปริญญาเอกที่ยอดเยี่ยมที่สุด เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การเมือง ชีววิทยา ประวัติศาสตร์ และอื่นๆ ไม่มีอะไรที่เขาไม่รู้ หนังสืออย่างน้อยแปดพันเล่มถูกเจียงไป๋อ่านจนหมดแล้ว
ปกตินอกจากอ่านหนังสือแล้ว ทุกหนึ่งหรือสองวันเจียงไป๋ก็จะไปที่ต้าชื่อเจี้ยสักครั้งหนึ่ง ที่นั่นเขามอบให้หลี่เฉียงกับฉวีเจี๋ยเป็ผู้ดูแล ตอนนี้ธุรกิจคึกคักมากขึ้น นอกจากคนดูแลสถานที่ทั้งหมดจะถูกสับเปลี่ยนเป็คนของฉวีเจี๋ยแล้ว ยามจำนวนมากก็ถูกสับเปลี่ยนเป็คนที่ทั้งร่างกายกำยำล่ำสันและดูมีพลัง
สำหรับด้านในจะมีเื่อะไรบ้างนั้น เจียงไป๋ก็เข้าใจ เขาทำเป็ไม่รู้ไม่เห็นและไม่สนใจอะไรมาก คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็คนที่ฉวีเจี๋ยหามา แต่พูดไปแล้วก็ล้วนหามาจัดการธุระให้เขาไม่ใช่หรือ? ก็แค่เขาไม่ได้จัดการโดยตรงเท่านั้นเอง แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่าใครกันแน่เป็เถ้าแก่ที่แท้จริง
โดยเฉพาะเื่ชื่อเสียงที่เจียงไป๋ต่อสู้แค่ครั้งเดียวและด้วยตัวคนเดียวสามารถจัดการฉวีเจี๋ยพร้อมกับพรรคพวกรวมยี่สิบสี่คนได้ ยิ่งมีคนเล่าลือกันมากมาย ทุกครั้งที่เจียงไป๋เข้ามาก็รู้สึกได้ถึงความเลื่อมใสแบบสุดๆ แต่สิ่งที่เจียงไป๋ยังไม่รู้ก็คือ ไม่ใช่แค่คนหลายสิบคนของต้าชื่อเจี้ยที่รู้ผลการต่อสู้ที่แข็งแกร่งของเขา จริงๆ แล้วในเขตช่างตงทั้งหมดก็แอบสรรเสริญชื่อของเขาเหมือนกัน
เจียงไป๋ไม่ใช่คนในวงการ และก็ไม่เคยคิดที่จะเป็ แต่ชื่อของเขากลับถูกผู้คนมากมายสรรเสริญ
อย่างไรก็ตามทั้งเขตช่างตงฉวีเจี๋ยก็เป็บุคคลที่อยู่ในจุดสูงสุด และเขาก็เป็คนปากมาก พอพบใครก็จะพูดว่าเจียงไป๋เก่งกาจแค่ไหน จนตอนนี้เจียงไป๋กลายเป็ลูกพี่หมายเลขหนึ่งของวงการไปแล้ว ที่เทียนตูยิ่งไม่ต้องพูดถึง อย่างน้อยในเขตช่างตงก็โด่งดัง ไม่รู้ว่ามีอันธพาลหนุ่มสาวมากเท่าไรที่อยากจะเข้าร่วมแก๊งกับเขา
คนหลายสิบคนที่ต้าชื่อเจี้ยรับมาใหม่นั้น ยอมรับเงินเดือนที่ต่ำแล้วมาเป็ยามเพื่ออะไรกัน?
ก็ไม่ใช่เพราะเมื่ออยู่ด้านนอกจะได้พูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่าเป็คนของพี่เจียงหรือ แล้วคนอื่นๆ ต่างก็ยอมให้? เพราะหากพูดออกไปก็หมายถึงหน้าตา!
เื่เหล่านี้เจียงไป๋กลับไม่รู้ แต่กล่าวได้ว่าเกินความคาดหมายของเจียงไป๋มาก
นอกจากสองเื่นี้แล้ว ครึ่งเดือนมานี้หม่าฉางหยางก็ไม่ว่าง เขาจัดการบริษัทภาพยนตร์แห่งนั้นให้เรียบร้อย และเปลี่ยนชื่อตามความ้าของเจียงไป๋ เขาเปลี่ยนชื่อเป็ “บริษัทภาพยนตร์หลงเถิง” และยังต้องหาคนมาทำโลโก้อีก ทั้งยังถามเจียงไป๋เพื่อเอาบัตรประจำตัวประชาชนมาโอนให้เจียงไป๋ก่อน ั้แ่ต้นจนจบก็ไม่ได้พูดถึงเื่เงิน สิ่งนี้กลับทำให้เจียงไป๋รู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง
เหมือนกับว่าทุกคนต่างก็กำลังยุ่ง และมีแค่เขาคนเดียวที่ว่าง นอกจากการอ่านหนังสือแล้ว ก็จีบสาวไปวันๆ
จีบใครนั้น ยังจะต้องพูดอีกหรือ?
ไม่ใช่พี่สาวเพื่อนบ้านจอมยั่วยวนคนนั้นหรือ? หลังจากที่แบ่งเงินโจรในครั้งก่อนแล้ว เจียงไป๋กับเหยาหลานก็สนิทกันไม่น้อย เมื่อพบหน้าก็ทักทายกันอย่างสนิทสนม เหมือนกับว่าเหยาหลานจะชอบหยอกเจียงไป๋มาก และก็โปรยเสน่ห์อยู่ตลอดเวลา ยั่วยวนจนทำให้เจียงไป๋ร้อนรุ่ม
เื่แปลกก็คือั้แ่วันนั้นเป็ต้นมาคิดไม่ถึงว่าอู๋เทียนจะไม่มาหาเจียงไป๋อีก และก็ไม่รู้ว่าเหยาหลานไปพูดอะไรไว้
่กลางวันในมหาวิทยาลัย ทุกวันน้องสาวญาติห่างๆ ของเขาจะมาส่งข้าวให้ ถึงแม้ยังคงปากแข็ง แต่น้ำใจที่มีมาอย่างไม่หยุดนั้นเจียงไป๋ก็ค่อยๆ รู้สึกได้ ตอนเย็นกลับบ้านไปก็ยังได้หยอกสาวสวยข้างบ้าน อย่าถามว่าเจียงไป๋ชุ่มชื่นมากเท่าไร แต่ความเสียใจเพียงอย่างเดียวก็คือหลังจากวันนั้นซูเหมยก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาหาเจียงไป๋อีก ราวกับหายไปจากโลกนี้แล้ว
“ติง ติง ติง … คุณปู่หลานปู่โทรศัพท์หาแล้ว … คุณปู่หลานปู่โทรศัพท์หาแล้ว”
เจียงไป๋ที่วันนี้นั่งอยู่ในห้องสมุดและกำลังถือหนังสือการตีความฝันของซิกมันด์ ฟรอยด์ มาอ่านอย่างสนใจ ขณะนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น นี่เขาเปลี่ยนเสียงเรียกเข้าแล้ว พอเสียงเรียกเข้าดังขึ้น คนนับร้อยในห้องสมุดก็ชำเลืองมองมา ทำให้เจียงไป๋รู้สึกอายอยู่บ้าง
“ฮัลโหล คุณเป็ใคร?” พอเห็นเป็เบอร์โทรศัพท์ของคนแปลกหน้า เจียงไป๋ก็ตะลึงงัน เขารับสายแล้วถามอย่างมีมารยาท
“นี่ใช่พี่ชายไหม? หนูชื่อหม่าชูเยี่ยน”
โทรศัพท์มีเสียงผู้หญิงดังออกมา เธอเป็เพื่อนร่วมห้องของหลินหว่านหรู ก่อนหน้านี้เจียงไป๋เคยพบครั้งหนึ่ง เด็กผู้หญิงสองสามคนนั้นไม่เลวเลย โดยเฉพาะหม่าชูเยี่ยนคนนี้สนิทกับหลินหว่านหรูที่สุด เวลานั้นยังหัวเราะเยาะพวกเขาสองคนต่อหน้า แต่ต่อมากลับขอเบอร์โทรศัพท์ของเจียงไป๋เสียเอง แต่ก็ไม่เคยติดต่อมาเลย
ดูนาฬิกาตอนนี้ก็หกเจ็ดโมงแล้ว ทำไมถึงโทรศัพท์มาหาเขาในเวลานี้?
“สวัสดี สวัสดี ชูเยี่ยนมีเื่อะไรหรือ?” เจียงไป๋ยิ้มพลางถาม สำหรับเด็กผู้หญิงใจกว้างที่มาจากหมู่บ้านเล็กๆ ในตงเป่ยนี้ เธอมีประสาทััที่ไม่เลวเลย
“เื่เป็อย่างนี้ เมื่อครู่จางเทียนอั๋งเพิ่งมารับหว่านหรูออกไป เหมือนกับว่าหว่านหรูมีเื่อะไรบางอย่างไปขอร้องเขา วันนี้เขาโทรศัพท์มาหาหว่านหรูบอกว่ามีข่าวแล้ว เหมือนกับว่าจัดการยากมาก ให้หว่านหรูไปกินข้าวกับเขา เขาถึงจะยอมช่วย แต่หนูกลับรู้สึกว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น ในมหาวิทยาลัยจางเทียนอั๋งก็ไม่ใช่คนดีอะไร ได้ยินว่าเมื่อก่อนมีรุ่นพี่ทำแท้งเพราะเขา และเขายังเคยทำเื่เลวๆ ไว้ด้านนอกอีกมากมาย หนูไม่ค่อยวางใจ ดังนั้นหนู … ”
“พวกเขาไปที่ไหนกัน?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว สีหน้าของเจียงไป๋ก็แปรเปลี่ยน น้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
หลินหว่านหรูจะมีเื่อะไรได้? ก็ไม่ใช่เื่ของเขาเื่นั้นหรือ! จริงๆ เลยเชียว ก็ไม่ใช่ว่าเคยบอกกับสาวน้อยคนนี้ไปแล้วหรือว่าเื่นี้จัดการแล้ว ทำไมเธอถึงไม่เชื่อ?
ยังมีอีกเื่ จางเทียนอั๋งคนนี้เป็อย่างไรกันแน่? ไม่ใช่พูดว่าอำนาจของครอบครัวมีไม่น้อยหรือ? หากจะช่วยจริงๆ ก็ไม่รู้เลยหรือว่าเื่นี้จัดการไปเรียบร้อยแล้ว? และจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ของเขากับฉวีเจี๋ยในตอนนี้หรือ? ทำไมถึงยังหลอกให้หลินหว่านหรูออกไปอีก?
กินข้าว? กลัวว่าจะไม่ง่ายขนาดนั้น!
“เหมือนกับว่าจะเป็โรงแรมว่านเหา!”
“พี่รู้แล้ว เธอวางใจได้ พี่จัดการเอง”
หลังจากที่รับปากแล้วเจียงไป๋ก็วางสาย และหันหลังเดินออกไปทันที เสี่ยวเทียนที่เดินเล่นอยู่รอบๆ มหาวิทยาลัยมาตลอดทั้งวัน เพียงครู่เดียวก็เรียกเขามาได้แล้ว เจียงไป๋ขึ้นรถ และรีบไปที่โรงแรมว่านเหาทันที
เมื่อมาถึงครึ่งทาง คิดอยู่สักพักก็รู้สึกว่าหากเขาไปคนเดียวก็จะไม่เหมาะสม จึงถือโอกาสโทรศัพท์ไปหาฉวีเจี๋ย
ไม่ใช่เพราะไปคนเดียวแล้วเขาจะกลัว แต่กำลังในการต่อสู้ของเจียงไป๋ไม่ธรรมดา และเื่เก็บงานควรให้ฉวีเจี๋ยจัดการจะดีกว่า เครือข่ายความสัมพันธ์ของคนคนนี้ซับซ้อน โดยเฉพาะความสนิทสนมกับตำรวจของโลกนี้ก็ไม่ธรรมดา หากเกิดเื่อะไรขึ้นมาจริงๆ เจียงไป๋จะลงมือเอง ส่วนที่เหลือก็ให้ฉวีเจี๋ยจัดการจะดีที่สุด เื่ความสัมพันธ์ภายนอกต่างๆ ของต้าชื่อเจี้ย ทั้งใช้เงินส่งของกำนัล เื่สร้างความสัมพันธ์อะไรเหล่านี้ก็ไม่ใช่ว่าเป็ฉวีเจี๋ยที่จัดการหรือ?
“ลูกพี่วางใจได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้!” ฉวีเจี๋ยได้ยินคำพูดนี้ของเจียงไป๋แล้วก็จัดกำลังคนตรงไปยังโรงแรมว่านเหาอย่างรวดเร็ว
ตอนที่เจียงไป๋มาถึงฉวีเจี๋ยก็มาถึงก่อนหน้าแล้ว ข้างกายของเขายังมีชายวัยกลางคนรออยู่ตรงนั้น “พี่ชาย นี่คือคุณฉางเ้าของโรงแรมว่านเหา เพื่อนของเหลาหม่า ฉันเพิ่งติดต่อได้ จางเทียนอั๋งที่พี่พูดถึงคนนั้นอยู่ชั้นบน”
“สวัสดีครับ คุณเจียง”
ประธานฉางคนนี้เป็คนฉลาดรู้ว่าอะไรเป็อะไร ถึงแม้เจียงไป๋อายุยังน้อย แต่เขากลับไม่ได้ดูถูก เขารีบเข้ามาจับไม้จับมือทักทายอย่างกระตือรือร้น
ว่านเหาเป็โรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งที่ราคาไม่ธรรมดา การมีอสังหาริมทรัพย์อย่างนี้ได้ ทั้งการต้อนรับขับสู้ยังเป็กันเอง มิน่าล่ะจึงเป็เพื่อนกับหม่าฉางหยางได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้