หลินฟู่อินคาดไม่ถึงว่าสองพี่น้องจะเชื่อใจนางมากเช่นนี้ แผนการทำเงินของนางจึงดูจะเป็จริงได้ง่ายดายขึ้น
แน่นอนว่าหากมันสำเร็จขึ้นมา นางจะไม่ตอบแทนพี่น้องคู่นี้อย่างหยาบคายแน่นอน…
“น้องฟู่อิน อยากให้พวกข้าช่วยทำอะไรหรือ? เ้าว่ามาก่อนเลย พวกข้าพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้แล้ว” อาเฝิงกล่าวด้วยท่าทีตื่นเต้น
หลินฟู่อินเกิดความมั่นใจในตัวญาติของนางผู้นี้ขึ้นมาทันที ว่าหากเป็ความคิดของเด็กผู้นี้แล้วละก็ ไม่ว่าอะไรก็คงทำสำเร็จได้เป็แน่
หลินฟู่อินรู้ดี ว่าคำว่าพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ที่นางกล่าวนั้นหมายถึงเื่ของสามีภรรยาหลินต้าเหอ
นางพิจารณาเื่นี้อย่างรอบคอบแล้ว การหาเงินด้วยการขายยาสมุนไพรคงต้องปัดตกไปก่อน เพราะยิ่งทำมาก ก็จะยิ่งไปต้องตาคนอื่นได้ง่าย
ดังที่ว่าราษฎรธรรมดาเดิมทีนั้นไม่มีความผิด แต่เพราะมีหยกกับตัวจึงมีความผิด
สถานการณ์ของนางในตอนนี้ไม่สู้ดีนัก จึงเป็การยากที่จะปกป้องตัวเอง
แต่เพราะนางมีเส้นสายกับหมอหลี่แล้ว นางจึงคิดจะใช้ประโยชณ์จากหมอหลี่ เริ่มสร้างธุรกิจเล็กๆ ขึ้นมาก่อน
“ข้าแค่อยากให้พวกเ้าไปขุดหรือตัดหญ้ากับผักป่า เพื่อล้างแล้วก็ตากแห้ง” หลินฟู่อินหัวเราะ “นี่เป็เื่ง่ายกว่าที่พวกเ้าทำในบ้านเก่ามากนัก ท่านลุงสองและป้าสะใภ้สองคงไม่คัดค้านเป็แน่”
“เอ๊ะ…เื่ง่ายเช่นนั้น แต่กลับจะให้เงินข้ากับพี่เดือนล่ะหนึ่งตำลึงเลยหรือ?” อาฝางอ้าปากค้าง แล้วจึงหันไปบอกหลี่ฟู่อินอย่างซื่อตรง “น้องฟู่อิน แค่ขอให้พวกข้าไปทำเช่นนั้นทุกวันมันไม่ง่ายกว่าหรือ? เหตุใดถึงให้ค่าจ้างมากมายนักกัน…”
แล้วอาเฝิงจึงกล่าวต่อ “ที่อาฝางพยายามบอกท่านก็คือ ปกติแล้วงานเช่นนี้มันไม่ได้ค่าแรงมากขนาดนั้น”
ในแคว้นต้าเหว่ยนี้ เงินหนึ่งตำลึงมีค่าเท่ากับหนึ่งร้อยอีแปะ หากพวกนางจะได้ค่าจ้างเป็เงิน 1 ตำลึงจริงๆ ก็แปลว่าพวกนางจะได้ค่าแรงวันละสามร้อยอีแปะ ซึ่งในแคว้นต้าเหว่ยนี้ คนปูกระเบื้องาุโ หรือแม้แต่ช่างไม้ก็ยังได้ค่าแรงเพียงวันละห้าอีแปะเท่านั้น
ดังนั้นสองพี่น้องจึงรู้สึกเหมือนกับว่าพวกนางกำลังเอาเปรียบหลินฟู่อินอยู่ พวกจึงไม่ได้ถามว่าหลินฟู่อินจะให้นางขุดหาผักและหญ้าพวกนั้นไปทำไม
สาวชาวไร่เช่นพวกนางนั้นเป็คนซื่อตรง และมักไม่คิดเื่ยุ่งยากขนาดนี้มาก่อนเลย
แต่หลินฟู่อินกลับกล่าวขึ้นมาอย่างไม่คิดอะไร “ข้าพอใจที่จะจ่ายพวกเ้าด้วยราคานั้น มันแสดงให้เห็นว่าข้าเห็นค่าของพวกเ้ามากเพียงใด เช่นนั้นอย่ากล่าวอะไรมากไปกว่านี้เลย วันนี้เข้านอนไปก่อน พรุ่งนี้เราจะตื่นแต่เช้า แล้วข้าจะบอกพวกเ้าว่าข้าอยากให้พวกเ้าไปขุดหาอะไร”
คำถูดของหลินฟู่อินมีอำนาจโน้มน้าว สองพี่น้องจึงตกลงแล้วหยุดคุย ทว่าในใจยังไม่สงบนัก
พวกนางรู้สึกว่าโชคชะตาของตระกูลนี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป
ทันทีที่ตะวันของวันที่ห้าเผยร่าง อาเฝิงก็ปลุกอาฝางทันที
สองพี่น้องไปหาเฝิงซื่อและหลินต้าเหอที่ต่างก็ตื่นเช้าทั้งคู่ แล้วจึงเล่าเื่ที่ได้ยินมาให้ฟัง
หลินต้าเหอและภรรยาต่างก็ใ พวกเขาทั้งสองล้วนรู้ว่าหลินฟู่อินอยากจะช่วยเหลือครอบครัวของพวกเขาเป็อย่างยิ่ง แต่เพราะกลัวว่าพวกเขาจะเสียหน้า จึงใช้ข้ออ้างนี้
อาเฝิงและอาฝางนั้นรู้สึกเป็หนี้บุญคุณกับหลินฟู่อินมากนัก
แต่แท้จริงแล้ว หลินต้าเหอกับภรรยานั้นเข้าใจผิด หลินฟู่อินเพียง้าได้ตัวอาฝางและอาเฝิงมาเป็ผู้ช่วยเพื่อการทำเงินในขั้นตอนถัดก็ไปเท่านั้น
หลังทานอาหารเช้าแล้ว หลินฟู่อินจึงพาอาเฝิงและอาฝางไปยังไร่ แล้วชี้สมุนไพรจีนสามัญสามชนิดในไร่ให้พวกนาง อันได้แก่ หญ้าเชอเฉียน [1] พั๊วกิไน้ [2] หยี่วซิงเฉ่า [3] เมื่ออาเฝิงและอาฝางเข้าใจแล้วจึงให้พวกนางขุดมาพร้อมราก ล้าง และส่งมายังบ้านนาง
ที่จริงแล้วนางอยากได้มากกว่านี้ แต่นางกลัวว่าพวกเด็กสาวจะจำได้ไม่หมด
อาเฝิงและอาฝางจำและแยกหญ้าเชอเฉียน พั๊วกิไน้ ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนหยี่วซิงเฉ่า นั้นพวกนางรู้จักอยู่แล้ว จึงขุดขึ้นมาตามคำสั่งของหลินฟู่อิน
หลินฟู่อินเองยังกล่าวเสริม “หากเ้าเห็นต้นไหนที่ออกดอกแล้ว อย่าถอนมันออกมาหมด ให้เหลือบางส่วนไว้ด้วย”
หญ้าเชอเฉียนนั้นใช้ลดไข้และล้างท้อง เพิ่มการไหลเวียนของกระแสเืและ ขจัดลิ่มเืและยังเป็ผลดีกับผิว
ส่วนต้นพลูคาวใช้ได้ผลดีกับภาวะท้องร่วง แผลบวม และภาวะเืไหลไม่หยุด
นางตั้งใจจะถามศิษย์ของหมอหลี่ที่จะมาในวันนี้ว่าสมุนไพรสามตัวนี้ถูกใช้บ่อยหรือไม่ หากไม่ นางก็อยากให้หมอหลี่ช่วยกระจายข่าวสรรพคุณของมันให้นาง
มันจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้คนได้ด้วย
หลังทำตามคำแนะนำของหลินฟู่อินไปพักหนึ่ง อาเฝิงและอาฝางก็ทำงานได้ดีมาก พวกนางขุดกันออกมาได้ถึงคนล่ะครึ่งตะกร้า
และนางยังบอกให้ทั้งสองเก็บใส่ถุงผ้าใบใหญ่กลับไปโดยไม่ต้องกลัวถุงขาด โดยที่นางยังบอกเพิ่มเติมอีกว่าให้กลับไปทานมื้อเที่ยงที่บ้านของนางในตอนบ่ายก่อน แล้วจึงกลับไปทำงานต่อได้
เมื่อหลินฟู่อินกลับมาถึง หลินต้าเหอและภรรยาก็กลับไปที่บ้านเก่าแล้ว ถึงแม้จะแบ่งบ้านกันไปแล้ว แต่ก็ยังเป็บ้านของพวกตน พวกเขาจึงกลับไปช่วยทำความสะอาด
หลินฟู่อินเห็นว่ายายหลี่ เสี่ยวเป่า และเสี่ยวเป้ยไม่อยู่ที่บ้าน นางจึงรู้ว่ายายหลี่พาพวกเขาไปขอนม
นางยิ่งซาบซึ้งในตัวยายหลี่มากขึ้นไปอีก เพราะหากเป็นางที่ถูกเรียกว่าเป็ดาวอับโชคไปขอเองแล้ว เสี่ยวเป้ยและเสี่ยวเป่าคงไม่ได้นมเป็แน่
เมื่อหลินฟู่อินหยิบไม้กวาดขึ้นมาเพื่อเตรียมกวาดลาน ก็มีเสียงของชายหนุ่มที่ฟังดูซื่อสัตย์ดังขึ้น “ขอรบกวน ที่นี่ใช่บ้านของหลินฟู่อิน ใช่หรือไม่?”
“ใช่เ้าค่ะ” หลินฟู่อินวางไม้กวาดลงแล้วจึงเดินไปเปิดประตู
เมื่อประตูเปิดออก นางจึงได้พบกับบุรุษผู้หนึ่งที่สูงกว่านาง สวมชุดคลุมสีขาว ดูบริสุทธิ์และหล่อเหลา
ชายผู้นี้ดูเหมือนบัณฑิต แต่กลับมีวัยเพียงสิบแปดสิบเก้า เมื่อเขาเห็นหลินฟู่อินที่กำลังเปิดประตูแล้วก็นิ่งไปทันที
“ข้าคือหลินฟู่อินเ้าค่ะ ท่านคือศิษย์ของหมอหลี่สินะเ้าคะ?” หลินฟู่อินทักทายอย่างนอบน้อม แล้วจึงผายมือเชิญเขาเข้ามา “เชิญเข้ามาคุยด้านในเถิดเ้าค่ะ”
“ข้ามีนามว่าหลีอี่ เป็ศิษย์ของหมอหลี่ขอรับ วันนี้ข้ามาพบท่าน เพราะท่านอาจารย์บอกให้นำเงินมาให้ท่าน”
ดูเหมือนเขาจะมีนามว่าหลีอี่ ช่างเป็เป็ชื่อที่งดงามนัก อีกทั้งแซ่หลี่นี่… ดูท่าเขาจะมีความเกี่ยวดองอะไรกับหมอหลี่อยู่เป็แน่
“เชิญคุณชายเข้ามาดื่มน้ำสักหน่อยเถิดเ้าค่ะ ฟู่อินผู้นี้มีเื่จะถามไถ่ท่านอยู่พอดี” หลินฟู่อินกล่าวอย่างนอบน้อม
หลีอี่นั้นคิดว่าลุงของเขาวานให้เขานำเงินมาให้ท่านป้าสักคน แต่เขาคิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับสตรีรูปงามที่ดูภูมิฐานออกมาเปิดประตูรับเขาแทน
นางสวมชุดฝ้ายสีฟ้าสะอาด ดูเรียบง่ายและสดชื่น แม้ชุดจะมิได้หรูหรา แต่การวางตัวกลับดูไม่เหมือนสตรีที่เกิดในชนบทชาวนาเลย
จากสายตาของเขาแล้ว นางดูดีกว่าบุตรีของคนรวยทั่วๆ ไปหรือแม้แต่ข้าราชการชั้นผู้น้อยหลายๆ คนเสียอีก นั่นทำให้เขาประหลาดใจเป็อย่างยิ่ง
เชิงอรรถ
[1] 半枝莲 พั๊วกิไน้ปั่นจือเหลี่ยน หรือ หมวกหนาม ชื่อวิทยาศาสตร์ Scutellaria barbata เป็ไม้ล้มลุกยืนต้นโดยทั่วไปสูงถึง 35 เิเ บางครั้งก็สูงกว่า ใบที่มีฟันบางจะค่อนข้างรูปใบหอกหรือเป็รูปสามเหลี่ยมและยาวได้ถึง 3 เิเ ดอกไม้อยู่บนก้านดอกที่มีหนามแหลมเล็กๆ กลีบของดอกไม้สีม่วงอมฟ้ามีขนอ่อนๆ ยาวประมาณหนึ่งเิเ พืชเจริญเติบโตในที่อยู่อาศัยที่ชื้นและเปียก เช่นนาข้าว และเป็สมุนไพรเติบโตบนพื้นที่ราบทางตอนใต้ของจีนตอนกลาง มักเก็บเกี่ยวใน่ปลายฤดูร้อน
[2] 车前草 เชอเฉียนเฉ่า หรือ ผักกาดน้ำเล็ก ชื่อวิทยาศาสตร์ Plantago asiatica L. จัดอยู่ในวงศ์เทียนเกล็ดหอย (PLANTAGINACEAE) สมุนไพรผักกาดน้ำเล็ก ต้นใช้ปรุงเป็ยาร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ ได้ รากนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็ยาแก้กระษัย ใช้แก้ความดันโลหิตสูง ช่วยทำให้ตาสว่าง ช่วยรักษาตาแดงเฉียบพลัน ตาเป็ต้อ แก้ขอบตาเป็เม็ดบวม
[3] 鱼腥草 หยี่วซิงเฉ่า หรือ พลูคาว ชื่อวิทยาศาสตร์ Houttuynia cordata Thunb. จัดอยู่ในวงศ์ผักคาวตอง (SAURURACEAE) มีฤทธิ์ในการช่วยต่อต้านมะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง มีฤทธิ์ในการช่วยบำบัดฟื้นฟูโรคความดันโลหิตสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ต้านทานโรค ช่วยยืดอายุผู้ป่วยให้อยู่สู้โรคได้นานมากขึ้น มีส่วนช่วยยับยั้งเบาหวาน รักษาความสมดุลของร่างกาย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้