เื่นี้ก็เป็แค่เื่เล็กๆ ที่แทรกมาเื่หนึ่ง เพียงแค่สองสามนาที ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่ได้พูดถึงเลย
จางฉางเกิงได้รับการให้อภัยจากเจียงไป๋ และมีความกล้าขึ้นมาแล้ว บางทีอาจจะเป็เพราะดื่มเหล้าไปหนึ่งแก้ว จึงทำให้มีความกล้าไม่น้อย และเริ่มออกตัวประจบ ทุกคนดื่มกันไปไม่น้อย ท้ายที่สุดทุกคนต่างก็เมามาย
แค่กินข้าวก็ใช้เวลาไปสองถึงสามชั่วโมงแล้ว แต่พวกเขาก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
เื่ราวต่างๆ สามารถจัดการได้อย่างน่าพอใจ
วันที่สองเจียงไป๋ให้คนไปจัดการอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ และยังคงเป็หลี่เฉียงทำหน้าที่ผู้จัดการใหญ่ ส่วนฉวีเจี๋ยรับผิดชอบจัดการเื่อื่นๆ ทั้งหมดเป็ธุรกิจบันเทิง ซึ่งพวกเขาก็ชำนาญด้านนี้ดี
สำหรับบริษัทขนส่งแห่งนั้น หวางเป้าแนะนำบุคคลที่เป็มืออาชีพคนหนึ่งให้ ชื่อว่าโจวเจี๋ย
เมื่อก่อนเขาเคยเปิดบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง และบริหารได้อย่างรุ่งเรือง แต่เสียดายที่ประสบกับวิกฤติทางการเงิน เขาทำงานหนักมาหลายปีแต่กลับกลายเป็การตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ตอนนี้หวางเป้าแนะนำเขาให้มาช่วยเจียงไป๋บริหารบริษัทที่มีรายรับปีละสิบล้านแห่งนั้นก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว
ส่วนเจียงไป๋ก็ถือโอกาสให้เขาบริหารร้าน 4S นั้นไปด้วยเลย
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นก็ใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์กว่าไปแล้ว
ระหว่างนี้เจียงไป๋ได้พบกับจ้าวอู๋จี๋อีกครั้งในบ้านของเขา ทั้งสองคนยิ่งสนิทกันมากขึ้น
โดยเฉพาะหวางเป้าที่เรียกกันเป็พี่เป็น้องกับเจียงไป๋ และบางครั้งก็เผยเจตนาที่อยากจะขอคำแนะนำ แต่ก็ถูกเจียงไป๋ตอบกลับไปแบบลวกๆ
ล้อเล่นน่า เป็ปรมาจารย์เหมือนกัน ประสบการณ์ของหวางเป้าก็ยิ่งเฟื่องฟูกว่า เป็อย่างนี้แล้วจะให้เจียงไป๋แนะนำเขาได้อย่างไร?
จะแนะนำอย่างไร หากจะให้เขาแนะนำสู้เปิดเผยตัวออกไปเลยไม่ดีกว่าหรือ?
ส่วนจางฉางเกิงกลับไม่ได้มาปรากฏตัวอีก หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เขาติดต่อเจียงไป๋เป็บางครั้งบางคราว และหวังว่าจะได้เลี้ยงข้าวเจียงไป๋อีก แต่เจียงไป๋ค่อนข้างยุ่ง จึงเบี้ยวนัดไปก่อน
ถึงแม้จะเป็เช่นนี้ แต่อีกฝ่ายก็แสดงออกถึงความจริงใจมาพอสมควร ทำให้ช่องว่างของทั้งสองคนลดลงมามากแล้ว
เจียงไป๋ถือโอกาสนี้โอนเงินให้พ่อกับแม่ก้อนหนึ่ง จำนวนไม่มาก เพียงสองแสนกว่าหยวนเท่านั้น
ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้ แต่เขากลัวว่าเมื่อให้ไปมากๆ ก็จะทำให้อีกฝ่ายใได้
แค่นี้ก็ต้องอธิบายกันยกใหญ่ และอาจจะทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง
“ยินดีด้วย หนุ่มน้อย รวมแต้มบารมีครบหนึ่งหมื่นแต้ม ได้จับรางวัลระดับกลางฟรีหนึ่งครั้ง ครั้งหน้าจะเป็การจับรางวัลระดับสูง แต้มบารมีครบหนึ่งหมื่นแต้มเริ่มจับ ตอนนี้เริ่มโหมดของการจับรางวัล”
ตอนที่เจียงไป๋เพิ่งจัดการเื่ยุ่งวุ่นวายเสร็จ และกำลังจะนอนอยู่ในห้อง เสียงของระบบที่อยู่ในหัวก็ดังขึ้น
วินาทีต่อมาเครื่องสล็อตแมชชีนได้ปรากฏขึ้น เจียงไป๋ออกคำสั่งแล้วเริ่มหมุน ช่องสีฟ้าสี่ช่อง ช่องสีขาวสองช่อง ช่องสีม่วงสามช่อง คุณภาพดีกว่าการจับรางวัลขั้นต้นไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
“ผับ ผับ ผับ”
เครื่องสล็อตแมชชีนหมุนไปอย่างบ้าคลั่ง หลังจากสิบกว่าวินาทีก็ค่อยๆ หยุดอยู่ที่ช่องสีม่วงช่องหนึ่ง
หลังจากนั้นเสียงของระบบก็ดังขึ้น “ยินดีด้วย หนุ่มน้อย เ้าได้ช่องสีม่วงคือความสามารถพิเศษในการฟื้นฟูที่แข็งแกร่งเหลือล้น!”
“การฟื้นฟูที่แข็งแกร่งเหลือล้น คุณลักษณะพิเศษ X-เม็น มีความสามารถในการฟื้นฟูแข็งแกร่งที่สุด เทียบเท่ากับร่างะ เลเวลนี้คือเลเวลอ่อน ผลลัพธ์ก็อ่อนเป็สิบเท่า ความสามารถในการชะลอความแก่ต่ำลงสิบเท่า แขนขา หัว และอวัยวะสำคัญไม่สามารถงอกใหม่ได้ แต่สามารถอัปเลเวลได้ แต้มบารมีหนึ่งแสนแต้มสามารถอัปเลเวลที่สมบูรณ์ได้ เทียบได้กับร่างะ”
คำแนะนำของระบบดังอยู่ข้างหูของเจียงไป๋
ตามมาด้วยความรู้สึกที่อบอุ่น เจียงไป๋รู้สึกว่าร่างกายเต็มไปด้วยพลัง ทุกอณูเล็กๆ ล้วนกำลังปีติยินดี ราวกับมีชีวิตชีวาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เจียงไป๋ถือโอกาสหยิบมีดขึ้นมากรีดลงไปที่ข้อมือ เขาพบว่าาแเริ่มฟื้นฟูด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
ถึงแม้ว่าความเร็วจะยังช้ากว่าวูล์ฟเวอรีนในภาพยนตร์มาก าแยาวหนึ่งนิ้วมือใช้เวลาหนึ่งนาทีกว่าๆ ถึงจะหยุดเืได้ หลังจากสองชั่วโมงจึงจะหายดี ผลลัพธ์ก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่สำหรับเจียงไป๋แล้วเขากลับรู้สึกตื่นตาตื่นใจว่านี่มันเทพชัดๆ
และนี่ก็แสดงว่าพลังชีวิตของเขาได้อัปเลเวลขึ้นมาก แค่ไม่ใช่อาการาเ็จนถึงชีวิต และเครื่องในทั้งห้าไม่แหลกสลาย เจียงไป๋ก็ล้วนหายดีได้ ซึ่งนี่ก็ถือว่าแข็งแกร่งอย่างที่สุดแล้ว
สำหรับเลเวลสมบูรณ์?
แค่คิดเจียงไป๋ก็ยังไม่กล้า!
แต้มบารมีหนึ่งแสนแต้ม?
เขาจะไปเอามาจากไหนได้!
หากรู้ว่า ตอนนั้นก็ออกแรงไปมาก แต่เจียงไป๋เพิ่งจะรวบรวมแต้มบารมีได้ครบหนึ่งหมื่นแต้มเท่านั้น
เื่กระบี่เทพสังหารปล่อยออกไปมากกว่าครึ่งแล้ว หากนานสุดสองเดือนก็คงจบ เครื่องมือเก็บเกี่ยวแต้มบารมีที่ใหญ่ที่สุดก็จะไม่มีอีกแล้ว
สำหรับลูกสมุนเ่าั้ของเขา แต้มบารมีที่พอจะจัดสรรให้เขาได้ตอนนี้ก็ยังมีอีกไม่น้อย
เจียงไป๋มีกิจการที่จางฉางเกิงมอบให้ ตอนนี้พนักงานที่เขามีก็ประมาณสองพันกว่าคน และตอนนี้พวกฉวีเจี๋ยยังมีผู้คนบากหน้ามาขออยู่ด้วยมากมาย กำลังยิ่งแข็งแกร่งจำนวนคนก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุด
ตอนนี้เจียงไป๋ได้รับแต้มบารมีประมาณวันละยี่สิบจุดเจ็ดสองแต้ม
แต่เมื่อเทียบกับจำนวนหนึ่งแสนก็ถือว่ายังไกลเกินเอื้อม
ไม่ต้องพูดถึง “การฟื้นฟูที่แข็งแกร่งเหลือล้น” ของเลเวลสมบูรณ์หรอก สิ่งที่เจียงไป๋อยากทำมากที่สุดในตอนนี้ก็คือยกระดับกำลังของเขาให้ถึงขั้นปรมาจารย์ใหญ่ หากยังต้องติดต่อกับพวกหวางเป้าอีกต่อไปจะช้าหรือเร็วก็ต้องเผยพิรุธออกมา
แต่แต้มบารมีหนึ่งหมื่นหกพันแต้มนั้นกลับทำให้เจียงไป๋ปวดหัว เพราะตอนนี้ยังห่างอีกมาก
“ช่างเถอะ ไม่คิดเื่พวกนี้แล้ว พรุ่งนี้นัดไว้แล้วว่าจะไปที่บริษัทภาพยนตร์ หวังว่าจะสามารถหาวิธีการเอาแต้มบารมีมาจากกิจการภาพยนตร์ได้เร็วหน่อย”
เจียงไป๋ส่ายหัวไปมา และไม่อยากคิดเื่ที่ทำให้ปวดหัวอีก เขาจึงหาภาพยนตร์ตลกดูสักเื่
ก็แค่อีกฝ่ายมีมุกตลกมาก แต่สำหรับคนที่ได้รับการล้างบาปถูกหนังฮ่องกงและหนังตลกมากมายจู่โจมอย่างเจียงไป๋แล้ว ก็ยังรู้สึกว่าไม่เพียงพอเท่าไร
ซึ่งนี่ก็ทำให้เจียงไป๋เข้าใจการตลาดทางวัฒนธรรมของโลกนี้ขึ้นมาบ้าง ถึงแม้จะไม่เลว แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอ
ไม่ทันไรก็ค่ำแล้ว เขาผล็อยหลับไป
พอวันที่สองเมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็เที่ยงแล้ว เสี่ยวเทียนมารออยู่ด้านล่างนานแล้ว และขับรถไปไม่นานก็เข้ามาในเมือง
บริษัทภาพยนตร์ที่หม่าฉางหยางโอนให้เจียงไป๋ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สำนักงานอยู่ในอาคารสำนักงานชั้นสูงซึ่งถูกเช่าทั้งชั้น เจียงไป๋ทำความเข้าใจมาก่อนแล้ว และเสี่ยวเทียนก็เคยติดต่อกับอีกฝ่าย
วันนี้เป็วันที่เถ้าแก่ใหญ่อย่างเจียงไป๋จะมารับตำแหน่งเป็วันแรก
ในฐานะเถ้าแก่คนก่อนอย่างหม่าฉางหยางก็มารออยู่ที่นี่แล้ว
หลังจากที่เจียงไป๋จัดการจางฉางเกิง และยังเป็เพื่อนกับจ้าวอู๋จี๋อีก ตอนนี้หม่าฉางหยางยิ่งเคารพนอบน้อมเจียงไป๋มากเข้าไปอีก หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ถึงจะพบกันแค่ครั้งเดียว แต่ท่าทางและมุมมองของเขาก็เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก เรียกได้ว่าช่างประจบประแจงมากขึ้น
“คุณเจียง ยินดีต้อนรับ ยินดีต้อนรับ!”
่เช้าตรู่ หม่าฉางหยางก็พาคนมารออยู่ที่ด้านล่างอาคารหลังนี้มากมายแล้ว พอเห็นเจียงไป๋ลงจากรถ เขาก็รีบพุ่งเข้ามารับเป็คนแรกและจับมือทักทายอย่างถ่อมตัวเป็ที่สุด
สำหรับการเรียกขานน้องชายอะไรในเมื่อก่อนนั้น ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว และเปลี่ยนเป็ “คุณเจียง” อย่างเคารพนอบน้อม
“พี่หม่าจะเกรงใจอะไร คนกันเองทั้งนั้น”
เจียงไป๋พูดอย่างยิ้มแย้ม วินาทีต่อมาเจียงไป๋ก็ต้องตกตะลึงทันที
เพราะไม่ไกลจากตรงนี้ เขาเห็นร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่ง คนที่คุ้นจนไม่รู้จะคุ้นไปมากกว่านี้ได้อีกไหม เหยาหลาน!
ใช่แล้ว เธอก็คือเพื่อนบ้านสาวสวยทรงเสน่ห์คนนั้น คนสวยเซ็กซี่ที่ทำให้เจียงไป๋ได้เงินมาหลายแสนหยวนอย่างฟรีๆ คนนั้น เหยาหลาน!
“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?”
เจียงไป๋กับเหยาหลานปริปากพูดพร้อมกัน ั์ตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
“อ้อ! นี่คือประธานเหยาของบริษัทพวกเรา เหยาหลาน คุณอาจคิดว่าเธออายุยังน้อย แต่เธอก็เป็มือดีชั้นหนึ่ง ผมเป็คนหยาบไม่เข้าใจธุรกิจภาพยนตร์ ที่บริษัทอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ก็เป็เพราะเหยาหลาน ฮ่าๆ พูดไปก็ตลก ลูกชายตัวดีของผมเดิมทีเปิดบริษัทนี้เล่นๆ แต่หลังจากที่ประธานเหยาของพวกเราเข้ามาแล้ว ลูกชายของผมก็ไม่กล้ามาอีก คุณเจียงรู้จักเธอหรือ?”
หม่าฉางหยางเป็คนฉลาดมากคนหนึ่ง แค่แวบเดียวก็มองออกว่าเจียงไป๋กับเหยาหลานรู้จักกัน เขาหัวเราะเสียงดังแล้วรีบเข้ามาแนะนำทันที
เขามีความคิดอยู่ภายในใจแล้วว่า ต่อไปควรจะสนิทสนมกับประธานเหยาไว้ให้มากหน่อย ถึงแม้ว่าบริษัทแห่งนี้จะเป็ของเจียงไป๋แล้ว ส่วนบุคคลที่สองก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ อีก แต่ทั้งสองฝ่ายก็สานสัมพันธ์กันมาหลายปี และจะไม่หายไปเพราะเหตุนี้
“ประธานเหยา?”
เจียงไป๋ตะลึงงัน และมองเหยาหลานอย่างไม่เชื่อสายตา
ถึงแม้เมื่อก่อนเหยาหลานจะเคยพูดแล้วว่า จริงๆ แล้วเธอเป็นางงามตู้กระจกอยู่ในไนท์คลับแห่งหนึ่ง แต่เจียงไป๋ก็ไม่เคยเชื่อ แต่จู่ๆ เหยาหลานกลับมาปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเขา และยังมีฐานะเป็ถึงประธานของบริษัทภาพยนตร์ ช่างเหนือความคาดหมายจริงๆ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้