โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าของเขาที่อยู่ท่ามกลางแสงและเงา ทำใหู้เาและลำธารตื่นตาตื่นใจ ทำให้ดวงดาวและดวงจันทร์พลันสวยงามสว่างไสว คิ้วตาองอาจกล้าหาญ แผ่กลิ่นอายของวีรบุรุษ ดวงตาสีดำลึกล้ำคู่นั้นราวกับหินูเาไฟ ริมฝีปากบางเม้มแน่นนำพาความเย็นะเืราวกับลมหนาวที่โหยหวน การผสมผสานทุกส่วนของใบหน้าดุจผลงานชิ้นเอกที่แกะสลักอย่างประณีตบรรจง ในยามนั้น พระจันทร์ที่เคลื่อนผ่านก็ยังยากที่จะซ่อนความงามของเขาเอาไว้
ตี้หลิงหาน องค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรต้าโจว บุรุษที่งดงามที่สุดในอาณาจักร
ในยามนั้นเอง เสื้อคลุมอาบน้ำของเขาเปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง หยดน้ำเย็นเฉียบไหลรินลงมาตามหน้าอกของเขา ผ่านิัไหลลงไปซ่อนตัวอยู่ในเสื้อคลุมอาบน้ำ พาให้ผู้คนตกอยู่ในภวังค์แห่งเสน่ห์อันเหลือล้น
“ของเล่า? ”
ตี้หลิงหานเห็นเจียงจื่อเฮ่าตกตะลึงไร้สติจึงคิ้วขมวดเล็กน้อย เขาเปิดปากกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า
"อยู่นี่! "
เจียงจื่อเฮ่าถูกน้ำเสียงที่เย็นะเืราวกับน้ำแข็งพาให้สะดุ้งตัวโยน เขาได้สติกลับมาทันที เมื่อสบประสานเข้ากับสายตาที่ขุ่นเคืองเล็กน้อยของตี้หลิงหาน เขาพลันตื่นกลัวจนรีบถอดเสื้อผ้าของตนเองออก หนึ่งชั้น สองชั้น...
"ข้าเก็บสิ่งของไว้ใกล้ตัวมาตลอดทาง เร่งม้าเร็วให้รีบกลับมา ดอกบัวพันปีถูกเก็บไว้ในกล่องกระเบื้องเคลือบ ไม่มีทางเหี่ยวเฉาหรือเสียหาย องค์รัชทายาท ท่านดูนี่..."
เสียงของเจียงจื่อเฮ่าชะงักไปในทันที ดวงตาของเขาเบิกกว้าง จ้องมองด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาหยิบออกมาจากอ้อมแขนของตน
ไม่ใช่กล่องกระเบื้องเคลือบแต่เป็กล่องไม้...
สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนทันที ร่างทั้งร่างพลันเย็นเฉียบ ความหนาวเย็นพุ่งเข้าเกาะกุมหัวใจของเขาทันที
“เหตุใดถึงกลายเป็กล่องไม้ไปได้เล่า? ผู้ใดเอาของของข้าไป? ”
เสียงของเจียงจื่อเฮ่าแหบพร่า ใบหน้าของเขาซีดเผือด
ตี้หลิงหานเองก็หรี่ตาลงเช่นกัน
วินาทีต่อมา เจียงจื่อเฮ่าเปิดกล่องไม้ด้วยมือที่สั่นเทา
"ระวังกลอุบาย"
ตี้หลิงหานเตือนด้วยเสียงที่เ็า ทว่าเจียงจื่อเฮ่าที่กำลังตื่นตระหนกหูดับไปแล้ว ไม่ว่าคำพูดใดล้วนฟังไม่เข้าหู ฉับพลันทันใดนั้นเขาเปิดกล่องออกมา
ได้ยินเพียงเสียงแกร๊กหนึ่งเสียง ยามที่กล่องเปิดออกมา จู่ๆ ผงแป้งพลันฟุ้งกระจายไปทั่วทันที
"ระวัง"
เจียงจื่อเฮ่าโยนกล่องลงบนพื้นทันทีเพราะคิดว่ามันคือหมอกพิษ ชายหนุ่มรีบถอยไปบังหน้าตี้หลิงหานอย่างรวดเร็ว
“ไม่ใช่พิษ เป็ละอองเกสร”
เสียงที่เยือกเย็นของตี้หลิงหานดังขึ้น มันทุ้มต่ำและแหบอยู่เล็กน้อย
เจียงจื่อเฮ่าใช้มือปิดจมูกก่อนจะหยิบกล่องไม้บนพื้นขึ้นมา ยามที่มือของเขาเปิดกล่องไม้นั่นขึ้นมาอีกครั้งมันก็พ่นละลองเกสรออกมาอีกครา หลังจากนั้นก็มีโลหะเด้งดึ๋งขึ้นมา กวัดแกว่งไปมาซ้ายทีขวาที บนยอดนั้นมีลูกปัดไม้แขวนอยู่ ซึ่งลูกปัดนั้นสลักด้วยใบหน้าพระอาทิตย์ยิ้ม
นี่คือสิ่งของอันใดกัน?
แผนภาพของกลุ่มลับ?
มือของเจียงจื่อเฮ่าสั่นเทา ยามที่มองดูใบหน้ายิ้มแย้มที่แกว่งไปมาในมือของตนเอง ใบหน้าของเขาพลันขาวซีด
“เหตุใดถึงกลายเป็เช่นนี้ไปได้? แล้วดอกบัวพันปีของข้าเล่า? เป็ผู้ใดกันที่ขโมยดอกบัวพันปีของข้าไป? ดอกบัวพันปีของข้าจะกลายเป็ของเล่นโง่ๆ ชิ้นนี้ได้อย่างไร”
เจียงจื่อเฮ่าทั้งใและโกรธจัด
“ข้าเก็บมันไว้กับตัวตลอดเวลา แม้แต่นักฆ่าก็มิอาจเข้ามาใกล้ข้าได้ เหตุใดถึงกลายเป็เช่นนี้? ”
เจียงจื่อเฮ่าตื่นตระหนก เขารีบเงยหน้าขึ้นมองตี้หลิงหาน "ท่านพี่หาน ท่านเชื่อข้าเถิด ข้าได้รับดอกบัวพันปีมาแล้วจริงๆ ข้ารู้ว่าโอสถนี้สำคัญต่อท่านมากเพียงใด ข้าเก็บมันอย่างระวังมาตลอดทาง เก็บไว้ใกล้ตัวตลอด..."
ภายใต้ความโกรธเกรี้ยว เขาพลันเอ่ยนามของตี้หลิงหานออกมาโดยตรง
ตอนนี้เขาทั้งโกรธและสับสน อีกทั้งยังกลัวว่าตี้หลิงหานที่อยู่ตรงหน้าจะไม่เชื่อเขา
"ครั้งสุดท้ายที่เ้าเห็นดอกบัวพันปีนี้คือเมื่อใด"
ตี้หลิงหานไม่สนใจเขา กล่าวขึ้นมาอย่างเ็า มองไม่ออกว่าแววตาของเขายินดีหรือโกรธเคือง
"โรงเตี๊ยมตงข่วงจวิ้น ข้าหยิบมาดูครั้งหนึ่ง คนรับใช้ส่วนตัวของข้าถูกคนของกลุ่มนักฆ่าบังคับให้ใส่พิษห้าประการในอาหารของข้า ทว่าสุดท้ายเขาทนบาปกรรมในใจมิไหว หลังจากบอกความจริงทั้งหมดกับข้าแล้วเขาก็แขวนคอตาย ตอนนั้นข้าจึงหยิบดอกบัวพันปีออกมาดู หลังจากนั้นก็รีบเร่งเดินทางทั้งวันทั้งคืนมุ่งหน้ามายังเมืองหลวง...”
เจียงจื่อเฮ่าจดจำได้อย่างชัดเจน เขาสามารถบอกทุกๆ รายละเอียดได้ทันที
"หลังจากนั้นเล่า"
"หลังจากนั้น ข้าก็เดินทางมาถึงเขาฉุ่ยเฟิง ก่อนจะพบเข้ากับการดักซุ่มโจมตี นักฆ่าสิบคน ใน่เวลาวิกฤติยาพิษพลันออกฤทธิ์ ข้าคิดว่าตนเองจะตายไปแล้ว แต่ก็ได้คนช่วยเอาไว้ทำให้รอดชีวิตมาได้"
“มีคนมาช่วยอย่างนั้นหรือ? ”
ตี้หลิงหานถาม แสงในดวงตาของเขาทอประกายบางเบา ทว่ากลับแผ่บรรยากาศลึกล้ำสงบนิ่งออกมา เมื่อเทียบกับความตื่นตระหนกของเจียงจื่อเฮ่า ตี้หลิงหานนั้นมีความสุขุมกว่ามาก
"ใช่ ใช่แล้ว ข้าถูกแม่ลูกคู่หนึ่งช่วยเอาไว้" ทั้งยังเป็แม่ลูกที่งดงามยิ่งนักอีกด้วย
เจียงจื่อเฮ่ากล่าว
"เล่าให้ละเอียด"
เจียงจื่อเฮ่าจึงเล่าเื่ทั้งหมดั้แ่ต้นจนจบ เขาเล่าทั้งหมดออกมาโดยไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว
หลังจากที่เขาพูดจบก็พบว่าตี้หลิงหานนั้นหลุบสายตาลงต่ำ ชายหนุ่มเคาะนิ้วเป็จังหวะ สีหน้าคาดเดาไม่ได้ พาให้ผู้คนเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่
“เ้าบอกว่าสตรีผู้นั้นมีนามว่ากระไรนะ? ”
“นางแซ่ห่าว ชื่อพยางค์เดียวคือเหมย มาจากตระกูลห่าวแห่งต้าโจว ข้าสามารถตามป้ายหยกประจำตัวของนางตรวจสอบฐานะและตัวตนของนางได้”
ทันทีที่ิสิ้นเสียง เจียงจื่อเฮ่าก็รีบหยิบป้ายหยกประจำตัวขึ้นมาตรงหน้า
ตี้หลิงหานรับไว้ ทว่ามุมปากของเขากลับยกยิ้มเ้าเล่ห์เ็าขึ้นมา แววตาไร้ซึ่งความอบอุ่น เพียงแค่ได้ยินเสียงแกร๊ก ป้ายหยกในมือพลันแตกสลายกลายเป็ผุยผง
“เหอะ...”
เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของตี้หลิงหาน เจียงจื่อเฮ่าไม่กล้าหายใจแรง เขากลืนน้ำลายเข้าไปคำใหญ่ "ทำไมหรือ? องค์รัชทายาท แม่ลูกคู่นี้มีปัญหาอันใดหรือ? หรือว่าท่านมองเห็นอะไรจากป้ายหยกชิ้นนี้กัน?"
“เจียงจื่อเฮ่า ที่แท้แล้วเ้ายังโง่เขลาเหมือนเมื่อก่อนจริงๆ ป้ายหยกประจำตัวนี้เป็ของปลอม”
หลังจากนั้นเจียงจื่อเฮ่าก็ได้ยินการเยาะเย้ยที่ไร้ซึ่งความเกรงใจของตี้หลิงหาน
สีหน้าตี้หลิงหานแสดงออกอย่างเ็า องคาพยัพทั้งห้างดงามหล่อเหลาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
เจียงจื่อเฮ่าตัวสั่นเทา “ของปลอมหรือ? ที่แท้แล้วปัญหาอยู่ที่แม่ลูกคู่นั้นหรือ? ”
ตี้หลิงหานหมุนกายหันหลังกลับ เขาไม่อยากแม้แต่จะเอื้อยเอ่ยคำพูดอีกสักคำ
“หลิงหาน องค์รัชทายาท ท่านคุยกับข้าก่อน ตกลงแล้วข้าถูกวางแผนที่ใด? ทั้งๆ ที่ข้าเก็บมันเอาไว้ใกล้ตัวตลอด เป็ผู้ใดที่ใช้โอกาสโจมตีข้าจากด้านหลังขโมยดอกบัวพันปีของข้าไป ข้าจะไปแย่งคืนมา ข้าจะพยายามสุดชีวิต ข้าไม่ยอม ข้าจะตรวจสอบให้ได้ว่าพระอาทิตย์ยิ้มนี้มาจากคนกลุ่มใด ข้าขออภัยท่านด้วยจริงๆ ”
เจียงจื่อเฮ่าคำรามเสียงดัง ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาเต็มไปด้วยความเ็ป ชายหนุ่มใกล้จะร่ำไห้ออกมาแล้ว เขารีบพุ่งเข้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อกอดเข้าที่ต้นขาของตี้หลิงหาน ไม่ให้เขาเดินจากไป
ยามนั้นเขาโมโหยิ่งนัก ในขณะเดียวกันก็อยากรู้ว่าเป็ผู้ใดที่ซ่อนตัวอยู่เื้ัเื่ๆ นี้
ตี้หลิงหานขมวดคิ้ว เขาพยายามอดทนอย่างถึงขีดสุดที่จะไม่เตะเจียงจื่อเฮ่าให้ปลิวออกไป
"ปล่อย"
“ไม่ปล่อย บอกข้ามาสิ ข้าถึงจะปล่อย”
เจียงจื่อเฮ่าะโ ในใจเขาโกรธจนอยากตาย เร่งร้อนระบายออกมา
ในใจของเขาเกรงกลัวตี้หลิงหานอยู่บ้าง ทว่าเขาทราบดีว่าตี้หลิงหานจะไม่มีทางแตะต้องเขาอย่างแน่นอน ผู้ใดใช้ให้ท่านแม่ของเขาเป็ท่านน้าขององค์รัชทายาทเล่า
สุดท้ายแล้วในวินาทีต่อมาพลันได้ยินเสียงเยือกเย็นและเยาะเย้ยของตี้หลิงหานที่ดังขึ้นมา
"ในใต้หล้านี้มีความบังเอิญไม่มากนัก นักฆ่าทั้งสองเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด ย่อมต้องเกิดจากฝีมืุ์"
“แต่ข้าไม่เห็นแม่ลูกคู่นั้นลงมืออันใดเลยสักนิด และข้าไม่ได้รู้สึกถึงความผันผวนของพลังงานลมปราณในตัวพวกเขาทั้งสองคนเลย”
เจียงจื่อเฮ่าอธิบายอย่างกระตือรือร้น
ตี้หลิงหานเหลือบมองเขา สายตาของเขาเ็าเย้ยหยัน “เช่นนั้นก็กล่าวได้แค่ว่าวิทยายุทธ์ของฝ่ายตรงข้ามสูงส่งกว่าเ้า”
เจียงจื่อเฮ่าหอบหายใจด้วยความโกรธ
“ข้าอยู่ในระดับขั้นผู้บำเพ็ญเพียรระดับที่เก้าแล้ว หรือว่าแม่นางผู้นั้นมีระดับฝึกตนที่สูงกว่าระดับที่เก้าหรือ?”
"เหนือคนยังมีคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า"
“ที่แท้ก็เป็เช่นนี้นี่เอง แม่ลูกคู่นั้นเป็ปัญหาจริงๆ เช่นนั้นแล้วแม้แต่นามก็เป็ของปลอมหรือ?”
เจียงจื่อเฮ่าไม่เบิกบานใจเลยสักนิด คิ้วของเขาเต้นกระตุก แม้ว่าในใจจะยังไม่ค่อยมั่นใจนัก ทว่าแต่คำพูดขององค์รัชทายาทนั้นไม่เคยผิด
"ชิ"
ตี้หลิงหานพ่นลมหายใจเ็า เขาไม่้าพูดอันใดกับน้องชายที่โง่เขลาคนนี้อีกแล้ว ชายหนุ่มยกเท้าขึ้นเดินจากไปพร้อมกับลมหนาวที่พัดมา
เจียงจือเฮ่ายังคงมีใบหน้าที่อธิบายไม่ได้อยู่ ในยามนั้นอั้นจิ่วพลันก้าวเข้ามาข้างหน้าอย่างเงียบๆ เขากระแอมไอก่อนกล่าวว่า "คุณชายเจียง ข้าเกรงว่าท่านจะโดนแม่ลูกคู่นั้นหลอกเข้าแล้วจริงๆ แซ่ของสตรีนางนั้นคือห่าว นามของหล่อนคือเหมย ห่าวเหมย ที่แปลว่างดงามยิ่งขอรับ..."
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้