เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฮวาเหยียนดูผิดปกติ มู่เอ้าเทียนจึงนิ่งและไม่พูดอะไรออกไป ภายในใจของเขาตึงเครียดขึ้นมาจึงรีบร้อนถามคำถามนั้นออกไป
นี่เป็คำถามที่ถามได้ดีนัก นางมาที่จวนไท่จื่อได้อย่างไร และนางเองก็ไม่ได้มาด้วยความสมัครใจเช่นกัน!
วินาทีถัดมา ฮวาเหยียนก็เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่มู่เอ้าเทียนและมู่เสวียนเย่ ดวงตาของนางแดงก่ำ น้ำตาของนางเอ่อล้นอยู่เต็มสองตา เสียงร่ำไห้ดังขึ้นพลางได้ยินฮวาเหยียนที่เปล่งเสียงว่า "ท่านพ่อ พี่ใหญ่ เหยียนเอ๋อร์คิดว่าจะไม่ได้เจอพวกท่านอีกแล้วเ้าค่ะ ฮือๆๆ..."
ยามที่โฉมสะคราญร่ำไห้ งดงามดั่งดอกสาลี่ต้องสายฝน แผลที่คอของนางที่มีสีแดงโลหิตนั้นช่างเพิ่มความรู้สึกที่ถูกทารุณให้มากขึ้นไปอีก
ฮวาเหยียนสะบัดผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมก่อนจะนำขึ้นมาเช็ดน้ำตา ข้อมือของนางปรากฏออกมา เห็นเป็สีม่วงอ่อนๆ
"ลูกเหยียน นี่มันเื่อันใดกัน? เกิดเื่อะไรขึ้นกันแน่ เ้าบอกพ่อมา พ่อจะทวงความยุติธรรมให้เ้าเอง"
ทันทีที่ฮวาเหยียนร้องไห้ก็ทำหัวใจของมู่เอ้าเทียนแตกสลาย ยิ่งเขาเห็นาแของฮวาเหยียน ดวงตาของชายหนุ่มพลันแดงก่ำ ม่านตาของมู่เสวียนเย่ที่อยู่ข้างๆ พลันหดตัวลง แต่ทั้งสองก็อดคิดสงสัยไปในทางที่ไม่ดีไม่ได้
ใบหน้าของมู่เอ้าเทียนลึกล้ำเป็อย่างยิ่ง ย้อนกลับไปในเวลานั้น บุตรสาวของเขาถูกคนทำร้ายจนเกิดเื่ที่ผิดพลาดขึ้นในหอนางโลม จากนั้นองค์รัชทายาทก็ขอถอนหมั้น ในครานั้นเื่ราวเหล่านี้วุ่นวายโกลาหลเป็อย่างยิ่ง บุตรสาวของเขาตกจาก์ลงสู่นรก กลายเป็เป้าหมายของการวิพากษ์วิจารณ์ในที่สาธารณะ
ทว่าบุตรแห่ง์จะมีชายาที่แปดเปื้อนได้อย่างไร ตระกูลมู่ของพวกเขาไม่เคยโทษราชวงศ์และองค์รัชทายาท พวกเขาเพียงแค่รู้สึกเ็ปในโชคชะตาอันเลวร้ายของบุตรสาวก็เท่านั้น
สี่ปีผันผ่าน ทว่าเหตุใดองค์รัชทายาทถึงได้จับตัวบุตรสาวของข้ามาเล่า? เื่เมื่อสี่ปีก่อนเป็บุตรสาวของเขาที่ไม่ได้รับความเป็ธรรมมากเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าของมู่เอ้าเทียนตึงเครียด แต่ในใจเขากลับรู้สึกสงสัยและเกิดความรู้สึกหงุดหงิดและขุ่นเคืองอยู่ภายใน
ทันทีที่ตี้หลิงหานได้ยินคำพูดของฮวาเหยียน มองเห็นท่าทีของนางที่ราวกับจะล้มลงยามเพียงแค่มีสายลมพัดผ่าน สีหน้าของเขาพลันมืดครึ้มราวกับสีหมึกขึ้นมาทันที ท่าทีที่เย่อหยิ่งของสตรีตรงหน้า ในยามนี้ก็ยังคงชัดเจนอยู่ภายในดวงตาของนาง และในเวลานี้นางก็เริ่มที่จะแสดงบทบาทราวกับนางมารอีกครั้ง
ดวงตาสีดำสนิทของตี้หลิงหานจดจ้องไปที่ฮวาเหยียน เขาอยากจะได้ยินนักว่าสตรีผู้นี้จะกล่าวออกมาเช่นไร
วินาทีถัดมา ฮวาเหยียนที่รู้สึกไม่ได้รับความเป็ธรรมและหวาดกลัวก็เปิดปากกล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านพี่ องค์รัชทายาททรงจับตัวหยวนเป่ามาเ้าค่ะ มิหนำซ้ำยังขู่ลูกและจับลูกเข้าคุกมืด เขาบังคับให้ข้า ฮือๆ... ดูเขาลอกิั... ฆ่ามนุษย์ ช่างน่ากลัวมากเหลือเกินเ้าค่ะ ฮือๆ..."
ประโยคถลกหนังมาเกือบหลุดจากปากของฮวาเหยียน ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกไป และเปลี่ยนเป็ฆ่าคนแทน
นางรู้สึกเสมอว่าด้านที่เต็มไปด้วยการนองเืและโหดร้ายนั้น ให้นางเห็นเพียงคนเดียวก็พอแล้ว เพราะถ้าหากนางพูดออกไปก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเื่อะไรขึ้นอีก
ในขณะที่คำพูดของฮวาเหยียนสิ้นสุดลง ตี้หลิงหานก็เหลือบมองนาง ดวงตาของเขามืดครึ้มไม่ชัดเจน
เมื่อมองไปที่ฮวาเหยียนอีกครั้ง ทันทีที่เสียงของนางสิ้นสุดลง ใบหน้าเล็กของนางพลันซีดขาว น้ำตาไหลอาบใบหน้าของนางแลดูเหมือนว่านางจะกลัวจริงๆ
สิ่งนี้ทำร้ายมู่เอ้าเทียนอย่างรุนแรง เขาทั้งเจ็บและโกรธ
เขาจ้องมองตี้หลิงหานด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้รับรู้มา พวกเขารู้อยู่เสมอว่าองค์รัชทายาทแห่งต้าโจวนั้นเ็าและหยิ่งผยอง แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะโเี้ถึงเพียงนี้ เื่ที่มีคุกกลางจวนนั้นก็ช่างประไรเถิด จวนหลังใหญ่ทุกหลังล้วนมีแดนนรกของตนเอง แต่ใยต้องเป็บุตรสาวเขาที่เข้ามาเห็นการฆ่าคนของพระองค์ด้วยเล่า?
บุตรสาวของเขาหายตัวไปสี่ปี แบกรับความทุกข์ทรมานมามากพอแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะกลับมา เขาสาบานว่าจะไม่มีวันปล่อยให้บุตรสาวของเขาถูกรังแกอีก แต่เพียงชั่วพริบตานางกลับถูกจับมาที่จวนไท่จื่อนี้
หัวใจของมู่เอ้าเทียนเต็มไปด้วยความเคืองขุ่น
"ฝ่าา พระองค์หมายความว่าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ? กระหม่อมไม่รู้ว่าบุตรสาวของกระหม่อมทำผิดอันใด พระองค์ถึงต้องจับนางมาที่นี่ อีกทั้งยังต้องทำให้นางหวาดกลัวมากถึงเพียงนี้? นางเป็เด็กสาวที่ขลาดกลัว ั้แ่เล็กจนโตแค่มดสักตัวยังไม่กล้าที่จะเหยียบให้ตาย พระองค์ปล่อยให้นางดูเื่นองเือย่างการฆ่าคนให้ตายจริงหรือ พระองค์้าเอาชีวิตของนางหรือ? ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะองค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ พระองค์ฆ่าคนตายกับมือได้อย่างไรกันพ่ะย่ะค่ะ? "
ดวงตาของมู่เอ้าเทียนแดงก่ำ เขาจดจ้องไปที่ตี้หลิงหานพลางเอ่ยถาม
เื่จะฆ่าใครอะไรไม่ใช่ประเด็น แต่ที่สำคัญคือเหตุใดต้องกระทำต่อหน้าบุตรสาวของเขา นี่แหละประเด็น!
เขาโกรธเกลียด หากคนที่อยู่หน้าเขาไม่ใช่องค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ เขาคงอดไม่ได้ที่จะสำแดงฤทธิ์หอกยาวพู่แดงไปนานแล้ว
“ฮึกๆๆ...”
ฮวาเหยียนเปล่งเสียงร่ำไห้ออกมาอีกสองสามครั้งในเวลาที่เหมาะสม แสดงบทบาทอ่อนแอขลาดกลัวได้อย่างถึงอกถึงใจ
เมื่อเห็นท่านพ่อของนางเอ่ยปากถามตี้หลิงหาน ภายในใจนางพลันรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหลายเท่า
ตี้หลิงหานเอามือไพล่หลัง เมื่อถูกมู่เอ้าเทียนถาม ใบหน้าของเขาพลันเ็าล้ำลึก ทว่าชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะมองไปทางฮวาเหยียน และพบว่าสตรีผู้นั้นกำลังก้มหน้าร้องไห้อยู่ ใบหน้าของนางซีดเซียวและดูหวาดกลัวจริงๆ แต่เขารู้ดีว่าภายในแววตาของหญิงสาวนั้นต้องเป็แววตาแห่งภาคภูมิใจเป็อย่างยิ่งแน่
เพราะเขาเห็นด้วยตาของเขาเอง เขาจึงรู้ว่าแม่หญิงคนนี้เปลี่ยนโฉมหน้าของนางได้เร็วเพียงใด
มู่อันเหยียนผู้นี้ขี้กลัวหรือ?
มู่อันเหยียนผู้นี้อ่อนแอหรือ?
ั้แ่สตรีนางนี้เดินเข้ามาในคุกมืด นางก็เริ่มมองคนที่ถูกถลกหนังอย่างพินิจพิจารณา เขาเห็นอย่างชัดเจนว่าในแววตาของนางนอกจากความสนอกสนใจแล้ว ก็หาได้มีความหวาดกลัวใดๆ เจือปนอยู่เลยแม้แต่น้อย ไม่ต้องพูดถึงฝีปากของนางที่ร้ายกาจยิ่งนัก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความใจกล้าที่นางลงมือโดยไม่พูดเจรจาใดๆ สักคำ อีกทั้งยังป้อนยาพิษจากลำไส้ให้เขาอีกด้วย
เกรงว่าจะไม่มีสตรีคนใดในต้าโจวที่จะอาจหาญได้เยี่ยงนางแล้ว
หนำซ้ำสตรีนางนี้ยังจงใจปกปิดเื่การถลกหนังคนของเขาอีก ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เขาประหลาดใจเป็อย่างยิ่ง
อั้นปาและอั้นจิ่วที่อยู่ข้างๆ ไม่กล้าแม้จะหายใจ พวกเขาได้เห็นถึงวิธีปฏิบัติตนของคุณหนูตระกูลมู่ที่มีต่อองค์รัชทายาทแล้วว่าในสายตาของนางหาได้มีองค์รัชทายาทไม่ ท่าทีเยี่ยมยอดของนางนั้นสร้างความประทับใจลึกซึ้งให้พวกเขาเป็อย่างยิ่ง
ในยามนั้นแม่นางผู้บอบบางอ่อนแอจากตระกูลมู่ผู้นี้ทำให้พวกเขาใจนอ้าปากค้างเลยทีเดียว
เสียงของมู่เอ้าเทียนสิ้นสุดลง ตี้หลิงหานก็ไม่ได้เอ่ยอะไร มีเพียงดวงตาคู่หนึ่งเท่านั้นที่จ้องมองไปที่ฮวาเหยียน ยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม ผ่านไปนานเขาถึงกล่าวขึ้นมาว่า "มู่เอ้าเทียน คนที่ถูกฆ่าตายนั้นเขาเป็นักฆ่าที่มาลอบสังหารเปิ่นกง ความผิดของเขานั้นใหญ่หลวงยิ่งนัก แม้ความตายก็ไม่อาจชดใช้พอ
สำหรับการปล่อยให้บุตรสาวที่รักของเ้าต้องพบกับเปิ่นกงในคุกที่มืดมิดเช่นนั้น นั่นเป็สิ่งที่ข้าได้ตระเตรียมเอาไว้อย่างเหมาะเจาะแล้ว"
น้ำเสียงของตี้หลิงหานนั้นธรรมดายิ่ง แต่สิ่งที่เขาพูดนั้นน่าหงุดหงิดเป็พิเศษ เคราของมู่เอ้าเทียนม้วนขึ้นพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง “ฝ่าา พระองค์ไม่คิดว่าทรงทำเกินไปหรือพ่ะย่ะค่ะ? ลูกเหยียนเป็อิสตรี ใจนางไม่ได้อาจหาญขนาดที่ต้องเห็นฉากนองเื...”
“ท่านอ๋องมู่ ท่านคงไม่รู้จักบุตรสาวคนนี้มากพอ”
เสียงคำรามกล่าวหายังไม่ทันพูดจบก็ถูกตี้หลิงหานขัดจังหวะเข้าเสียก่อน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการเสียดสีที่เย็นะเื
มู่เอ้าเทียนสะกดกลั้นอารมณ์โมโห พลางมองไปที่ตี้หลิงหานและกล่าวว่า "องค์รัชทายาท ที่กล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร บุตรสาวของกระหม่อม กระหม่อมย่อมรู้นิสัยใจคอนางเป็อย่างดี"
“เฮอะ...”
ตี้หลิงหานเยาะเย้ย ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ฮวาเหยียน ชายหนุ่มวางมาดที่แสนจะเ็าและเย่อหยิ่ง "อั้นจิ่ว เ้าพูด"
อั้นจิ่วที่ถูกขานชื่อก้าวขึ้นไปข้างหน้าและโค้งคำนับมู่เอ้าเทียน ก่อนจะกล่าวว่า “ท่านอ๋องมู่ เื่ราวเป็เช่นนี้ขอรับ เมื่อสามวันก่อน ดอกบัวพันปีขององค์รัชทายาทถูกขโมยไป ภายหลังได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็คุณหนูใหญ่ของตระกูลมู่เป็คนลงมือขอรับ
ฝ่าาทรงทราบดีว่าท่านอ๋องเป็คนซื่อสัตย์และคงจะไม่มีวันยอมให้ครอบครัวของตนขโมยของของพระองค์ไปเช่นนี้ ดังนั้น องค์รัชทายาทจึงขอให้ข้าน้อยเรียนเชิญคุณหนูใหญ่มู่มาที่นี่เป็การส่วนตัว และเนื่องจากเกรงว่าคุณหนูใหญ่จะไม่ให้ความร่วมมือ ดังนั้นจึงเชิญคุณชายหยวนเป่ามาด้วยขอรับ"
อั้นจิ่วกล่าว
ความจริงของเื่พลิกกลับในทันที
ฮวาเหยียนฟังสิ่งที่อั้นจิ่วพูดจบก็ทำให้นางเกือบจะโมโหตาย เยี่ยมยอดอั้นจิ่ว แม่นางเช่นข้าเพิ่งช่วยชีวิตเ้า โดยการที่เ้าจะได้ไม่ต้องได้รับโทษ ทว่าเ้ากลับโยนมันทิ้ง หนำซ้ำยังพูดจาใส่ไข่ขายข้าอีก องค์รัชทายาทของเ้าไม่มีความผิดอันใดเลยสักนิด? เพราะกลัวข้าจะไม่ให้ความร่วมมือ? จึงเชิญหยวนเป่ามาเป็การส่วนตัว? เ้ายังกล้าที่จะพูดว่าวิธีการเช่นนั้นของเ้าเป็การเชิญชวนหรือ?
คำพูดของอั้นจิ่วจบลง เขาก็สังเกตเห็นว่ามีสายตาเฉียบคมจ้องมาที่เขา
อั้นจิ่วถอนหายใจและคร่ำครวญอยู่ในใจ เขาถูกคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่เกลียดชังเข้าแล้ว
มู่เอ้าเทียนเองเมื่อได้ยินคำพูดของอั้นจิ่วพลันเม้มปากไม่พูดอะไร เมื่อสามวันก่อนนั้น... บุตรสาวของเขายังอยู่ระหว่างทางกลับจวน หากบอกว่าเวลานั้นบุตรสาวของเขาได้ขโมยดอกบัวพันปีขององค์รัชทายาท? นั่นจะเป็ไปได้อย่างไร?
บุตรสาวของเขาเป็คนดี นั่นย่อมเป็ไปไม่ได้!
แม้ว่าจะเป็ไปได้ แต่ก็ไม่ใช่การขโมย อาจเป็การเก็บขึ้นมา
นอกจากนี้ดอกบัวพันปีคือสิ่งใด?
มู่เอ้าเทียนปกป้องบุตรสาวของเขาโดยไม่สนเหตุผล
ในยามนั้นเอง เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ตี้หลิงหานซึ่งกำลังรอให้เขาพูดอยู่ คิ้วดาบของเขาขยับไหว ชายหนุ่มเปิดปากพูดขึ้นมาทันทีว่า “ฝ่าา พระองค์ทรงมีหลักฐานอะไรถึงเรียกว่าขโมย? มิเช่นนั้นบุตรสาวที่บริสุทธิ์ของกระหม่อมอาจได้รับความผิดจากการถูกใส่ร้ายกลั่นแกล้งที่ไม่เป็ธรรมได้พ่ะย่ะค่ะ”
คำกล่าวนี้เปี่ยมไปด้วยโทสะ
ฮวาเหยียนได้ยินในใจพลันเกิดความอบอุ่นขึ้น สมกับเป็ท่านพ่อที่นางชื่นชม คำพูดของเขาน่าพึงพอใจเป็อย่างยิ่ง มิเช่นนั้นแล้วนี่จะมิใช่การโยนความผิดให้ผู้อื่นแล้วตนเองรอดพ้นหรือ?
แต่ตอนนี้จะไปหาหลักฐานจากที่ใดกันเล่า ในเมื่อนางกับหยวนเป่าได้กินมันลงไปในท้องแล้ว
หยวนเป่าดูเหมือนจะรับรู้ได้ เมื่อเห็นท่านแม่ของเขาขยิบตาให้ เขาก็เข้าใจในทันที ฉับพลันนั้นดวงตาของเขาแดงก่ำ เด็กน้อยคว้าแขนเสื้อของมู่เอ้าเทียนทันที “ท่านตา การสืบสวนคดีจำเป็ต้องให้ความสนใจกับหลักฐาน จำเป็ต้องมีการพิจารณาร่วมตรวจสอบสามฝ่าย ทว่าองค์รัชทายาทกลับทำตามใจพระองค์เอง จับหยวนเป่ามาคุมขัง กักตัวท่านแม่ ทั้งหมดนี้เพื่อสนองความปรารถนาขององค์รัชทายาทเพียงพระองค์เดียว
ท่านตา ท่านคงไม่ทราบ หยวนเป่าถูกขังอยู่ในห้องเก็บฟืน ในห้องนั้นน่ากลัวเหลือเกิน มันมืดสนิทและคนเฝ้าประตูก็โหดร้ายเป็อย่างยิ่ง หยวนเป่าคิดว่าตัวเองกำลังจะตายและคงไม่มีวันได้กลับมาพบท่านแม่กับท่านตาอีกแล้วขอรับ…”
เชิงอรรถ
[1] ดอกสีขาว หมายถึง ใสซื่อบริสุทธิ์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้