บทที่ 50 อาวุธเทพมิติทำเงินได้ดีมาก
ลั่วถูนำสินค้าส่วนหนึ่งที่ได้มาจากสนามรบฝานเหรินขายให้เถ้าแก่อ้วนซูอัน ในเมืองเว่ยยางนี้ถึงเถ้าแก่อ้วนคนนี้เป็เพียงเ้าของโรงเตี๊ยมไม่เล็กไม่ใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ความสามารถของเขาไม่น้อยเลย ในโรงเตี๊ยมมีแขกจากทุกสารทิศ จึงสะสมสินค้ามีค่าได้เป็ธรรมดา บวกกับมหาอำนาจที่หนุนหลังเ้าอ้วนอยู่ การที่เขาสามารถเปิดโรงเตี๊ยมในสถานที่เช่นเมืองเว่ยยางได้ก็นับว่าได้สำแดงถึงอำนาจที่เขามีแล้ว
ลั่วถูนำหนังสัตว์อสูรและพวกวัตถุดิบมาจากสนามรบฝานเหรินไม่น้อยเลย แถมยังมีชุดเกราะและอาวุธของเผ่ามารกับเผ่าปีศาจอีกมากมาย ของพวกนี้เป็อาวุธของกองทัพทั้งสิ้น ส่วนพวกหนัง ขนและวัตถุดิบอื่นๆ ที่ได้จากสัตว์อสูรลั่วถูไม่ขายที่นี่แน่นอน ลำพังอาวุธชั้นสูงของกองทัพในมือของลั่วถูก็มากพอจะทำให้เ้าอ้วนซูตาวาวได้แล้ว
หน้าไม้ทหารลั่วถูก็ขนมาสองร้อยกว่าคัน กล่าวได้ว่าของเหล่านี้ในหลายพื้นที่นับเป็ของต้องห้าม ห้ามซื้อขายกันเอง ดังนั้นเ้าอ้วนจึงเป็คนกลางที่ดีที่สุด ในเมืองเว่ยยางแห่งนี้เ้าอ้วนสามารถขายอาวุธให้ทหารรับจ้างที่หลั่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ได้รวมถึงเกราะและอาวุธของเผ่าปีศาจด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุปกรณ์ชั้นสูง พวกมันเป็ที่้าของเหล่าทหารรับจ้างอย่างมาก และเมืองเว่ยยางในตอนนี้แทบจะรวบรวมทหารรับจ้างส่วนใหญ่ของเผ่ามนุษย์ไว้เกือบหมด ในเวลาและสถานที่แห่งนี้ ไม่มีสิ่งไหนจะขายดีไปกว่าอาวุธอีกแล้ว
เ้าอ้วนมองคนธรรมดาอย่างลั่วถูต่างออกไปจากคนอื่น อีกทั้งการดูแลเป็พิเศษก็ใช่ว่าไม่มีเหตุผลเสียทีเดียว นั่นเป็เพราะลั่วถูทำกำไรให้เขาได้อย่างมหาศาล ก่อนหน้านี้ลั่วถูเคยช่วยสลักอักขระลงบนอาวุธที่เ้าอ้วนขาย ทำให้คุณภาพของอาวุธที่เ้าอ้วนขายพุ่งขึ้นสู่ไปอีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว ทำให้เ้าอ้วนในเมืองเว่ยยางผู้นี้โดดเด่นขึ้นมาได้
โดยปกติแล้วอาวุธที่ถูกลงอักขระจะมีราคาสูงเป็สองเท่าของอาวุธปกติ หรือบางทีอาจสูงถึงสิบเท่าหรือกระทั่งหลายสิบเท่าก็ยังเป็เื่ปกติด้วยซ้ำ เหมือนกับเกราะไหล่และถุงมือของม่อฉงในมือลั่วถู อักขระที่ซับซ้อนเหล่านี้ล้วนมาจากมือของปรมาจารย์ทั้งนั้น ช่วยเพิ่มคุณสมบัติพิเศษด้านความแข็งแรงทนทานและพลังทำลายล้าง อักขระเหล่านี้ลั่วถูยังไม่มีความสามารถพอจะสลักมันได้ ทว่าเมื่อลั่วถูสลักอักขระให้เ้าอ้วนแบบไม่คิดเงินเช่นนี้ ต้นทุนของอักขระก็ลดต่ำลงไปมาก ส่วนลั่วถูก็ได้โอกาสฝึกวิชาอักขระของตัวเองไปด้วยในตัว ถือได้ว่าเป็การฝึกฝนอีกอย่างหนึ่ง ที่ทั้งสองฝ่ายมีแต่ได้กับได้
ทางด้านลั่วถูเองก็ชื่นชมสายตาในการทำธุรกิจของเ้าอ้วนไม่เบาเช่นกัน หลังจากหลายร้านปฏิเสธลั่วถูที่ไม่มีผลงานเป็ชิ้นเป็อัน มิหนำซ้ำยังไม่มีการรับรองจากอาจารย์อักขระอีกต่างหาก เ้าอ้วนกลับมอบโอกาสให้ลั่วถู ในฐานะอาจารย์อักขระฝึกหัด ก่อนหน้านี้เขาเคยยากจนถึงขั้นต้องคอยประหยัดวัตถุดิบสำหรับการสลักเพื่อทำให้เ้าอ้วนซูอันทำเงินครั้งใหญ่ ต่อมาเ้าอ้วนถึงได้รู้ว่าก่อนจะช่วยเขาสลักอักขระ ลั่วถูโกหกเขาเพราะเดิมทีลั่วถูก็ไม่ใช่ศิษย์ของสาขาอักขระแห่งสำนักจ๋าเสวียแต่อย่างใด เพียงแค่ไปฟังบรรยายของสาขาอักขระไม่กี่ครั้ง จากนั้นก็พอจะสลักท่อนไม้มาเป็ร่างคนได้อยู่บ้าง แต่เพราะก่อนเข้าสู่สนามรบฝานเหริน เขาหวังประหยัดเงินค่าหาที่พักถึงได้ไปหลอกเ้าอ้วนซูอัน
เื่นี้ทำเอาซูอันที่พอได้ยินก็ตะลึงจนอ้าปากค้าง ไม่ใช่เพราะลั่วถูหลอกเขา แต่เป็เพราะคนที่ไปฟังบรรยายเพียงไม่กี่ครั้ง จากนั้นสลักท่อนไม้ร่างคนได้เล็กน้อย แต่ถึงกับทำให้ประสิทธิภาพของอาวุธใหม่ในโกดังของเขาพุ่งสูงขึ้นกว่ามาตรฐานไปหลายส่วนทีเดียว หนำซ้ำยังเป็เพียงแค่คนธรรมดาที่ยังไม่เปิดิญญา ต้องเป็อัจฉริยะด้านการสลักอักขระเป็แน่ น่าเสียดายก็แต่รากิญญาของเ้าหนูนี่ช่างย่ำแย่เกินทน เปิดิญญามาหลายครั้งยังไม่สำเร็จ จนต้องกลายเป็ขยะไปเสียได้ ทว่าเ้าอ้วนกลับไม่รู้สึกว่าคนเช่นนี้เป็เพียงขยะไร้ค่าแต่อย่างใด ทั้งสองฝ่ายถึงได้สร้างสัมพันธ์อันดีต่อกัน
ในครั้งนี้ ลั่วถูไม่ได้ช่วยเ้าอ้วนซูลงอักขระบนอาวุธแล้ว แต่นำอาวุธที่เก็บรวบรวมได้จากสนามรบมาขายต่อให้เ้าอ้วน อาวุธพวกนั้นเป็ถึงอาวุธชั้นสูงของกองทัพ และที่สำคัญคืออักขระที่ถูกสลักไว้บนอาวุธทั้งหมดมีพลังของธาตุไฟอยู่ด้วย ระดับของอักขระนี้ได้เป็ถึงขั้นอาจารย์อักขระขั้นต้นแล้ว อักขระที่มีพลังธาตุแฝงอยู่ ย่อมทวีพลังทำลายล้างของอาวุธให้สูงขึ้นไปอีก!
ส่วนเื่ที่ลั่วถูทำของสิ่งนี้ขึ้นมาได้อย่างไร เ้าอ้วนไม่ติดใจสงสัย เพราะอย่างไรเสียครั้งนี้ลั่วถูก็มีคนของตระกูลตงหลี่มาส่งถึงที่ พิจารณาจากตำแหน่งของตระกูลตงหลี่ในกองทัพ หากทำได้ถึงขั้นนี้ก็ไม่ใช่เื่ยาก คาดว่าขณะที่ตระกูลตงหลี่เก็บกวาดสนามรบ คงนำสมบัติของเผ่าปีศาจมาเก็บเป็สินาส่วนตัว จากนั้นมอบให้ลั่วถูอีกที... เื่ที่ลั่วถูกับตระกูลตงหลี่เกี่ยวข้องกันอย่างไร และไปได้ของพวกนี้มาอย่างไร นั่นเป็เื่ของลั่วถู
ลั่วถูไม่ได้รับค่าตอบแทนจากเ้าอ้วนซูเป็เงินซิงเหิน แต่เปลี่ยนเงินจากการขายครั้งนี้ทั้งหมดให้เปลี่ยนสินค้าพิเศษของเมืองเว่ยยางแทน
ลั่วถูตอนนี้รู้สึกถึงความสะดวกสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตอนนี้เขามีอุปกรณ์เทพเอาไว้ทำเงินได้ ในแหวนมิติวงนี้มีมิติขนาดกว้างนับสิบกว่าจั้ง จะใส่สินค้าได้มากเท่าไรก็ได้ แถมยังไม่ต้องห่วงเื่น้ำหนัก ไม่ต้องกังวลเื่การขนส่ง ขอแค่เป็คนที่มีหัวคิดเสียหน่อยก็จะรู้ว่า หัวไชเท้าที่ปลูกจากตงเฉิงเมื่อขนมาถึงหนานอวี่ ราคาทุกๆ จินจะเพิ่มขึ้นเป็เท่าตัว ส่วนมะพร้าวจากหนานเจียงเมื่อนำมาขายที่เป่ยชวนก็คิดราคาเพิ่มขึ้นได้หลายเท่าตัว แต่ลั่วถูตอนนี้ไม่ได้้าของพวกนั้นเสียหน่อย เขานำสินค้าทั้งหมดใส่เข้าไปในแหวนมิติ เพียงหาจังหวะสบโอกาสพ้นสายตาคน เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นว่าเขามีสมบัติมิติ เท่านี้ก็สามารถเข้าร่วมขบวนพ่อค้าได้อย่างไร้กังวล ต่อให้ต้องจ่ายค่าคุ้มครอง ก็เป็แค่การจ่ายในส่วนรายบุคคลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เื่รถม้า การดูแลระหว่างทาง และป้องกันการเน่าเสีย เื่ทั้งหมดนี่ไม่ต้องกังวลสักนิด...
ดังนั้นลั่วถูถึงได้เหลือเหรียญซิงเหินไว้ใช้จ่ายเพียงส่วนหนึ่ง และใช้เหรียญฟ้าซิงเหินสองพันกว่าเหรียญเปลี่ยนเป็สินค้า หนำซ้ำยังมีเหรียญม่วงอีกหลายสิบเหรียญ นี่ต้องเป็ธุรกิจที่ทำกำไรได้มหาศาลแน่นอน ลั่วถูเพียงจดรายการสินค้า จากนั้นบอกเ้าอ้วนว่า นี่คือของที่ตระกูลตงหลี่ฝากซื้อมาเท่านั้นเอง
เ้าอ้วนพลันมองลั่วถูเป็คุณชายขึ้นมาทันที ไม่สิ่งใดงดงามไปกว่าเหรียญซิงเหินที่ส่องประกายสีฟ้าและสีม่วงแล้ว ซูอันถึงกับเตรียมสินค้าที่ลั่วถู้าทั้งหมดได้ภายในคืนเดียวอย่างเงียบกริบ ทั้งยังเตรียมไว้ให้คนตระกูลตงหลี่และลั่วถูไปรับของที่นอกเมืองอย่างสงบอีกด้วย
เมื่อลั่วถูมาถึงสถานที่รับสินค้า ก็บอกให้ซูต้าออกไปก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่าคนตระกูลตงหลี่ไม่ชอบให้มีคนรู้เื่การทำธุรกิจครั้งนี้ พอรอให้ซูต้าออกไปก่อน ลั่วถูก็ติดตั้งเขตอาคมขนาดเล็กไว้รอบด้าน และนำสินค้าทั้งหมดใส่เข้าไปในแหวนมิติ ส่วนเื่ที่ว่าหลังจากนี้จะมีคนมีมาตรวจสอบหรือไม่ เื่นั้นเขาก็ไม่แน่ใจนัก อย่างไรเสียหลังจากทำธุรกิจครั้งนี้ เขาคงไม่ได้มาเมืองเว่ยยางอีกนาน หากครั้งหน้าหากเ้าอ้วนซูถามขึ้นมา เขาก็ยังมีอีกหลายวิธีใช้อธิบายได้อยู่ดี...
หลังจากส่งมอบสินค้า ลั่วถูก็กลับเข้าเมืองเว่ยยางอีกครั้ง ใช้ความสัมพันธ์ของเ้าอ้วนซู เข้าร่วมกับขบวนพ่อค้าที่จะไปยังเมืองเทียนตู เขา้ากลับไปเทียนตูก่อน ไปยังสำนักจ๋าเสวียเพื่อนำภารกิจฝึกฝนในสนามรบฝานเหรินไปส่งให้เรียบร้อยเสียก่อน พร้อมทั้งเอาสินค้าในมือปล่อยขายออกไป เปลี่ยนให้เป็เหรียญซิงเหิน จากนั้นค่อยคิดเื่กลับตระกูลลั่ว
สำหรับเื่กลับตระกูล ลั่วถูไม่เห็นว่าเป็เื่เร่งด่วนสักเท่าไรนัก หากคนผู้นั้นทำเพื่อส่งรายชื่อผู้มีสิทธิ์ให้เขาโดยเฉพาะจริง เช่นนั้นเขากลับตระกูลเร็วหรือช้าสักหน่อยก็ไม่เห็นเป็ไร ถ้ากลับไปที่ตระกูลทันทีอาจมีอุปสรรครอคอยอยู่ตลอดทางก็เป็ได้ รังแต่จะทำให้เขาลำบากขึ้นเสียอีก ถ้าเขากลับไปยังสำนักจ๋าเสวียก่อน หลังจากเปิดเผยตัวแล้วต่อให้พวกผู้เฒ่าประหลาดแห่งตระกูลลั่วคิดจะทำการใด ย่อมต้องกังวลกันไม่มากก็น้อย อีกทั้งเมืองเทียนตูยังเป็เมืองศูนย์กลางของเผ่ามนุษย์ ในเมืองใหญ่ย่อมมีโอกาสได้ทำธุรกิจครั้งใหญ่ตามไปด้วย ร้านค้าจำนวนมหาศาลกับพ่อค้าจากทั่วทุกสารทิศ หนำซ้ำที่นี่ยังเป็สถานที่ที่เขาจะขายของในมือออกไปเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุดอยู่พอดี ถ้าสินค้าครั้งนี้ขายได้ดี ไม่แน่เขาอาจเก็บสะสมเงินทุนได้ถึงครึ่งหนึ่งของการเปิดิญญาครั้งที่แปดก็เป็ได้ ถึงการใช้เหรียญซิงเหินไปซื้อยาเปิดิญญาจะไม่สะดวกเอาเสียเลย ทว่ามันกลับสามารถซื้อยาสมุนไพรได้ไม่น้อยทีเดียว จากนั้นนำไปให้อาจารย์ในสำนักจ๋าเสวียช่วยปรุงให้ ถึงอัตราการล้มเหลวจะสูงไปหน่อย แต่ก็ถูกกว่าการไปซื้อโดยตรงอยู่โข
ในครั้งนี้หากเขาสามารถทำกำไรได้สักสามเท่า อย่างน้อยเขาคงเก็บเงินได้เกือบหมื่นเหรียญฟ้าเลยทีเดียว จะนับเป็เศรษฐีในเผ่ามนุษย์ก็ไม่ผิดนัก! ยิ่งไปกว่านั้น หากขายทั้งหมดที่เขามีต้องไม่ใช่แค่กำไรสามเท่าแน่นอน
ระยะทางจากเมืองเว่ยยางไปยังเมืองเทียนตูก็ราวๆ สองร้อยลี้ได้ ถ้าให้ม้าเร็ววิ่งห้อตะบึงสุดชีวิตบางทีเพียงสองสามวันก็คงถึงแล้ว แต่การตามขบวนพ่อค้ากลับเป็การเคลื่อนขบวนตอนกลางวันและพักผ่อนตอนกลางคืน เดินทางอย่างค่อยเป็ค่อยไป คงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสิบวันจึงจะไปถึง
ลั่วถูกับเจียงิ่ขี่ม้าคนละตัว ทั้งกลุ่มมีเพียงพวกเขาสองคนที่ดูจะสบายที่สุด ดูแล้วพวกเขาเหมือนจะมาแต่ตัวเสียด้วยซ้ำ นอกจากแบกกระเป๋าคนละใบและดาบที่ตกแต่งเสียวิจิตรบรรจง ก็ราวกับไม่มีสัมภาระอื่นใดอีก แน่นอนว่าทุกคนที่เดินทางไกลต้องพกอาวุธไว้ป้องกันตัวบ้าง
เ้าของขบวนพ่อค้าขบวนนี้คือเถ้าแก่ว่านเจียฉายจากหอการค้าตระกูลว่านแห่งเมืองเทียนตู หนังของสัตว์อสูรจำนวนมากที่ได้จากสนามรบฝานเหรินสำหรับคนในโลกชั้นล่างแล้วช่างเป็ของที่หายากโดยแท้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง มีไม่น้อยทีเดียวที่ถูกส่งมาจากโลกชั้นสูงด้วยวิธีการพิเศษ ในโลกชั้นสูงสัตว์อสูรเหล่านี้ไม่นับเป็สิ่งสูงค่าแต่อย่างใด แต่เพราะพวกมันได้รับการเลี้ยงดูจากพลังิญญาของโลกชั้นสูง จึงทำให้หนังและเืเนื้อล้วนมีคุณภาพดีกว่าของโลกชั้นล่างจนเทียบกันไม่ติด เมืองเทียนตูเป็เมืองที่ร่ำรวยที่สุดในเผ่ามนุษย์ เื่ความ้าของหรูหราพวกนี้ย่อมมากมายเสียจนไม่ต้องพูดถึง แต่ในเมืองเว่ยยางหรือในสนามรบฝานเหริน พวกนี้กลับมีมูลค่าน้อยเสียเหลือเกิน
ร้านค้าตระกูลว่านไม่เพียงทำธุรกิจค้าหนังสัตว์ แต่ยังทำธุรกิจยาควบคู่กันไปด้วย สินค้าในครั้งนี้คือหนังสัตว์และยาจำนวนมาก ของเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็สินค้าที่มีมูลค่าสูงที่สุด พวกเขาถึงกับยอมจ้างกลุ่มทหารรับจ้างเทียนกง ซึ่งเป็กลุ่มทหารรับจ้างที่มีคนถึงสามสิบกว่าคน ได้ยินมาว่าทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันมาหลายครั้งแล้ว เรียกว่าเป็ลูกค้าเก่าก็ไม่ผิดนัก ครั้งนี้กู้หยิงเซียวแห่งกลุ่มทหารรับจ้างเทียนกงผู้เป็ถึงศิษย์าขั้นหก เทียบกับกลุ่มทหารรับจ้างระดับกลางแล้วระดับพลังเช่นนี้นับว่าเป็คนสำคัญเลยทีเดียว และเพราะพวกเขาคือลูกค้าเก่า หัวหน้ากลุ่มอย่างจ้งเหล่าโหมวถึงกับเตรียมยอดฝีมือให้กลุ่มของตระกูลว่านโดยเฉพาะ บางทีคงเป็เพราะเ้าอ้วนซูเห็นว่ากลุ่มทหารรับจ้างคุ้มกันกลุ่มนี้แข็งแกร่งมาก ถึงได้จัดเตรียมให้ลั่วถูติดขบวนไปด้วย และทำให้ลั่วถูได้กลับเมืองเทียนตูโดยสวัสดิภาพ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้