ฉีอันรีบวิ่งออกไปเร็วรี่ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ของจ้าวซีเหอ ทว่าวิ่งไปได้สักพักกลับสะดุดล้ม จ้าวซีเหอมองฉีอันที่ไม่ระวังพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ฉีอันลุกขึ้นยืนได้ก็รีบวิ่งไปตามหมอ
เมื่อไปถึงฉีอันผลักเปิดประตูเข้าไปอย่างแรง หมอที่กำลังเขียนใบสั่งยาจึงหันมามอง ใบหน้าของฉีอันในตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อผุด
หมอหยุดเขียนใบสั่งยา ทว่าสีหน้ายังคงสงบนิ่งเช่นเดิม ลุกขึ้นยืนแล้วหันหน้ามาฉีอัน “เกิดอันใดขึ้น มีเื่ใดหรือ”
ฉีอันพยายามปรับลมหายใจให้ช้าลง เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากหยดลงพื้น ก่อนจะยื่นมือไปจับเสื้อสีฟ้าอมเทาของหมอเอาไว้
“ท่านหมอ แม่นางหนิง…แม่นางหนิงไม่สบายขอรับ!”
หมอได้ฟังจึงรีบเก็บของใส่ล่วมยาทันควัน หางตาเหลือบเห็นฉีอันที่มีท่าทีร้อนใจ มือที่จับเสื้อดึงกระตุกเร่งจนขาด “ท่านหมอ เร็วเถิด แม่นางหนิงตัวร้อนมาก ซื่อจื่อเป็ห่วงจะแย่อยู่แล้ว!”
“ข้ารู้แล้วๆ” หมอรีบสะพายล่วมยาไว้ข้างหลัง ก่อนจะวิ่งตามฉีอันออกไป
จ้าวซีเหอมองท่าทางอ่อนแอของหนิงมู่ฉือที่อยู่ในอ้อมอกของเขา ในใจรู้สึกเ็ปยิ่งนักที่เห็นนางไม่สบายเช่นนี้ เขารีบกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
หนิงมู่ฉือจับแขนเสื้อจ้าวซีเหอเอาไว้แน่น ขดตัวเป็ก้อนกลม ริมฝีปากแห้งแตกเป็ขุยขยับขึ้นลงราวกับจะพูดบางอย่างออกมา
จ้าวซีเหอเอาหูเข้าไปใกล้ ได้ยินชัดเจนอยู่สองคำคือ “ท่านแม่” ก่อนที่ใบหน้านางจะมีน้ำตาไหลออกมา
เขาคิดในใจ สงสัยพระสนมเต๋อเฟยจะใช้แผนแกล้งทำเป็อบอุ่นอ่อนโยน เพื่อให้หนิงมู่ฉือยอมเป็คนของตัวเอง ตัวหนิงมู่ฉือกระตุกหนึ่งครา เขารีบดึงสติกลับมา มองหนิงมู่ฉือที่ตัวสั่นอยู่ในอ้อมอกของเขา ใบหน้านางรวดร้าวเหลือคณา เขาถอนหายใจอย่างหนักใจ ขณะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างนางเอาไว้
ใบหน้าหนิงมู่ฉือแดงก่ำด้วยพิษไข้ คิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลา ตัวก็สั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด “หนาว…หนาวเหลือเกิน…”
ครั้นเขาได้ยินประโยคที่นางพึมพำ ในใจรู้สึกร้อนรนอย่างน่าแปลก รีบกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ทำให้ปรากฏเป็ภาพที่คลุมเครือ
ฉีอันเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้ามา เมื่อเห็นภาพที่ชวนหน้าแดงนี้ ก็กล่าวรายงานอย่างติดๆ ขัดๆ “ซื่อจื่อ ท่านหมอมาแล้วขอรับ ข้าน้อยขอตัวก่อนนะขอรับ”
จ้าวซีเหอพยักหน้า ก่อนจะเห็นฉีอันผลักท่านหมอเข้ามาจนทำให้สะดุดไปหลายก้าว หากสุดท้ายก็ยังกอดล่วมยาทรงตัวเอาไว้ได้ “ผู้น้อยคารวะซื่อจื่อ…”
บรรยากาศน่ากระอักกระอ่วนยิ่งนัก ใบหน้าของหมอดูประดักประเดิดยิ่ง
จ้าวซีเหอกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนใจ “ไม่ต้องมากพิธี รีบมาดูคนไข้ก่อน”
หมอได้ยินเช่นนั้น เขาลุกขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งไปนั่งข้างเตียงข้างๆ หนิงมู่ฉือ เอามือแตะหน้าผาก จับชีพจร จากนั้นใช้มือลูบเคราสีขาวของตัวเองอย่างครุ่นคิด
จ้าวซีเหอถามด้วยสีหน้าร้อนใจ “เป็อย่างไรบ้างหมอ”
หมอลุกขึ้นยืน ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “ซื่อจื่อไม่ต้องเป็ห่วงขอรับ แค่่นี้มีลมหนาว แม่นางหนิงต้องลมหนาวจนทำให้เป็ไข้ ผู้น้อยเขียนใบสั่งยาให้ก็ใช้ได้แล้ว แม่นางหนิงเพียงแค่ทานยาเหล่านี้ เชื่อว่าไม่กี่วันก็หายดี เพียงแต่…”
“แต่อันใด รีบพูดมา” จ้าวซีเหอเอ่ยอย่างใจร้อนเมื่อเห็นหมอมีท่าทีอ้ำอึ้ง
หมอถอนหายใจก่อนจะเอ่ยตอบ “เพียงแต่แม่นางหนิงไข้ขึ้นสูงมาก เป็อันตรายเหลือเกิน ผู้น้อยจึงเกรงว่าจะไปกระทบกับสมองขอรับ”
จ้าวซีเหอได้ฟังก็ก้มมองหนิงมู่ฉือที่ขดตัวเป็ก้อนกลมอยู่ในอ้อมอกเขาผาดหนึ่ง “เช่นนั้นมีวิธีที่ทำให้ไข้ลดโดยเร็วหรือไม่”
“มีขอรับ เพียงแต่ประสบความสำเร็จได้ยาก”
“ไม่เป็ไร เ้าบอกมาก็พอ” จ้าวซีเหอยังคงเอ่ยอย่างร้อนใจ ทำให้หมอมีสีหน้าขลาดกลัว
“ต้องนำสุรามาเช็ดตามตัวแม่นางหนิง ไม่แน่ว่าอาจจะได้ผล เพียงแต่วิธีนี้มันค่อนข้างสุดโต่งเกินไปเล็กน้อย”
“ไม่เป็ไร ยกให้ข้าจัดการเอง เ้าเขียนใบสั่งยามาก็พอ ข้าจะรอ” จ้าวซีเหอก้มมองหนิงมู่ฉือที่อยู่บนเตียงอย่างไม่วางใจ ขณะพูดคุยกับหมอที่กำลังเขียนใบสั่งยา
หมอมีเหงื่อไหลซึมเต็มหน้าผาก ด้วยกลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะเขียนใบสั่งยาผิดไปสักตัวอักษร มือที่เขียนจึงสั่นเทา เขียนเสร็จแล้วเงยหน้ามองจ้าวซีเหอ “ผู้น้อยเขียนเสร็จแล้วขอรับ”
จ้าวซีเหอพยักหน้ารับรู้
ครั้นหมอสะพายล่วมยาเดินออกมาก็ถูกฉีอันขวางหน้าเอาไว้ ฉีอันฉีกยิ้มกว้างให้หมอ
หมอมองหน้าฉีอันอย่างแปลกใจ “มีเื่ใดหรือ”
ฉีอันจับไหล่ของหมอเอาไว้ขณะถาม “ซื่อจื่อพูดเื่ใดกับท่านบ้างหรือขอรับ” ฉีอันไม่อาจห้ามจิตใจที่อยากรู้เอาไว้ได้
“ไม่มี แค่ถามเกี่ยวกับอาการป่วยเท่านั้น” หมอมองฉีอันอย่างประหลาดใจ
ฉีอันทำหน้าเสียดายขณะรับคำ หมอมองฉีอันพร้อมกับส่ายหน้า จากนั้นหมุนตัวเดินจากไป
จ้าวซีเหอเปิดประตูออกมาก่อนจะะโเสียงดัง “ฉีอัน!”
ฉีอันได้ยินเสียงเรียกรีบวิ่งเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว เห็นจ้าวซีเหอมองมายังตัวเองด้วยสีหน้าแปลกๆ “ฉีอัน เ้าไปห้องเก็บสุรานำสุราชั้นดีมาไหหนึ่ง”
ฉีอันรู้สึกสงสัยไม่น้อย ลูบศีรษะตัวเองอย่างมึนงง “ซื่อจื่อ ท่านไม่เป็อะไรใช่หรือไม่ แม่นางหนิงกำลังไม่สบาย ท่านจะเอาสุราไปทำอะไรหรือขอรับ”
“อย่าพูดมาก รีบไปนำมาเถิดน่า” จ้าวซีเหอมองฉีอันอย่างไม่พอใจ ฉีอันเห็นแววตาดุร้ายเช่นนั้นของจ้าวซีเหอ รีบหมุนตัววิ่งออกจากห้อง ตรงไปยังห้องเก็บสุราทันที
จ้าวซีเหอมองหนิงมู่ฉือซึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง มือและเท้าเย็นเฉียบประหนึ่งน้ำแข็ง เขาเห็นแล้วอดหมั่นเขี้ยวไม่ไหวโน้มหน้าลงไปงับนางเบาๆ
ฉีอันนำสุราดอกหอมหมื่นลี้มาจากห้องเก็บสุรา เนื่องจากสุราไหนี้หนักเกินไป เขาจึงต้องออกแรงมากกว่าจะยกออกมาได้
เมื่อยกมาถึงหน้าห้อง เห็นประตูห้องปิดอยู่ เขาจึงวางไหสุราไว้บนพื้นก่อน แล้วถึงค่อยเปิดประตู
จ้าวซีเหอได้ยินเสียงประตูเปิดรีบกลับมานั่งตัวตรงดังเดิม เบนสายตาไปยังฉีอันที่อยู่ที่หน้าประตู พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขายิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ย “เร็วปานนี้เชียว”
เขาลุกขึ้นไปช่วยฉีอันนำไหสุราเข้ามาในห้อง ก่อนจะยื่นใบสั่งยาให้ “ไปซื้อยาแล้วนำมาต้ม ต้มเสร็จแล้วค่อยยกเข้ามา”
ฉีอันส่งเสียงร้องโอดโอยด้วยความเศร้าใจ ขณะยื่นมือไปรับใบสั่งยามาอย่างไม่ยินยอมนัก “ซื่อจื่อ ข้าเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ท่านให้ข้าพักหน่อยไม่ได้หรือขอรับ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้