“หยวนเป่า อาการเป็เช่นไรหรือ?”
ฮวาเหยียนเองก็ใเช่นกัน นางคิดว่าท่านย่าเป็แค่ไข้หวัดธรรมดา เหตุใดหยวนเป่าจึงบอกว่าอาการของท่านย่าไม่ดีเล่า?
นางย่อมรู้จักบุตรชายของตนดี อารมณ์ของเขานิ่งสงบและเคร่งขรึม หากมิได้แย่จริงๆ หยวนเป่าจะไม่มีทางพูดเช่นเมื่อครู่ กระทั่งหน้าตาก็ดูเครียดขึ้นมา
หยวนเป่าครุ่นคิดสักพัก ก่อนกล่าวว่า “ท่านย่าสุขภาพไม่ค่อยดีมาโดยตลอด มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย ขาดความสมดุลเป็อย่างยิ่ง ไข้ที่ขึ้นสูงครานี้ถือเป็จุดพลิกผัน หากท่านย่ายังมิอาจปรับสมดุลได้ ต่อไปก็ยากจะคาดเดาแล้วขอรับ”
“ฮึก...”
ทันทีที่เสียงของหยวนเป่าจบลง น้ำตาของญาญ่าพลันร่วงหล่นหยดใหญ่ ไหลอาบเต็มใบหน้า
เมื่อท่านย่าของญาญ่าได้ยินคำพูดของหยวนเป่า นางเองก็เหม่อลอยตกตะลึงอยู่บ้างเช่นกัน
เดิมทีตอนนางได้ยินว่าหยวนเป่ารู้วิชาแพทย์ นางคิดว่าเด็กน้อยยังเยาว์นัก คงสามารถดูอาการได้เพียงผิวเผิน แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะเปิดเผยสภาพร่างกายของนางออกมาได้ในคราเดียว
ดวงตาของหญิงชราปรากฏม่านน้ำตาชั้นบางๆ ขึ้นมาเช่นกัน ผ่านไปครู่หนึ่งจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงติดสะอื้นว่า “ข้ารู้ว่าตนเองเหลือเวลาอีกไม่กี่ปีเท่านั้น สงสารก็เพียงหลานสาวของข้า...”
หญิงชราพึมพำกับตนเอง
ใบหน้าของญาญ่าซีดเผือด ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ทั่วทั้งร่างของนางสั่นเทา เด็กหญิงตัวน้อยใเหลือเกิน
ญาญ่าเชื่อใจฮวาเหยียนกับหยวนเป่าเป็อย่างยิ่ง ดังนั้นคำพูดของหยวนเป่าในครั้งนี้ นางมิได้รู้สึกเคลือบแคลงใจเลยสักนิด
ทันใดนั้นเด็กหญิงตัวน้อยพลันคุกเข่าลงต่อหน้าหยวนเป่าพร้อมน้ำตาที่นองเต็มใบหน้า "พี่ชายน้อย ท่านสามารถช่วยท่านย่าได้หรือไม่ แล้วไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า ญาญ่าก็จะเป็วัวเป็ม้าเพื่อตอบแทนท่าน ท่านช่วยท่านย่าได้หรือไม่เ้าคะ”
“เ้าเด็กคนนี้นี่...”
“ญาญ่า รีบลุกขึ้นมาเร็ว”
หยวนเป่าและฮวาเหยียนถูกญาญ่าทำให้ใแล้ว พวกเขารีบเข้าไปพยุงตัวนางขึ้นมา หยวนเป่าน้อยหน้าแดง คิ้วขมวดแน่นกว่าเดิม
ญาญ่าใเหลือเกิน อย่างไรนางก็เป็แค่เด็กอายุห้าขวบเท่านั้น เมื่อครู่แม้จะแสดงพฤติกรรมไม่ค่อยดีออกไป ทว่าก็เป็เพราะนางกลัวยิ่ง นางมิอาจสูญเสียท่านย่าได้
เด็กหญิงตัวน้อยยืนอยู่ตรงนั้นพลางดึงแขนเสื้อของหยวนเป่าเอาไว้ ท่าทางโดดเดี่ยว น่าสงสารนัก
หยวนเป่าจ้องมือคู่เล็กของอีกฝ่ายเป็เวลานาน ใบหน้าของเขาบูดบึ้ง “ข้าสามารถช่วยท่านย่าได้ เ้าปล่อยแขนเสื้อของข้าก่อน”
ญาญ่ารีบปล่อยมือออกอย่างเชื่อฟังทันที ั์ตานางเป็ประกาย เมื่อถูกน้ำตาอาบไว้กลับงดงามจนน่าใ
ฮวาเหยียนเหลือบมองญาญ่า เป็เื่ยากที่จะจินตนาการว่าสวนไร่เล็กๆ เยี่ยงนี้สามารถเลี้ยงดูเด็กผู้หญิงที่งดงามเช่นนี้ได้ เพียงมองดูคิ้วและตาของอีกฝ่าย เมื่อเติบโตขึ้นนางต้องกลายเป็หญิงงามโฉมสะคราญแน่นอน
“ท่านย่าไม่ต้องห่วง หยวนเป่ามีวิธีช่วยท่านได้ ร่างกายของท่านอ่อนแอนัก ภายในขาดสมดุลเป็อย่างยิ่ง ที่ต้องเสริมโอสถก็ต้องเสริม ทั้งยังต้องเป็ยาที่อ่อนโยน มิอาจใช้ยาแรงเสริมได้เด็ดขาด รอจนหยวนเป่ากลับไปเตรียมยาเม็ดให้ท่านเรียบร้อยแล้ว จะต้องนำมาให้ท่านเป็แน่ขอรับ”
หยวนเป่ากล่าว
ตาของญาญ่าจับจ้องไปที่หยวนเป่าเขม็ง พี่ชายน้อยเป็ผู้มีพระคุณของนาง พี่หญิงคนงามเองก็เป็ผู้มีพระคุณของนางเช่นกัน
เมื่อเทียบกับความตื่นตระหนกของญาญ่า ใบหน้าของท่านย่ากลับไม่มีสีสันใดๆ มีเพียงคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน แววตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง นางส่ายหัวก่อนเอ่ยว่า “ร่างกายของตนเป็เช่นไร ข้าย่อมทราบดี น้ำใจของคุณชายน้อยกับคุณหนูใหญ่ หญิงชราขอน้อมรับไว้เ้าค่ะ”
ท่านย่ากล่าวขึ้น
ทันทีที่เสียงนี้จางหาย ฮวาเหยียนกับหยวนเป่าก็มองหน้ากัน คำพูดของท่านย่าแสดงเจตจำนงที่จะปฏิเสธข้อเสนอหนทางรักษาของหยวนเป่าอย่างชัดเจน ราวกับนางรู้มานานแล้วว่าร่างกายของตนไม่ค่อยดี ทว่ากลับไม่้ารักษาหรือ?
“ท่านย่า หากร่างกายของท่านไม่ได้รับการรักษา คงอยู่ได้อีกไม่นานจริงๆ นะขอรับ”
หยวนเป่าตระหนกขึ้นมาบ้างแล้วจึงเอ่ยปาก
ท่านย่าส่ายหัวทว่าไม่ยอมเปิดปากพูดอันใด
เวลานี้ฮวาเหยียนกับหยวนเป่าล้วนมองออก ดูเหมือนท่านย่าจะไร้ซึ่งความปรารถนาที่จะมีชีวิตต่อ...
หากผู้ใดไม่ปรารถนาจะมีชีวิตต่อ เช่นนั้นแม้แต่ยาวิเศษจากเทพเซียนก็มิอาจช่วยได้
“ฮือๆๆ...”
ทันใดนั้นญาญ่าก็มิอาจกลั้นน้ำตาไว้ได้อีกต่อไป นางปล่อยโฮดังลั่น
เดิมทีนางก็เป็เด็กอ่อนไหวอยู่แล้ว แม้จะเข้มแข็งและมองโลกในแง่ดีเสมอมา แต่นางก็รู้จักกลัวเป็เช่นกัน ฮวาเหยียนกับหยวนเป่ามองความคิดของท่านย่าออก แล้วเหตุใดญาญ่าจะมองไม่ออกเล่า? เด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้เสียงดัง “ท่านย่า ท่านย่าเ้าคะ คำพูดของท่านหมายความว่าอย่างไร? ท่านมิ้าข้าแล้วหรือ? ท่านย่า ข้าเหลือแค่ท่านคนเดียวเป็คนในครอบครัว ท่านอย่าทิ้งข้าไปเลยเ้าค่ะ ข้าจะเชื่อฟัง จะเป็เด็กดี จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน จะตั้งใจฝึกวิชายุทธ์ เมื่อเติบใหญ่ก็จะกตัญญูต่อท่าน ท่านย่าอย่าทิ้งญาญ่าไปเลยนะเ้าคะ”
เด็กหญิงตัวน้อยร้องไห้อย่างน่าสังเวช พาให้จิตใจของผู้ที่ได้ยินขมขื่นนัก
ฮวาเหยียนกับหยวนเป่าโศกเศร้าจนพูดอันใดมิออก ฉากตรงหน้าะเืใจพวกเขาทั้งสองเป็อย่างยิ่ง
ญาญ่าน้อยที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาเป็เด็กที่เข้มแข็งและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ นางรู้ความ ทว่ายามนี้กลับร่ำไห้จนมีสภาพเช่นนี้ นั่นย่อมพาให้หัวใจของคนมองบิดเกร็ง
“ญาญ่า ย่าต้องขอโทษเ้าแล้ว”
หญิงชรากอดญาญ่า คนแก่กับเด็กน้อยร้องไห้ไปพร้อมกัน
หัวใจของฮวาเหยียนเสียใจจนยากเกินรับไหว นางเดินเข้าไปก้าวหนึ่งเพื่อลูบผมของญาญ่า “ญาญ่าอย่าร้องไห้ไปเลย เ้าออกไปกับพี่หยวนเป่าสักประเดี๋ยว ข้าขอคุยกับท่านย่าสักครู่ได้หรือไม่?”
ญาญ่าเงยหน้าขึ้น สบเข้ากับดวงตาที่เ็ปของฮวาเหยียน นางพยักหน้าพลางสูดน้ำมูก “พี่หญิงคนงามเ้าคะ ท่านช่วยท่านย่าของข้าที ช่วยข้าที แล้วข้าจะขอบคุณพี่หญิงเป็อย่างยิ่ง”
“ออกไปเถิด อีกสักพักเ้าค่อยเข้ามา”
ฮวาเหยียนพยักหน้าตอบ
หยวนเป่ามิได้พูดอันใดสักคำ เขาเดินออกจากห้องไปที่สนามหญ้าหน้าเรือนพร้อมกับญาญ่า
...
ในห้องเหลือเพียงฮวาเหยียนกับท่านย่า
ทันทีที่ญาญ่าจากไป หญิงชราก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป นางร่ำไห้ออกมาเสียงดัง
“ท่านย่า พวกเรามาคุยกันเถิด...”
ฮวาเหยียนเปิดปาก นางลากเก้าอี้มานั่งลงที่ขอบเตียง อารมณ์เป็กันเอง ไม่มีความรังเกียจเลยแม้แต่น้อย และในความเป็จริง นางก็มิได้รังเกียจ แม้เรือนที่ท่านย่าอยู่จะเป็เพียงกระท่อมมุงใบจาก แต่ก็รักษาความสะอาดได้ดียิ่ง เห็นได้ชัดว่าคงถูกทำความสะอาดอยู่เป็ประจำ
ในปีเ่าั้ที่นางเป็ขโมย มีที่ใดที่นางไม่เคยนอนบ้าง? ใน่แรกๆ เมื่อนางไม่มีทักษะเพียงพอในการขโมย ยามถูกคนไล่ตาม แม้แต่กองขยะนางก็เคยใช้หลบมาแล้ว
เมื่อท่านย่าของญาญ่าเห็นฮวาเหยียนมีท่าทีเช่นนี้ นางรู้สึกแค่คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่วางท่าเลยสักนิด ช่างเป็กันเองและอ่อนโยน นางคิดว่าตนเองกับญาญ่าช่างโชคดีนักที่ได้พบคนดีๆ เช่นนี้
“ท่านย่า ท่านกังวลเื่เงินหรือเ้าคะ?”
เห็นท่านย่ามิได้กล่าวอยู่เป็นาน ฮวาเหยียนจึงเริ่มเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง นางฉลาดล้ำ ั้แ่ที่ก้าวเข้ามาในเรือนก็รู้ว่าครอบครัวนี้ขัดสนกว่าที่นางคิด หญิงชราผู้หนึ่งต้องเลี้ยงดูเด็กอีกคนโดยผ่านวันคืนที่โหดร้าย วันเวลาเ่าั้คงน่าเศร้าเป็อย่างยิ่ง
เมื่อครู่ที่หยวนเป่าเอ่ยถึงเื่โอสถเสริม ยาเ่าั้ย่อมต้องเป็ของดี หญิงชราเกรงว่าจะไม่มีเงินจ่าย จึงไม่้ารับการรักษา สุดท้ายจึงผลักมันออกไป
ทันทีที่เสียงของฮวาเหยียนสิ้นสุดลง ดวงตาของหญิงชราก็แดงก่ำ นางส่ายหัวและพยายามจะพูดอยู่หลายครั้ง ทว่าก็ยังคงติดเสียงสะอื้นไห้ ฮวาเหยียนไม่ได้เอ่ยอันใดอีก รออยู่นานจนกระทั่งอารมณ์ของท่านย่าสงบลง จึงได้ยินนางกล่าวว่า “เป็ข้า เป็ข้าที่ทำให้ญาญ่าต้องลำบาก...!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้