หลังไป๋หว่านหนิงจากไป ไป๋เซี่ยเหอจึงนึกขึ้นได้ว่าข้อมูลที่ตนเองลืมเลือนไปนั้นคืออะไรกันแน่
ตามความทรงจำของเ้าของเดิม
แม้ว่าบิดาและอี๋เหนียงจะปฏิบัติต่อนางไม่ดีมาตลอด ทว่าพวกเขาไม่กล้าทำเช่นนั้นกับมารดาของนาง
หลังจากได้ฟังคำพูดของไป๋หว่านหนิงเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติ
ไป๋เซี่ยเหอเดินเข้าไปในบริเวณเรือนของไป๋ฮูหยินหรือเจียงซินเสียนโดยอิงจากความทรงจำของเ้าของร่าง
เรือนหลังนี้กว้างมาก ทั้งยังเก็บกวาดได้อย่างเป็ระเบียบเรียบร้อยยิ่งนัก บ่าวรับใช้ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น ราวกับมองไม่เห็นว่าไป๋เซี่ยเหอเดินเข้ามา
ในความทรงจำของเ้าของร่างก็เป็เช่นนี้ ไม่มีใครเข้ามาขัดขวางเวลาที่นางไปพบมารดาของตนเอง
นางเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนตรงไปที่ข้างเตียง ริมฝีปากของเจียงซินเสียนหมองคล้ำอย่างที่คาดไว้ ส่วนใบหน้าดูซีดเซียว มองปราดเดียวก็ดูออกว่าถูกพิษร้ายแรง
นางเปิดผ้าห่มที่คลุมร่างของเจียงซินเสียนออกอย่างเบามือ ก่อนพบว่าาแบนแขนของอีกฝ่ายไม่อาจรักษาได้เนื่องจากพิษ มันเป็าแเปิดและมีสีดำดูน่ากลัวมาก
พิษนี้แปลกประหลาดเกินไป ไป๋เซี่ยเหอยื่นมือไปตรวจสอบ ทว่านางกลับมองไม่เห็นาแเล็กๆ บนมือของตนเอง
ขณะที่มือของนางแตะลงบนาแของเจียงซินเสียน แรงดึงดูดสายหนึ่งได้เกิดขึ้นบริเวณกลางฝ่ามือของนาง ก่อนจะไล้ไปตามาแของเจียงซินเสียน แล้วดูดเืสีดำทั้งหมดออกมา ส่งผลให้สีหน้าของเจียงซินเสียนค่อยๆ ดูมีเืฝาดขึ้น
นี่มันเกิดอะไรขึ้น? หรือว่านางแก้พิษได้หรือ?
อาจเป็เพราะนางมีประสบการณ์เื่การย้อนเวลา ไป๋เซี่ยเหอจึงไม่ตื่นตระหนกเกินไปนัก หลังจากเกิดความงุนงงไปชั่วขณะ นางก็เริ่มทำใจให้สงบ
แต่ไม่รู้ว่าเป็เพราะก่อนหน้านี้นางได้รับาเ็สาหัสหรือไม่ ร่างกายจึงอ่อนแอ ไป๋เซี่ยเหอรู้สึกว่าเืสีดำที่เต็มไปด้วยพิษนั้นไหลเวียนไปตามแขน และอวัยวะภายในของนาง ทุกจุดที่มันไหลผ่านล้วนสร้างความเ็ปแสนสาหัส ทำให้ไป๋เซี่ยเหอต้องลงไปนอนขดตัวอยู่บนพื้น เหงื่อกาฬแตกพลั่ก
นางไม่ทันได้สังเกตว่าเหนือศีรษะของตนเองนั้น ใบหูที่มีขนปุกปุยได้โผล่ขึ้นมาสองข้าง
จากนั้นไป๋เซี่ยเหอก็ตัวเล็กลง ถูกต้อง ตัวเล็กลง แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อน่ะหรือ?
ในห้องนอนของเจียงซินเสียนที่นางอยู่เมื่อครู่นี้ พลันปรากฏจิ้งจอกสีขาวบริสุทธิ์ตัวหนึ่ง ทั้งยังมีเก้าหางเสียด้วย!
สถานการณ์ตรงหน้าทำให้ไป๋เซี่ยเหอที่สงบนิ่งและควบคุมตนเองได้เสมอมา รู้สึกตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกในชั่วขณะ นางไม่ได้ย้อนเวลามาเป็คุณหนูใหญ่ตระกูลไป๋หรอกหรือ? เหตุใดนางถึงได้กลายเป็จิ้งจอกตัวหนึ่งแทนเล่า?
จู่ๆ หูของนางก็ขยับเล็กน้อย นางได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากนอกห้องนอนได้อย่างชัดเจน
แย่แล้ว สถานที่แห่งนี้มีคนเยอะเกินไป หากรั้งอยู่ที่นี่จะถูกพบเจอไม่ช้าก็เร็ว! นางเหยียดขาสั้นๆ ของตนเองและกำลังจะจากไป แต่จู่ๆ ก็มีเสียงบุรุษสองคนดังขึ้น “เอ๊ะ ในห้องนอนมีจิ้งจอกได้อย่างไร?”
“ขนสีขาวบริสุทธิ์ เส้นขนเช่นนี้ล้ำค่ายิ่ง!”
“แบ่งกันคนละครึ่งดีหรือไม่?”
“ยอดเยี่ยม!”
สมควรตาย!
ไป๋เซี่ยเหอลอบก่นด่าในใจ หากดูจากร่างกายของจิ้งจอกเด็กที่ใหญ่เท่าฝ่ามือ ย่อมเป็ไปไม่ได้ที่จะรับมือกับบุรุษร่างใหญ่สองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
หลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน ไป๋เซี่ยเหอก็ตัดสินใจวิ่งสุดฝีเท้า!
“หยุด! อย่าหนีนะ!”
ไป๋เซี่ยเหอหันไปมองด้านหลัง บุรษสองคนยังคงไล่ตามมาอย่างไม่ลดละ นางลอบก่นด่าในใจ ทว่ายังคงวิ่งต่อไปสุดแรง เพียงแต่ในเวลานี้ร่างกายของนางอ่อนแอเกินไปจริงๆ ถึงแม้นางจะรีบสลัดสองคนนี้ให้หลุดพ้น เกรงว่านางก็คงยืนหยัดอยู่ได้ไม่นานนัก
หูของนางพลันขยับเล็กน้อย มีคนมา!
ไป๋เซี่ยเหอเงยหน้าขึ้นมอง นึกไม่ถึงว่าจะเป็เกี้ยวหลังหนึ่งที่ประดับตกแต่งอย่างหรูหรายิ่งนัก!
ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าบุคคลที่สามารถนั่งอยู่ในนั้นได้ หากไม่ร่ำรวยย่อมต้องสูงศักดิ์เป็แน่ และอย่างน้อยก็ต้องเป็ผู้ที่บ่าวรับใช้สองคนที่วิ่งไล่ตามนางมาด้านหลังไม่อาจทำให้ขุ่นเคืองใจได้
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ไป๋เซี่ยเหอจึงแค่นเสียงคราหนึ่ง ก่อนมุดเข้าไปในเกี้ยว
“สมควรตาย นึกไม่ถึงว่าจะเป็เกี้ยวของเซ่อเจิ้งอ๋อง[1]”
“นับว่ามันโชคดีนัก!”
เมื่อได้ฟังบทสนทนาของทั้งสอง ไป๋เซี่ยเหอก็รู้ว่าตนเองเดิมพันได้ถูกต้อง นางถอนหายใจด้วยความโล่งอก ใบหูขนาดเล็กสองข้างที่มีขนปุกปุยสั่นไหวเล็กน้อยสองทีเพราะความผ่อนคลาย ช่างดูน่ารักอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม นางยังไม่ทันได้พักให้หายเหนื่อย ก็พบว่าตนเองถูกจับขึ้นลอยอยู่กลางอากาศเสียแล้ว!
นางถูกใครบางคนหิ้วคอ!
บุรุษตรงหน้านอนตะแคงบนตั่งกว้างที่ดูนุ่มสบาย เขาสวมชุดคลุมสีกรมท่า ช่วยขับผิวพรรณที่ขาวผ่องราวกับหิมะ เส้นผมสีดำขลับถูกมัดขึ้นอย่างสง่างาม ปอยผมไม่กี่เส้นตกลงบนอกแกร่งที่เผยแย้มออกมานอกเสื้อคลุม ทั่วร่างแผ่ลมปราณกษัตริย์ที่ดุร้ายออกมา
บุรุษผู้นี้ดวงตาอันลึกล้ำราวกับหมึก หากพิจารณาให้ดีก็พบว่าประกายความเ็าจากส่วนลึกของดวงตานั้นดูเย็นเยียบราวกับหิมะ แช่แข็งร่างของนางจนแข็งทื่อ
ราวกับว่านางหนีเสือปะจระเข้อย่างไรอย่างนั้น
“ท่านอ๋องจะจัดการอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?” หากไม่เปล่งเสียงออกมา ไป๋เซี่ยเหอคงไม่ทราบว่าในเกี้ยวหลังนี้ยังมีบุคคลที่สามอยู่ด้วย ตัวตนของเ้าของเสียงดูเลือนลาง คงจะเป็องครักษ์เงาในตำนานกระมัง
ความรู้สึกของการถูกหิ้วคอลอยอยู่กลางอากาศนั้นช่างทรมานยิ่งนัก สมัยที่นางยังเป็ทหารรับจ้าง นางเคยสังหารคนโดยไม่กะพริบตา แต่ตอนนี้นางกลับถูกใครบางคนหิ้วคอและตกอยู่ในสภาพที่ไม่หลงเหลือความยำเกรงแม้แต่น้อย ขาสั้นทั้งสี่ของไป๋เซี่ยเหอพยายามดิ้นรน นางกล่าวออกมาด้วยความโกรธเคืองเต็มประดา “ปล่อยข้า”
แต่เสียงนั้นกลับเป็เพียงเสียงอ้อแอ้เท่านั้น ฟังดูอ่อนแอยิ่งนัก!
ฮั่วเยี่ยนไหวมองดูสัตว์ตัวน้อยที่กำลังแยกเขี้ยวยิงฟัน แววตาพลันทอประกายแปลกประหลาดแวบหนึ่ง มุมปากของเขายกขึ้น ก่อนจะเปล่งเสียงเอื่อยเฉื่อยเอ้อระเหยออกมาจากริมฝีปากบาง “เลี้ยงให้โต แล้วจับกินเสีย!”
ไป๋เซี่ยเหอดิ้นพล่าน ส่งผลให้เส้นขนสีขาวราวหิมะของนางดูกระเซอะกระเซิงขึ้นมาทันที นางกัดนิ้วมือของฮั่วเยี่ยนไหวเพื่อบังคับให้เขาปล่อยตนเอง
ทว่ากระทำของนางไม่เพียงแต่จะไร้ประโยชน์ นอกจากจะทำให้ร่างของตัวเองแกว่งไกวอยู่กลางอากาศแล้ว ฮั่วเยี่ยนไหวกลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย
ในทางกลับกัน เป็นางที่ถูกบุรุษผู้นี้หิ้วคอไปมา กลับรู้สึกว่าตนเองอ่อนแอราวกับมดปลวกตัวหนึ่งที่เพียงบีบเบาๆ ก็ตาย
ไป๋เซี่ยเหอให้สัตย์สาบานว่าหากมีโอกาส ย่อมต้องล้างแค้นให้กับความอัปยศอดสูที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างแน่นอน
“อยากออกจากเกี้ยวหรือ?” ฮั่วเยี่ยนไหวเอ่ยถาม น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความเอ้อระเหยสามส่วน และความเ็าอีกเจ็ดส่วน
เขาคงไม่หลอกลวงนางใช่หรือไม่?
จิ้งจอกน้อยสีขาวราวหิมะพยักหน้า
นางไม่ทราบว่าการกระทำเช่นนี้ทำให้บุรุษทั้งสองที่อยู่ในเกี้ยวเผยร่องรอยความแปลกใจออกมาหลายส่วน
ฟังภาษามนุษย์ออกด้วยหรือ? จิ้งจอกตัวนี้เป็ปีศาจอย่างนั้นหรือ?
แววตาของฮั่วเยี่ยนไหวเป็ประกายด้วยความหมายลึกซึ้งบางอย่าง เขายกริมฝีปากบางเบาขึ้น เลิกหิ้วคอจิ้งจอกน้อย แต่วางลงบนฝ่ามือของตนเองแทน ส่วนอีกมือก็ลูบไล้ขนจิ้งจอกที่นุ่มลื่น เสียงทุ้มต่ำในลำคอที่แฝงด้วยความน่าหลงใหลเล็กน้อยดังขึ้น “สองคนที่ไล่ตามเ้าอยู่ด้านนอกเมื่อครู่ยังคงติดตามอยู่ข้างหลัง หากเ้าออกจากเกี้ยวไปตอนนี้ ย่อมต้องตกอยู่ในกำมือของพวกเขาเป็แน่ และเ้าก็จะตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
องครักษ์เงาที่อยู่ด้านข้างยกม่านขึ้นเล็กน้อยเพื่อพิสูจน์คำพูดของเขา นางมองเห็นบุรุษสองคน พวกเขายังคงไม่ยอมแพ้ และจ้องมองมาที่เกี้ยวด้วยสายตาละโมบ
เดิมทีขนจิ้งจอกก็มีราคาสูง กอปรกับจิ้งจอกตัวนี้มีสีขาวปลอดราวหิมะ ดูบริสุทธิ์และไร้มลทินใดๆ เมื่อมีเงินจะปลุกผีมาโม่แป้งก็ยังได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่กล้าบุกรุกเข้ามาในเกี้ยว ทว่าก็ยังคงเฝ้ารอให้เกิดปาฏิหาริย์บางอย่างขึ้น
ถึงอย่างไรโรครักความสะอาดของเซ่อเจิ้งอ๋องก็เป็ที่รู้กันทั่ว บางทีอาจเป็เพราะเซ่อเจิ้งอ๋องกำลังพักผ่อน จึงยังไม่พบเดรัจฉานน้อยตัวนั้นที่มุดเข้าไปในเกี้ยว เพราะฉะนั้นรอให้พบเสียก่อนจิ้งจอกน้อยย่อมถูกโยนออกมาเป็แน่ เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะรับทรัพย์ก้อนโต!
ฮั่วเยี่ยนไหวเห็นจิ้งจอกน้อยที่เมื่อครู่ยังดูมีชีวิตชีวา แต่หลังจากมองออกไปนอกเกี้ยวแล้ว พลันมีท่าทีหงอยเหงาเศร้าซึมเสียอย่างนั้น เขาหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างอดไม่ไหว
เสียงหัวเราะอันแ่เบานี้ทำให้องครักษ์เงาที่อยู่ข้างกายขนลุกขนชันขึ้นมาทันที เขาอารักขาองค์ชายมาสิบปีแล้ว ทว่าไม่เคยเห็นองค์ชายหัวเราะมาก่อน เขาคิดว่าองค์ชายสวมหน้ากากอยู่เสมอ ไม่คิดว่าวันนี้จะหัวเราะออกมา ทั้งยังหัวเราะใส่เดรัจฉานน้อยตัวหนึ่งเท่านั้น!
------------------------
[1] เซ่อเจิ้งอ๋อง หมายถึง อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนฮ่องเต้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้