“ผู้ใดกล้า?” หลินฟู่อินตวาด จ้องจ้าวซื่อเขม็ง “เ้ามันงูพิษปีศาจ แม่ข้าเพิ่งจากไปก็คิดจะฆ่าพวกเราสามคนแล้ว แม่ข้าเดาได้ถูกต้องจริงๆ จึงได้เขียนจดหมายทิ้งไว้ให้ท่านพ่อก่อนตาย!”
แน่นอนว่าเื่นี้นางโกหก แต่ทุกคนในหมู่บ้านหูลู่นี้ต่างก็ทราบว่าฉู่ซื่ออ่านออกเขียนได้ เป็ไปได้ว่าคนน่าจะเขียนจดหมายจัดแจงเื่ต่างๆ หลังตายเอาไว้ให้สามีจริงๆ
ดังนั้นชาวบ้านจึงมิได้สงสัยอะไร
หลินฟู่อินไม่มีทางเลือกจึงต้องโกหกออกไป ชาวบ้านยุคนี้ไม่รู้ความทั้งยังงมงาย ล้วนแต่เชื่อคำจ้าวซื่อว่าฟู่อินเป็ดาวหายนะ คนจากบ้านหลักไม่มีใครเข้าข้างนาง ดังนั้นสายเืเพียงคนเดียวที่พึ่งพาได้ของนางย่อมต้องเป็หลินหยวนผู้เป็บิดาของร่างนี้
“จริงหรือ? แม่เ้าเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้พ่อเ้าตอนใกล้ตายน่ะหรือ?” สีหน้าจ้าวซื่อพลันน่าเกลียดขึ้นมา “จดหมายอยู่ที่ใด? เอาออกมาให้ข้าดู”
จ้าวซื่อเป็คนหยาบช้าไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ทว่ากลับกลัวหลินหยวนเป็ที่สุด
หลินหยวนล่าสัตว์เพื่อดำรงชีพมานาน รอบกายมีกลิ่นอายแห่งความตายท่วมท้น หากฉู่ซื่อทิ้งจดหมายเอาไว้จริงและนางกระทำเื่ไม่ดีต่อบุตรสาวของเขาเช่นนั้น อีกฝ่ายคงลงมือสังหารจ้าวซื่อจริงๆ
มุมปากของหลินฟู่อินโค้งขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่าย้าจดหมาย นางบอก “ต่อให้มอบมันให้ ป้าใหญ่ก็อ่านไม่ออกอยู่ดี คงไม่คิดจะทำลายจดหมายของท่านแม่ข้ากระมัง? ท่านช่างชั่วร้ายนัก ระวังเถอะคืนนี้ท่านแม่ข้าจะตามไปหา!”
นางตั้งใจเสียดสีอีกฝ่าย แต่เมื่อจ้าวซื่อได้ยินเื่ที่ฉู่ซื่อจะไปหาตอนกลางคืนก็เกิดหวาดกลัวจนตัวสั่นขึ้นมา
ทุกคนต่างก็รู้สึกหนาวเยือกเมื่อได้ยินคำของฟู่อิน
ทันใดนั้นเองเ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยประจำหมู่บ้านหลี่เจิ้งก็ส่งหลี่ฮูหยินผู้เป็ภรรยาเข้ามาดู หลี่ฮูหยินเห็นสีหน้าทุกคนก็ประหลาดใจเล็กน้อย สตรีผู้หนึ่งขยับเข้าไปข้างกายนางแล้วจึงกระซิบกระซาบข้างหู
หลี่ฮูหยินจองหลินฟู่อินด้วยสีหน้าอ่านไม่ออก จากนั้นจึงมองฉู่ซื่อที่อยู่บนเตียง ท้ายสุดจึงมองรกสองเส้นบนพื้น ก่อนจะขมวดคิ้ว
หลินฟู่อินค้อมหัวคารวะอีกฝ่าย ทว่าคนกลับมิได้มีท่าทีอะไร
“ย่าฟู่อิน ผู้นำตระกูลเ้ามิได้มาด้วยหรือ? เกิดเื่เช่นนี้กับบ้านสามของเ้า เหตุใดจึงไม่ลงมือทำอะไรเลย” หลี่ฮูหยินออกปากถาม มองอู่ซื่อเป็คนสุดท้าย
อู่ซื่อส่งเสียงฮึ่มแล้วหันหน้าไปอีกทาง
จ้าวซื่อรีบตอบทันที “หลี่ฮูหยิน หลินฟู่อินคนนี้เป็ปีศาจจำแลง ผ่าท้องแม่ดึงน้องสาวน้องชายออกมาด้วยกรรไกร…เช่นนี้มิใช่ปีศาจจำแลงหรือ? ควรจะลากนางออกไปเผาทั้งเป็!”
สาวชาวบ้านคนหนึ่งส่ายหน้าค้านทันที “เช่นนี้ไม่ได้ ไม่ได้ยินที่ฟู่อินกล่าวหรือ? ฉู่ซื่อเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้หลินหยวน เื่ฟู่อินค่อยเอาไว้จัดการตอนหลินหยวนกลับมาเถอะ”
คนที่พูดเข้าข้างฟู่อินคือซ่งฮูหยินแม่ของต้ายาที่สนิทสนมกับครอบครัวฟู่อินเป็อย่างยิ่ง
แม้ซ่งฮูหยินจะกลัวว่าฟู่อินอาจเป็ดาวหายนะจริง แต่นางเองก็เป็แม่คน จึงได้ใจอ่อนเมื่อเห็นทารกไม่รู้ความสองคนที่เพิ่งจะคลอดออกมาจากท้องแม่
นอกจากนั้นฉู่ซื่อก็ช่วยพวกนางอยู่เสมอ
พวกชาวบ้านบอกว่าหลินฟู่อินเป็ดาวหายนะเพราะเข้าใจผิดว่าเด็กหญิงเป็คนผ่าออกมา
ภรรยาหลี่เจิ้งพยักหน้า
อย่างไรนางก็มีความรู้กว่าชาวบ้านทั่วไป หลินหยวนมักต้องออกไปล่าสัตว์ในป่าลึกหลายวัน ทุกครั้งที่ไปก็มักจะได้เหยื่อตัวใหญ่กลับมาเสมอ
หลินหยวนไม่เคยปฏิบัติไม่ดีต่อผู้อื่น ทุกครั้งที่ล่าเหยื่อตัวใหญ่ได้เขาก็จะนำมาแบ่งปันเสมอ คนทั้งแข็งแกร่ง มีฝีมือยิงธนูแม่นยำ แต่ผู้อื่นกลับจะลากตัวลูกสาวเขาไปเผาทั้งเป็ในตอนที่อีกฝ่ายไม่อยู่
แต่ฉู่ซื่อตายแล้ว ยังเหลือทารกสองคนที่ต้องป้อนนม หากสังหารพี่สาวของเด็กไป ทารกทั้งสองย่อมต้องอดตายเป็แน่
จะให้บ้านอู่บ้านจ้าวที่ทะเลาะกันมาตลอดสิบกว่าปีมาคอยช่วยดูแลก็เชื่อถือไม่ได้มิใช่หรือ?
ถ้าหากภรรยาและลูกตายหมด บุรุษผู้นั้นจะไม่เสียสติหรือ? กลิ่นอายสังหารรุนแรงปานนั้น มิใช่ทั้งหมู่บ้านหูลู่จะถูกเขาฆ่าทิ้งทั้งหมดหรือ?
“จ้าวซื่ออย่าได้ใจร้อน ในเมื่อฉู่ซื่อจากไปแล้ว อย่างไรสกุลหลินก็ควรได้จัดการงานศพนางให้เรียบร้อย” หลี่ฮูหยินว่า นางคิดหลายรอบผนวกกับคำแนะนำของสามี จึงตัดสินใจไม่สนเื่ดาวหายนะอะไรนั่น
แต่จ้าวซื่อกลับเป็กังวล ถามหลี่ฮูหยินเสียงหลบ “หลี่ฮูหยินไม่เกรงกลัวดาวหายนะหรืออย่างไร?”
“เทียบกับดาวหายนะแล้ว หากข้าไม่จัดการให้ดี เกรงว่าคืนนี้ฉู่ซื่อจะมาหาข้ามากกว่า!” หลี่ฮูหยินสวนกลับทันทีที่เห็นอีกฝ่ายหยาบคายใส่ตนเอง
นางรู้สึกได้ว่าการจับหลินฟู่อินเผาตอนนี้ไม่ต่างจากการฆ่าทารกทั้งสอง ไม่ทราบว่าฉู่ซื่อจะมาหานางคืนนี้หรือไม่ แต่เมื่อกลับมา หลินหยวนย่อมไม่ให้อภัยคนเหล่านี้แน่
หลี่ฮูหยินตวัดสายตามองทุกคนแล้วจึงกล่าวขึ้นมา “ชาวบ้านพวกนี้โง่งมนัก! หลินหยวนใช่คนที่จะไปล่วงเกินได้หรือ? คิดว่าคนจะกลับมาเป็นายพรานธรรมดาหรือ? ลูกชายคนที่สามสกุลหลินผู้นี้ออกจากบ้านไปตอนอายุได้สิบสาม สิบปีให้หลังพาฉู่ซื่อกลับมา ไม่มีใครรู้พื้นเพของฉู่ซื่อ เพียงเท่านี้ก็ไม่ปกติแล้ว ยามนี้ยังเกิดเื่เช่นนี้ขึ้นมาอีก…”
ทารกทั้งสองทยอยส่งเสียงโยเยขึ้นมา ไม่ทราบว่าเพราะกลัวหรือหิวกันแน่
หลินฟู่อินทราบว่าป้าสองของต้ายาเพิ่งคลอดลูกชายเมื่อเดือนก่อน ยามนี้ย่อมมีน้ำนมเหลือเฟือจึงได้รีบหันไปหาแม่ของต้ายาทันทีด้วยสายตาอ้อนวอน “ป้าซ่งเ้าขา น้องชายน้องสาวข้าต้องหิวแล้วเป็แน่ ขอท่านป้าสองช่วยให้นมเด็กๆ ได้หรือไม่?”
แม่นางเพิ่งจากไป นางไม่อาจอุ้มน้องๆ ทั้งสองคนที่ท่านแม่เพิ่งคลอดออกมาป้อนนมได้แน่
ซ่งซื่อดูสับสนวุ่นวายใจขึ้นมา
ตอนนี้นางไม่กล้าตัดสินใจ
ฟู่อินทราบว่าอีกฝ่ายกังวลอะไร แต่หากมีเงิน อะไรก็ทำได้ทั้งนั้น
นางพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ท่านป้าเ้าคะ ตอนยังอยู่ ท่านแม่สอนข้าเสมอว่าคนเราต้องตอบแทนน้ำใจ หากท่านป้าสองช่วยให้นมน้องๆ ข้าย่อมต้องตอบแทน!”
แม่ของต้ายาทราบนิสัยฉู่ซื่อดี อีกฝ่ายมักจะมอบเหยื่อที่หลินหยวนล่าได้ให้แก่เพื่อนบ้านอยู่เสมอ
ตอนน้องสะใภ้ของนางคลอดลูกตัวอ้วนๆ ออกมาก็มีน้ำนมเหลือเฟือ มิใช่เพราะฉู่ซื่อมอบไก่ป่า กระต่ายและเนื้อหมูพวกนั้นเพื่อบำรุงหรอกหรือ?
เมื่อคิดไปแล้วก็ตอบทันที “ฟู่อินไม่ต้องกังวลไปนะ ข้าจะกลับไปขอนางให้”
ฟู่อินรู้สึกขอบคุณเป็อย่างยิ่ง แม่ต้ายาคิดจะกลับไปขอให้ เช่นนี้ก็นับได้ว่ารับปากแล้ว
ป้าสองของต้ายาคือจูซื่อย่อมรู้จักการตอบแทนความดีเสียยิ่งกว่าซ่งซื่อแม่ของต้ายาเสียอีก
อู่ซื่อเห็นสถานการณ์ตอนนี้เปลี่ยนไปจากที่คาดไว้ก็อดมิได้ให้พูดคำว่า “เ้า เ้า” คำแล้วคำเล่าใส่แม่ต้ายาอยู่เป็นาน
แน่นอนว่าจูซื่อ ป้าสองของต้ายารีบมาหาอย่างรวดเร็วพร้อมกับต้ายา
ต้ายาแก่กว่าฟู่อินหนึ่งปี มีผิวแทนร่างกายแข็งแรง ดูเรียบง่ายและซื่อสัตย์
แต่ในตอนที่นางมองหลินฟู่อินกลับดูคล้ายปิดบังอะไรอยู่ ฟู่อินประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นค่อยมองจูซื่อ
จูซื่อมีใบหน้ากลม อวบเล็กน้อยสวมชุดสีเขียว ศีรษะโพกผ้าสีเดียวกันสิ่งแรกที่คนทำเมื่อมาถึงคือเข้าไปในห้องฉู่ซื่อแล้วร้องไห้
ทันใดนั้นต้ายาก็กระตุกหลินฟู่อินแล้วรีบพูดข้างหู “ฟู่อิน ข้าเห็น…”
“ต้ายา เด็กโง่ มาที่นี่ทำไมกัน? ใช่ที่ที่เด็กสาวยังไม่แต่งงานเช่นเ้าจะมาได้หรือ? รีบกลับไปเดี๋ยวนี้” เมื่อซ่งซื่อเห็นลูกสาวตนก็ใจนรีบดุทันที
“ฟู่อิน ระวังด้วย…” ต้ายาหมุนตัววิ่งจากไปทันที
หลินฟู่อินยังคงตกตะลึง ถ้อยคำของต้ายาส่งเสียงหึ่งๆ ในหัว มารดานางถูกคนขู่เข็ญจนตาย
ต้ายาเห็นอะไรกันแน่?
จูซื่อสะอื้น จากนั้นจึงกอดน้องชายของฟู่อิน
เมื่อเห็นฟู่อินยืนเหม่อลอยอยู่ข้างประตู คนก็ถอนใจ กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฟู่อิน เ้าจะล้มไม่ได้นะ!”
ทันใดนั้นหลินฟู่อินก็รู้สึกตัว นางส่ายหน้า พยายามจัดการสมองให้โล่ง
จากนั้นจึงเข้าไปในห้องฉู่ซื่ออีกครั้ง
“ป้าอู่พูดอะไรหน่อยสิ สกุลหลินจะทำอย่างไรกับงานศพฉู่ซื่อ?” หลี่ฮูหยิน ภรรยาหลี่เจิ้งถามด้วยอารามหมดความอดทน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้