ความเร็วของรถม้ามิได้เร็วนัก เวินซีพิงศีรษะแล้วหลับตาพักผ่อนครู่หนึ่ง
“ผลไม้น้ำตาล ไม้ละสองอีแปะ มาลองชิมได้ขอรับ”
“ซาลาเปา ซาลาเปาสดๆ ใหม่ๆ เลยเ้าค่ะ”
“เร่เข้ามา มาดูเร็ว ข้าเพิ่งจะจับหมูป่ามาได้สด ขายถูกๆ เลย”
เสียงของพ่อค้าแม่ค้าะโดังเข้ามาเรื่อยๆ ลมพัดมาทำให้ม่านหน้าต่างกระพือเล็กน้อย
ทันใดนั้นรถม้าก็สั่นะเื เวินซีค่อยๆ ลืมตาแล้วมองออกไปข้างนอก ขณะนั้นรถม้าได้เดินทางมาถึงทุ่งโคลนแห่งหนึ่ง
ถนนเส้นนี้ดูไม่คุ้นเคย มิใช่เส้นทางที่จะไปสถานที่การแข่งขันทำเครื่องหอม
เวินซีขมวดคิ้วพลันผลักม่านหน้าต่างออก คนขับรถม้าเป็บุรุษแปลกหน้าที่อายุราวยี่สิบกว่าปี เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของนางก็หวดหลังม้าอย่างแรง
รถม้าวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เวินซีหวั่นใจ เอามือจับขอบหน้าต่างรถแน่น รถม้ายังคงวิ่งเข้าไปในป่าแห่งหนึ่งโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“ไป!” บุรุษที่เป็สารถีใช้แส้หวดหลังม้าต่อเนื่อง
เวินซีจ้องมองเขาอย่างระแวดระวัง จนกระทั่งไปถึงในป่าลึก รถม้าถึงได้หยุดลง บุรุษผู้นั้นหันกลับมาและพุ่งตัวเข้าหาเวินซี ในมือถือกริชอยู่เล่มหนึ่ง
เวินซียืนนิ่งและเบี่ยงตัวหลบออกด้านข้าง ภายในรถม้ามีพื้นที่น้อยมาก นางจึงะโลงจากรถ
บุรุษผู้นั้นก็ะโตามลงมาด้วย เขาใช้กริชโจมตีนางอีกครั้ง ส่วนเวินซีใช้โอกาสนี้เตะไปที่ข้อมือของเขาจนกริชหล่นลงพื้น ทำให้เขาเดินเซออกไป
“นางชั่ว ตายเสีย”
บุรุษผู้นั้นะโเสียงดัง ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหานางอีกครา
เวินซีจึงสาดผงในมือใส่ ชายผู้ที่เข้ามาจู่โจมไหวตัวไม่ทันจึงล้มลงกับพื้น นางใช้โอกาสนี้หยิบกริชขึ้นมาแล้วจี้ไปที่คอของเขา “เ้าเป็คนของผู้ใด?”
ทุกอย่างกลับตาลปัตรอย่างรวดเร็ว ขาของบุรุษผู้นั้นสั่นอย่างควบคุมมิได้ แต่เขายังคงปิดปากเงียบ
เวินซีทิ่มกริชลงไปอย่างไม่ลังเล เขาสูดปากด้วยความเ็ป
“พูดมา มิฉะนั้นข้าจะตัดหัวเ้าเสีย”
“ข้า...ข้า...ข้าเป็คนของคุณหนูเวินเยียน คุณหนูให้เงินข้าสิบตำลึงในการพาท่านมาที่นี่ หากฆ่าท่านได้นางจะให้เงินข้าอีกร้อยตำลึง คุณหนูปล่อยข้าไปเถิด เป็ข้าที่เห็นแก่เงินเองขอรับ”
“หากข้ารู้ว่าฝีมือการต่อสู้ของท่านเก่งกาจเช่นนี้ ข้าคงมิบังอาจ ข้าผิดไปแล้วขอรับคุณหนู ปล่อยข้าไปเถิดขอรับ”
ท้ายที่สุดบุรุษผู้นั้นก็สารภาพออกมาจนหมดเพราะความกลัว เวินซีกำผมของเขาแล้วออกแรงโยนตัวเขาออกไป
ทันใดนั้น ลูกธนูดอกหนึ่งก็พุ่งเข้ามาเฉียดหู ตัดเส้นผมของนางสองสามเส้น พลันปักลงบนดิน
ยังมีคนอื่นอีก
เวินซีไม่กล้าหยุดนิ่งอยู่กับที่ จึงลุกขึ้นและวิ่งไปหาต้นไม้ใหญ่
ลูกธนูอีกดอกพุ่งออกมาผ่านเบื้องหน้าของนางไปปักอยู่ที่ต้นไม้ข้างหน้า นางกลั้นหายใจและคอยฟังเสียงการเคลื่อนไหวรอบตัว
ในเวลาเดียวกันกับที่ลูกธนูพุ่งเข้ามาอีก เวินซีก็ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ได้สำเร็จ
ไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นรอบด้าน พวกเขากำลังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนจะมีกันหลายคน เวินซีจึงกำกริชที่หยิบมาเมื่อครู่ไว้แน่น
ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาหา นางพลันสาดผงพิษใส่เขา
ทางด้านขวาก็มีคน นางจึงถือกริชไปสู้ ส่วนด้านหลังก็มีคนที่หาโอกาสโจมตีอยู่ตลอด
ขณะที่นางเตะบุรุษที่อยู่ด้านขวาออกก็ถูกแทงเข้าที่ไหล่ขวา นางเ็ปเสียจนเซถอยหลังไปสองสามก้าว าแนั้นน่ากลัว เืไหลออกมาจนย้อมเสื้อให้เป็สีแดง
เวินซีขมวดคิ้วแล้วกดแผลไว้แน่น หากไม่คิดหาทางหนีก็คงตายเพราะถูกพวกเขาฆ่า หรือไม่ก็เสียเืจนตาย
ครั้งนี้เวินเยียนคิดจะให้นางตายจริงๆ
มือสังหารที่หลบซ่อนตัวอยู่เริ่มปรากฏตัว ทั้งหมดมีประมาณยี่สิบกว่าคน พวกเขาพุ่งเข้าหานางด้วยความคุ้นเคยกับวิธีการของนางเป็อย่างดี ต่างก็เอามือปิดจมูกและปากเอาไว้แล้ว
เวินซีตั้งรับและคอยระวังพวกเขา นางถอยหลังไปเรื่อยๆ ก่อนจะหันหลังวิ่งลึกเข้าไปในป่า โดยมีเหล่ามือสังหารวิ่งตามไปติดๆ
“อย่าหนีนะ”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะนางชั่ว”
“คิดว่าจะหนีพ้นหรือ?”
เสียงะโดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เวินซีขมวดคิ้วแน่น รู้สึกได้ว่าตนเองกำลังจะหมดแรง
ในป่าลึกนั้นเส้นทางซับซ้อนมาก นางไม่เคยมาที่นี่มาก่อน จึงทำได้เพียงเดินไปทางทิศใต้ตามสัญชาตญาณ
เสื้อผ้าสีขาวเกือบจะถูกย้อมเป็สีเืทั้งหมด การมองเห็นก็เริ่มเลือนรางเมื่อร่างกายเสียเืมากเกินไป
เวินซีหนีไปได้ประมาณหนึ่งชั่วยาม คนกลุ่มนั้นยังคงตามมาไม่ลดละ จะสลัดพวกเขาออกอย่างไรก็ทำมิได้ หากจู่ๆ นางเป็ลมขึ้นมา เกรงว่าคงจะต้องจบชีวิตอยู่ที่นี่แล้ว แต่ทั้งจ้าวต้านและฮูหยินซ่งก็ยังรอนางอยู่ นางจะยังตายมิได้
เวินซีพยายามทำให้ตนเองมีสติอยู่ตลอด คลำผงยาพิษที่มีทั้งหมดบนร่างมาผสมกัน นางใช้โอกาสในตอนที่ไม่มีผู้ใดไหวตัวทัน เปลี่ยนทิศทางพุ่งเข้าไปหาพวกเขา
ผงพิษถูกโปรยลงมาราวกับเม็ดฝน กว่าที่เหล่ามือสังหารจะรู้ตัวและเอามือปิดจมูกนั้นก็สายไปเสียแล้ว เมื่อสูดผงพิษเข้าไปจำนวนมาก คนเ่าั้ก็มีน้ำลายฟูมปากและล้มลงกับพื้น
เวินซียืนพิงต้นไม้อยู่ใกล้กับพวกเขา ในที่สุดก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในตอนที่นางกำลังจะหนีไปก็มีบุรุษคนหนึ่งคว้าข้อเท้าของนางไว้ เขายังมีสติอยู่จึงออกแรงลากนางไปด้านหลัง
เวินซีล้มลงกับพื้น มือข้างหนึ่งคว้าหญ้าไว้ ส่วนมืออีกข้างก็หยิบเข็มเงินออกมา
นางเงยหน้าขึ้นมองบุรุษผู้นั้น เล็งเป้าหมายพลันดีดเข็มเงินไปที่หน้าผาก ในที่สุดเขาก็หยุดนิ่งและล้มลงกับพื้น
การต่อสู้จบสิ้นเสียที เวินซีคุกเข่าลงและคลำตัวคนเ่าั้ ไม่นานก็พบกับจดหมายที่ยังมิได้เปิดอ่าน รวมถึงป้ายโองการที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์หลายอัน
นางเก็บทุกอย่างไว้กับตัว เมื่อกลับไปที่รถม้าก็ถอดรถม้าออกแล้วขี่ม้ากลับเข้าไปในเมือง
ณ เวทีการแข่งขันทำเครื่องหอมมีผู้คนมากมาย เสียงสนทนาดังไปทั่วพื้นที่ เวินเยียนยืนอยู่คนเดียวบนเวที นางยิ้มพลางมองดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
เวินซีมามิได้แน่ ครั้งนี้นางใช้เหล่ามือสังหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี หากเวินซียังรอดมาได้ก็นับว่าเป็ปาฏิหาริย์ บัดนี้ธูปมอดลงครึ่งหนึ่งแล้ว เพียงแค่อีกครึ่งหนึ่งมอดหมด นางก็จะชนะทันที
ส่วนที่ด้านล่างเวที ฮูหยินซ่งร้อนใจจนเดินไปมา คนรับใช้ที่นางส่งไปรับเวินซีกำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้นด้วยท่าทีกระวนกระวายใจมาก
“ฮูหยินซ่งขอรับ ในตอนที่ข้าน้อยไปถึงและเตรียมจะรับนางมา คุณหนูเวินซีก็มิได้อยู่ที่ร้านเครื่องหอมแล้ว ข้าน้อยนึกว่านางเดินทางมาแล้ว จึง...จึงมิได้มารายงานขอรับ”
“เพียงแค่รับนางมายังทำมิได้ ข้าจะเลี้ยงคนไร้ประโยชน์อย่างเ้าไว้ไยกัน? ออกไปให้พ้น!”
ฮูหยินซ่งโกรธอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน นางไม่เหลือท่าทีสง่างามเฉกเช่นในอดีต คนรับใช้เห็นดังนั้นก็รีบลุกขึ้นและออกจากสนามแข่ง
“ฮูหยินซ่ง เกิดอันใดขึ้นขอรับ?”
โจวอวี่ชางเห็นนางโกรธจนตัวสั่นจึงเอ่ยปากถามพลางนำเก้าอี้มาให้นางนั่งพักผ่อน
“ในตอนเช้ายังเหลืออีกกี่การแข่งขัน?” ฮูหยินซ่งพยายามสงบอารมณ์
“นอกจากคู่นี้แล้วยังเหลืออีกสองคู่ขอรับ” โจวอวี่ชางตอบ
“ข้าเป็คนขี้ลืม ตอนที่มาการแข่งขัน ข้าลืมของสำคัญจึงให้เวินซีไปนำมาให้ข้าน่ะ จัดการแข่งขันคู่นี้เป็คู่สุดท้ายได้หรือไม่?”
“ในเมื่อฮูหยินซ่งเอ่ยปาก ก็ย่อมได้ขอรับ”
โจวอวี่ชางรับปากอย่างรวดเร็ว เขาให้ผู้ดำเนินการแข่งขันลงมาแล้วพูดอันใดบางอย่าง ไม่นานนักผู้ดำเนินการแข่งขันก็ขึ้นเวทีไปใหม่
“การแข่งขันคู่นี้ถูกเลื่อนออกไป คู่ต่อไปเชิญขึ้นเวทีได้ขอรับ”
“เหตุใดกัน?” เวินเยียนมีสีหน้าไม่พอใจ
“เป็เื่กะทันหัน คุณหนูลงไปเถิดขอรับ”
ผู้ดำเนินการแข่งขันไล่นางลง เวินเยียนจึงทำได้เพียงก้าวลงจากเวที แต่สำหรับนางแล้วจะเริ่มเมื่อไรก็ไม่ต่างกัน ป่านนี้เวินซีคงจะกลายเป็ศพไปแล้วกระมัง
ฮูหยินซ่งมองดูสถานการณ์ด้วยแววตาที่เป็กังวลยิ่งนัก นางพยายามถ่วงเวลาอย่างเต็มความสามารถ เช่นนี้แล้วเวินซีจะต้องมาให้ทันให้ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้