สำหรับงานเลี้ยงตระกูลเวิน พวกเขายังเชิญนางด้วยอย่างนั้นหรือ?
่นี้ตระกูลเวินใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเกินไปหรือ? หรือว่าเวินอวิ๋นโปยังไม่ยอมถอดใจ คิดจะให้นางกลับไป?
เวินซีกับจ้าวต้านมองหน้ากัน ก่อนที่สายตาของทั้งคู่จะกลับไปมองคนรับใช้
คนรับใช้รู้สึกกดดันเป็อย่างยิ่ง เขาเอ่ยปากพูดอีกครา “คุณหนูเวินซี ผู้ที่เชิญท่านคือนายน้อยขอรับ นายน้อยไม่สนใจคำของคนทั้งตระกูล และให้ข้าเชิญท่านกลับไปให้ได้ขอรับ”
“นายน้อยบอกว่า อย่างไรเสียท่านก็คือคนตระกูลเวิน มีเืเนื้อของตระกูลเวิน นอกจากจะได้พบกันแล้วนายน้อยยังอยากให้ท่านกับคนในตระกูลได้สะสางความบาดหมางที่เคยมีก่อนหน้านี้ด้วยขอรับ”
คนรับใช้เป็คนของโจวอวี่ชาง ย่อมพูดไปตามความประสงค์ของเขา
พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของนางอีกแล้ว
สะสางความบาดหมาง? เกรงว่าจะเป็กับดักที่รอให้นางเข้าไปติดเสียมากกว่า
เวินซีไม่เชื่อคำพูดสวยหรูนั้น ก่อนจะยกมือขึ้นให้คนรับใช้ออกไป
คนรับใช้เห็นว่านางไม่ยอมไป สีหน้าของเขาก็ร้อนรน
“ตุ้บ”
เขาคุกเข่าลงบนพื้นแล้วอ้อนวอน “คุณหนูเวินซี ข้าน้อยเป็เพียงคนรับใช้ อย่าได้ทำให้ข้าลำบากเลยขอรับ หากข้ากลับไปคนเดียว นายน้อยจะต้องไม่พอใจแน่ขอรับ”
“หากข้าไปจริงๆ เกรงว่าตระกูลเวินของพวกเ้าจะไม่สบายใจน่ะสิ ฝากขอบคุณท่านพี่แทนข้าด้วย เ้ากลับไปเถิด” เวินซีมีจุดยืนที่แน่วแน่
“คุณหนูเวินซี นาย...นายน้อยบอกว่าในมือของเขามีสูตรเครื่องหอมของเวินอี๋เหนียงอยู่ขอรับ เขาอยากจะใช้โอกาสนี้คืนให้คุณหนู”
ทว่าคนรับใช้ยังไม่ยอมกลับไปง่ายๆ เขาคุกเข่าอยู่ที่ประตู ในขณะนั้นมีผู้คนที่เดินผ่านไปมาเริ่มหันมามองบ้างแล้ว
สูตรเครื่องหอม? ใช้สูตรเครื่องหอมมาข่มขู่นางเลยหรือ?
แววตาของเวินซีจริงจังขึ้นมา เมื่อเห็นว่าผู้คนเริ่มล้อมกันเข้ามาจนแทบจะเป็วง นางก็ลุกขึ้นเดินไปหาคนรับใช้ผู้นั้น
“ในเมื่อท่านพี่โจวอยากจะให้ข้าไปถึงขนาดนี้ ข้าก็ยินดี”
ขณะนั้นจ้าวต้านเห็นว่านางกำลังเดินออกไปก็รีบตามไปด้วยทันที
นี่เป็งานเลี้ยงหงเหมิน [1] ที่ทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจ เขาจะปล่อยให้นางไปเผชิญอันตรายคนเดียวได้อย่างไร
“ขอรับ คุณหนู ท่านเขย รถม้าอยู่ทางนี้ขอรับ รีบขึ้นมาเถิดขอรับ งานเลี้ยงใกล้จะเริ่มแล้ว”
คนรับใช้ลุกขึ้นด้วยความดีใจแล้วรีบก้มตัวให้ พลันเชิญพวกเขาขึ้นไปบนรถม้าที่เตรียมไว้
จากนั้นรถม้าก็เคลื่อนตัวไปยังจวนตระกูลเวินอย่างรวดเร็ว
“ไปถึงจวนตระกูลเวินแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามลงมือคนเดียวเป็อันขาด มีเื่ใดเราต้องปรึกษากัน” จ้าวต้านเอ่ยบอกนาง “ตระกูลเวินกับฮ่องเต้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ในงานเลี้ยงจะต้องมีคนอื่นอีกแน่ อย่าให้ถูกจับได้เด็ดขาด”
บนรถม้า จ้าวต้านเห็นเวินซีขมวดคิ้วแน่น จึงนำถุงหอมมาผูกไว้ที่เอวของนาง
“คนที่จะถูกจับได้น่าจะเป็ท่านเสียมากกว่า” นางเอนตัวพิงหน้าต่างมองทิวทัศน์ด้านนอก
รถม้าหยุดลงอย่างรวดเร็วที่หน้าประตูที่นางคุ้นเคย คนรับใช้ที่อยู่ด้านในพากันออกมาล้อมรถม้าไว้พลันยืนด้วยท่าทีเคารพ
เวินซียื่นมือให้จ้าวต้านดึงนางลงจากรถม้า
โจวอวี่ชางยืนรออยู่ที่ประตูนานแล้ว เมื่อเห็นนางจึงเข้าไปหาทันที ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มและความอบอุ่นอ่อนโยนเหมือนเคย
“งานเลี้ยงเริ่มแล้ว เรารีบเข้าไปเถิด”
“รบกวนท่านพี่ด้วยเ้าค่ะ”
เวินซีเดินตามเขาเข้าไปในจวนตระกูลเวิน
บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสุขสันต์ ระเบียงทางเดินมีโคมไฟสีแดงประดับ คนรับใช้ใส่เสื้อผ้าสีแดงถือถาดอาหารเดินไปมา
งานเลี้ยงจัดที่ห้องโถงใหญ่ เวินซีเดินเข้าไปใกล้งานก็ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยดังออกมา รวมถึงการเอ่ยยกยอเวินอวิ๋นโป
“การแข่งขันทำเครื่องหอมครานี้ ตระกูลเวินจะต้องชนะแน่”
“ขอบคุณคุณชายขอรับ หากเราชนะจริงๆ ข้าจะตอบแทนคุณชายเป็อย่างดี”
“ล้วนเป็ความสามารถของพวกท่านทั้งนั้น จะขอบคุณข้าได้เช่นไรขอรับ”
“...”
เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ ในใจของเวินซีก็รู้สึกขยะแขยง นางหยุดฝีเท้าลงไม่อยากเดินต่อ สีหน้าเต็มไปด้วยการต่อต้าน แต่ทันใดนั้นจ้าวต้านก็เดินเข้ามาจับมือนางไว้
“เข้าไปกันเถิด”
เสียงเล็กๆ ที่แข็งแกร่งนั้นทำให้เวินซีกลับมามีความแน่วแน่อีกครั้ง นางพยักหน้าและเดินเข้าไป
งานเลี้ยงที่มีชีวิตชีวาพลันเงียบลงทันใด ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่นาง
“ทุกท่าน นี่คือน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของข้าขอรับ เวินซีมาสายด้วยเหตุบางประการ ข้าต้องขอโทษแทนนางด้วย”
“ลูกพี่ลูกน้องของคุณชายโจวย่อมเป็เพื่อนของเรา นั่งลงเถิดขอรับ”
บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้น
โจวอวี่ชางพานางไปนั่งที่เก้าอี้ โดยมีจ้าวต้านนั่งลงข้างๆ
เวินซีเงยหน้ามองดูบรรยากาศในงานเลี้ยง
ขณะนั้นเองเวินอวิ๋นโปก็มีสีหน้าคร่ำเคร่งเมื่อได้เห็นนาง แต่ก็ยังแสร้งยิ้ม
ส่วนเวินเยียนไม่ปกปิดสายตาชั่วร้ายแม้เพียงสักนิด นางเอาแต่จ้องมองเวินซีอยู่ตลอด
บนที่นั่งประธาน มีบุรุษแปลกหน้าผู้หนึ่งนั่งอยู่ เป็คนที่ผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงส่วนใหญ่ไม่เคยพบเจอ
“มาถึงก็ดีแล้ว ดื่มกันต่อเถิด!”
บุรุษผู้นั้นเอ่ยปาก จากนั้นงานเลี้ยงก็กลับสู่ความครึกครื้นอีกครา
ขณะนั้นก็มีนางรำพากันออกมาจากด้านนอกประตู เต้นรำอย่างคึกคักอยู่กลางงานเลี้ยง โดยมีดนตรีบรรเลงเพลงเสนาะหู
บทเพลงหนึ่งจบลง เหล่านางรำก็พากันออกไป
เวินเยียนเห็นเช่นนั้นก็นำเหยือกเหล้ามาไว้ข้างๆ บุรุษที่เป็ประธาน พลันรินเหล้าลงในถ้วยที่ว่างเปล่าของเขา
“คุณชายซู นางคือคนที่ข้าพูดให้ท่านฟังบ่อยๆ เ้าค่ะ”
เสียงของเวินเยียนมีเสน่ห์นุ่มนวล บุรษผู้นั้นมองหน้านางและยิ้มให้ จากนั้นสายตาก็เหลือบมองไปที่เวินซี
“นางหรือ?”
“เ้าค่ะ”
“งดงามทีเดียว ข้าชอบ”
“คุณชายซู”
เวินเยียนแสร้งทำเป็ไม่พอใจ เขาจึงหัวเราะออกมา ทันใดนั้นก็เอามือโอบเอวของนางไว้
“ในเมื่อเ้าอยากจะให้ข้าช่วย ข้าย่อมช่วยสิ”
“เช่นนั้นก็ขอบคุณคุณชายเ้าค่ะ”
เวินเยียนเลิกคิ้วแล้วมองเวินซี ในแววตาของนางมีความเกลียดชังซ่อนอยู่ลึกๆ
“เวินเยียน! ยังไม่ลงมาอีก เ้าทำอันใดน่ะ”
ในขณะนั้นเวินอวิ๋นโปแสร้งทำเป็โมโหเวินเยียนพลันะโเรียก แต่สายตาของเขากลับมองเวินซีอยู่
เวินซีหมุนถ้วยเหล้าไปมาอยู่ในมือ นางเลิกคิ้วนิ่งๆ คนพวกนั้นคิดว่านางดูน่าเอาอกเอาใจกันจริงๆ สินะ คิดจะจัดการเวินเยียนต่อหน้านางอย่างนั้นหรือ
“เวินซีใช่หรือไม่? หากไม่รังเกียจช่วยมาเต้นรำให้พวกเราดูหน่อยสิ?”
“สามีของเ้าก็อยู่ข้างๆ ให้เขาเต้นกับเ้าสิ”
บุรุษผู้นั้นเริ่มหาเื่เวินซีหลังจากที่เวินเยียนไปพูดกับเขา
ทุกคนแสดงสีหน้าราวกับกำลังรอดูเื่สนุก
“สามีของข้าเป็นักล่าสัตว์ เขาจะเต้นรำเป็ได้เช่นไรเ้าคะ? ส่วนข้าเรียนทำเครื่องหอมั้แ่เด็ก มิเคยเรียนการเต้นรำ ทักษะด้านนี้ท่านพี่เก่งกว่าข้านัก”
“หากใต้เท้าอยากจะดู ก็ให้ท่านพี่เต้นให้ดูสิเ้าคะ เมื่อครู่ข้าเห็นสายตาที่ท่านพี่มองใต้เท้า นางคงจะสุขใจมากหากได้เต้นรำให้ท่านดู”
เวินซีพูดกับบุรุษผู้นั้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“หากใต้เท้าซูอยากดู ข้าจะให้นางรำมาเต้นให้ดูอีกรอบขอรับ อย่าได้ทำให้น้องสาวข้าลำบากใจเลยขอรับ”
โจวอวี่ชางรีบเอ่ยปากแก้สถานการณ์
บุรุษผู้นั้นหัวเราะและมิได้พูดอันใดอีก เพียงแค่โบกมือเรียกคนรับใช้ข้างกายมาพูดอันใดบางอย่าง ก่อนที่คนรับใช้จะออกไป
งานเลี้ยงสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว เวินเยียนกับบุรุษผู้นั้นออกจากงานไปอย่างสนิทสนม ผู้ที่มีตาดูก็คงรู้ว่าพวกเขาไปทำอันใดกัน เพียงแต่ไม่มีผู้ใดเอ่ยปากขึ้นมา
เวินซีลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยเรียกโจวอวี่ชางที่กำลังจะออกจากงาน “ท่านพี่ จะคืนสูตรเครื่องหอมให้ข้าเมื่อใดเ้าคะ?”
“ข้าส่งคนให้นำไปให้ที่ร้านเครื่องหอมแล้ว คิดว่าน่าจะไปถึงร้านแล้วนะ ยามนี้ก็ดึกแล้ว เ้าอยู่ที่นี่สักคืนเถิด”
“ไม่จำเป็หรอกเ้าค่ะ น้องกังวลเพียงเื่สูตรเครื่องหอมของเวินอี๋เหนียง หากอยู่ที่ตระกูลเวินคงจะวางใจไม่ลง ร้านเครื่องหอมกับที่นี่ก็อยู่ไม่ไกลกัน ข้ากับจ้าวต้านกลับไปก่อนนะเ้าคะ”
“เช่นนั้นก็กลับเถิด”
ดูเหมือนว่าโจวอวี่ชางจะมีธุระจึงมิได้รั้งนางไว้ เขาไปส่งทั้งสองที่ประตู
ขณะนั้นมีขอทานที่ยืนอยู่หน้าประตูเห็นเวินซีเดินออกมา จึงรีบวิ่งไปหานางด้วยแววตาที่เป็ประกาย “คุณหนูเวินซี!”
“สกัดเขาไว้”
โจวอวี่ชางเห็นว่าเนื้อตัวเขาสกปรกมอมแมม ทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นโชย จึงบอกคนรับใช้ให้ขวางทางเอาไว้ แต่เวินซีกลับเดินเข้าไปหาขอทานคนนั้น
“เกิดอันใดขึ้น?”
“คุณหนูเวินซี...”
ขอทานดูลังเลที่จะพูดเมื่อเห็นโจวอวี่ชาง
เชิงอรรถ
[1] งานเลี้ยงหงเหมิน 鸿门宴 เป็คำอุปมาถึงงานเลี้ยงที่ถูกใช้เป็เครื่องมือทำร้ายผู้คน มาจากงานเลี้ยงที่หงเหมินในประวัติศาสตร์จีน่ปลายราชวงศ์ฉิน งานเลี้ยงนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็หลุมพรางไว้ลอบสังหารหลิวปัง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้