ไม่ทันไรก็พลบค่ำแล้ว ทั้งสามคนพูดคุยกันยังถือว่าสนุกสนาน ดื่มกินกันอิ่มหนำแล้ว เจียงไป๋ก็มาที่ห้องข้างๆ เรียกทุกคนที่เปิดโต๊ะใหม่และกินจนอิ่มดื่มจนเมาแล้ว ฉางชื่อหยุนก็จัดการส่งพวกเธอกลับมหาวิทยาลัย
หลังจากที่อำลาพวกเขาแล้ว อู๋จงที่ยังไม่กลับสักทีก็มาที่ข้างกายของเจียงไป๋และพูดกระซิบกระซาบว่า “เจียงไป๋ วันนี้ที่เพื่อนๆ เรียกผมมากินข้าว บอกว่าจะมีรายการพิเศษ ฟังดูแล้วไม่เลว จะให้ผมจัดให้ไหม?”
“รายการพิเศษ? คงไม่ดีกว่า ผมไม่ชอบเื่แบบนั้น ผมยังมีธุระ พวกคุณไปกันเถอะ”
เจียงไป๋ตะลึงงันและคิดอะไรออก พลางพูดอย่างยิ้มแย้ม
ดึกๆ ดื่นๆ อย่างนี้พวกผู้ชายจะมีรายการพิเศษอะไรได้? หากเป็คนก็ต้องนึกออก
พูดตรงๆ หลังจากที่มีกิจกรรมบนเตียงในครั้งก่อน พอถึงกลางดึกเจียงไป๋มักจะอ้างว้างจนยากจะทนไหว จริงๆ แล้วข้อเสนอของอู๋จงก็พูดตรงจี้จุดพอดี
น่าเสียดายที่เจียงไป๋ไม่ได้สนิทกับอู๋จง ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีช่องว่างแล้ว แต่เจียงไป๋ก็ไม่อยากจะสนิทกับอู๋จงมากนัก ใจคิดร้ายต่อผู้อื่นไม่ควรมี แต่ใจคิดที่จะป้องกันควรจะมี ถึงแม้เจียงไป๋พอจะรู้ว่าอู๋จงคงจะไม่กล้า แต่ระวังตัวไว้สักหน่อยก็ดี
ระหว่างที่อำลาคนทั้งสองกลับ เจียงไป๋ก็ต้องผ่านค่ำคืนอันอ้างว้างและเบื่อหน่ายนี้ไปเอง คิดๆ ดูแล้วก็ช้ำใจ
จริงๆ แล้วเขาก็แค่พูดไปคำเดียว ในมือตัวเองมีที่แบบนี้ตั้งมากมาย ผู้หญิงสวยๆ สักสองสามคนจะหาไม่ได้เลยหรือ?
ก็แค่เจียงไป๋ไม่เต็มใจเท่านั้น ทำได้แค่เป็คนโสดโดดเดี่ยวอยู่บ้าน ในระหว่างที่สับสนก็นึกถึงเรือนร่างที่อรชรของซูเหมย แล้วก็เผลอหลับไป
วันที่สอง ชีวิตที่จำเจของเจียงไป๋ก็เริ่มขึ้นอีก สิ่งที่แตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ จากวันนี้เป็ต้นไป คนที่มาส่งข้าวเที่ยงให้เจียงไป๋ก็ไม่ใช่คนเดียวแล้ว แต่เป็ผู้หญิงถึงเจ็ดแปดคน รวมถึงหลิวลี่คนก่อนหน้านั้นด้วย
แค่ข้าวเที่ยงมื้อเดียวมีผู้หญิงเอามาส่งให้ตั้งเจ็ดแปดคน ในขณะที่เจียงไป๋ฝืนยิ้ม ก็ทำให้หลินหว่านหรูโมโหมาก ถึงนิสัยของเธอจะอ่อนโยน แต่ก็เกือบจะแตกคอกับเพื่อนๆ เพราะเหตุนี้
ไม่ทันไรก็ผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว เจียงไป๋โดยสารรถบัสทางไกลไปที่โรงถ่ายภาพยนตร์กูซู
กองถ่ายหนังโหด เลว ดี เริ่มขึ้นเมื่อสองสามวันก่อนหน้านี้แล้ว การเลือกตัวนักแสดงเสร็จสิ้น ได้คัดเลือกนักแสดงที่มีบทบาทพิเศษมาก รวมถึงนักแสดงใหญ่ในอดีตและนักแสดงาุโที่มีชื่อเสียงมากท่านหนึ่ง
สำหรับนักแสดงคนอื่นๆ ก็ถือว่าอยู่ในระดับสาม ผู้กำกับใจกล้าเลือกใช้ดาราหน้าใหม่หลายคน รวมถึงนางเอก ก็ล้วนเป็คนใหม่ที่เพิ่งจะออกงาน
อย่างไรนี่ก็เป็หนังผู้ชายเื่หนึ่ง นางเอกอะไร จริงๆ แล้วก็มีบทบาทไม่มาก
เจียงไป๋รีบไปที่โรงถ่ายภาพยนตร์กูซูเพราะเหตุนี้ นั่นก็เป็เพราะคำขอของผู้กำกับ
ในฐานะคนเขียนบทของเื่นี้ ผู้กำกับรู้สึกว่าเจียงไป๋มีความจำเป็ต้องมา เพราะเป็เื่สะดวกที่จะถกปัญหาและแก้บทกันได้ทุกเวลา
เจียงไป๋อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ จึงตอบตกลง และก็เพื่อหลบเด็กผู้หญิงที่ตกหลุมรักเขาในมหาวิทยาลัยพวกนั้น ยังมีเหยาหลานที่ยิ่งทำให้ปวดหัวอีก ดังนั้นหลังจากที่ผู้กำกับส่งคำขอนี้มา เขาก็พุ่งตรงไปอย่างไม่รอช้า
อย่างไรทางด้านเทียนตูก็ไม่มีเื่อะไรให้เจียงไป๋ต้องเป็ห่วง ทุกอย่างมีคนมีความสามารถอย่างฉวีเจี๋ย หลี่เฉียง เหยาหลาน โจวเจี๋ย คอยจัดการอยู่ และเขาไม่จำต้องไปสนใจเลย คนว่างๆ คนหนึ่งจากไปแล้ว ก็ไม่ใช่เื่ใหญ่
แน่นอนว่าผู้กำกับไม่รู้ว่าเจียงไป๋ก็คือผู้ลงทุนของภาพยนตร์เื่นี้แถมยังเป็เถ้าแก่ของบริษัทภาพยนตร์หลงเถิง มิฉะนั้นก็คงจะไม่มีคำขอมาอย่างนี้
กูซูอยู่ใกล้เทียนตูมาก แค่นั่งรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงในเมืองกูซูแล้ว พอลงจากรถก็เห็นคนมากมายยืนชูป้ายกันอยู่ในสถานีรถบัส ้าเขียนว่า “รับผู้เขียนบทXX” “รับนักแสดงXX” “รับผู้กำกับXX”
ในมุมหนึ่ง เจียงไป๋เห็นคนหนุ่มคนหนึ่งยืนถือป้ายอยู่ตรงนั้น ้าเขียนว่า “ยินดีต้อนรับผู้เขียนบทเจียงไป๋”
โรงถ่ายภาพยนตร์กูซูมีผู้กำกับ ผู้เขียนบทมากมายจริงๆ หากไม่ใช่เพราะเจียงไป๋ตาดี ตำแหน่งที่ไอ้คนนี้ยืนอยู่ คนปกติต่อให้หานานแค่ไหนก็คงหาไม่พบ
“สวัสดีครับ ผมชื่อเจียงไป๋!” พอไปถึงเจียงไป๋ก็ยื่นมือไปจับทักทาย
“คุณเจียงคนเขียนบท สวัสดีครับ ผมเป็หนึ่งในทีมงานของกองถ่ายชื่อฟู่อัน ดีใจมากที่ได้พบคุณ ผมเพิ่งมา คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาถึงนานแล้ว ขอโทษด้วยครับ พอดีว่ารถติด คุณก็รู้ว่าเดิมทีเมืองกูซูไม่ใช่เล็กๆ นักท่องเที่ยวก็มาก ตอนนี้หลังจากมีโรงถ่ายภาพยนตร์กูซูแล้ว ก็ยิ่งมีคนแวะเวียนมามากมาย สถานีรถแห่งนี้อยู่ใกล้โรงถ่ายภาพยนตร์กูซูมาก ดังนั้นคนที่จะไปโรงถ่ายภาพยนตร์ล้วนต้องมาลงรถที่นี่กันทั้งนั้น ตอนนี้ก็เป็ตอนเที่ยงพอดี รถที่จะมารอรับคนก็มาก ดังนั้นบนถนนจึงรถติดนิดหน่อย ขออภัยด้วยครับ … ”
ฟู่อันคนนี้พูดมาก พอเห็นเจียงไป๋ก็ตะลึง และรีบจับมือทักทายทันที เขาเริ่มพูดแก้ตัวอย่างยิ้มแย้ม
เมื่อพูดจบก็สังเกตเจียงไป๋ั้แ่หัวจดเท้า และพูดว่า “นักเขียนเจียงหนุ่มมาก พูดจริงๆ บทหนังผมก็ได้อ่านแล้ว เขียนได้ยอดเยี่ยมมาก หลายปีแล้ว ถึงแม้ธุรกิจภาพยนตร์ในประเทศจะเติบโตมาก แต่บทหนังดีๆ ก็ยิ่งน้อยลงทุกที บทหนังของคุณผมอ่านแล้ว หากถ่ายทำออกมาจะอยู่ในระดับหนึ่ง ผู้กำกับและตัวเอกอีกหลายคนต่างก็ชื่นชมมาก คิดไม่ถึงว่าคุณจะหนุ่มขนาดนี้”
ไม่นานทั้งสองคนก็ออกจากสถานีรถไป และนั่งรถของกองถ่ายไปสิบกว่ากิโลเมตร โรงถ่ายภาพยนตร์กูซูของเขตชานเมืองกูซู ทั้งสองคนพูดคุยกันมาตลอดทาง ฟู่อันคนนี้พูดได้ว่ารู้ทุกเื่ พูดน้ำไหลไฟดับ ทำให้เจียงไป๋เข้าใจกองถ่ายกองนี้มากขึ้น
ทั้งกองถ่ายแน่นอนว่ามีผู้กำกับเฉิงเต้าหยุนเป็หลัก หลังจากนั้นมีนักแสดงดังสองคน
โจวฟาที่เคยเป็ดาราดัง เมื่อหลายปีก่อนก็อาศัยละครโทรทัศน์ในวัยหนุ่มเื่หนึ่งดังถล่มทลายไปทั่วประเทศ ทำให้ผู้คนออกมายินดี สองสามปีมานี้ได้เข้าวงการภาพยนตร์ถ่ายหนังมาหลายเื่แล้ว น่าเสียดายแต่ละเื่ไม่ดังเอาเสียเลย ตอนนี้ได้กลายเป็ยอดตั๋วหนังพิษที่โด่งดังไปทั่วแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงเข้าร่วมภาพยนตร์เื่นี้ อย่างแรกเพราะผู้กำกับเสนออย่างเต็มที่ อย่างที่สองที่สำคัญเพราะค่าตัวของเขาต่ำมาก ถึงแม้จะถูกขนานนามว่ายอดตั๋วหนังพิษ แต่เมื่อเทียบกับคนใหม่แล้วกลับมีชื่อเสียงมากกว่า
นักแสดงาุโอีกหนึ่งคนชื่อว่าตี๋หู่ หลายปีก่อนก็ดังมาก น่าเสียดายหลายปีผ่านไป ของยังเป็ของเดิมแต่คนกลับไม่ใช่
สำหรับคนอื่นๆ เมื่อเทียบกับทั้งสองคนไม่มีค่าพอที่จะพูดถึง ความสัมพันธ์ของคนทั้งกองถ่ายก็ล้วนไม่เลวเลย เข้ากันได้พอสมควร ดังนั้นเจียงไป๋ก็ไม่ต้องกังวลว่าพอไปถึงแล้วจะมีเื่เดือดร้อนอะไร
แน่นอนว่าเจียงไป๋เองก็ไม่ได้กลัวเื่เดือดร้อน เพียงแค่นักแสดงที่กองถ่ายหามาทั้งสองคนคิดไม่ถึงว่าจะคล้ายคลึงกับสองคนจากความทรงจำในชาติก่อนของเขา?
ในภาพถ่ายก็คล้ายคลึงกันบ้าง คิดไม่ถึงว่าชื่อ ประสบการณ์ก็จะพอๆ กัน?
นี่คือความบังเอิญหรือว่าโชคชะตา … พูดไม่ได้จริงๆ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่า เจียงไป๋ก็มาถึงสถานที่ถ่ายทำแล้ว กองถ่ายกำลังถ่ายเทกหนึ่งอยู่ คือเทกที่เวลานั้นเจียงไป๋ชอบที่สุด คำพูดของเสี่ยวหม่าคำนั้น “ฉันรอโอกาสนี้มาสามปีแล้ว ไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าฉันแข็งแกร่งกว่าคนอื่น ก็แค่พิสูจน์ถึงของที่ฉันสูญเสียไปว่า ฉันจะเอามันกลับมาแน่นอน”
โจวฟาแสดงได้ดีมาก พอๆ กับฉากที่เจียงไป๋เคยดูในชาติก่อน โดยเฉพาะบทพูดนั้นที่พูดออกมา ภาพเหตุการณ์โดยรอบ ทำให้เจียงไป๋รู้สึกราวกับอยู่กันคนละโลก แต่ฉับพลันก็ไปยืนตะลึงอยู่ตรงนั้นแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้