หยวนซื่ออิจฉาบ้านหลังใหญ่นี่เหลือเกิน แค่คิดว่านังเด็กไร้มารดาและบิดาเองก็หายตัวไปเช่นนี้อยู่เพียงลำพัง อาจดูไม่ค่อยดีนัก ทว่าอย่างไรต้าหลางก็เป็ญาติผู้พี่คนโต แม้จะมาอยู่ด้วยก็ไม่มีใครว่าอะไรได้…
แต่นางดูถูกหลินฟู่อินเกินไป
หลินฟู่อินไม่สนใจสักนิดว่าคนพวกนี้คิดอะไรอยู่ในหัว ในเมื่อเป็เื่ไม่ดีก็อย่าหวังว่านางจะไว้หน้า
หยวนซื่อยังหันไปขยิบตาให้หลินต้าหลางเพื่อชื่นชมความเฉลียวฉลาดของอีกฝ่าย
หลินต้าหลางเองก็ขยับมุมปากยิ้มเหยียด เพียงเด็กน้อยคนหนึ่งมีหรือจะสู้เขาได้?
“หลินต้าหลาง ตำราที่เ้าอ่านมาจากท้องสุนัขหรือยังไง?” หลินฟู่อินเหยียดหลังตรง เลิกคิ้วขึ้น มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นเยียบ “ถึงเ้าจะเป็ลูกของท่านลุงใหญ่บ้านข้า แต่ก็ต้องดูความสัมพันธ์ด้วย ข้าเรียกเ้าว่าพี่อยู่ก็จริง แต่อย่าลืมว่าเ้าเป็บุรุษ ไม่ใช่คนในบ้าน แล้วยังอยากจะมาอยู่บ้านข้า?”
หลินต้าหลางชะงัก เื่นี้แน่นอนเขาคิดไว้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ แต่คิดว่าคงไม่มีเหตุผลอะไร ที่ไหนได้กลับพูดเช่นนี้ออกมา
“ไสหัวไปให้พ้นจากบ้านข้า!” ในตอนที่สองแม่ลูกบุญธรรมอ้าปากค้างอยู่นั่นเอง หลินฟู่อินก็คว้าไม้กวาดด้ามใหญ่ที่ทำจากไม้ไผ่ขึ้นมาตีทั้งคู่ทันที
ทั้งสองคนไม่ทันตั้งตัว ต่างก็โดนหลินฟู่อินฟาดเข้าเต็มแรงจนใะโหลบไปมา
ทั้งคู่ตกตะลึงจนวิ่งหนี และหยวนซื่อยังแหกปากจนสุดเสียง
“โอ๊ยๆ ใครก็ได้มาทางนี้ที… มีคนจะฆ่าข้าแล้ว…”
เสียงะโของหยวนซื่อทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมาต่างก็เข้ามามุงดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไอหยา นั่นหลานชายปู่หลินที่มีคนรับไปเลี้ยงไม่ใช่หรือ?” เหลียงซื่อที่เข้ามาดูตบเข่าตัวเอง ดึงตัวต้ายาให้มามุงดูด้วยอีกคน “เ้ารีบไปบ้านหลิน ไปบอกพวกเขาเสีย ให้บ้านนั้นรีบมาดู”
“เ้าค่ะ! ท่านต้องช่วยฟู่อินนะเ้าคะ ภรรยาซิ่วไฉชรานั่นไม่ใช่คนดีอะไร…” ต้ายากระซิบข้างหูย่า ก่อนจะโดนย่าเหลียงซื่อตำหนิ “กุลสตรีไม่พูดมาก ข้าบอกให้ไปก็รีบไป!”
ต้ายารีบวิ่งออกไป ถึงหลินฟู่อินจะไล่ฟาดหยวนซื่อกับหลินต้าหลางอยู่แต่ก็ยังแอบฟังเสียงนอกบ้านไปด้วย เห็นเหลียงซื่อสั่งให้ต้ายาไปเรียกคนบ้านเดิมมาก็คิด ‘ใช่แล้ว เื่นี้เื่ใหญ่ ให้ปู่หลินดูเอาเองก็แล้วกันว่าหลานชายคนโตนี่มีนิสัยยังไง’ จากนั้นให้ท่านปู่จัดการหยุดความคิดหยวนซื่อเื่มาแย่งบ้านของนางเสีย
คนบ้านหลินมาถึงอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ปู่หลินมาถึงก็เห็นหลินฟู่อินถือไม้กวาดไล่ฟาดหลานชายหัวแก้วหัวแหวนของตนอยู่
หน้าชายชราดำราวก้นหม้อ หัวใจหล่นวูบ รีบร้อนะโ “หลินฟู่อิน หยุดเดี๋ยวนี้!”
อู๋ซื่อและจ้าวซื่อเห็นหลินฟู่อินลงมือเช่นนี้ก็ตกตะลึง เมื่อได้ยินเสียงปู่หลินจึงรู้สึกตัว
ทั้งสองรีบก้าวออกมา คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวาจับหลินฟู่อินเอาไว้
“บ้านต้าซาน ยังไงก็สอบถามก่อนเถอะ ดูท่าทางฟู่อินแล้วเื่นี้ย่อมไม่ธรรมดา” เหลียงซื่อขยิบตาให้แม่ต้ายา แม่สามีและลูกสะใภ้คู่นี้ทำงานหนักจนชินย่อมมีเรี่ยวแรงมหาศาล เข้าไปลากตัวอู๋ซื่อกับจ้าวซื่อที่เอาแต่เกียจคร้านไม่ทำงานคนละทาง แน่นอนว่าฝ่ายนั้นกระทั่งจะสลัดให้หลุดยังทำไม่ได้
จ้าวซื่อไม่ได้พบหน้าลูกคนโตมานาน ดวงตาก็แดงเรื่อทันที “ลูกชายคนโตของข้ามาบ้านอาสามเป็ครั้งแรกจะไปล่วงเกินอะไรหลินฟู่อินได้ นางถึงกับเอาไม้กวาดมาไล่ตีผู้อื่นเช่นนี้ช่างโหดร้ายนัก โอ…”
อู๋ซื่ออยากจะพูดอะไรบ้าง แต่เกรงว่าหากพูดอะไรไปแล้วจะโดนทุบตีเช่นกัน จึงปิดปากเงียบจ้องมองหลินฟู่อินด้วยสายตาเ็า
“ฟู่อิน ป้าใหญ่เ้าพูดถูก พี่ใหญ่เ้ามาบ้านนี้ครั้งแรก เหตุใดจึงต้องใช้ไม้กวาดไล่ทุบตีด้วย?” ปู่หลินหนวดกระดกขึ้นลง ครั้งนี้เหมือนหลินฟู่อินจะไปแตะขีดจำกัดของเขาเข้าแล้วจริงๆ
“ท่านปู่ ท่านปู่ช่วยข้าด้วยขอรับ…” เมื่อหลินต้าหลางเห็นชายชราที่รักใคร่ตนมาแต่เล็กแต่น้อย กระทั่งเขาได้ซิ่วไฉชรารับเลี้ยงไปแล้วก็ยังเอาของดีๆ ไปฝากอยู่เสมอ ทั้งยังคอยสนับสนุนเงินทองให้ไม่ขาด ชายหนุ่มะโออกไป น้ำตานองหน้า
ปู่หลินเห็นหลานชายที่ปกติแต่งชุดขาวสะอาดสะอ้าน แต่ตอนนี้กลับมีสภาพดูไม่ได้ ทั้งยังโดนชาวบ้านรุมชี้ โทสะในใจก็ลุกโชน
“หลินฟู่อิน บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น เล่ามาตามตรงให้ชัดเจน!”
หลินฟู่อินตวัดตามองหยวนซื่อที่หลบอยู่ มองอู๋ซื่อและจ้าวซื่อที่จ้องมองนางด้วยสายตาโกรธแค้น มุมปากก็กระตุกอย่างหงุดหงิด
ดวงตาของนางดุจนิลกาฬ ทอประกายสีดำสนิทจนผู้ที่มองมาต่างก็หลบสายตาโดยไม่รู้ตัว กระทั่งปู่หลินเองก็ไม่เว้น
“ท่านลองถามพวกเขาดูก่อนเถอะเ้าค่ะ” หลินฟู่อินโยนไม้กวาดทิ้ง ชี้หน้าหลินต้าหลางกับหยวนซื่อที่หดตัวอยู่ด้วยกัน
เมื่อหยวนซื่อเห็นหลินฟู่อินไม่มีไม้กวาดแล้วความกล้าก็พวยพุ่ง รีบยกมือเท้าสะเอวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านลุงหลิน เื่นี้ต้องโทษท่าน! หากไม่ใช่ท่านบอกให้ต้าหลางไปตามหาลุงสามที่ไม่รู้เป็รู้ตายนั่น ก็คงไม่ต้องเป็ลมแดดเพราะโดนความร้อนอยู่หลายวันหรอก!”
สิ้นคำหยวนซื่อ จ้าวซื่อก็อุทานออกมา นางรีบมองหลินต้าหลางขึ้นลง ร้องคร่ำครวญเสียงดัง “ตายแล้ว ลูกชายคนดีของข้า ช่วยผู้อื่นตามหาบิดาจนเป็ลมแดดแต่กลับโดนไม้กวาดไล่ฟาดเช่นนี้ โอ ช่างไร้สำนึกยิ่งนัก…”
“หุบปาก!” ปู่หลินเห็นสองสตรีเอาแต่คร่ำครวญจนแสบหูไปหมด ผู้คนยิ่งมอง หน้าเขาก็ยิ่งดำ เขาเคาะไม้เท้าลงตรงหน้าบ้านหลินฟู่อินดังตึง
“ฟู่อิน พูด!” ชายชราเห็นผู้คนเงียบไปแล้วก็มองหลินฟู่อินด้วยสายตาไม่พอใจ มือเหี่ยวย่นกำแน่น หลานชายคนโตโดนความร้อนจนเป็ลมแดดทำให้เขายิ่งเสียใจที่สั่งให้อีกฝ่ายไปตามหาคนเพื่อชื่อเสียงเช่นนั้น
“ในเมื่อท่านปู่ถาม ข้าก็จะเล่าเื่ทั้งหมดให้ฟังเ้าค่ะ” ดวงตาของหลินฟู่อินเย็นะเื น้ำเสียงชวนให้หนาวเหน็บราวกับหิมะในเหมันตฤดู
คนบ้านหลินต่างก็มองนาง ชาวบ้านที่ตามมามุงดูก็เช่นกัน หยวนซื่อจำได้ว่าหลินฟู่อินไล่นางออกมาด้วยเหตุผลใดหัวใจก็หดเกร็ง นึกอยากจะหยุดอีกฝ่ายให้ได้
ทว่าต้าหลางรีบพูดขึ้นเสียก่อน “ท่านปู่ เื่นี้ข้าอธิบายได้!”
เมื่อชายชราเห็นใบหน้าหลานชายมีเหงื่อผุดพราว หัวใจก็กระตุก เกรงว่าเื่นี้อาจจะไม่ใช่ความผิดของหลินฟู่อินเสียแล้ว สายตาเขาสว่างวาบรีบพูดทันที “ได้ เช่นนั้นให้ต้าหลางเล่าก่อน ฟู่อินทีหลัง!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้