เสียงกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง ฮวาเหยียนถูกตี้หลิงหานโยนออกจากคุกมืด ์และโลกกำลังหมุนวน [1] แรงกระแทกนั้นรุนแรงจนตาลายราวกับมีดาววนอยู่บนศีรษะ เวลาผ่านไปนานก็ยังลุกไม่ขึ้น
ฮวาเหยียนรู้สึกว่ากระดูกทั้งหมดในร่างพังทลาย ชายหนุ่มไม่รอให้นางลุกขึ้น ยามที่นางหันศีรษะไปมองก็พบว่าตี้หลิงหานเดินเข้ามาทีละก้าว ท่าทีเยี่ยงจอมปีศาจตรงมาที่นาง
ฝีเท้าของเขาช้ายิ่งนัก ใบหน้านั้นน่าเกลียดจนแทบดูไม่ได้ ดวงตาเ็าเฉยเมย สูงส่งแหลมคม เปี่ยมไปด้วยความอาฆาตแค้น
อึก
ริมฝีปากของฮวาเหยียนกระตุก จบแล้ว ชีวิตน้อยๆ ของนาง
...
ฮวาเหยียนถูกดวงตาของตี้หลิงหานจับจ้องจนชาไปทั้งร่าง หญิงสาวทนต่อความเ็ปก่อนจะะโหมุนกายขึ้นจากพื้น นางใช้มือข้างขวาออกแรงหมุนข้อมือข้างซ้ายจนเกิดเสียงดังกึก ข้อมือที่ผิดรูปจึงกลับมาเข้ารูปดังเดิม
ในใจนางรู้สึกขนลุกยิ่งนัก แต่นางกลับไม่รู้สึกเกรงกลัวตี้หลิงหานเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวจ้องกลับไปยังตี้หลิงหาน ไม่อยากเชื่อว่าชายคนนี้กล้าที่จะลงมือกับนาง ต้องรู้เสียก่อนว่าบัดนี้ชีวิตของเขาตกอยู่ในกำมือของนางแล้ว เขาทานพิษไร้ทั้งสีและกลิ่นเข้าไป ไม่กลัวหรือ!
ตี้หลิงหานจ้องมองไปยังท่าทีที่ไม่เกรงกลัวของฮวาเหยียน เสียงหัวเราะเ็าถูกพ่นออกมาเสียงหนึ่ง ดียิ่งนัก ไม่เจอคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลมู่มาถึงสี่ปี นางได้ฝึกฝนความกล้าหาญจนยิ่งใหญ่เทียมฟ้าถึงขนาดนี้แล้ว
“บอกมาเถอะ เ้า้าตายอย่างไร? ”
เขาเปิดปากพูดออกมาเพียงประโยคเดียว ดวงตาของตี้หลิงหานปราศจากอุณหภูมิใดๆ นี่มัน... ไอ้บ้าเอ้ย นี่มันเป็สายตาที่เอาไว้ใช้มองคนตายชัดๆ เพราะในโลกที่นางจากมา าาในโลกของนางเคยใช้สายตาเช่นนี้มองคนมาก่อน
"ข้าไม่อยากตาย"
ฮวาเหยียนตอบอย่างรวดเร็ว ดวงตากะพริบปริบ
"มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเ้า"
วินาทีถัดมา มือของตี้หลิงหานคว้าจับเข้าที่ลำคอของฮวาเหยียนด้วยความรุนแรงทันที
แน่นอนว่า เขาไม่ได้หักคอนางทันที เขายังจำเื่ที่สตรีที่อยู่ในมือป้อนยาพิษไร้สี ไร้กลิ่นให้เขาได้
ฮวาเหยียนไม่อาจขัดขืนได้อย่างแน่นอน และนางเองก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะขัดขืน แต่คอของนางเจ็บยิ่งนัก การกัดของสุนัขชั่วร้ายตี้หลิงหาน ทำให้มีเืไหลออกมาไม่หยุด
"พิษที่ข้าป้อนให้เ้า ไร้สี ไร้รส ทว่ากลับมีพิษร้ายแรง กลางเดือนของทุกเดือนจะออกฤทธิ์ ยามที่ออกฤทธิ์จะทำให้เ็ปจนยากที่จะทานทนไหว ิัของเ้าจะขึ้นเป็ตุ่มหนอง มีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย ฝ่าาที่เคารพ ยาถอนพิษนี้มีข้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ ดังนั้น เ้าแน่ใจหรือว่า้าที่จะฆ่าข้า? ”
ฮวาเหยียนพูดอย่างใจเย็น
ดวงตาของนางเป็ประกาย เผยให้เห็นแววตาเ้าเล่ห์ราวกับจิ้งจอกปีศาจ
แววตาของตี้หลิงหานเต็มไปด้วยโทสะ คำพูดของฮวาเหยียนพาให้เขาหงุดหงิด ชายหนุ่มจับคอฮวาเหยียนไว้ในมือแน่น ผิวที่เขาัันั้นบอบบางเรียบเนียน คอด้านขวาปรากฏาแที่เขากัด และตอนนี้ก็ยังมีเืไหลออกมาไม่หยุด พาให้เขาเกิดความรู้สึกกระหายเื อยากก้มหัวลง ดูดกินเืของผู้หญิงที่เหมือนปีศาจจิ้งจอกคนนี้ให้หมดตัว
ดวงตาของเขาแดงหนักขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่ามันถูกปกคลุมไปด้วยโลหิต
ฮวาเหยียนสังเกตเห็น และรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติทันที
ในยามนั้นดวงตาของตี้หลิงหานกลายเป็สีแดงโลหิต ลมหายใจของเขาหนักอึ้ง มือที่จับคอของนางเอาไว้อยู่ค่อยๆ เพิ่มแรงหนักขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ลำคอของนาง พูดให้ถูกต้องคือแผลที่คอของนาง จากนั้นดวงตาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็สีแดงก่ำมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับผลทับทิมคู่หนึ่ง พร่างพรายงดงาม อีกทั้งยังเผยความกระหายเือันลึกลับยั่วยวน
“ตี้หลิงหาน เ้าจะทำอะไร? ”
ฮวาเหยียนพลันเปลี่ยนสีหน้า นางกรีดร้องคำรามออกมาทันที
เห็นได้ชัดว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับองค์รัชทายาทตี้หลิงหาน ราวกับเขากำลังเกิดภาวะธาตุไฟเข้าแทรกอย่างไรอย่างนั้น [2]
นี่มันเื่อะไรกัน!
แต่เดิมในหัวของตี้หลิงหานก็สับสนมากพออยู่แล้ว ภาพที่อยู่ตรงหน้าเขามีเพียงสีแดงก่ำของโลหิต ราวกับว่ามันกำลังเรียกร้องหาเขา ดื่มเข้าไปสิ ดื่มเข้าไป ก่อนที่จะถูกเสียงแหลมกรีดกระชากดึงสติของเขากลับมา ชายหนุ่มตื่นตระหนกเนื้อตัวสั่นเทา หมอกเืพลันกระจายหายไปต่อหน้า ดวงตาคู่นั้นก็ฟื้นกลับมากระจ่างใสอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว
ฮวาเหยียนมองชายหนุ่มที่กำลังส่ายศีรษะ ดวงตาสีแดงก่ำของเขาค่อยๆ จางหายสลายไปและกลับเป็สีดำสนิท นางรู้ว่าคนๆ นี้กำลังค่อยๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ฮวาเหยียนจ้องมองไปที่เขา ดวงตาสีแดงเืที่แดงราวกับผลของทับทิมยังคงติดอยู่ในความทรงจำนาง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก องค์รัชทายาทผู้นี้ไม่ปกตินี่นา เกรงว่าจะเป็พวกวิปริต
ฮวาเหยียนไม่กล้าที่จะยั่วยุเขาในยามนี้เพราะกลัวว่าเขาอาการจะกำเริบขึ้นมาอีกครั้ง
"เ้า เ้าไม่เป็ไรกระมัง"
ฮวาเหยียนถาม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
สีหน้าของตี้หลิงหานไม่น่ามองเลยสักนิด เขาคิดไม่ถึงว่าจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้จนอาการของโรคกำเริบ และยิ่งคิดไม่ถึงว่า เขาจะถูกดึงสติกลับมาด้วยเสียงของมู่อันเหยียน
เขายังไม่ทันคิดให้กระจ่าง ในใจพลันเกิดความรู้สึกหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย มือยังคงไม่ปล่อยออกจากคอของฮวาเหยียน ก่อนจะได้ยินตี้หลิงหานพูดขึ้นว่า “ส่งยาถอนพิษมา แล้วเปิ่นกงจะให้เขาตายเพียงคนเดียว หากเ้ายังยืนกรานทำเป็ไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป ข้าจะสังหารตระกูลเ้าเก้าชั่วโคตร"
ทันทีที่ฮวาเหยียนได้ยินคำนี้ ตี้หลิงหานผู้นี้ช่างมีจิตใจโเี้อำมหิตยิ่งนัก หากนางไม่มียาถอนพิษเช่นนั้นนางก็ต้องตายแล้วใช่หรือไม่
เช่นนี้จะดีได้อย่างไร นางไม่ทำเช่นนั้นแน่
นางมีบุตรชายที่กตัญญู มีท่านพ่อที่รักนาง ไม่ง่ายที่จะมีครอบครัวอบอุ่น ยังไม่ทันได้ััเื่ราวดีๆ เหล่านี้ กลับจะต้องตายด้วยน้ำมือขององค์รัชทายาทจอมเ้าเล่ห์เช่นนี้หรือ?
ล้อกันเล่นหรือ
“เ้าปล่อยข้าก่อน”
ฮวาเหยียนตอบ
"ยาถอนพิษ"
เสียงของตี้หลิงหานเย็นะเื แววตาของเขาส่องประกายเ็า บรรยากาศเย็นเฉียบแผ่ทั่วร่างของเขา
สมองของฮวาเหยียนหมุนเร็วจี๋ องค์รัชทายาทที่กำลังรัดคอนางและกำลังขอยาถอนพิษจากนาง หมายความว่าเขาเองก็ไม่อยากตายเช่นกัน หากไม่อยากตาย เขาจะมาขอยาถอนพิษทำไม นี่เป็บททดสอบจิตใจ ใครเผยจุดอ่อนก่อน ก็แพ้ไป
“้ายาถอนพิษนั่นไม่มี ต้องใช้ชีวิตมาแลกกัน องค์รัชทายาทเพคะ ท่านเป็ผู้มีเกียรติเหนือผู้คนนับหมื่น สูงส่งน่าเคารพน่านับถือ และข้าเป็เพียงสตรีสูงศักดิ์จากตระกูลชั้นสูง ชีวิตของข้านั้นมีค่าน้อยกว่าท่าน วันนี้ หากท่านยืนกรานที่จะปลิดชีวิตข้า พระองค์ก็ไปพร้อมกับข้า เช่นนั้นก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว”
ฮวาเหยียนอมยิ้ม ใบหน้าเรียบเฉยไม่มีความร้อนรน เห็นได้ชัดว่าเป็คำขู่ ราวกับว่ากำลังสนทนาเื่สนุกสนาน
ตี้หลิงหานบีบคอของฮวาเหยียน ใช้แรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถหักคอนางได้อย่างง่ายดาย เขารูปร่างสูงใหญ่ อีกทั้งยังไม่เคยพบใครที่กล้าพูดกับเขาเช่นนี้ สตรีที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็คนแรกที่กล้าทำแบบนี้กับเขา แต่เมื่อตี้หลิงหานลองคิดดูอีกครั้ง เมื่อครู่สตรีผู้นี้ได้ทำสิ่งกล้าหาญยิ่งกว่าลงไปแล้ว อย่าไปนับคำหยาบคายล่วงเกินแค่สองสามคำเลย
“เ้าไม่สนชีวิตของตัวเอง แล้วเ้าอยากให้ตระกูลมู่ของเ้าถูกฝังไปพร้อมกับเ้าด้วยหรือ? แล้วบุตรชายของเ้าล่ะ”
ตี้หลิงหานถาม
คิ้วงามของฮวาเหยียนขมวดแน่นเล็กน้อย นางประมือกับตี้หลิงหานและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ แผนการสู้ครั้งนี้ใช้อุบายทางจิตใจซึ่งเริ่มลงมือจากครอบครัวของนางก่อน พยายามที่จะโจมตีเส้นอดทนของนาง แต่น่าเสียดายที่นางคือฮวาเหยียน มีคลื่นลมที่ยิ่งใหญ่คลื่นไหนที่นางไม่เคยพบเจอมาก่อนเล่า?
“ตระกูลมู่เป็วีรบุรุษแห่งใต้หล้า มีคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อต้าโจวเป็อย่างยิ่ง หากเ้าคิดจะลงมือกับตระกูลมู่จริงๆ หัวใจของวีรชนคงจะเคียดแค้นและก่นด่าเ้าแน่
อีกประเด็นหนึ่ง ในภายภาคหน้าเ้าคือฮ่องเต้คนต่อไปแห่งต้าโจว มีผู้คนนับหน้าถือตาเ้ามากมาย เ้าเต็มใจพร้อมที่จะแลกชื่อเสียงของแว่นแคว้นและราชวงศ์กับเื่ที่เล็กเพียงแค่นี้หรือ? มันไม่คุ้มอยู่แล้ว”
ฮวาเหยียนใช้ถ้อยคำกระตุ้นอย่างดุดัน
ตี้หลิงหานพ่นลมเ็า เขามองออกว่าสตรีผู้นี้มีช่างพูดช่างจำนรรจา นางสามารถพูดอะไรก็ได้และสิ่งที่พูดนั้นก็เต็มไปด้วยทฤษฎีที่บิดเบี้ยว ถ้าใจของเขาไม่เย็นพอ เขาอาจเพลี่ยงพล้ำจนถูกจูงจมูกได้
เมื่อเห็นว่าตี้หลิงหานไม่พูดอะไร ฮวาเหยียนก็พูดต่อ “ดังนั้นแล้ว องค์รัชทายาทเพคะ ข้าคิดว่าเป็การดีกว่าที่พระองค์จะทรงปล่อยข้าไป ข้ามอบยาถอนพิษให้แก่ท่าน ท่านก็ปล่อยข้าและลูกชาย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ให้แล้วต่อกัน ข้าจะข้ามสะพานไม้แผ่นเดียว [3] ตกลงหรือไม่? ”
ฮวาเหยียนกะพริบตา ดวงตาของนางเปล่งประกายราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง
“พูดพอหรือยัง?”
เชิงอรรถ
[1] ์และโลกกำลังหมุนไป อุปมาสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังอธิบายถึงความรู้สึกวิงเวียนศีรษะหรือความวุ่นวายอย่างรุนแรงอีกด้วย
[2] ธาตุไฟเข้าแทรก เป็ศัพท์ศิลปะการต่อสู้ เมื่อฝึกลมปราณ มักจะเกิดผลกระทบต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็ปกติ บางครั้งก็เกิดเื่ที่ไม่คาดฝันขึ้น แต่สามารถปรับถอนและหายได้ แต่บางครั้งหากเกิดขึ้นแล้วถอนไขไม่ทัน ทำให้เกิดความผิดปกติทางจิตใจและพฤติกรรมแบบถาวร
[3] ข้ามสะพานไม้แผ่นเดียว อุปมาถึงการเดินทางที่ยากและอันตราย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้