“ถึงอย่างไรหนังสือเล่มนั้นฉันก็หมกมุ่นอ่านจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนหลายวันเลยนะ! ตอนนี้ก็ถือว่าได้ผลตอบแทนแล้ว ทำไมตอนนั้นถึงไม่อ่านหนังสือให้เยอะกว่านี้นะ”
เจียงไป๋ถอนหายใจพลางรู้สึกเสียดาย ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์กดพิมพ์ไปอย่างบ้าคลั่งด้วยความรวดเร็ว และเขาก็ยังเขียนหนังสือที่อยู่ในความทรงจำของปีนั้นออกมาอีกด้วย
เพียงมีความสามารถ “แค่ผ่านตาก็ลืมไม่ลง” เจียงไป๋ก็ไม่จำเป็ต้องหวนนึกถึงอะไรให้มากนัก เขานั่งกดพิมพ์ไปมาอย่างรวดเร็วอยู่ตรงนั้น “ต๊อกๆ ๆ” แค่สองสามชั่วโมงก็พิมพ์ได้หลายหมื่นตัวแล้ว เขาหาเว็บไซต์วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกใบนี้ แล้วลงทะเบียนแอ็กเคานต์นักเขียน ก่อนจะลงมือเขียนแนะนำเล็กน้อย พร้อมกับแนบเนื้อเื่ลงไปด้วยสองตอน หลังจากที่ส่งต้นฉบับให้กับบรรณาธิการตรวจสอบแล้ว เจียงไป๋จึงบิดี้เีแล้วยืนขึ้น
“โครกครากๆ !”
เสียงท้องร้องดังขึ้น เจียงไป๋ที่ยุ่งอยู่นานหลายชั่วโมงจนไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้จึงรู้สึกหิวแล้ว
เมื่อสีหน้าแย่ลง เจียงไป๋จึงไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ตัวเองอีกถ้วย เขาใส่ไข่ลงไปด้วยอีกสองฟองและกินอย่างหนำใจ
“ใช่แล้ว วันนี้ฉันยังเหลือแต้มบารมีอยู่อีกห้าแต้ม ไม่รู้ว่าของอย่างนี้จะมีประโยชน์อะไร? ระบบคุณอยู่ไหม? บอกผมหน่อยแต้มบารมีห้าแต้มแลกอะไรได้บ้าง?”
เจียงไป๋เพิ่งนึกถึงเื่ที่แต้มบารมีสามารถใช้แลกกับระบบได้ เขาจึงทั้งกินทั้งสอบถามไปในหัวด้วย
“หนุ่มน้อยเอ๋ย แต้มบารมีห้าแต้มถือว่าน้อยมาก แต่เ้าวางใจได้ ในฐานะที่ข้าเป็ระบบอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นไม่มีอะไรที่ข้าทำไม่ได้ แต้มบารมีห้าแต้มสามารถแลกของได้มากมาย ข้าจะแบ่งเป็ตารางให้เ้า” ไม่นานนัก เสียงของระบบก็ดังขึ้นตอบกลับมา
เดิมทีแล้วเจียงไป๋คิดจะตั้งชื่อให้กับเ้าสิ่งนี้ แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ล้มเลิกความคิดนี้ทันที เ้าสิ่งนี้ชื่อระบบก็ดีอยู่แล้ว
วินาทีต่อมาตารางที่มีหน้าตาเหมือนกับเว็บไซต์ซื้อของออนไลน์ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเจียงไป๋ สิ่งของแถวหนึ่งจากบนลงล่างไม่รู้ว่ามีอยู่เท่าไรบ้าง นอกจากนั้นยังมีชื่อและตัวอักษรแนะนำพร้อมกับรูปภาพประกอบอย่างละเอียด
รายการแรกก็คือการแลกเปลี่ยนแต้มบารมี ซึ่งแต้มบารมีหนึ่งแต้มแลกเงินได้หนึ่งพันหยวน!
ได้สิ อันนี้ยังพอได้ หนึ่งแต้มต่อหนึ่งพันหยวน มันมากกว่าที่เจียงไป๋คิดเอาไว้เสียอีก แต่สิ่งนี้จะแลกได้แค่เงิน ส่วนเงินจะใช้แลกเป็แต้มบารมีไม่ได้ และก็คงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะทำอย่างนี้!
แต่นั่นก็ทำให้เจียงไป๋รู้สึกปวดหัวอยู่บ้าง
คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง? โทรศัพท์มือถือ?
... จู่ๆ เจียงไป๋ก็บ่นออกมาอย่างทนไม่ไหว เพราะเขาพบว่าแต้มบารมีห้าแต้มใช้ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ …
“ใช่แล้ว วันนี้ที่พูดถึงทักษะมวยสานต่าขั้นสูง ของอย่างนั้นต้องใช้แต้มบารมีเท่าไร?” ในตอนนี้เจียงไป๋นึกถึง “ทักษะมวยสานต่าขั้นสูง” ที่เป็ของรางวัลในช่องสี่เหลี่ยมสีฟ้า จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
ระบบไม่ได้ตอบกลับมาทันที แต่ในวินาทีต่อมาหน้าจอที่อยู่เบื้องหน้าของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ไม่ใช่มีแค่ “ทักษะมวยสานต่าขั้นสูง” ที่เห็นก่อนหน้านี้ แต่ยังมี “ทักษะเทควันโดขั้นสูง” “ทักษะมวยสิงอี้เฉวียนขั้นสูง” “ทักษะมวยไทยขั้นสูง” … ขั้นสูง อย่างไรก็ตามความสามารถทางการต่อสู้มากมายได้ปรากฏออกมา เจียงไป๋ค้นพบอย่างมึนงงว่า “ทักษะมวยสานต่าขั้นสูง” มีราคาถูกที่สุด สำหรับอย่างอื่นก็แพงเกินไป
คิดไม่ถึงว่า “ทักษะมวยสิงอี้เฉวียนขั้นสูง” จะต้องใช้แต้มบารมีถึงหนึ่งพันห้าร้อยแต้ม!
นี่มันแิอะไรกัน?
อย่างกรณีของหลิวปินในวันนี้ เจียงไป๋จะต้องซัดเขาไปสักสามร้อยครั้งในสถานการณ์ที่มีคนตาม มีคนมอง มีคนกลัว ถึงจะได้นะ! ตั้งสามร้อยครั้งเลยนะ?
ทุกครั้งที่ถือก้อนอิฐตีเข้าที่หัวคน อย่าว่าแต่สามร้อยครั้ง แค่สามสิบครั้ง! เจียงไป๋ก็มั่นใจได้ว่าทั้งชีวิตนี้เขาคงจะต้องอยู่แต่ในคุกแล้ว
“ของบ้าอะไร! โกงกันชัดๆ!” เจียงไป๋สบถคำหยาบคายอยู่ในใจอย่างทนไม่ไหว
เจียงไป๋ทดสอบความสามารถพิเศษสีม่วง “แค่ผ่านตาก็ลืมไม่ลง” ที่เขาได้รับ ต่อมาก็รู้สึกยินดีปรีดาเป็ที่สุด
เพราะเขาพบว่าความสามารถแค่ผ่านตาก็ลืมไม่ลงอันนี้ คิดไม่ถึงว่าจะต้องใช้แต้มบารมีถึงหนึ่งแสนแต้ม!
หนึ่งแสน! หนึ่งแสนแต้มเต็มๆ !
ซึ่งเื่นี้ก็ทำให้เจียงไป๋รู้สึกว่าตนเองโชคดีจริงๆ ความไม่พอใจก่อนหน้านี้กำลังสลายหายไปอย่างรวดเร็ว
เจียงไป๋ค่อยๆ หลับไปในระหว่างที่กำลังคิดวิเคราะห์อยู่โดยไม่รู้สึกตัว แต่เขากลับไม่รู้เลยว่าสถานที่มากมายในโลกตอนนี้กลับมีคนลนลานและนอนไม่หลับ เพราะการกระทำเมื่อครู่นี้ของเขา
ใครหลายคนที่เป็หนอนหนังสือ และในตอนนี้ไม่มีอะไรทำจนต้องเปิดหาหนังสือเื่ใหม่สักเื่มาอ่าน และมาสะดุดตากับประโยคนี้เข้า
“์ไร้ซึ่งเมตตา ปฏิบัติต่อสรรพสิ่งเยี่ยงวัชพืชและสรรพสัตว์”
“เอ? น่าสนใจ … ขอดูต่ออีกสักหน่อย … ”
“เดิมทีโลกใบนี้ก็ไม่มีเทพเซียนอะไร ั้แ่โบราณเป็ต้นมา มนุษย์มองเห็นเพียงแค่โลกที่อยู่รอบตัว เื่ที่มหัศจรรย์ ฟ้าแลบฟ้าร้อง พายุฝนกระหน่ำ ทั้งยังมีภัยพิบัติที่มาจากธรรมชาติและมนุษย์ การาเ็ล้มตายนับไม่ถ้วน มีแต่เสียงร่ำไห้คร่ำครวญไปทั่ว ไม่ใช่ว่ากำลังคนจะสามารถทำได้ และสามารถต่อต้านได้ จึงเข้าใจว่าบน์ชั้นสูงมีเทพยดา ในนรกก็มีภูตผี มีวังยมบาลอยู่”
“ดังนั้นจึงมีคำกล่าวของเทพเซียน … ”
ในฐานะหนอนหนังสือระดับาุโคนหนึ่ง ฉินเฟิงมักจะอ่านหนังสือตลอดทั้งคืน ส่วนใหญ่จะอ่านเื่เกี่ยวกับจอมยุทธ์ ทั้งยังสนใจเื่จอมยุทธ์ผู้มีฝีมือสูงส่งและมีน้ำใสใจจริง แต่จะไม่ชายตามองเื่ราวความรักน้ำเน่าของชายหญิง
ตอนนี้อินเทอร์เน็ตก็ได้รับความนิยมมากขึ้นทุกที คนส่วนมากล้วนชอบอ่านหนังสือออนไลน์ แต่เนื้อหาก็ยังคงเป็แนวนี้ ถึงแม้เวลาจะยาวนานจนน่าเบื่อแต่ก็หยุดความสนุกไว้ไม่ได้อยู่ดี กว่าหนึ่งปีมานี้ฉินเฟิงก็ไม่มีความกระตือรือร้นเหมือนอย่าง่เริ่มต้นแล้ว แต่หนังสือเื่ใหม่เล่มนี้ก็ทำให้เขาเหมือนกับค้นพบความรู้สึกที่หายไปนานแล้ว เพียงแค่เริ่มอ่าน ความยาวแค่สองตอน แต่กลับบรรยายถึงโลกของเทพนิยายได้อย่างมหัศจรรย์พันลึก และทำลายความรู้เดิมของเขาลงได้
“ให้ตายสิ มนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสามร้อยปีเลยหรือ? กี่พันปี? สำนักชิงหยุน? คำสาปแสงหกอักษร! นี่ นี่ … ให้ตายสิ! ทำไมมีแค่สองตอน?” เพียงแค่สองตอนฉินเฟิงก็ถูกดึงดูดแล้ว แต่ความสนุกในการอ่านไม่นานก็ต้องสิ้นสุดลง ทำให้เขาอดด่าออกมาไม่ได้ เมื่อสูบบุหรี่แล้ว สักพักฉินเฟิงก็แนะนำหนังสือเล่มนี้ให้กับเพื่อนของเขา ล้อเล่นน่า หนังสือดีๆ ไม่อาจจะถูกทิ้งไปเสียอย่างนั้นได้ และหากเป็เพราะผู้อ่านมีน้อยจนต้องทิ้งหนังสือดีๆ เล่มหนึ่งไป เช่นนั้นก็ถือว่าขาดทุนมาก!
การกำหนดพล็อตเื่อย่างนี้ การบรรยายอย่างนี้ ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะ!
คนที่มีความคิดแบบนี้ไม่ได้มีแค่ฉินเฟิงคนเดียวเท่านั้น จริงๆ แล้วในเวลาเดียวกันนี้ก็มีอีกหลายสิบคนที่สนใจ และหลังจากสองสามนาทีก็กลายเป็หลายร้อยคนแล้ว หลังจากนั้นก็เพิ่มขึ้นถึงพันคน …
ั้แ่สร้างเว็บไซต์มาก็มีสถิติใหม่ปรากฏขึ้นอย่างผิดปกติ หนังสือใหม่ที่เพิ่งจะอัปโหลดไปได้แค่สองตอนก็กลายเป็ที่รู้จักบนอินเทอร์เน็ต เพียงแค่คืนเดียวมียอดคลิกเข้ามาอ่านเจ็ดถึงแปดพันครั้ง และก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้จะไม่มากมาย แต่ก็มีคนนับร้อยทำเช่นนี้ หนังสือที่ตอนนี้มีแค่สองตอนกำลังเป็ที่นิยมอย่างรวดเร็ว และพุ่งขึ้นไปเป็ที่หนึ่งของการจัดอันดับหนังสือใหม่แล้ว สิ่งเหล่านี้เจียงไป๋ล้วนไม่รู้ เพราะในเวลานี้เขากำลังนอนกรนและฝันถึงชีวิตที่มีความสุขหลังจากนี้ ทั้งยังวาดภาพอนาคตชีวิตของเขาในฝันไว้อีกด้วย
ตอนบ่ายของวันที่สอง เมื่อเจียงไป๋ตื่นขึ้นมา อันดับแรกก็คือเปิดคอมพิวเตอร์ และอัปโหลดเื่ที่เขาเขียนอีกครั้ง
ตอนที่เปิดเครื่องมือสื่อสาร ก็มีข้อความหนึ่งปรากฏขึ้น ซึ่งถูกส่งมาจากบรรณาธิการออนไลน์ที่ชื่อว่า “เอ้อพ่าง” ง่ายๆ ตรงประเด็นเลยก็คือ้าจะเซ็นสัญญากับเจียงไป๋ ทั้งยังได้ปรึกษาหารือและแนะนำเื่ต่างๆ
ต่อมาเจียงไป๋เพิ่งจะมีเวลาว่างเบนสายตามองไปยังหนังสือที่เขาขโมยมาเป็ของตนเล่มนั้น หากไม่ดูก็ไม่เป็ไร แต่พอได้ดูแล้วก็ต้องใจริงๆ ยอดคลิกเข้าชมหนึ่งแสนสองหมื่นครั้ง และแบ่งปันอีกหนึ่งหมื่น!
ซึ่งนี่ก็ทำให้เจียงไป๋งุนงง และรู้สึกว่าสถิติอย่างนี้ค่อนข้างน่าใไปสักหน่อย
เจียงไป๋มีความเข้าใจต่อสิ่งนี้ไม่ลึกซึ้งเท่าไร แต่ส่วนใหญ่ก็พอรู้มาบ้าง ในชาติที่แล้วก็ไม่เคยได้ยินว่ามีความสำเร็จที่น่าใเช่นนี้มาก่อน!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้