บทที่ 77 รากิญญากลายพันธุ์
สัตว์อสูรเขาม้าจู่ๆ ก็เร่งความเร็วขึ้นจนแซงาาอสูรทั้งสาม และเกรงว่าครั้งนี้คงปลุกโทสะของาาอสูรทั้งสามเข้าเสียแล้ว สัตว์อสูรทั้งสามปลดปล่อยพลังแฝงในร่างกายออกมา ไล่กวดสัตว์อสูรเขาม้าจนทัน
ถึงแม้ร่างกายของอสูรเขาม้าจะไม่นับว่าเล็ก ทว่าเมื่อเทียบกับาาอสูรทั้งสาม ก็ยังต่างกันหลายขุม แต่ข้อได้เปรียบอย่างเดียวคือความชำนาญด้านการเอาชีวิตรอด อีกทั้งเดิมทีมันก็วิ่งเร็วกว่าาาอสูรทั้งสามมากอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้าาอสูรทั้งสามาเ็สาหัส บางทีความสามารถบางอย่างในร่างกายคงพลอยหายไปด้วย อวัยวะภายในอาจถูกเผาจนไหม้ไปหมดแล้วก็เป็ได้ คิดจะไล่ตามสัตว์อสูรเขาม้าย่อมไม่ใช่เื่ง่าย
ลั่วถูไม่สนใจเสียงคำรามาาอสูรทั้งสามแต่อย่างใด แต่ไม่ใช่กับอสูรเขาม้าที่ดูราวกับกินยาชูกำลังเข้าไป ความเร็วเพิ่มขึ้นไปอีกแล้ว บางทีอาจเป็สัญชาตญาณแห่งความกลัวก็เป็ได้
ขณะที่กำลังวิ่งลั่วถูรู้สึกได้ว่าระหว่างตัวเขาและอสูรม้าราวกับสื่อถึงกันได้อย่างไร้สาเหตุ เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์ไปคิดเื่นี้อีก แค่รู้สึกว่าตอนที่ขี่อสูรเขาม้าตัวนี้ไม่ต้องออกแรงมากเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
สัตว์อสูรประหลาดตัวนี้ราวกับมีความคิดเป็ของตัวเอง มันคงเข้าใจได้ว่าที่เมื่อครู่ตัวมันหนีเอาชีวิตรอดจากกองไฟได้ ไม่ใช่เพราะตัวมันแข็งแกร่ง แต่เป็เพราะสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนหลังมันต่างหาก ดังนั้นตอนนี้มันจึงไม่คิดสลัดสิ่งมีชีวิตบนหลังออกไปแล้ว เพราะทุกหย่อมหญ้าของป่านี้ล้วนลุกเป็ไฟ อุณหภูมิที่สูงลิบทำให้ผืนป่ากว้างถูกเผาจนแห้ง จากนั้นบรรดาลูกไฟก็เปลี่ยนป่าแห่งนี้เป็ทะเลเพลิง
กลุ่มลูกไฟยังคงะเิไม่หยุด ทั่วทั้งป่ามีแต่เสียงร้องคำรามของเหล่าสัตว์อสูรดังระงม ราวกับถึงวันสิ้นโลกแล้วอย่างไรอย่างนั้น แต่อสูรเขาม้ายังคงวิ่งห้ออย่างบ้าคลั่ง เทียบกับม้าาแล้วยังนับว่าเร็วกว่าหลายขุม ผ่านไปครู่หนึ่งก็วิ่งไปไกลหลายสิบลี้แล้ว เมื่อมาถึงตรงนี้ ลั่วถูก็พบว่าอุณหภูมิในป่านี้ลดต่ำลงมาก ความเร็วของอสูรเขาม้าก็เริ่มช้าลงไปด้วย ลั่วถูได้แต่ถอนหายใจยาวเหยียด ความรู้สึกอันตรายในใจของเขาลดลงมาก แม้ยังคงมีลูกไฟตกมาจากที่ไกลๆ ูเาไฟเองก็ปะทุกระจายออกไปรอบทิศทางอย่างไม่รู้จบ เชื่อว่าอีกไม่นาน ป่าแห่งนี้คงถูกเปลวไฟกลืนกินไปเรื่อยๆ แต่ลั่วถูก็ไม่ค่อยรีบร้อนเท่าไรแล้ว ขอแค่ทิ้งระยะห่างจากเปลวเพลิงที่กำลังลามได้เสียหน่อย การหนีต่อจากนี้คงไม่เป็ปัญหาเท่าไรนัก และเขาก็ไม่คิดจะทำให้อสูรเขาม้าที่เขาใช้โดยสารอยู่เหนื่อยจนตายด้วย เ้านี่เป็พาหนะชั้นเลิศทีเดียว...
“อาวู้ว... ” ไม่ไกลออกไปเท่าไร เสียงคำรามของาาอสูรทั้งสามราวกับกู่ร้องบอกความรู้สึกสิ้นหวังออกมา พวกมันหลุดเข้าไปในกองไฟอีกครั้ง เดิมทีเ้าพวกนี้ก็าเ็หนักอยู่แล้ว แถมยังไล่กวดอสูรเขาม้ามาตลอดทาง ทำให้พวกมันถึงขีดจำกัดเข้าให้แล้ว พอถูกเปลวไฟเผาอีกครั้ง จึงไม่มีแรงตอบโต้อีก กลายเป็ดวงไฟสามดวงพุ่งออกมาจากกองไฟ จากนั้นได้แต่ดีดดิ้นทรมาน และล้มลงไปกระตุกอยู่บนพื้น เห็นได้ชัดเจนใกล้สิ้นลมเต็มที
“เ้าสามตัวนี้มันสมบัติทั้งนั้น จะปล่อยให้เสียเปล่าได้อย่างไรกัน!” ดวงตาของลั่วถูทอประกายความตื่นเต้น สัตว์อสูรทั้งสามไม่ว่าจะเป็พยัคฆ์หน้าม่วงตาแดง หมีเสือสามตาหรือลิงั์ขนแดงล้วนมีพลังแกร่งกล้าอย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่าระดับหกหรือเจ็ดแน่นอน อีกทั้งเป็สัตว์อสูรกลายพันธุ์อีกต่างหาก เ้าพวกนี้ล้วนเป็ของหายาก ดังนั้นสายเืของมันย่อมไม่ธรรมดา ยิ่งแก่นอสูรต้องเป็สมบัติล้ำค่าไม่ผิดแน่ เสียดายก็แต่หนังของพวกมันที่ถูกไฟเผาไปหมดแล้ว ไม่เช่นนั้นแค่ขนของาาอสูรทั้งสามก็เอาไปขายเป็เหรียญซิงเหินได้มากมายแล้ว
พอหนีจากอันตรายมาห่างได้สักระยะแล้ว ลั่วถูก็ได้แต่ใจสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ จึงะโลงมาจากอสูรเขาม้า ไปหาาาอสูรทั้งสามที่ไม่อาจขยับตัวได้แล้ว และฟันศีรษะของสัตว์อสูรทั้งสามอย่างไม่ลังเล และเอาถังไม้ขนาดใหญ่ออกมาหลายใบ รองเก็บเืเอาไว้ และเก็บเขี้ยวพยัคฆ์ อุ้มมือหมี กรงเล็บและวัตถุดิบอื่นๆ มาทั้งหมด
ในศีรษะของาาอสูรทั้งสามมีแก่นอสูรขนาดใหญ่เท่ากำมือ กระจ่างใสผิดปกติ แต่สิ่งที่ทำให้ลั่วถูประหลาดใจที่สุดคือแก่นอสูรทั้งสามล้วนมีคุณสมบัติเป็ธาตุเพลิงบริสุทธิ์
ในขณะที่ลั่วถูลงจากหลังอสูรเขาม้า มันไม่ได้หนีไปแต่อย่างใด แต่กลับเดินไปมาอยู่ใกล้ๆ ราวกับรู้ว่าอยู่กับลั่วถูจะปลอดภัยกว่า ทว่าก็กลัวกลิ่นอายของาาอสูรทั้งสามเช่นกัน จึงไม่กล้าเข้าใกล้ ทำให้ตอนนี้มันได้มีเวลาพักผ่อน พอลั่วถูะโขึ้นหลังมันอีกครั้ง อสูรเขาม้าก็ร้องอย่างดีใจ และวิ่งเข้าป่าอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
หลังจากวิ่งมาสองร้อยกว่าลี้โดยไม่หยุดพัก ในที่สุดลั่วถูก็มาถึงหุบเขาแห่งหนึ่ง มีแม่น้ำไหลวนจากูเาลงมา ดูราวกับอสรพิษตัวหนึ่งเลื้อยไปยังที่ห่างไกล พื้นดินที่นี่เรียกได้ว่าเปี่ยมล้นด้วยชีวิตชีวา ลั่วถูดีใจมาก หนึ่งคนหนึ่งม้าดื่มน้ำจากแม่น้ำอย่างกระหาย จากนั้นเหล่าฝูงสัตว์อสูรก็ทยอยเข้ามาในหุบเขาลูกนี้ คะเนสีขนที่เป็สีดำ ก็เป็พวกที่หนีออกจากป่าที่ไฟไหม้เช่นกัน ภายใต้อุณหภูมิที่สูงลิบลิ่วแถมยังวิ่งกันอย่างยาวนาน สัตว์อสูรมากมายล้วนกระหายน้ำอย่างมาก แม่น้ำสายนี้จึงกลายเป็สถานที่รวมตัวไปโดยปริยาย กระทั่งสิ่งที่ยากจะพบเห็นเช่นสัตว์อสูรเหล่านี้ที่เดิมทีเป็ศัตรูกัน ตอนนี้กลับอยู่อย่างสงบ ราวกับลืมความแค้นระหว่างกันไปแล้ว
ลั่วถูที่สงบลงก็พบว่าร่างกายและจิตใจของเขาราวกับผ่านการชำระล้างบางอย่างมา เขาพบว่าเพียงตัวเขายืนอยู่ด้านข้างแม่น้ำอย่างสงบ ร่างกายของเขากลับดูดซับพลังเปลวไฟในฟ้าดินได้เองโดยไม่ต้องควบคุม พอโบกมือ เหมือนกับมีกระแสความร้อนสายหนึ่งลุกขึ้นด้วย ภายใต้ความยินดีปนใ เขาสังเกตลึกเข้าไปในจิตของตน ก็พบว่าเส้นสีแดงในรากิญญาของตัวเขา ตอนนี้กลับ มีส่วนเล็กๆ สองส่วนโผล่ออกมาราวกับไม้ผลัดใบใหม่ออกมาสองกิ่ง และหลั่งไหลเข้ามาสู่พลังธาตุเพลิงในร่างกายของเขา กล่าวได้ว่าพลังเพลิงต้นกำเนิดแทบจะถูกต้นอ่อนสีแดงดูดซับไปหมด จนกลายเป็สารอาหารให้แก่การเติบโต ทำให้ลั่วถูได้แต่ยินดีระคนประหลาดใจ เขารู้สึกว่านี่คือรากิญญาของเขา ถึงแม้รากิญญาของเขายังไม่ได้เปิดิญญาจริงๆ ก็ตามทว่าในรากิญญาอันแสนอลหม่านของเขามีวิธีพิเศษอย่างหนึ่งที่ทำให้พลังธาตุเพลิงส่วนหนึ่งพัฒนาได้อย่างไม่ทราบสาเหตุ แม้กระทั่งส่วนที่เป็พลังธาตุเพลิง ก็ใช้วิธีเฉพาะตัวบางอย่างแบ่งตัวออกจากรากิญญาเดิมที่แสนสับสน และกลายเป็รากิญญาใหม่สุดพิเศษอีกเส้นหนึ่ง
วิธีนี้เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ทั้งที่เคยอ่านตำราเกี่ยวกับรากิญญามาไม่น้อย ทว่าต่อให้เป็ตำราโบราณก็ไม่มีเล่มไหนเขียนถึงเื่ราวเช่นนี้ เขารู้สึกว่าตัวเขากับพลังธาตุเพลิงในฟ้าดินใกล้ชิดกันมาก เหมือนกับหลอมรวมเข้าด้วยกันอย่างไรอย่างนั้น ถึงเขาจะไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง แต่ว่าคงเกี่ยวกับการรู้แจ้งพลังเพลิงนรกต้นกำเนิดบนศิลากำเนิดเทพก่อนหน้านี้ และเป็เพราะเขารู้แจ้งพลังต้นกำเนิดพิเศษ ทำให้รากิญญาของเขาเกิดการกลายพันธุ์บางอย่างที่ไม่อาจระบุได้...
การค้นพบนี้ ราวกับเปิดหน้าต่างบานใหม่ให้กับลั่วถู ทำให้เขาได้เห็นความเป็ไปได้บางอย่าง ถ้าเขาสามารถทำให้รากิญญาที่สับสนของเขาเปิดออกที่ละเส้นเหมือนกับรากิญญาเพลิงและกระตุ้นให้แบ่งตัวออกได้ เช่นนั้นตัวเขาย่อมมีระบบรากิญญาที่ไม่เหมือนใคร
“ตูม ตูม... ” ท้องฟ้าที่อยู่ไกลๆ ราวกับถูกพลังบางอย่างะเิออก ลั่วถูเห็นท้องฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้มีกลุ่มเมฆดำปรากฏตัวขึ้น มีสายฟ้านับไม่ถ้วนกะพริบวาบอยู่ภายใน เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นทำฟ้าสะท้านดินะเืกันไปหมด สีหน้าของลั่วถูบิดเบี้ยวไม่น่าดูไปเสียแล้ว เขาหันไปมองทิศทางที่พวกเขาหนีมา ที่นั่นฟ้าดินยังคงมืดมัว ูเาไฟพ่นะเิลาวาสีแดงกับฝุ่นควันออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทะยานขึ้นไปบนอากาศร้อยกว่าจั้ง จากนั้นลูกไฟะเิออกไปทุกทิศทาง แต่ฝุ่นควันสีดำกลับลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า และลั่วถูพบว่าภายใต้กลุ่มเมฆดำ เหมือนกับมีพลังอันบ้าคลั่งกำลังเตรียมพร้อมรอปะทุอยู่... ที่แห่งนั้นมีูเาไฟห้าลูกเช่นกัน อีกทั้งคะเนจากเมฆบนฟ้าและสายฟ้าในหมู่เมฆก็รู้แล้วว่า บรรดาูเาไฟเมื่อครู่ที่ทำเอาเขาต้องหนีตายอย่างน่าอนาถ ูเาไฟลูกใหม่นี้รุนแรงยิ่งกว่ามากนัก
“นี่มันที่บ้าบออะไรกันแน่ ทำไมถึงได้มีูเาไฟเยอะขนาดนี้... ” ลั่วถูกล่าวกับตัวเองอย่างห้ามไม่ได้ ไม่เพียงทิศตะวันตกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ทางทิศเหนือ เขาก็เห็นควันสีดำพวยพุ่งขึ้นฟ้าเช่นกัน ทำให้โลกใบนี้ดูราวมีปีศาจออกมาเริงระบำก็ไม่ปาน... เพียงในระยะพันลี้ก็มีูเาไฟปะทุไปห้าหกลูกแล้ว นี่คิดจะทำลายโลกใบนี้ทิ้งเลยหรือ?
ลั่วถูหยิบยันต์กำหนดเสียงพันลี้ที่ท่านทูตให้พวกเขามา ทว่าด้านในกลับไม่มีสัญญาณอะไรสักอย่าง ตามที่ท่านทูตกล่าว อาจเป็เพราะเขากับเจียงหมินอยู่ห่างกันเกินพันลี้ หรือเป็เพราะในโลกนี้มีกฎพิเศษทำให้พวกเขายากจะรับรู้ถึงฝ่ายตรงข้ามได้ บางทีอาจต้องเข้าใกล้กว่านี้จึงจะมีโอกาส
เมื่อไม่ได้รับรู้ถึงการคงอยู่ของเจียงหมิน ทำให้ลั่วถูถอนหายใจเล็กน้อย อย่างน้อยก็แสดงว่าเจียงหมินคงไม่โชคร้ายเหมือนเขาที่ต้องเผชิญหายนะเช่นนี้ ตะวันออกกลับไปไม่ได้ ตะวันตกเฉียงใต้ก็ไปไม่ได้ เหนือยิ่งไม่ได้เข้าไปใหญ่ ดูท่าคงไปได้เพียงไม่ทิศใต้ก็ทิศตะวันตก พอลองคิดดูแล้ว ลั่วถูก็หยิบกล่องใบหนึ่งออกมาจากอกและกล่าวกับตัวเองว่า “มาลองดูดวงตัวเองหน่อยแล้วกัน ไปทางทิศไหนถึงจะดีกว่า! มาดูกันว่าข้ามีสิทธิ์เป็หมอดูได้ไหม”
“ิญญาฟ้า ิญญาดิน บอกข้าหน่อยว่าควรไปทางไหน... ” ลั่วถูท่องคาถา จากในกล่องก็ปรากฎเกล็ดของกระดองเต่าโบราณออกมา
“เวรเอ๊ย ไม่ใช่กระมัง... ให้ข้าไปทางตะวันออก... มันก็กลับไปทางเดิมไม่ใช่หรือ?” ลั่วถูถึงกับด่าออกมา “นี่มันทำนายบัดซบอะไรกัน ไม่ได้เื่เลย มาลองดูอีกครั้ง... ”
“ิญญาฟ้า ิญญาดิน บอกข้ามาว่าควรไปทางไหน...”
“เวรเอ๊ย ครั้งนี้ให้ข้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้? ช่วยทำตัวให้น่าเชื่อถือหน่อยได้ไหม... ” ลั่วถูด่าออกมาอีกครั้งแล้ว “ของสิ่งนี้เป็ของของผู้ทำนายเทพจริงหรือ... ไม่ใช่ว่าเ้าเฝยเฝยมาหลอกต้มข้าเข้าแล้วนะ แต่ที่จริงบรรพบุรุษของเ้าเฝยเฝยมียอดนักทำนายที่ชื่อว่าถังอี้กว้าอยู่ด้วย นี่คงเป็สมบัติตกทอดในตระกูลของเขา จะเป็แบบนี้ไปได้อย่างไร หรือว่าต้องลองใหม่อีกที”
คิดได้เท่านี้ ลั่วถูก็ท่องคาถาอีกครั้ง แต่หนนี้เขาเริ่มทำแบบขอไปทีแล้ว นี่มันการทำนายบัดซบอะไรกัน ดูอย่างกับว่าที่ไหนอันตรายก็จะให้ตนไปทางนั้นเสียให้ได้ ดูสิคิดจะให้ตัวเขาไปทางเหนือ ทว่าูเาไฟทางเหนือใกล้ปะทุอยู่รอมร่อ...
“บัดซบ สงสัยคงเป็พวกต้มตุ๋นกันทั้งตระกูล เกล็ดกระดองเต่าพังๆ พวกนี้แลกกับยาใจบริสุทธิ์ของข้าไปตั้งหลายเม็ด กลับไปต้องคิดบัญชีกับเฝยเฝยหน่อยแล้ว” ในใจของลั่วถูก่นด่าออกมาอีกหลายประโยค เก็บเกล็ดกระดองเต่า ะโขึ้นหลังอสูรเขาม้าและหนีไปทางทิศใต้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้