วันที่สองเจียงไป๋มีธุระบางอย่างต้องจัดการ เช่น เื่ของกองถ่ายที่เขาต้องไปอำลา เื่ที่ค้างคาอยู่ก็ต้องจัดการให้เสร็จๆ ไป และนี่ก็ต้องใช้เวลา
เจียงไป๋ยุ่งอยู่ตลอดทั้งเช้า ถึงจะจัดการเื่ราวได้เรียบร้อย และกลับมาที่ห้องก็พบว่าแม่สาวน้อยได้ออกไปแล้ว ก่อนจะไปยังไม่ลืมที่จะทิ้งที่อยู่กับเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้เจียงไป๋ และก็บอกกล่าวกับฝ่ายต้อนรับไว้แล้ว
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากรอเจียงไป๋ แต่ทางโรงเรียนมีเื่ด่วนจริงๆ ทำให้เธอต้องรีบกลับเทียนตูไปั้แ่เช้า
สำหรับเื่นี้เจียงไป๋ไม่ได้สงสัย ในเมื่อมีธุระ เป็ธรรมดาที่จะต้องรีบกลับไป
ถึงแม้เขาจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายเหมือนจะมีเจตนาที่ไม่อยากจะไป แต่ในเวลาอย่างนี้ หากพักอยู่ที่นี่อีกก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดเื่ ดังนั้นการที่อีกฝ่ายจากไป จริงๆ แล้วเจียงไป๋ก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
เื่อย่างความนิ่ง ก็เป็หนึ่งไม่เป็สอง เจียงไป๋ไม่กล้ารับประกันว่า ตนเองจะไม่ล้ำเส้นได้ตลอดไป
เจียงไป๋โทรศัพท์ไปหา แต่อีกฝ่ายไม่รับ สักพักก็ส่งข้อความกลับมาว่า “เป็พี่ชายหรือ? ฉันกำลังเรียนอยู่ พรุ่งนี้จะเริ่มสอบแล้ว หากฉันสอบเสร็จจะติดต่อพี่ไปดีไหม?”
“ได้” เจียงไป๋ยิ้มและส่งข้อความตอบกลับไป
เขากลับมาที่กองถ่าย เพื่อเก็บงานที่ค้างต่อให้เสร็จ หลังจากนั้นก็กลับเทียนตู จากเทียนตูก็รีบมุ่งหน้าไปที่ปินไห่
แน่นอนว่า ก่อนจะไปก็ยังไม่ลืมที่จะทักทายกับพวกเย่ชิงเฉิง
เย่ชิงเฉิงอาลัยอาวรณ์เจียงไป๋มาก แต่หลังจากที่เจียงไป๋รับปากว่าจะรีบไปรีบกลับแล้ว ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีก
เขากลับมาที่เทียนตู ในวันรุ่งขึ้นก็ไปเอาข้อมูลที่หวางเป้าส่งมาให้ แล้วเจียงไป๋ก็เดินทางไปเพียงคนเดียว เขามุ่งตรงไปที่ท่าเรือปินไห่ซึ่งอยู่ทางเหนือ
เจียงไป๋โดยสารรถไฟ ตลอดทางรถไฟโคลงเคลงตลอดเวลา เขากำลังดูข้อมูลที่หวางเป้าส่งมาให้อย่างละเอียด เป็ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอู่เทียนซี
กล่าวได้ว่า อู่เทียนซีคือคนที่เยี่ยมยอดคนหนึ่ง และเดินมาถึงขั้นนี้ได้ทีละก้าว สมบัติมีเป็แสนล้าน ซ่อนอยู่กลางเมืองไม่มีใครรู้ได้ จริงๆ ก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้น
โดยเฉพาะสิ่งที่ทำให้แปลกใจคือ ถึงแม้พ่อของเขาจะมีตำแหน่งสูง แต่หลายปีมานี้ทุกก้าวที่เขาเดินมาถึงทุกวันนี้ได้ คิดไม่ถึงว่าจะไม่พึ่งพาครอบครัวแม้แต่น้อย
ตามที่แสดงในข้อมูล พ่อที่เกษียณแล้วของเขานั้น เข้ากับเขาไม่ได้พอสมควร แถมยังขัดขาเขาทุกเวลา
นี่ก็เป็เหตุที่เขาต้องสู้กับหลี่ชิงตี้มาเป็เวลานานขนาดนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้