บทที่ 15 ลอบสังหารนอกเมือง
เมื่อฟังลั่วเหยียนพูดจบ สีหน้าของลั่วถูพลันปรากฏแววตาดูถูกอย่างไม่ปิดบัง มองฝ่ายตรงข้ามเหมือนคนโง่ จนใบหน้าแก่ชราของลั่วเหยียนขึ้นสีแดงด้วยความโกรธเมื่อมองไปที่เขา จนพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง ทำได้เพียงกล่าวออกไปด้วยความโกรธ “เ้าได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่!”
“โอ้ เ้าพูดจบแล้วหรือ? ในเมื่อพูดจบแล้ว ก็ไสหัวไปเสีย นิสัยของข้าลั่วถู ไม่้าให้ผู้อื่นมาชี้นิ้วสั่ง รบกวนเ้าฝากคำพูดไปถึงท่านผู้เฒ่าด้วย หลังจากข้าลั่วถูมาถึงโลกชั้นล่างก็ไม่เคยขอเงินตระกูลลั่วสักสลึง ถ้าลูกหลานของท่านปู่้ายาเปิดิญญา ข้าสามารถชี้แนะให้ได้” ลั่วถูยิ้มอย่างเหยียดหยาม กล่าวออกมาอย่างเนิบนาบ เขามาจากโลกชั้นสูงถึงจะถูกไล่ออกมา แต่ทางตระกูลยังคงให้เหรียญซิงเหินกับเขาไม่น้อย แต่เมื่อมาถึงโลกชั้นล่าง ผู้ช่วยเ่าั้ยังคงห้อมล้อมรอบเขาเหมือนดาวล้อมเดือน หลังจากใช้วิธีต่างๆ หลอกเอาเหรียญซิงเหินจากเขาไปจนหมด วิธีปฏิบัติกับเขาก็เปลี่ยนจากบุตรจาก์กลายเป็ขยะไร้ประโยชน์ และไม่เคยมาทักทายอีกเลย
ดังนั้น ลั่วถูจึงต้องกลายเป็คนขนศพแสนต่ำต้อยในโลกชั้นล่าง ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด สุดท้ายก็ได้แต่พึ่งความพยายามของตนรวบรวมยาเปิดิญญาจนเปิดิญญาครั้งที่หกได้ ที่จริงแล้ว เื่นี้ช่างเกินความคาดหมายของท่านผู้เฒ่าตระกูลลั่วมากนัก ถึงขนาดที่ตระกูลลั่วในโลกชั้นล่างผู้แสนหยิ่งผยองก็ยังคาดไม่ถึง
เพียงแต่หลังจากลั่วถูเปิดิญญาครั้งที่หกล้มเหลว คนเ่าั้ถึงได้จงเกลียดเกลียดชังลั่วถูเข้ากระดูกดำ เพราะรู้สึกว่าสำหรับคนที่สิ้นเปลืองยาเปิดิญญาของตระกูลต้องได้รับการลงโทษสถานหนัก ยาเปิดิญญาถึงสามสิบสองเม็ด ถ้าใช้ให้ดีอาจทำให้ผู้ที่มีพร์นับสิบคนเปิดิญญาสำเร็จได้ด้วยซ้ำ แต่กลับถูกลั่วถูใช้ทิ้งขว้างเสียได้ แม้ยาเปิดิญญาพวกนี้จะไม่เกี่ยวกับพวกเขาแม้แต่เสี้ยว ทว่าในสายตาพวกเขา ขอเพียงเป็คนตระกูลลั่ว เช่นนั้นต้องมีชีวิตเพื่อตระกูลลั่วเท่านั้น!
ลั่วถูถูกท่านผู้เฒ่าลงโทษอย่างหนัก ถึงขนาดลุกจากเตียงไม่ได้กว่าครึ่งเดือน เพราะความสิ้นเปลืองของเขา แต่ต่อมาราวกับว่าผู้คนได้ลืมเลือนคนผู้นี้ไปแล้ว เพราะจะอย่างไรก็เป็เพียงขยะชิ้นหนึ่ง และลั่วถูใช้เวลาในตอนที่พวกเปี่ยมพร์ในตระกูลผลาญเวลาไปอย่างไร้ประโยชน์ แต่ตัวเขาได้เริ่มพยายามเตรียมยาเปิดิญญาเพื่อเปิดิญญาครั้งที่เจ็ดของตัวเองแล้ว
ในที่สุดความพยายามมาโดยตลอดเกือบหนึ่งปีก็สัมฤทธิผล เขาสะสมคะแนนจำนวนมากได้อีกครั้ง และครั้งนี้ ดูท่าทางท่านผู้เฒ่าจะไม่ยอมให้เขาทำเื่เหลวไหลอีกต่อไป ฉะนั้นการปรากฏตัวของลั่วเหยียนจึงไม่ได้ทำให้คนอื่นแปลกใจแต่อย่างใด
คำพูดของลั่วถูทำให้สีหน้าของลั่วเหยียนเปลี่ยนไปทันที จิตสังหารที่หนาแน่นสายหนึ่งถูกปล่อยออกมา สองคนข้างกายของเขาเตรียมพร้อมลงมือแล้ว ทว่าในเวลานี้ จิตสังหารที่ยิ่งใหญ่กว่ากลับสะกดร่างของเขาเอาไว้ ทำเอาลั่วเหยียนถึงกับตะลึง ที่นี่คือร้านซินเต๋อเซวียน เ้าของร้านผู้เฒ่าเต๋อนับได้ว่าเป็คนที่โเี้ผู้หนึ่ง ที่สำคัญคือเื้ัของผู้เฒ่าเต๋อยังมีบุคคลที่ทรงพลังเสียจนตระกูลลั่วก็ไม่อาจแตะต้อง ในตอนนั้นเองเขาหยุดเด็กหนุ่มสองที่เตรียมลงมือ เพียงแค่หัวเราอย่างมืดมนและพูดกับลั่วถูว่า “หวังว่าเ้าจะรักษาความหยิ่งผยองแบบให้ได้ตลอดก็แล้วกัน!” กล่าวจบ ลั่วเหยียนก็เดินออกจากร้านโดยไม่หันกลับมามอง
“หนุ่มน้อย ท่าทางเ้าจะมีเื่เข้าแล้ว!” คล้อยหลังทั้งสามคนออกไปจากร้าน ผู้เฒ่าเต๋อมองไปยังลั่วถูและยิ้มให้ จากนั้นถามออกมาอย่างสงบนิ่ง “ให้ข้าช่วยเ้าเก็บกวาดปัญหาพวกนี้ไหม?”
“ขอบคุณลุงเต๋อ แต่นี่คือปัญหาของข้า ข้าต้องเป็คนจัดการเอง” ลั่วถูเดินออกจากร้านโดยไม่ได้หันกลับมา เดิมทีเขาไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าทั้งสามคนจะยังรอเขาอยู่หน้าประตูหรือไม่
มองตามเงาของลั่วถูที่กำลังจากไป ผู้เฒ่าเต๋อส่ายหัวแล้วยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ พึมพำกับตัวเองว่า “ช่างเป็หนุ่มน้อยที่หยิ่งในศักดิ์ศรีนัก แต่เ้าเป็แค่คนธรรมดาเท่านั้น ความหยิ่งทะนงจะฆ่าเ้าตายเข้าสักวัน เฮ้อ หวังว่าเ้าจะมีชีวิตรอดได้นานอีกหน่อยนะ!”
ลั่วเหยียนกับคนอื่นๆไม่ได้ดักรอทำร้ายลั่วถูอยู่นอกร้านซินเต๋อเซวียนแต่อย่างใด เมื่อลั่วถูออกมา เงาของทั้งสามคนก็หายไปแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันไปไหน แต่ลั่วถูมั่นใจว่าความยุ่งยากของเขาเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ทว่าสำหรับเขา ใครก็ตามที่คิดขัดขวางไม่ให้เขาเปิดิญญาต้องถูกกำจัด ถึงครั้งที่เจ็ดจะไม่สำเร็จ เขาก็จะลองครั้งที่แปดอีก หากครั้งที่แปดยังล้มเหลว บางทีเขาคงลองครั้งที่เก้าต่อ...
ลั่วถูหยุดอยู่หน้าร้านซินเต๋อเซวียนเล็กน้อย สายตากวาดไปยังตรอกทางตะวันออกเฉียงเหนือ เขารู้สึกราวกับว่าที่ตรงนั้นมีดวงตาคู่หนึ่งจ้องมาที่เขา เหมือนกับหมาป่าที่ซ่อนอยู่ในพุ่มหญ้า ทว่าลั่วถูกลับหัวเราะอย่างดูถูก ลั่วเหยียนไม่กล้าลงมือในเมืองม่อหลานแน่ ผู้เปิดิญญาที่ลงมือทำร้ายคนธรรมดาตามใจชอบต้องได้รับบทลงโทษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานะของเขาคือคนขนศพ แต่หากก้าวออกจากเมืองไปแล้ว การคุ้มครองทั้งหมดจะหายไปทันที อย่างไรเสียอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ต่อให้คิดจะหลบก็หลบไม่พ้นอยู่ดี
ลั่วถูออกจากเมืองม่อหลานทางประตูตะวันตก รับภารกิจขนศพมาจากวิหารอิงหลิงหนึ่งภารกิจ และก่อนที่ประตูเมืองจะปิดพอฟ้าเริ่มมืดเขาก็ออกจากเมืองม่อหลานอย่างรวดเร็ว สำหรับคืนที่มืดมิด ลั่วถูก็หาได้กริ่งเกรง เพราะดวงตาของเขาไม่ถูกจำกัดด้วยความมืดอีกต่อไป ถ้าลั่วเหยียนกล้าตามมาในเวลานี้จริง เช่นนั้น เขาจะทำให้คนพวกนั้นได้รู้ซึ้งเอง ว่าไม่ใช่จะมาเที่ยวกลั่นแกล้งคนธรรมดาได้ตามใจชอบ
บนถนนซีเสินกู่ ขบวนพ่อค้าที่เคยสัญจรผ่านไปมาแถวนี้หายไปหมดแล้ว เหมือนกับในเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่เดือน บนถนนโบราณเส้นนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายคละคลุ้ง เมฆดำของาปกคลุมถนนสายนี้จะเป็พื้นที่ที่มีแต่กลิ่นอายสังหาร เพียงออกจากถนนซีเสินกู่นี้ ก็ถือว่าก้าวออกจากเขตอำนาจของเผ่ามนุษย์อย่างแท้จริง และเรียกได้ว่าก้าวเข้าสู่เขตสนามรบฝานเหรินเรียบร้อยแล้ว
บนถนนโบราณไม่ได้มีแนวป้องกันอะไรมากนัก แต่กองทัพต่างเผ่ากลับไม่กล้ารุกรานเข้ามาที่นี่ เพราะหากเข้ามาในถนนโบราณนี้ ก็เหมือนเข้ามาในน้ำเต้า ข้างหน้าเป็เมืองทว่าข้างหลังเป็ทางแคบ หากมีคนวางแผนแตะต้องถนนซีเสินกู่ที่ยาวยี่สิบกว่าลี้ เช่นนั้น อาจต้องตกอยู่ในสภาพตะพาบในบ่อไร้ทางออกก็เป็ได้ เพราะทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองม่อหลานมีสถานที่อันตรายโดยธรรมชาติเช่นนี้นี่เอง
ก้าวเข้าสู่ถนนโบราณมาได้ไม่เท่าไร ลั่วถูก็หยุดเท้าลง บนถนนทางข้างหน้า ปรากฏเป็เงาหลายร่างยืนเรียงรายกันเหมือนกับรั้วที่ขวางทางถนนไว้ทั้งหมด เขารู้แล้ว คนพวกนี้มาเพราะเขา... นี่คือลางสังหรณ์อย่างหนึ่ง
“เ้ากล้าไม่เบาเหมือนกันนี่ ถึงขนาดกล้าออกจากเมืองยามวิกาล แต่เ้าคิดหรือว่าทำแบบนี้แล้วจะปลอดภัย?” เสียงหัวเราะไม่แยแสดังลอดเข้าโสตประสาทของลั่วถู บนสัตว์อสูรัหลงฉีที่อยู่ตรงหน้าตรงและกลางถนน มีชายหนุ่มหน้ายาวเหมือนม้าคนหนึ่งยืนอยู่ รอยถูกฟันเส้นเล็กๆ บนหน้าทำให้เดิมทีเขาที่น่าเกลียดมากอยู่แล้วยิ่งน่าเกลียดเข้าไปใหญ่
“จูฟังชง... ” ความสับสนระคนสงสัยแล่นวาบผ่านสายตาของลั่วถู กลุ่มซานชิงกับเขาไม่เคยมีบุญคุณความแค้นใดต่อกัน ถึงแม้ในเมืองม่อหลานสมาคมซานชิงจะทำเื่เลวไว้ไม่น้อย ทว่าระหว่างคนพวกนี้กับคนขนศพไม่เคยมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ต่อกัน แต่ตอนนี้เขากลับััได้ถึงจิตสังหารของจูฟังชง
“ข้าไม่ได้ไปหาเื่สมาคมซานชิง!” ลั่วถูสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามสงบความรู้สึกตัวเอง ในใจเอาแต่ครุ่นคิดถึงต้นตอของปัญหา
“แน่นอน อาศัยเพียงกำลังเ้าไม่มีปัญญาหาเื่สมาคมซานชิงอยู่แล้ว!” จูฟังชงยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ไม่ทราบว่าใต้เท้าจูหมายความว่าอย่างไร ถ้ามีอะไรที่ใช้งานข้าได้ ขอเพียงท่านกล่าวออกมาเท่านั้น ข้ายินดีทำ!”
“ดีมาก เช่นนั้น ข้าขอยืมหัวของเ้าหน่อยแล้วกัน!” จูฟังชงยักไหล่พร้อมกล่าวอย่างไม่แยแส
“เพราะอะไรกัน?” ลั่วถูไม่ขยับ ทำเพียงมองห้าคนข้างหน้าอย่างเ็า จูฟังชงแข็งแกร่งมาก เป็คนที่เปิดิญญามาหลายปี ไปถึงระดับศิษย์าขั้นสองตั้งนานแล้ว ด้านหลังมีคนสี่คน สองคนในนั้นเป็คนธรรมดา ส่วนอีก2คนก็เป็ระดับศิษย์า การรวมตัวและจัดขบวนเช่นนี้ เพียงเพื่อหยอกเล่นคนตัวเล็กๆ อย่างตน ก็ยังดูจะมากเกินไปหน่อยอยู่ดี
“มีคนจ่ายเงินเพราะ้าชีวิตเ้า หนุ่มน้อย จะมาโทษข้าไม่ได้นะ!” จูฟังชงโบกมือ ที่อยู่ตรงหน้าเป็เพียงคนขนศพที่ต้อยต่ำ เขามีบางอย่างที่ไม่เข้าใจเอาเสียเลย ทำไมพี่ใหญ่ต้องให้เขาลงมือด้วยตนเอง แถมยังให้พาพี่น้องมาด้วยอีกตั้งหลายคน
“มีคนจ่ายเงิน!” คิ้วของลั่วถูขมวดเล็กน้อย สูดลมหายใจเข้าลึก และกล่าวออกมาอย่างเฉยชาว่า “ลั่วเหยียน!”
จูฟังชงไม่ปฏิเสธและไม่ยอมรับ “ในเมื่อรับเงินจากคนเพื่อให้จัดการอีกคนมาแล้ว ดังนั้นเ้าต้องตายเท่านั้น!”
“เ้าจะตายเองหรือจะให้ข้าลงมือ ถ้าให้ข้าลงมือ เช่นนั้น เ้าจะตายอย่างทรมาน...” ศิษย์าคนหนึ่งของสมาคมซานชิงะโมาตรงหน้าลั่วถู กล่าวพร้อมส่งเสียงหัวเราะเย็น
“ข้าไม่มีรสนิยมเช่นนั้น บางทีไม่แน่อาจจะลากคนสองคนไปด้วยก็ไม่เลวนัก” ลั่วถูโบกมือ ฆ่าตัวตาย ช่างเป็สิ่งที่ไม่เคยอยู่ในหัวเลยสักนิด ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็ไม่มีสิทธิ์ส่งให้เขาฆ่าตัวตายทั้งนั้น
“เช่นนั้นก็ไปลงนรกซะ...” ศิษย์าสมาคมซานชิงคนหนึ่งกล่าวเสียงต่ำ เอียงร่างเล็กน้อย ก้าวหาอย่างรวดเร็ว ย่นระยะห่างหลายจั้งได้ด้วยการะโเพียงไม่กี่ครั้ง ก็มาโผล่ตรงหน้าลั่วถูแล้ว แต่วินาทีที่ร่างของเขากระโจนมาถึง กลับต้องหน้าถอดสี เพราะเขาเห็นหน้าไม้ในมือลั่วถูนั่นเอง จากนั้นตามด้วยเสียงยิง...
“เยว่เล่อระวัง...” จูฟังชงที่อยู่ด้านหลังหน้าถอดสีไม่ต่างกัน ตอนที่เยว่เล่อพุ่งเข้าใส่ ลั่วถูกลับสงบนิ่ง นิ่งเสียจนทำให้คนประหลาดใจ แต่วินาทีที่เยว่เล่อดีดตัวออกไป หน้าไม้ของลั่วถูก็ถูกยิงออกไปแล้วเช่นกัน กะเวลาได้แม่นยำไร้ที่ติ เยว่เล่อที่ร่างกายอยู่บนอากาศเดิมทีก็ไม่อาจเปลี่ยนกระบวนท่าเพื่อหลบได้เสียด้วย
ลั่วถูพบว่าขณะที่เขาอยู่ในสถานการณ์ที่สงบนิ่งเป็พิเศษ การเคลื่อนไหวในสายตาที่เขาดูคล้ายจะช้าลง เมื่อร่างของเยว่เล่อขยับ ลั่วถูจับจังหวะวิถีะโที่ลอยอยู่กลางอากาศได้ และเลือกยิงหน้าไม้ในมือออกไปในจังหวะนั้นอย่างไม่ลังเล
เยว่เล่อประเมินลั่วถูต่ำเกินไป ว่าเป็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เขาแค่ต้องโจมตีสายฟ้าแลบก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามแหลกเป็ผุยผงได้ง่ายดายแล้ว เขาคิดจะแสดงความสามารถต่อหน้าของจูฟังชง ดังนั้นจึงใช้วิธีที่บ้าบิ่นที่สุดพุ่งไปที่ลั่วถูโดยตรง... ในตอนที่เขาเห็นหน้าไม้ในมือของลั่วถู สายลมที่แหลมคมก็ทะลวงร่างของเขาไปเสียแล้ว การใช้แรงพุ่งเข้าโจมตีอย่างมหาศาลทำให้ร่างกายที่ลอยบนอากาศของเขาสั่นสะท้าน และร่วงลงมาเหมือนกับนกปีกหัก
พอลั่วถูลงมือ ร่างของเขาก็วิ่งหนีไปในป่าที่อยู่ด้านซ้ายของถนนเสียแล้ว เดิมทีเขาก็ไม่ได้รอดูว่าการโจมตีของเขาจะเข้าเป้าหรือไม่ด้วยซ้ำ พอสบโอกาสโจมตีออกไปก็รีบเผ่นหนีทันที...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้