ห่าวเหม่ย
งดงามยิ่ง?
เมื่อยินคำพูดของอั้นจิ่ว เจียงจื่อเฮ่าพลันหน้าแดงในตอนแรก หลังจากแดงก็กลายเป็ดำ ผมของเขาตั้งชี้ด้วยความโกรธ ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่าตนเองเป็คนใจแคบยิ่งนัก ทว่ายามนี้สตรีผู้นั้นไม่เพียงแต่โกงเงินของเขาสองหมื่นตำลึง ซ้ำยังขโมยดอกบัวพันปีของเขาไปอีก นางเล่นเล่ห์กับเขาจนทำให้เขารู้สึกเหมือนตนเองเป็คนโง่
อีกทั้งยังให้เขายังเรียกนางว่า 'ท่านแม่นางห่าว' ที่ออกเสียงพ้องกับคำที่มีความหมายว่า 'แม่นางที่ดี' อีก
สตรีผู้นี้ สตรีผู้นี้... หลงตัวเองยิ่งนัก!!!
เจียงจื่อเฮ่าหอบหายใจแรงราวกับเสือดาวตัวน้อยที่รู้สึกอึดอัดใจยิ่ง หลังจากนั้นไม่นานเขาพลันคำรามเสียงดังก้อง “ช่างไร้เหตุผลนัก ข้าต้องตามหานางให้พบให้จงได้! ”
เสียงคำรามนี้แข็งแกร่งขนาดที่ทำให้นกที่อาศัยอยู่ในูเาและลำธารสะดุ้งใ
“องครัชทายาท ท่านช่วยข้าตามหาแม่ลูกคู่นี้ที ข้าอยากจะเอาดอกบัวพันปีคืนมา รวมถึง้าแก้แค้นให้กับความอัปยศอดสูที่ข้าได้รับ ข้าต้องจับนางมาแขวนและเฆี่ยนลงโทษอย่างหนักให้จงได้ ให้นางได้รู้จุดจบของการล่วงเกินคุณชายเจียงผู้นี้...”
“ไม่ เปิ่นกงจะลงมือเอง เ้าตามอั้นจิ่วไปร่างรูปเสมือนของแม่ลูกคู่นี้เถิด” ตี้หลิงหานเปิดปากกล่าว
“องค์รัชทายาท ท่านไม่เชื่อข้าหรือ? ข้าอยากจับนางด้วยตัวของข้าเอง...”
เจียงจื่อเฮ่าคำรามเสียงดังก้อง ทว่าก่อนที่เขาจะพูดจบ ั์ตาเ็าของตี้หลิงหานพลันหันมาสบเข้ากับเขา ชายหนุ่มรู้ตัวทันทีว่าตนเองได้ก่อหายนะครั้งใหญ่ขึ้นมาแล้ว เขากลืนน้ำลาย คำพูดที่จ่อชิดริมฝีปากพลันหักเลี้ยวโค้งทันที “องค์รัชทายาท หลังจากที่ท่านจับนางได้ รบกวนท่านช่วยบอกข้าที ข้าจะทำให้สตรีผู้นั้นมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตาย”
เจียงจื่อเฮ่าทำมือปาดคอตนเองประกอบคำ
ตี้หลิงหานมิได้สนใจเขา ส่วนเจียงจื่อเฮ่าก็ยังคงพูดต่อไปไม่หยุดพัก
“องค์รัชทายาท ข้าทำดอกดอกบัวพันปีหายไป พิษของท่านจะทำเช่นไรกันดี? ”
"เดิมทีดอกบัวพันปีนี้ไม่อาจถอนพิษของข้าได้ ทำได้เพียงยับยั้งเอาไว้ชั่วคราว แต่การมาเข้ามายุ่งกับของของเปิ่นกงย่อมต้องมีราคาที่ชดใช้"
เสียงของตี้หลิงหานเย็นเฉียบอย่างหาที่เปรียบมิได้ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความโเี้อำมหิต
เจียงจื่อเฮ่ากลืนน้ำลาย ลูบหน้าอกของตนเอง องค์รัชทายาทน่ากลัวยิ่งนัก รู้สึกเหมือนว่าเขากำลังอยากจะฆ่าใครสักคน โชคดีที่ท่านแม่ของเขาเป็ท่านน้าขององค์รัชทายาท เฮ้อ... ขอบคุณท่านแม่ มิเช่นนั้นความผิดที่ทำลงไปนี้ เกรงว่าคงจะถูกตัดหัวแล้ว...
ตี้หลิงหานเดินจากไป ส่วนอั้นจิ่วก็พาเจียงจื่อเฮ่าไปร่างภาพเสมือน
"อั้นจิ่ว ข้าบอกเ้าให้ สตรีผู้นั้นงดงามยิ่งนัก แม้แต่หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรต้าโจว ฉู่หลิวซวงยังงามเทียบนางไม่ได้ ไม่คิดเลยว่านางจะเป็หัวขโมย ข้าประมาทไปแล้วจริงๆ "
เจียงจื่อเฮ่ามีสีหน้าโกรธเคือง
อั้นจิ่วทำหน้าตาย “คุณชายเจียง ฝ่าาทรงตามใจท่านเกินไปแล้วจริงๆ หากเป็ผู้อื่นทำผิดพลาดเล็กน้อยเช่นนี้ ข้าเกรงว่าพวกเขาคงจะถูกฆ่าตายไปนานแล้ว ท่านหยุดพูดแล้วตามข้ามาเพื่อวาดภาพเสมือนเถิด บางทีเราอาจจะได้ดอกบัวพันปีคืนมาเพื่อชดเชยความผิดพลาดของท่านก็เป็ได้”
“ใช่ ถูกต้อง ไปกันเถิด ข้าจำหน้าสตรีคนนั้นได้แม่น แค่เพียงหลับตาก็นึกออกทันที”
อั้นจิ่ว "...! "
“คุณชายเจียง ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับแม่นางผู้นั้นบริสุทธิ์ใช่หรือไม่?”
“หมายความว่าอย่างไร?”
ใบหน้าของเจียงจื่อเฮ่าขลาดเขลา ส่วนใบหน้าของอั้นจิ่วจริงจังยิ่ง “ข้าน้อยกำลังคิดว่าเหตุใดดอกบัวพันปีที่ซ่อนมิดชิดแนบกายของท่านถึงถูกอีกฝ่ายหนึ่งขโมยไปได้ มีเื่อันใดที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นระหว่างพวกท่านสองคนหรือไม่? "
“อั้นจิ่ว เ้ากำลังพูดถึงเื่อันใด? ข้าเจียงจื่อเฮ่าเป็คนทำตามใจตัวเองเช่นนั้นหรือ? แม้ข้าจะนั่งรถม้าไปกับนาง ทว่ายังนั่งห่างจากนางถึงสามหมี่ [1] อีกทั้งข้ายังหลับตาไม่ปรายมองนางเลยตลอดทาง”
"อืม"
“อืม อืมอันใดของเ้า อย่ามากล่าวหาทำลายความบริสุทธิ์ของข้านะ”
เจียงจื่อเฮ่าโกรธยิ่งนัก
“หากกล่าวเช่นนี้ แสดงว่าสตรีผู้นั้นมิใช่ยอดเซียนจอมโจรหรอกหรือ?”
น้ำเสียงของอั้นจิ่วแฝงความไม่เชื่อไว้อย่างชัดเจนยิ่งนัก ต้องบอกว่าอั้นจิ่วเดาถูกจริงๆ
แสงพระอาทิตย์ตกทอดยาวส่องกระทบร่างของทั้งสองเป็เวลานาน เจียงจื่อเฮ่ายังคงอธิบาย ทว่าความสงสัยของอั้นจิ่วก็ยังคงชัดเจนอยู่เช่นเดิม
แผ่นดินชางหลาน เก้าอาณาจักร สี่แคว้น ต้าโจวนั้นเป็อาณาจักรที่ใหญ่โตที่สุด เป็อสณาจักรที่สืบทอดสายเืต่อมาจากเจียงซาน เป็อันดับหนึ่ง
พระอาทิตย์กลางฤดูร้อนสาดส่องลงมาที่เมืองหลวงแห่งอาณาจักรต้าโจวที่หลับใหล กำแพงเมืองร้อยจ่าง [2] ใหญ่โตโอ่อ่า ประตูสีดำมืดกว้างเก้าฉื่อ [3] ประตูเมืองสลักรูปเทพนกอินทรีโกรธเกรี้ยวเอาไว้ ดวงตาที่หยิ่งทะนงคู่หนึ่งจ้องมองไปยังผู้คนที่เดินเข้าออกไปมาทุกคน...
ประตูเมืองเปิดอยู่และทุกคนที่้าเข้าเมืองจะต้องเตรียมกระดาษยืนยันตัวตนผ่านด่านเข้าออกพร้อมไว้อยู่ในมือ
ในยามนั้น มีเกวียนลาที่วิ่งโยกเยกเข้ามา คนขับคือหยวนเป่า สองแม่ลูกมาถึงเมืองหลวงแห่งอาณาจักรต้าโจวช้ากว่าเจียงจื่อเฮ่าถึงสามวัน ฮวาเหยียนนั้นหลับมาตลอดทางและเพิ่งถูกหยวนปลุกให้ตื่น
“ท่านแม่ ถึงประตูเมืองแล้ว ตื่นเถิดขอรับ”
เสียงของหยวนเป่าดังขึ้น
ฮวาเหยียนยืดเอวของนางอยู่ในรถลา นางเปิดม่าน โผล่ศีรษะออกมาและเดินลงจากรถ ในมือถือกระดาษแสดงตัวตนเอาไว้ กระดาษยืนยันตัวตนสองฉบับนี้เป็ของปลอมที่ผู้เฒ่าติงทำให้ ซึ่งเขาบอกว่าสามารถนำมาใช้ยืนยันเข้าเมืองได้โดยไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน
"เอาล่ะ เข้าเมืองกันเถิด"
ฮวาเหยียนถอนหายใจหนึ่งครั้ง นางขยับมานั่งข้างๆ หยวนเป่า ขับรถเกวียนลาเพื่อเตรียมเข้าเมือง
ใบหน้าเล็กๆ ของหยวนเป่าตึงเครียดและดูกังวลอยู่เล็กน้อย หยวนเป่ากะพริบตาที่กลมโตใสแจ่วราวกับกระเบื้องเคลือบ เด็กน้อยกล่าวเสียงเบาว่า “ท่านแม่ ตระกูลมู่… ข้าหมายถึงท่านตากับท่านยายจะชอบข้าหรือไม่ขอรับ? ”
ท่าทางที่วิตกกังวลของหยวนเป่า ทำเอาใจของฮวาเหยียนรู้สึกเ็ป เด็กคนนี้โตขึ้นมากทีเดียว ทว่าคนเดียวที่เขาสนิทสนมด้วยกลับมีแค่ท่านผู้เฒ่าติงแล้วก็ตัวนางเอง เด็กน้อยเฝ้าปรารถนาถึงความรักในครอบครัวและปรารถนาที่จะได้รับความรักจากคนโดยรอบ
นางเอื้อมมือไปลูบผมของหยวนเป่า ก่อนกล่าวว่า "ย่อมเป็เช่นนั้นแน่ หยวนเป่าทั้งน่ารักทั้งฉลาดเฉลียว ท่านตาท่านยายจะต้องชอบเ้าอย่างแน่นอน"
ด้วยคำยืนยันของฮวาเหยียน หยวนเป่าน้อยถึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ทว่าเขาก็ยังคงประหม่าอยู่ดี
"ไปกันเถิด"
ฮวาเหยียนขับเกวียนลาอย่างสบายอกสบายใจไปทางประตูเมือง หลังจากต่อแถวเป็เวลานาน ในที่สุดก็ถึงตาของพวกเขาทั้งสองคน
“จางซุ่ยฮวา? หวางเอ๋อร์เป่า? ”
องครักษ์ที่ตรวจสอบข้อมูลประจำตัวมองไปที่จดหมายระบุตัวตนของฮวาเหยียน เขาอ่านชื่อทั้งสองออกมาตรงๆ อาจคาดไม่ถึงว่าสองแม่ลูกที่งดงามจะไร้รสนิยมถึงเพียงนี้
ฮวาเหยียนและหยวนเป่าขมวดคิ้วเข้าหากัน ท่านผู้เฒ่าติงนี่นิสัยแย่เสียจริง แม้ว่ามันจะเป็ตัวตนปลอม ทว่าเหตุใดถึงเลือกสองชื่อนี้กันเล่า? นามนี้คู่ควรกับรูปลักษณ์ที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ของพวกเขาหรือ?
“พี่ชาย พ่อแม่ของข้าไม่รู้หนังสือจึงตั้งชื่อข้าอย่างไม่ละเอียดรอบคอบเช่นนี้”
ด้วยดวงตาที่สดใสและฟันขาวที่สวยนั้น ยามที่ยิ้มให้องครักษ์ พลางพูดจาอย่างอ่อนหวาน องครักษ์ถึงกับรู้สึกว่าจมูกของตนร้อนผ่าว เขารีบยกมือขึ้นถูจมูก ในใจก็คิดเพียงว่าสตรีผู้นี้ช่างงดงามเสียจริง เขาโบกมืออย่างรวดเร็ว “ผ่าน ผ่าน”
"ขอบใจพี่ชาย"
ฮวาเหยียนโบกมือลา แขนขาวนั้นดูเหมือนจะเปล่งประกายท่ามกลางแสงแดด ผู้คนที่ได้เห็นล้วนยืนนิ่งค้าง ผิวของนางขาวเกินไปแล้วกระมัง
หยวนเป่าที่อยู่ด้านข้างถอนหายใจและส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ได้ ท่านแม่ของเขาดูเหมือนเด็กที่ยังไม่โต ซึ่งนั่นพาให้ใจของเขากังวลยิ่ง
ระหว่างทางไม่รู้ว่ามีบุรุษกี่คนแล้วที่อยากเป็บิดาของเขา ดูองครักษ์ผู้เฝ้าประตูนั่นสิ เืกำเดาของเขาไหลออกมาแล้ว
หลังจากที่เข้าประตูเมืองได้แล้วก็พบคนขับรถหลายคนกำลังรออยู่ไม่ไกลกำลังเชิญชวนลูกค้า ฮวาเหยียนไม่รู้จักตระกูลมู่ นางไม่ทราบว่าจวนตระกูลมู่นั้นอยู่ที่ใด นางจึงขอให้หยวนเป่าหาคนขับรถที่ดูน่าเชื่อถือและซื่อสัตย์มาทำข้อตกลง รับเงินมัดจำเพื่อนำจดหมายไปส่งที่ตระกูลมู่
ยามที่พวกนาง้าหาที่ร่มเพื่อพักผ่อน พลันได้ยินเสียงกีบม้าวิ่งห้อตะบึงเข้ามา กลุ่มคนชั้นสูงขี่ม้าวิ่งตรงเข้ามาพลางะโก้อง “หลบไป ล้วนหลบไปให้พ้น ทุกคนหลีกทาง ประตูเมืองจงเปิดออก หลิวซวงจวิ๋นจู่ [4] กำลังจะออกนอกเมือง”
เชิงอรรถ
[1] หมี่ หน่วยความยาว เท่ากับเมตร
[2] จ่าง หน่วยความยาว เท่ากับสามจุดสามสามเมตร
[3] ฉื่อ หน่วยความยาว เท่ากับฟุต
[4] จวิ๋นจู่ 郡主 ตำแหน่งองค์หญิงหรือท่านหญิง ขึ้นอยู่กับการสืบสายเืทางบิดากับจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเชื้อพระวงศ์หญิง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้