เขาจ้องมองนาง ฝ่ามือของโม่ซีเลื่อนลงไปที่คอและไหล่ของนางอย่างแ่เบา และลูบคอของนางราวกับกำลังลูบแมว หัวใจของเขาอ่อนโยนลง คิดว่าหากนางจะกัดเขาก็ย่อมได้
น่าแปลก แม้เขาจะไม่รู้ว่านางเป็ใคร แต่กลับยอมให้นางเข้าใกล้ตัว เสมือนว่ากำลังขุดหลุมพรางอันตรายไว้ข้างกาย ทว่าเขากลับคิดอยากจะเก็บนางไว้
เขาคิดว่าการเอาใจใส่ใครสักคนนั้น ไม่จำเป็ต้องอธิบายให้ผู้ใดฟัง แต่เมื่อยามมีความรู้สึกผูกพัน ย่อมมีความเ็ปจากการสูญเสีย เขายังไม่พร้อมที่จะให้คำมั่นสัญญาและยังไม่พร้อมเผชิญกับความสูญเสีย จึงตัดสินใจกับตัวเองว่าจะปฏิบัติต่อนางในฐานะนางบำเรอเท่านั้น
เช่นเดียวกับนางบำเรอทุกคนในจวนที่เขาจะเอาใจใส่เมื่อมาถึงที่นี่ครั้งแรก ในเมื่อไม่รู้ว่าความรักที่มีต่อนางมาจากไหน ก็ควรควบคุมตัวเองไว้จนกว่าความรู้สึกนี้จะจางหายไป บางทีเขาอาจเพียงรู้สึกแปลกใหม่กับปฏิกิริยาของนาง? หลังจากร่วมหลับนอนแล้ว นางอาจจะไม่สำคัญกับเขาอีกต่อไป และเขาจะกลับสู่สภาวะปกติ เมื่อคิดถึงสิ่งนี้เขาก็รู้สึกโล่งใจ
“มันไม่เจ็บแล้ว หยุดลูบได้แล้ว”
กลิ่นหอมดอกบัวจากตัวเขาโชยมาแตะปลายจมูกของนาง ทั้งคู่ต่างนิ่งเงียบ
บรรยากาศในห้องเริ่มคลุมเครือมากขึ้น ฉีซีจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากห้ามปรามการกระทำของเขา
“อืม” โม่ซีส่งเสียงตอบรับ วางแขนลง หันไปด้านข้างเพื่อเปลี่ยนเป็ยาสมานแผลและกล่าวเสียงเรียบ “มาเถิด ยื่นขามาให้ข้า ข้าจะทายาให้เ้า”
“ข้าทำเองได้” ฉีซีปฏิเสธและซ่อนเท้าไว้ใต้กระโปรงเพื่อป้องกันไม่ให้เขาแตะต้องมัน
โม่ซีเพียงขมวดคิ้วมองนางและไม่พูดอะไร ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความดื้อดึง ไม่มีผู้ใดสามารถเปลี่ยนใจเขาได้
ทั้งสองยื้อยุดกันอยู่นาน จนกระทั่งโม่ซีพยายามดึงข้อเท้าของนาง ฉีซีจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า "ท่านเป็ถึงชินอ๋อง เหตุใดจึงชอบปรนนิบัติผู้อื่นมากนักล่ะ?"
โม่ซีตะลึงงันไปชั่วครู่ คำพูดของนางไม่ใช่การเหยียบย่ำความปรารถนาดีและความโปรดปรานของเขาหรอกหรือ?
เขาตัวแข็งทื่ออยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็พูดลอดไรฟันมาประโยคหนึ่งว่า "กูมีความสุข"
ช่างเอาแต่ใจตัวเองยิ่งนัก
หากพูดเพียงเท่านี้แล้วจบก็คงดี โม่ซีใช้ปลายนิ้วเกี่ยวคางของฉีซีขึ้นมาด้วยท่าทีราวกับจะแก้แค้น ร่างสูงโปร่งของเขาโน้มเข้าหานางอย่างจงใจ มีรอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากและเอ่ยว่า "เ้าคือสตรีที่กูซื้อมา กูอยากจะลูบไล้เ้าอย่างไรก็ย่อมได้"
หลังจากกล่าวจบ กรงเล็บของหมาป่าก็โจมตีไปที่หน้าอกของนาง กอบกุมหน้าอกขาวนวลอันอ่อนนุ่มของนางไว้
คำพูดและการกระทำของเขาช่างเป็การเร้าอารมณ์
ฉีซีเกลียดบุรุษที่ชอบหยอกเย้าเช่นนี้ นางรู้สึกอับอายและโกรธมาก ทันใดนั้นจึงเหยียดขาเตะโม่ซี! โม่ซีตอบสนองอย่างรวดเร็วและคว้าขาของนางไว้ จากนั้นนางก็เตะขาอีกข้างที่เหลือใส่เขา
“บังอาจ! กล้าดีอย่างไรมาหยาบคายใส่กูเช่นนี้! อยากตายอย่างนั้นหรือ!”
โม่ซีตวาด วางฝ่าเท้าทั้งสองของนางลงบนฝ่ามือของเขา และกำด้วยนิ้วมือทั้งสิบไว้แน่น
ฉีซีเสียหลักเซไปข้างหลัง จนท้ายทอยเกือบจะกระแทกอีกครั้ง โม่ซีรีบยื่นมือออกมารองไว้เพื่อป้องกันบริเวณท้ายทอยของนาง
แรงดึงฉับพลันทำให้ทั้งคู่ล้มกลิ้งลงบนตั่งนุ่ม
“อา ท่านทำข้าเจ็บตัวอีกแล้ว!” ฉีซีร้องคร่ำครวญด้วยความเ็ป และยกมือขึ้นเพื่อผลักโม่ซีออกไป
“ผู้ใดใช้ให้เ้าทำตัวหยาบคายไร้มารยาทเช่นนี้กันล่ะ! ตระกูลใดเป็ผู้อบรมสั่งสอนสตรีเช่นเ้ามากันแน่? พูดมา!” โม่ซีกดขาของนางแน่นเพื่อไม่ให้นางขยับได้
“แล้วท่านเกี่ยวอะไรด้วย! ท่านประพฤติตนตามมารยาทหรือเปล่า? ท่านทำตัวรุ่มร่ามเช่นนี้ แล้วในอนาคตข้าจะไปแต่งงานกับผู้ใดได้! ” ฉีซียิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อได้ยินเขาก่นด่าพ่อแม่ของนางทางอ้อม นางพยายามดิ้นรนอย่างสุดแรงเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากการควบคุมของเขา อาภรณ์ของนางหลุดลุ่ย ทว่าไม่สามารถขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย
“กลัวว่าจะแต่งงานไม่ได้ เหตุใดจึงไม่ตบแต่งกับข้าเสียล่ะ!” โม่ซีก็ะโตามนางไปด้วย
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ทั้งคู่ก็ตกตะลึง
บรรยากาศอึดอัด หลังจากนั้นไม่นานฉีซีก็เอ่ยขึ้น
“...ไร้สาระ” เสียงของนางแ่เบาราวกับยุง
พวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จะพูดถึงเื่แต่งงานได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความแตกต่างของสถานะทางสังคมจึงเป็ไปไม่ได้เลยที่จะแต่งงานกัน ทว่าสำหรับโม่ซี หากเขา้าให้นางเป็นางบำเรอ ทว่านางก็ไม่มีเหตุผลใดจะปฏิเสธได้ เพียงว่าซีอ๋องแห่งต้าจิ้งมีสถานะสูงส่ง เป็รองจากคนเพียงผู้เดียว และเหนือกว่าคนหลายหมื่นคน ทว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกสตรีปฏิเสธ ความรู้สึกของโม่ซีปะปนกันไปหมด เขาไม่ได้โต้แย้งนาง ลุกขึ้นอย่างเงียบๆ เปิดขวดยาและทายาให้นาง
เมื่อเห็นว่าเขาดูสงบและไม่แสดงท่าทีโกรธเคือง ฉีซีจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ทว่านางไม่เคยคิดเลยว่าการที่โม่ซีทายาให้จะนำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่นตอนนี้ที่นางแทบจะคลั่งไคล้และต้องบีบขาของตนแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้ตนส่งเสียงหัวเราะหรือส่งเสียงครวญครางออกมา
คันมาก!
และจั๊กจี้มากเช่นกัน!
เหตุใดแค่การทายา เขาถึงต้องทาอย่างเชื่องช้าและระมัดระวังถึงเพียงนี้? จงใจอย่างนั้นหรือ? ทรมานนางอย่างนั้นหรือ?
ทว่าท่าทีจริงจังและมุ่งมั่นของโม่ซี เห็นได้ชัดว่าเขากำลังทุ่มเทให้กับการทายาให้นาง!
แต่นางกลับดื้อดึง เพียงััเล็กน้อยกลับตอบสนองอย่างรุนแรง!
เป็ไปได้ไหมว่าซีอ๋องพูดถูก จิตใจของนางเต็มไปด้วยความคิดเลยเถิด?
ท้องน้อยของนางมีอาการชาและรู้สึกเสียวซ่าอย่างบอกไม่ถูก ลมหายใจราวกับติดอยู่ในลำคอ จะหายใจออกก็ไม่ได้ จะหายใจเข้าก็ไม่ได้เช่นกัน นางกลัวว่าเสียงลมหายใจแ่เบาจะดึงดูดความสนใจของโม่ซี ทำให้เขาหัวเราะเยาะนาง นางจึงทำได้เพียงหลับตาและอดทนกับมัน
ทว่าแค่ทายา เหตุใดเขาจึงบีบฝ่าเท้าและข้อเท้านางเช่นนี้ล่ะ?
ทั้งรู้สึกคัน ทั้งรู้สึกสบาย
ทว่ายังทำให้ร่างกายของนางรู้สึกราวกับถูกแมลงกัดต่อย ทั้งชาและทั้งคันอีกด้วย
ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่จะหายใจออกยาวและงอเข่า
“ฮ้า──”
โม่ซีหยุดมือที่เคลื่อนไหวอยู่อย่างกะทันหัน
เกิดอะไรขึ้นกับเสียงหายใจยาวผสมกับเสียงครวญครางอันละเอียดอ่อนนี้กัน?
เขาเงยหน้าขึ้นมองฉีซี เห็นว่าดวงตาของนางราวกับดาวหางที่พาดผ่าน พวงแก้มของนางสดใสกว่าดอกท้อ อาภรณ์ที่หลุดลุ่ยยังไม่ได้ถูกจัดเข้าที่ คอเสื้อเปิดกว้าง เผยให้เห็นอกขาวราวหิมะเล็กน้อย
โม่ซีกัดริมฝีปาก สูดหายใจลึกๆ โดยไม่รู้ตัว และหลับตาลง
เสียงครวญแ่ทำลายความเงียบสงบ และกระจายบรรยากาศคลุมเครือ ลมพัดโชยเบาในปลายฤดูใบไม้ผลิ เสียงใบไม้ไหวดังอยู่ด้านนอกตำหนัก ม่านโปร่งปลิวไสว ทว่าไม่อาจพัดพาบรรยากาศอันละเอียดอ่อนรระหว่างคนสองคนให้จางหายไปได้
ฉีซีเขินอายและรีบอธิบาย "ท่านทำให้ฝ่าเท้าของข้าคัน จึงเป็เื่ปกติที่ข้าจะอดไม่ได้และส่งเสียงเช่นนั้นออกไป! ไม่มีความหมายอื่นใด!"
นางพูดพลางดิ้นรนดึงขากลับ
อย่างไรก็ตามโม่ซีจับข้อเท้าของนางไว้แน่น ดวงตาแฝงความหมายลึกซึ้ง โดยไม่รู้ว่ากำลังวางแผนอะไรอยู่ จนฉีซีรู้สึกขนลุกขึ้นมา
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขาทายาและช่วยนวดคลายความตึงที่น่องได้ และการััของเขาก็ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกใหม่ ทว่าเขาทายาให้นางตามความปรารถนาของเขาเอง นางเพียงยอมอดทน ไม่ได้มีเจตนาจะยั่วยวนเขาเลย!
ฉีซีพยายามชักขากลับสองถึงสามครั้ง ทว่าเขาไม่ยอมปล่อย นางจึงพูดกับเขาอย่างจนปัญญา " ซีอ๋อง ช่วยเมตตาข้าหน่อยได้หรือไม่?" เป็คำแฝงนัยยะ
"ไม่ได้"
น้ำเสียงเย็นเฉียบและชัดเจน
สายตาของเขาคมกริบ ทว่าไม่ได้ดูน่าหวาดกลัว กลับดูเหมือนว่าเขา้ากลืนกินนางเข้าไปทั้งตัวมากกว่า
นางแทบไม่อาจสบตากับเขาได้ จึงก้มศีรษะลงและเห็นว่าคอเสื้อเปิดกว้าง เผยให้เห็นเนินเนื้อภายใน นางตื่นใ รีบกระชับคอเสื้อเพื่อปกปิดเรือนร่างอันงดงาม ทว่าเขายังคงจ้องนางด้วยสายตาดุจหมาป่า สายตาที่เปล่งประกายทำให้หัวใจของนางเต้นแรงและรู้สึกตื่นตระหนก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้