“แค่ก แค่ก...”
เจียงจื่อเฮ่าาเ็สาหัส เขาส่งเสียงกระแอมไอออกมา จนในที่สุดก็ได้รับความสนใจจากเด็กน้อย
เด็กน้อยคนนั้นกลอกตาพลางเหลือบมองเจียงจื่อเฮ่าหนึ่งครั้ง “ท่านแม่ แล้วบุรุษผู้นี้เล่า?”
หญิงสาวไม่แม้แต่จะลืมตามอง นางกลับใช้มือพัดหาลม อากาศช่างร้อนเสียจริง
ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนี้คือฮวาเหยียนที่ตกหน้าผาไปเมื่อสี่ปีก่อน ส่วนเด็กคนนี้ก็คือทารกที่อยู่ในผ้าอ้อมนั้น ถึงวันนี้เวลาล่วงเลยผ่านมาแล้วสี่ปี ยามนี้เด็กน้อยอายุได้ห้าขวบ ฮวาเหยียนตั้งชื่อให้เขาว่ามู่เนี่ยนเฉิน และชื่อเล่นก็คือ หยวนเป่า
“หยวนเป่า ตอนที่ออกจากหุบเขา แม่สอนเ้าว่าอย่างไร? อย่าเที่ยวยุ่งเื่คนอื่น เ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็คนดีหรือคนเลว พวกเราเป็หญิงหม้ายลูกกำพร้าจึงต้องระมัดระวังให้มาก ดังนั้นปล่อยเขาเกิดเองตายเอง [1] อยู่ที่นี่เถิด ”
ฮวาเหยียนโบกมือ นางถูกแสงอาทิตย์สาดส่องจนรำคาญ น้ำเสียงนั้นช่างเรียบเฉยและไร้อารมณ์
เจียงจื่อเฮ่าที่นอนหงายอยู่บนพื้นได้ยินคำของฮวาเหยียนก็แทบจะกระอักเืออกมา ผู้หญิงคนนี้ แม้จะเห็นคนใกล้ตายก็ยังไม่คิดที่จะช่วยหรือ?
“แม่นาง ข้าที่อยู่ตรงนี้เป็คนดี ข้าถูกคนทรยศลอบทำร้ายจนได้รับาเ็สาหัส หวังว่าแม่นางจะช่วยชีวิต”
เขาทนต่ออาการปวดและมึนหัว รีบร้อนเอ่ยปากออกมา
เวลานั้นเอง เขาเห็นสตรีผู้นั้นกลอกตา สายตาทอดมองมาที่เขา คิ้วของนางเลิกขึ้นเล็กน้อย เผยสีหน้าชั่วร้าย เห็นนางแย้มยิ้มเพียงเล็กน้อย “คุณชายท่านนี้ เ้าถูกคนทรยศลอบทำร้าย ไม่ได้ถูกข้าลอบทำร้ายเสียหน่อย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าอย่างนั้นหรือ? ”
เจียงจื่อเฮ่าสำลักราวกับมีกะละมังสาดน้ำเย็นลงมาจากฟ้า
สตรีผู้นี้เหตุใดถึงได้พูดจายากเย็นเช่นนี้ ใบหน้าหล่อเหลาพลันแดงระเรือขึ้นมาทันที
แต่เวลานี้ด้านหน้าไม่มีหมู่บ้าน ด้านหลังไม่มีร้านค้าใดเลย นอกจากสตรีที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดที่สามารถช่วยเขาได้อีกแล้ว แม่ลูกคู่นี้น่าจะเป็ฟางเส้นสุดท้ายในการช่วยชีวิตของเขา
“แม่นาง ข้าผู้นี่คือเจียงจื่อเฮ่า บุตรชายของแม่ทัพเจียงแห่งอาณาจักรต้าโจว ที่ส่วนล่างของร่างกายมีป้ายประจำตัวที่สามารถพิสูจน์ได้ ข้ามิใช่คนเลวอย่างแน่นอน หากแม่นางสามารถพาข้ากลับไปยังตระกูลเจียงในต้าโจวได้ ข้า เจียงจื่อเฮ่าจะขอบใจแม่นางเป็อย่างยิ่ง”
เจียงจื่อเฮ่ารีบพูดออกมาอย่างร้อนรน แต่กลับไม่เห็นว่าทันทีที่จบประโยค คิ้วของฮวาเหยียนที่กำลังยืนพิงอยู่ข้างรถลาจะขยับแม้แต่นิด
บุตรชายท่านแม่ทัพแห่งอาณาจักรต้าโจว
ความทรงจำราวกับย้อนกลับไปเมื่อสี่ปีก่อน สตรีที่มีนามว่ามู่อันเหยียนคนนั้น คนที่ยืนอยู่ต่อหน้านางั้แ่มีชีวิตจนตายและสลายหายไปจากที่นั่น ก่อนที่นางจะตาย ประโยคสุดท้ายของนางก็คือ “นับจากนี้ เ้าคือธิดาแห่งท่านอ๋องหลู่หนานแห่งต้าโจว”
ฮวาเหยียนกะพริบตาแล้วพาตัวเองหลุดออกจากความทรงจำ ครั้งนี้ที่นางพาเด็กน้อยออกจากหุบเขาก็เพื่อที่จะกลับไปที่จวนของท่านอ๋องหลู่หนานแห่งอาณาจักรต้าโจวทำความรู้จักบรรพบุรุษและกลับสู่ตระกูล
นางหันกลับมามองเจียงจื่อเฮ่าด้วยสีหน้าที่ยากจะคาดเดาได้ นางอาศัยอยู่ในหุบเขามาถึงสี่ปี ข่าวคราวล้วนถูกปิดกั้น เพียงแค่เดินทางออกจากหุบเขาก็ได้พบกับบุตรชายของแม่ทัพเจียงแห่งอาณาจักรต้าโจวแล้ว เช่นนั้นคงนับว่าเป็พรหมลิขิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ชายคนนี้กล่าวว่าขอบคุณเป็อย่างยิ่ง
ขอบคุณอย่างยิ่ง
หึหึ
“เอ่อ บุตรชายท่านแม่ทัพแห่งอาณาจักรต้าโจว ช่างเหมาะเจาะเสียจริง พวกเราก็กำลังจะเดินทางไปอาณาจักรต้าโจวเช่นกัน”
“จริงหรือ? เช่นนั้นพวกเราก็มีวาสนาร่วมกันอย่างแท้จริง”
เจียงจื่อเฮ่าได้ยินคำนั้นของฮวาเหยียนพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา น่าเสียดายที่เขาถูกพิษห้าประการทำให้ขยับร่างกายไม่ได้ ทำได้เพียงนอนอยู่ที่พื้นและกลอกตาไปมาเพียงเท่านั้น
ทันใดนั้นเขาก็เห็นฮวาเยียนเดินอย่างอ้อนแอ้นอรชรมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ทั้งยังคุกเข่าลงข้างกาย
มือคู่สวยประคองเข้าที่เอวเขา...
ฟู่
เจียงจื่อเฮ่าพ่นลมหายใจอุ่นๆ ออกมาหนึ่งครั้ง ร่างกายพลันขมวดเกร็งขึ้นมาทันที จู่ๆ ใบหน้าก็ขึ้นสีแดงระเรือ นี่ๆๆ สตรีผู้นี้กำลังจะทำอันใดกัน?
“แม่นาง ชายหญิงมิอาจ...” ใกล้ชิด
“อืม ที่แท้แล้วเป็บุตรชายท่านแม่ทัพจริงๆ ”
เจียงจื่อเฮ่ากำลังจะเปิดปากกล่าว กลับได้ยินคำพูดนั้นของฮวาเหยียน ป้ายประจำตัวที่เหน็บอยู่ข้างเอวกลับถูกหยิบออกมาวิจารย์ต่อหน้า คำพูดที่เพิ่งออกจากปากของเจียงจื่อเฮ่าจึงถูกดึงกลับไปทันที แม่นางผู้นี้ เขาทำขนาดที่เอาใจคนต่ำต้อยวัดท้องสุภาพบุรุษ [2] คิดว่าสตรีผู้นี้กำลังลวนลามเพราะความงามของเขาเสียอีก
ถุ้ยๆๆ แท้จริงแล้วคิดมากเกินไป
“ท่านชายคนนี้ เ้าโดนพิษห้าประการ ข้ามีโอสถที่จะช่วยถอนพิษให้เ้าได้ อยากได้หรือไม่? ”
พอได้ยินคำของฮวาเหยียน เจียงจื่อเฮ่าก็เหลือบสายตามองขึ้น ยามนั้นสายตาของเขาพลันสบประสานเข้ากับประกายระยิบในดวงตาของหญิงสาว
เจียงจื่อเฮ่าตกอยู่ในภวังค์ รู้สึกเพียงว่าหัวใจของเขาเต้นแรงยิ่งนัก
“เอา... เอาสิ”
“เม็ดละหมื่นตำลึง เอาหรือไม่? ”
“เอา... เอาสิ”
เจียงจื่อเฮ่าพยักหน้า ราวกับถูกคนกดหัวค้างเอาไว้
หลังจากนั้นปากของเจียงจื่อเฮ่าก็ถูกง้างออก เม็ดยาสีขาวกลิ้งเข้าไปในปากของเขา ยามที่เม็ดยาละลาย ความเย็นสดชื่นพลันแผ่กระจายไปทั่วทั้งปาก
ครู่ต่อมา เจียงจื่อเฮ่าก็รู้สึกว่าแขนและขาของตัวเองเริ่มขยับได้แล้ว สมองที่เสื่อมถอยและล่าช้าของเขาพลันฟื้นฟูกลับมาชัดเจนอีกครั้ง ฉับพลันนั้นจิตใจของเขาพลันแจ่มใสขึ้นมาทันที “แม่ แม่นาง เ้าเพิ่งบอกว่ายาหนึ่งเม็ดราคาเท่าไหร่นะ? ”
“หนึ่งหมื่นตำลึง”
ฮวาเหยียนเอ่ยปากอย่างไม่เกรงใจ
“เ้า เ้ากำลังรีดไถ่อยู่นี่”
เจียงจื่อเฮ่าเบิกตากว้าง หนึ่งเม็ดราคาหนึ่งหมื่นตำลึง? ล้อกันเล่นหรือ เขาสะสมสมบัติมานานหลายปีก็ยังมีแค่สองสามหมื่นตำลึงเท่านั้น ทว่ายามนี้เขากินยาที่ช่วยแก้พิษห้าประการ นางกลับ้าเงินหนึ่งหมื่นตำลึง?
เทพธิดาอันใด?
นี่ชัดเจนแล้วว่าเป็นางมารร้ายที่ล่อลวงให้เขามึนงงสับสน
“อันใดกัน? เ้าจะกลับคำหรือ? ”
สายตาเรียบเฉยของฮวาเหยียนมองไปที่ร่างของเจียงจื่อเฮ่า ยามนี้ที่จิตใจของเขาแจ่มใส ทว่าร่างกายอ่อนแอยิ่งนัก เขา้ารถลาของหญิงสาวในการเดินทางต่อ ดังนั้นเขาจะทำให้คนเบื้องหน้าต้องขุ่นเคืองเพียงเพราะเงินแค่หนึ่งหมื่นตำลึงได้อย่างไร
“ข้าไม่กลับคำ”
เจียงจื่อเฮ่าโบกมือ ท่าทางกล้ำกลืนฝืนทน
ฮวาเหยียนพยักหน้า มองบุรุษชุดแดงที่อยู่เบื้องหน้า หน้าตาของเขาน่ามอง คิ้วตางดงาม ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็หล่อเหลา
“ท่านแม่ เสี่ยวฮวาแค่แบกพวกเราสองคนก็เหนื่อยมากพอแล้ว หากแบกท่านลุงผู้นี้ไปอีก ข้าเกรงว่าพวกเราคงไปไม่ถึงเมืองหลวงนะขอรับ”
ในยามนั้นหยวนเป่าที่คอยอยู่ข้างๆ เดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว เด็กน้อยเปิดปากกล่าวด้วยเสียงที่ดังชัดเจน
เสี่ยวฮวาเป็ชื่อของเ้าลาตัวเล็กนั่น
“ใช่ เสี่ยวฮวาอายุแค่สี่เดือน ร่างกายและกระดูกยังอ่อนแอนัก แบกพวกเราสามคนเกรงว่าจะหนักเกินไป”
ฮวาเหยียนลูบคาง พลางทำใบหน้าเศร้าสร้อย
เจียงจื่อเฮ่าวางตัวไม่ถูก เขามองไปที่ลาน้อยนามว่าเสี่ยวฮวา นึกถึงเมื่อครู่ที่เ้าลาเพิ่งเตะสังหารนักฆ่าชุดดำไป ลาที่กล้าหาญแข็งแกร่งเช่นนี้ที่จะไม่สามารถแบกคนสามคนได้จริงหรือ?
แต่เมื่อเห็นท่าทีลังเลของสองแม่ลูก เขาก็รู้สึกกังวลใจ ร่างกายเขาไร้เรี่ยวแรงและไม่สามารถจะเดินเหินได้ ดังนั้นเขาจึงเอ่ยปากด้วยใจที่เต้นตึกตักว่า “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี? ”
สิ้นคำพลันเห็นสหายตัวน้อยยกมือขึ้น เปิดตาคู่โตที่เหมือนกับลูกผูเถา “ท่านลุง ท่านสามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ เพราะหากข้างหน้ามีโรงเตี๊ยม จะได้ใช้เงินแวะซื้อเสบียงให้เสี่ยวฮวาเพิ่มขอรับ”
สหายตัวน้อยหยวนเป่าพูดด้วยใบหน้าที่จริงใจ
เจียงจื่อเฮ่าไม่สามารถปฏิเสธได้จึงรีบพยักหน้า “ไม่มีปัญหา ลุงมีเงิน ลุงจะซื้อเสบียงให้เสี่ยวฮวา ้าเท่าไหร่หรือ”
“ไม่ต้องเยอะหรอกขอรับ แค่หนึ่งหมื่นตำลึงก็พอ”
หื้ม...
เจียงจื่อเฮ่าแทบจะกระอักเืออกมา
หนึ่งหมื่นตำลึง? เพื่อซื้อเสบียง? นี่มันลาแห่ง์หรืออย่างไร!
“ทำไมหรือ? ท่านลุงไม่ยอมหรือ? ถ้าหากไม่ยอมก็ช่างมันเถิด ข้ากับท่านแม่จะเดินทางกันต่อแล้ว”
เ้าเด็กน้อยหยวนเป่ามองมาที่เขาด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
เจียงจื่อเฮ่าเข้าใจแล้ว แม่ลูกคู่นี้กำลังหลอกเขา ปีศาจที่อยู่ในร่างสาวงามกับเด็กตัวน้อย พวกเขาล้วนไม่ใช่คนดี
“ยอมแล้ว ลุงยอมเ้าแล้ว”
เจียงจื่อเฮ่ากัดฟันอย่างเคียดแค้น
“ตกลงตามนั้น ท่านลุงช่างเป็คนดีเสียจริง ถ้าอย่างนั้นก็ประทับตราเป็หลักฐานไว้เถิดขอรับ”
เชิงอรรถ
[1] 自生自灭 เกิดเองตายเอง หมายถึง เป็ตายร้ายดีอย่างไรก็ปล่อยให้เป็เื่ของเขา
[2] เอาใจคนต่ำต้อยวัดท้องสุภาพบุรุษ 以小人之心,度君子之腹 หมายถึง ใช้ความคิดเห็นที่เลวไปคาดเดาคนที่มีคุณธรรมสูงส่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้