หลินซานหลางก้มหน้าเดินตามพี่สาวน้องสาวทั้งสามคน กำมือแน่นในความเงียบงัน
บิดามารดาผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดู… บุญคุณที่ให้กำเนิดและเลี้ยงดูนั้นสูงส่งเทียมฟ้า เมื่อเขามีอนาคตจริงๆ เขาย่อมดูแลบิดาและมารดา
แต่หลินฟู่อินคือผู้ที่สนับสนุนการศึกษาของเขา ซื้อพู่กัน หมึก กระดาษ แท่นฝนหมึก เครื่องเขียนสี่อย่างนี้ให้แก่เขา เขาย่อมไม่มีวันทำให้นางผิดหวัง!
“โอ้ ยังเช้าอยู่เลยก็กลับมาแล้ว ค้าขายเป็ไปด้วยดีหรือไม่?” ลุงหลิวเห็นพวกหลินฟู่อินมาจากระยะไกลก็ยิ้ม “ข้ารออยู่เชียว จะพาพวกเ้ากลับหมู่บ้าน พวกคนรอบเช้าต่างก็เสร็จธุระหมดแล้ว”
“เป็ไปด้วยดีเลยเ้าค่ะ ต้องขอบคุณลุงหลิวที่รอพวกเราด้วยนะเ้าคะ” หลินฟู่อินยิ้ม จากนั้นจึงมอบซาลาเปาเนื้อที่เหลือให้อีกฝ่าย “ลุงหลิวตื่นแต่เช้ามาขับเกวียน ป่านนี้คงหิวแล้ว รีบๆ กินอะไรรองท้องหน่อยนะเ้าคะ”
พอลุงหลิวได้เห็นซาลาเปาเนื้อ ท้องก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาจริงๆ ทว่ายังคงยิ้มปฏิเสธ “ฟู่อิน ขอบคุณน้ำใจเ้ามาก ลุงไม่หิวหรอก เ้ากินเถอะ!”
แม้จะปฏิเสธทว่าน้ำเสียงกลับไม่ทำให้อึดอัดใจ สีหน้ามีรอยยิ้มตลอดเวลา
เมื่อชายชราจากหมู่บ้านข้างๆ เห็นเช่นนี้ก็ยิ้ม กล่าวว่า “เด็กหมู่บ้านไหนกันล่ะนี่ ยอมมอบซาลาเปาเนื้อลูกโตๆ เช่นนี้ให้ผู้อื่นเสียด้วย เป็เด็กสบายๆ ดีจริงๆ!”
สบายๆ ประโยคนี้สำหรับชาวบ้านแถบนี้คือคำชม แปลว่าใจกว้างไม่ขี้เหนียว
ลุงหลิวยิ้ม “ตาเฒ่า นี่คือลูกสาวของเ้าสามสกุลหลินที่หมู่บ้านหูลู่ เ้าย่อมไม่รู้จักนาง!”
“ลูกคนที่สามของสกุลหลินหมู่บ้านหูลู่? ลูกสาวบ้านหลินหยวนที่ว่ากันว่าโดนลากลงแม่น้ำเซินสุ่ยนั่นน่ะหรือ?” ชายชราชะงัก จ้องมองด้วยสีหน้าไม่เชื่อ “ใครบ้างไม่รู้จักนาง? มิใช่ดาวหายนะที่เกือบโดนเผาทั้งเป็ในหมู่บ้านหูลู่นั่นหรอกหรือ?”
ลุงหลิวเห็นชายชราเอ่ยถึงดาวหายนะตาไม่กะพริบ สีหน้าก็หม่นครึ้มทันที จ้องอีกฝ่ายกลับไป “ตาเฒ่านี่ ข้าจะบอกให้ ดาวหายนะอะไรกัน? ล้วนแต่เป็เื่เข้าใจผิดทั้งนั้น!”
เข้าใจผิดอย่างไรนั้นลุงหลิวไม่อาจอธิบายออกไปได้ ใบหน้าจึงได้ไม่น่ามองนัก
ชายชราโคลงหัวไปมา มองหลินฟู่อินด้วยความสงสัย “แม่หนูนี่ก็ดูสนิทสนมกับผู้อื่นดีนี่? จะดูเหมือนดาวหายนะได้ยังไง? นักทำนายจ้าวทำนายผิดพลาดหรือ?”
เื่ที่นางเป็ดาวหายนะอะไรนั่น หลินฟู่อินได้ยินมานานมากแล้ว แต่เมื่อได้ยินจากปากของคนหมู่บ้านอื่น กลับให้ความรู้สึกต่างกันราวกับคนละโลก
ขณะเดียวกัน หลินซานหลางกลับมีสีหน้าแดงก่ำหายใจไม่ออก ชื่อดาวหายนะของหลินฟู่อิน ทั้งเื่ที่นางเกือบถูกเผาทั้งเป็นั่นเป็ดั่งหนามทิ่มแทงหัวใจ ทั้งหมดล้วนเป็ฝีมือมารดาเขาทั้งนั้น!
“ฟู่อินไม่ใช่ดาวหายนะ ญาติๆ ของพวกเราล้วนสบายดี!” หลินซานหลางกำมือแน่น มองชายชราจากอีกหมู่บ้านด้วยดวงตาแดงก่ำ
เมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำที่เปี่ยมด้วยความชิงชังของหลินซานหลาง ชายชราผู้นั้นก็ชะงักไป
เขารีบโบกมือไปมา “เ้าหนุ่ม ข้ายังไม่ได้พูดอะไรเลยเ้าก็มองข้าเช่นนี้แล้ว อย่างกับจะกินเนื้อข้าทั้งเป็อย่างไรอย่างนั้น เป็ใครมาจากไหนกันล่ะนี่? ดุดันยิ่งนัก!”
หลินเฟินหลินฟางเห็นว่ายังมีคนแถวนั้นที่รอเกวียนอยู่มองหลินฟู่อินด้วยสายตาที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก จึงรีบยืดหลังตรงแล้วพูด “พวกข้าล้วนเป็ลูกพี่ลูกน้องของหลินฟู่อิน ไม่เพียงแต่ไม่เป็อะไร ทว่าชีวิตยังดีขึ้นด้วย!”
ลุงหลิวย่อมรู้จักหลินซานหลาง รวมถึงรู้ว่าหลินเฟินหลินฟางเป็คนของบ้านสองสกุลหลิน ทุกคนล้วนยินดีพูดเพื่อหลินฟู่อิน สีหน้าเขาจึงดีขึ้นมาก
จากนั้นคนจึงชี้ไปยังหลินซานหลาง กับสองพี่น้องหลินเฟินหลินฟาง “นี่เป็ลูกชายคนที่สามของบ้านใหญ่สกุลหลิน สองคนนี้เป็ลูกสาวจากบ้านสอง ดูทั้งสามคนเถอะ เหมือนคิดว่าน้องสาวเป็ดาวหายนะจริงๆ หรือ? อีกหน่อยอย่าพูดเช่นนี้อีกนา”
“นี่ อยากพูดหรือไม่ใช่ข้าเสียที่ไหนเล่า? เื่นี้มิใช่มาจากหมู่บ้านหูลู่ของพวกเ้าหรือยังไง?” ชายชราโบกมือไปมา ทำหน้าสงสัย “มิใช่เื่นี้มาจากปากสะใภ้ใหญ่ของเหล่าหลินหรอกหรือ?”
สีหน้าของหลินซานหลางยิ่งแดงหนักขึ้น ดวงตาฉายแววอับอายหันไปมองหลินฟู่อิน
หลินฟู่อินเห็นสีหน้าอับอายของอีกฝ่าย ดวงตาเต็มไปด้วยความเ็ป ก็ทำให้ใจอ่อนขึ้นมา
“ท่านปู่ผู้นี้ ทั้งหมดล้วนแต่เป็ความเข้าใจผิดเ้าค่ะ ท่านป้าของข้าเองก็ถูกนักทำนายจ้าวบ้านเดิมผู้นั้นหลอกเอาเช่นกัน” หลินฟู่อินกลอกตาแล้วพูดออกไปเสียงดัง
“โอ เป็เช่นนั้นเอง ข้าก็แค่พูดไปตามที่ได้ยิน!” ชายชราอย่างไรก็เป็คนหมู่บ้านอื่นจึงไม่อยากยุ่งด้วยนัก เห็นหลินฟู่อินก้าวออกมาเองก็รีบเปลี่ยนเื่ทันที “มีข่าวคราวพ่อเ้าหรือยัง?”
“ยังเ้าค่ะ” หลินฟู่อินส่ายหน้าไปมา ในดวงตาแฝงแววโดดเดี่ยว
“โอ ยังไม่ได้ยินหรือ? มีข่าวเ้าสามสกุลหลินหมู่บ้านหูลู่แล้วนี่!” ทันใดนั้นบุรุษวัยกลางคนก็ะโเสียงดังสุดปอดออกมา
หัวใจของหลินฟู่อินกระตุกวูบ ดวงตาปรากฏความประหลาดใจขึ้นแทนที่ นางโยนตะกร้าไม้ไผ่สานในมือทิ้ง พุ่งเข้าไปจับแขนชายวัยกลางคนผู้นั้นแน่น “ท่านลุง หลินหยวนเป็พ่อข้า! ท่านบอกข่าวพ่อข้าให้ข้าฟังได้หรือไม่เ้าคะ?”
“ไอ้หยา… มิใช่เหล่าเฉียนกับลูกชายของหมู่บ้านหูลู่กลับไปแจ้งข่าวแล้วหรือ? เหตุใดเ้ายังไม่รู้เล่า?”
ชายวัยกลางคนอึ้งไป
“นี่พี่ชาย ท่านมาจากหมู่บ้านเหล่าชู่นี่นา หมู่บ้านหูลู่อยู่ตั้งไกลจากเหล่าชู่ เดินทางสองวันยังไงก็ไม่ถึงบ้านหรอก ในเมื่อท่านทราบข่าวเ้าหลินสามก็รีบบอกลูกสาวหลินหยวนเร็วเข้า!” ลุงหลิวเองก็พานยินดีไปกับหลินฟู่อินด้วย เร่งร้อนเอาความจากอีกฝ่าย
หลินฟู่อินจึงได้ทราบว่าคนผู้นี้มาจากหมู่บ้านเหล่าชู่ หมู่บ้านเหล่าชู่ไม่ใช่หมู่บ้านใกล้เคียงกับหมู่บ้านหูลู่ แม้จะมีถนนหลวงสายหลักเชื่อมหมู่บ้านทั้งสองเข้าหากัน ทว่าก็ยังเป็ระยะทางที่ไกลอยู่ดี
ไม่ว่าจะหลินฟู่อิน สองพี่น้องหลินเฟินหลินฟางหรือหลินซานหลาง เมื่อได้ยินว่ามีข่าวท่านอาหลินต่างก็ดีใจกันทั้งนั้น เช่นนี้นับเป็ข่าวดี
หลินฟู่อินกำมือแน่นด้วยความกังวล เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราย
“โอ๊ย ไม่ต้องกังวลไป เ้านั่นยังสบายดี นับว่าเป็คนโชคดีจริงๆ เกาะขอนไม้ท่อนหนึ่งเอาไว้ได้ ขอนไม้นั่นสภาพค่อนข้างดีไม่เน่าเปื่อยแล้วลอยไปจนถึงคลองใหญ่ใกล้หมู่บ้านข้า สุดท้ายก็ได้เรือทางการลำใหญ่ช่วยเอาไว้ได้…”
เมื่อได้ยินว่าพ่อของนางไม่เป็อะไร หัวใจของหลินฟู่อินก็คลายลง ทว่าในหูยังคงมีเสียงหึ่งๆ
“เรืออะไรของทางการเ้าคะ? ท่านรู้ที่มาหรือไม่?” หลินฟู่อินสงบใจลง ยังคงถามต่อ
ชายวัยกลางคนจากหมู่บ้านเหล่าชู่ส่ายหน้า มุ่นคิ้ว “จะรู้ได้ยังไงกัน? ชาวบ้านเช่นเราก็ทำได้เพียงมองจากระยะไกลเท่านั้น เป็เพราะเหล่าเฉียนกับลูกชายจากหมู่บ้านหูลู่มาถามเราถึงหมู่บ้าน พวกเราเองก็ไม่รู้ แต่คาดกันว่าคนผู้นั้นคงเป็เ้าหลินสามของหมู่บ้านหูลู่…”
“ขอบคุณท่านลุงที่บอกข้าเ้าค่ะ!” หลินฟู่อินซาบซึ้งเป็อย่างยิ่ง แม้ไม่ทราบว่าคนที่ถูกช่วยคือท่านพ่อหลินจริงหรือไม่ แต่โอกาสก็เป็ไปได้ค่อนข้างมาก
ท่านพ่อหลินออกล่าในหุบเขาลึกและป่าเก่าแก่ หากพลาดท่าตกลงไปในแม่น้ำลึกเชี่ยวกรากก็ต้องชนเข้ากับต้นไม้หรืออะไรสักอย่างที่ถูกกระแสน้ำพัดมาอยู่แล้ว
และนางก็เคยได้ยินว่าทางใต้ของแม่น้ำใหญ่เซินสุ่ยสายนี้ก็เชื่อมกับคลองที่ยาวที่สุดของต้าเว่ย…
แต่อย่างไรก็ต้องกลับไปถามพ่อลูกสกุลเฉียนก่อน เพื่อดูว่าคนผู้นั้นใช่พ่อของนางหรือไม่!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้