“ไม่ ไม่ใช่…” จ้าวซื่อส่ายหน้าไปมาอย่างหวาดกลัว “ท่านแม่ ข้าเปล่านะเ้าคะ ดาวหายนะนี่ใส่ร้ายข้า!”
“เหอะ เช่นนั้นไปเชิญหมอหลี่จากในเมืองมาดูอาการท่านปู่ท่านย่าเถอะ” หลินฟู่อินแค่นเสียงทีละคำ “มาดูว่าท่านปู่ท่านย่าได้กินผงสลอดเข้าไปหรือไม่!”
“นางแพศยา เช่นนี้เ้าถึงไม่ยอมให้จ้างหมอ!” อู่ซื่อสบถด่าเกรี้ยวกราด นางไม่ชอบบ้านสามก็เป็เื่หนึ่ง แต่จ้าวซื่อเกือบสังหารพวกนางสองผู้เฒ่าแล้ว เื่นี้นางไม่อาจทนรับได้ “ถึงกับทำให้ข้านึกว่าเป็ฝีมือดาวหายนะทำให้ข้าตาย…”
“ดาวหายนะ? จนป่านนี้ก็ยังเชื่อว่าข้าคือดาวหายนะ? นาม ‘ดาวหายนะ’ นี่คนเอามาป้ายหน้าข้าคือป้าใหญ่เพราะคิดจะฆ่าข้า เพื่อให้ข้าถูกสังหาร นางทำกระทั่งแทงข้างหลังพวกท่านทุกคน ทำให้คิดว่าข้าเป็ดาวหายนะ”
หลินฟู่อินเผยแผนการณ์จ้าวซื่อหมดจด ใบหน้าของคนสกุลหลินต่างก็บิดเบี้ยว
“ไม่ใช่แบบนั้น…ไม่ใช่…” ร่างเ้าซื่ออ่อนยวบ นางไม่เข้าใจ ดูอย่างไรแผนการของนางก็ไม่มีช่องโหว่ เหตุใดอยู่ๆ หลินฟู่อินถึงจับได้กันแน่?
“เื่นี้ ป้าใหญ่ทำผิดต่อเ้าแล้ว” ผู้เฒ่าหลินหลับตา ดวงตาทอประกายเฉลียวฉลาดสบมองหลินฟู่อิน “แต่ให้เื่นี้จบแค่ตรงนี้เถอะ อย่างให้เป็เื่ใหญ่โตเลย”
เื่วางแผนในครอบครัวเช่นนี้ไม่ควรให้ภายนอกรู้ ผู้เฒ่าหลินตัดสินใจออกมาทันที
แน่นอนว่าหลินฟู่อินโมโหจนหลุดหัวเราะออกมา
“นางใส่ร้ายป้ายสีข้าจนข้าเกือบตายอยู่หลายครั้ง แล้วท่านแค่บอกว่านางผิดต่อข้า แค่นี้ก็จบแล้วหรือ?” หลินฟู่อินมองท่านปู่หลินอย่างเ็า
ทันทีที่เห็นสายตาเย็นเยือกคู่นั้น ปู่หลินก็หันหน้าไปอีกทาง ไม่กล้าสบตาด้วย
“ไอ๊หยา ตาแก่ ดูนางเด็กฟู่อินนี่ นางกล้ายอกย้อนเ้า? นางถือดีอย่างไร?” อู่ซื่อเห็นก็ชี้หน้าหลินฟู่อินทันที “ผู้าุโของเ้าออกปากขอโทษ ผู้เยาว์เช่นเ้ากลับไม่ยอมรับ!”
จ้าวซื่อเองก็เออออตามไปด้วย “ท่านผู้เฒ่ายังดูแลบ้านนี้อยู่ ในเมื่อท่านไม่กล่าวอะไรแล้ว เหตุใดเ้ายังเอาเื่ข้าอีก?”
คนเหล่านี้ไม่คู่ควรให้นางโมโห หลินฟู่อินสูดลมหายใจเข้าลึก ยกยิ้มบางๆ ออกมา “มิใช่ข้าถือสาหาความอะไรท่านป้าใหญ่หรือไม่เชื่อฟังคำท่านปู่นะเ้าคะ แต่ความผิดพลาดของป้าใหญ่นี่มากเกินไปแล้ว”
“ไม่ว่าป้าใหญ่เ้าจะทำผิดพลาดอย่างไรเื่นี้ก็ใช่ว่าจะฟ้องทางการได้ เห็นแก่ว่าเป็ครอบครัวเดียวกัน ฟู่อินลืมเื่นี้ไปได้หรือไม่?” หลินต้าซานมองหลานสาวที่ไม่แม้แต่จะมีท่าทีตกตะลึง ก่อนจะกล่าวว่ามีเื่จะสนทนาด้วย
วันนั้นลุงใหญ่คนนี้ไม่ได้ไปงานศพมารดาของนาง
อย่างน้อยบ้านลุงสองก็ยังออกมาช่วยป้าสอง ป้าใหญ่เองก็ไป แต่ไปเพื่อโวยวายเื่ทรัพย์สิน
หลินฟู่อินมองลุงใหญ่ของตนแล้วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านลุงใหญ่ สิ่งที่ท่านพูดนั้นถูกต้องแล้ว ทว่าข้า้าเพียงแค่อยากเอาคืนเท่านั้นเอง”
“ฟู่อิน!” ใบหน้าหลินต้าซานครึ้มลง “ถึงป้าใหญ่จะล่วงเกินเ้า แต่ตอนนี้เ้ามาอยู่ตรงนี้เพื่อแก้แค้น นั่นมีเหตุผลแล้วหรือ?”
ความหมายก็คือ เ้าไม่มีอะไรให้เสียแล้ว เหตุใดยังต้องเคียดแค้นอยู่อีก?
ลุงใหญ่กับจ้าวซื่อนี่สมเป็คู่ผัวตัวเมียกันดีแท้ หาไม่คงไม่อาจเป็บ้านเดียวกันได้!
หลินฟู่อินรู้สึกเย็นเยือกขึ้นมา
“ป้าใหญ่ ข้าขอถาม เื่ดาวหายนะอะไรนั่นเป็ฝีมือท่านแพร่ข่าวลือใช่หรือไม่?” หลินฟู่อินไม่คิดจะยืดเยื้อเสียเวลาสนทนากับคนเืเย็นพวกนี้ เพียงแต่ถามออกไปตามตรง
นางบิดแขนจ้าวซือไม่ยอมปล่อย เมื่อถามคำถามออกไปก็ยิ่งออกแรงกว่าเดิม
จ้าวซื่อร้องะโเ็ป “เบาหน่อย เบาหน่อย! ข้ายอมบอกแล้ว ข้าไม่ได้อยากแพร่ข่าว เป็เมื่อครึ่งเดือนก่อน ข้ากลับไปบ้านแม่แล้วพบนักทำนายจ้าว เป็นักทำนายจ้าวบอกข้า”
“เหตุใดอยู่ๆ นักทำนายจ้าวจึงพูดเื่นี้?” หลินฟู่อินรู้สึกว่านักทำนายที่ว่านี้มีปัญหาแล้ว
“ข้า…ใครจะไปรู้เล่า? คงเป็เพราะไม่อยากให้ข้าถูกเ้าทำลายกระมัง!” จ้าวซื่อะโสุดเสียง
หลินฟู่อินเห็นอีกฝ่ายดวงตากลิ้งกลอกไปมาก็ทราบว่าไม่ได้บอกความจริงทั้งหมดจึงได้ออกแรงยิ่งขึ้น
“อ๊า ข้าเจ็บจนจะตายแล้ว!” จ้าวซื่อร้องโวยวาย
“หลินฟู่อิน จะปล่อยป้าใหญ่ของเ้าหรือไม่?” ทันใดนั้นอู่ซื่อก็ปีนลงจากเตียง ตั้งใจจะเข้ามาช่วยจ้าวซื่อ
แม้สะใภ้คนนี้จะขี้เหนียวต่อคนนอกทว่ากลับใจกว้างต่อนางที่เป็แม่สามี ทั้งคนยังเชื่อฟังคำนางอีกด้วย
อีกอย่าง ที่จ้าวซื่อใส่สลอดให้พวกนาง ทั้งหมดก็ล้วนเป็ไปเพื่อซานหลาง หลานชายคนที่สามคนนั้น…
ดังนั้นเมื่อเห็นจ้าวซื่อร้องเจ็บออกมา อู่ซื่อที่เป็แม่สามีก็ทนอยู่เฉยไม่ได้
“ท่านย่าโปรดอย่าขยับ ท่านเคยล้มแล้ว ตอนนี้ลุกจากเตียงกระทันหันจะเป็อันตรายเอาได้” หลินฟู่อินเปรยเตือนเสียงเบา
เมื่อได้ยินว่ามีอันตราย อู่ซื่อก็ไม่กล้าขยับตัวอีก ได้แต่จ้องมองหลินฟู่อินด้วยสีหน้าหม่นครึ้ม
“ข้ามีความอดทนไม่มาก จะพูดความจริงหรือจะให้ข้าหักแขนเ้า?” หลินฟู่อินออกแรงอีกครั้ง
จ้าวซื่อร้องโหยหวน หลินต้าซานมองไปยังรู้สึกเจ็บตาม
“นางคนน่าตายนี่ เ้ายัง้าแขนอยู่หรือไม่? รีบพูดเร็วเข้า!”
เขาไม่อยากให้ภรรยาแขนหักแม้แต่น้อย เท่านี้นางก็ี้เีจะตายแล้ว หากแขนยังหักอีกเช่นนี้ก็ยิ่งมีข้ออ้างไม่ทำงานแล้วใช่หรือไม่?
จ้าวซื่อทนเจ็บไม่ได้ เมื่อเห็นว่าคนในบ้านหลินนี่พึ่งพาไม่ได้สักคนก็ได้มีส่งสายตาผิดหวังออกไป
“ฟู่อินเบามือหน่อย ข้าพูดแล้ว ข้าก็พูดแล้วไม่ใช่หรือ?” หน้าผากจ้าวซื่อมีเส้นเืปูดโปนด้วยความเจ็บ เมื่อเห็นไม่มีใครช่วยก็ได้แต่ร้องขออภัย
ใบหน้าหลินฟู่อินเ็า รออีกฝ่ายพูดออกมา
“ข้าเพียงแต่ไปเพื่อทำนายชะตาให้พี่ชายสามของเ้าเท่านั้น ทำนายว่าจะได้สืบทอดมรดกของพ่อเ้าหรือไม่…”
หลินฟู่อินส่งเสียงเหอะ จ้าวซื่อผู้นี้แข็งแกร่งเหลือเกิน เพื่อเื่แค่นี้ก็พยายามมาหลายสิบปี
ผู้เฒ่าหลินและสองพี่น้องสกุลหลินได้ยินก็ได้แต่ก้มหน้า
หลินฟู่อินแค่นเสียงดูถูก สามคนนี้ยังรู้จักสำนึกอยู่บ้าง
ดวงตาจ้าวซื่อกลอกไปมา “แต่นักทำนายจ้าวคนนั้นกล่าวว่าพี่สามเ้าไม่สืบทอดมรดกดีกว่า กล่าวว่าเ้าเป็ดาวหายนะ เว้นเสียแต่จะกำจัดเ้าได้ เช่นนั้นทั้งตระกูลหลินและคนในหมู่บ้านหูลู่นี้จึงจะดีขึ้น…”
จ้าวซื่อกล่าวจบก็หันมองหลินฟู่อินด้วยคิดว่าอีกฝ่ายจะเกรงกลัว ผิดคาดที่สีหน้าของเด็กหญิงยังคงเ็าไม่เปลี่ยน “เช่นนั้นเหตุใดตอนข้าแรกคลอด นักทำนายจ้าวคนนั้นจึงไม่กล่าวอะไร ต้องรอจนเ้าไปดูดวงพี่สามก่อนจึงจะพูด? หากบอกั้แ่ข้าแรกคลอด จับข้าเผาั้แ่ตอนนั้นมิใช่จะดีกว่าหรือ? ปากเ้าดูจะไม่มีความจริงหลุดออกมาแม้แต่น้อย!”
“เื่นี้…เื่นี้ข้าก็ไม่รู้” จ้าวซื่อจะร้องไห้แล้ว ก็นักทำนายจ้าวบอกเช่นนั้น นางจะทำอย่างไรได้?
มือเด็กคนนี้แข็งแรงเกินไปแล้ว ต่อให้อีกฝ่ายไม่มีแรงแต่แขนนางโดนบิดพลิกอยู่เช่นนี้ต่อไปคงหักเป็แน่
“ฟู่อิน ดูสิ ป้าใหญ่เ้ามิได้อยากให้เ้าตาย แต่เป็นักทำนายจ้าวคนนั้นที่ปากมาก” เมื่อหลินต้าซานเห็นหลินฟู่อินมีท่าทีครุ่นคิดก็รีบหาทางช่วยภรรยาทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้