หลินฟู่อินเงยหน้าขึ้นก็ได้เห็นหญิงชราท่าทางมีชีวิตชีวาสวมชุดสีน้ำตาลอ่อนขลิบเงินเดินยกมือไพล่หลังเข้ามา
“ยายหลี่มาแล้ว” หลี่เจิ้งก้าวออกไปทันทีแล้วยกมือขึ้นประคองหญิงชรา
หญิงชราผู้นี้ได้รับความเคารพมากที่สุดในซือคุนและเหอเซียน แน่นอนว่าไม่ได้ใส่ใจสตรีสองคนที่กำลังโหวกเหวกอยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“เ้าค่ะท่านยายหลี่ ข้าเป็คนพูดเอง” หลินฟู่อินรีบค้อมกายอ้อนวอนทันที “ได้โปรดเถอะเ้าค่ะท่านยายหลี่!”
“ดีจริงๆ” ยายหลี่มองนางด้วยดวงตากระจ่างใส “เช่นนั้นเ้าก็เอาเงินแปดสิบตำลึงมาเถอะ เมื่อเงินอยู่ในมือข้าแล้ว ข้าจะให้คนไปขนโลงจากบ้านมาให้แม่เ้าทันที”
“เ้ากล้า…” อู่ซื่อ จ้าวซื่อไม่กล้าทำอะไรยายหลี่ ได้แต่หาทางจะหยุดหลินฟู่อินเท่านั้น
ยายหลี่ตวัดสายตามองไปก็กล่าวอย่างโมโห “ลูกต้องกตัญญูต่อมารดา พวกเ้าคนโง่งมทั้งสองเอาอะไรมาห้าม? หรือเ้าคิดจะสอนให้เด็กๆ ในหมู่บ้านหูลู่ไม่กตัญญูต่อบิดามารดาหรืออย่างไร?”
เื่นี้เื่ใหญ่
สีหน้าอู่ซื่อ จ้าวซื่อซีดเผือด ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่กล้ารับข้อกล่าวหานี้!!!
“ยายหลี่ พวกข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น…” จ้าวซื่อปั้นรอยยิ้มขึ้นมาด้วย้าจะเอาใจอีกฝ่าย ทว่ายายหลี่กลับไม่ไยดี “เ้าเป็พี่สะใภ้ของฉู่ซื่อเหตุใดจึงไม่ช่วยจัดการ? คนตายเป็เื่ใหญ่ไม่เข้าใจหรืออย่างไร?”
ทุกสิ่งที่ยายหลี่พูดล้วนแต่ตรงไปตรงมา จ้าวซื่อย่อมไม่อาจพูดอะไรได้อีก มีแต่ต้องเดินจากไปอย่างสงบเสงี่ยม
อู่ซื่ออยู่ลำพังไม่มีใครสนับสนุน ในตอนเดินออกไปจึงหันกลับมาสบถสาปแช่ง “คนตายก็ตายไปแล้ว ถึงตอนเ้าตายก็ต้องตายเหมือนกัน รอให้ผู้อื่นสวมชุดศพให้เ้าเถอะ”
“เด็กดี ไปกันเถอะ แม่เ้ารอไม่ไหวหรอก” ยายหลี่เห็นอีกฝ่ายจากไปก็หันมาคุยกับหลินฟู่อินด้วยความสงสาร
หลินฟู่อินนึกได้ก็รีบกลับบ้านเข้าห้องของแม่ ค้นกระเป๋าใส่เสื้อผ้าจากตู้เก็บของออกมา
“ท่านยายหลี่ ตรงนี้เป็เงินแปดสิบตำลึงเ้าค่ะ รบกวนตรวจนับด้วยนะเ้าคะ” จากนั้นนางจึงหยิบเงินออกมาอีกสามสิบตำลึงส่งให้หลี่เจิ้ง “โลงอยู่ที่บ้านยายหลี่ คงต้องรบกวนท่านลุงหลี่สั่งการคนให้ขุดหลุมฝังท่านแม่ข้าด้วยนะเ้าคะ”
หลี่เจิ้งมองเหรียญตำลึงในมือก็ทราบได้ว่าเป็เงินที่แลกมาจากร้านแลกเงิน คงเป็เงินที่ฉู่ซื่อเก็บไว้เป็สินเ้าสาวให้เด็กคนนี้เป็แน่…
เขาลอบถอนใจ
เด็กคนนี้เฉลียวฉลาดนัก รู้ว่าเงินใช้ผีโม่แป้งได้
แต่คาดว่านี่คงเป็เงินเก็บทั้งหมดของบ้านสกุลหลินนี่แล้ว ในเมื่อเด็กคนนี้ยอมควักเงินทั้งหมดออกมา ข้อแรกหมายความว่านางสามารถเป็เ้าบ้านได้ อย่างที่สองคือเพื่อมารดา นางไม่ตระหนี่แม้แต่น้อย
เป็เด็กดียิ่งนัก!
ยายหลี่รับเงินแล้วก็ยัดใส่แขนเสื้อโดยไม่ได้พูดอะไร
อู่ซื่อ จ้าวซื่อจากไปไม่ไกลนัก เพียงแค่ละล้าละลังอยู่หน้าประตู เมื่อเห็นหลินฟู่อินควักเงินส่งให้ยายหลี่และหลี่เจิ้ง ดวงตาก็แดงก่ำขึ้นมา นึกอยากวิ่งเข้าไปคว้าเงินจากมือทั้งสองคนเหลือเกิน
แต่อย่างไรก็ไม่กล้าก่อเื่เช่นนี้…
“เด็กดี ข้าได้ยินเื่บ้านเ้าแล้ว ข้าจะไปดูแม่เ้า ส่วนเ้าไปดูน้องๆ ทั้งสองคนเถอะ” ยายหลี่มองหน้าหลินฟู่อินด้วยความปราณีอีกครั้งก่อนจะยกเท้าเดินเข้าไป
หลินฟู่อินพยักหน้า ที่ยายหลี่กล่าวหมายถึงจะช่วยจัดการดูแลเื่งานศพท่านแม่ให้ นางไม่จำเป็ต้องกังวล
“ยายหลี่ เช่นนี้ไม่ถูกต้องนัก” อู่ซื่อไล่ตามไป ร้องะโอย่างไม่ยินยอม
จ้าวซื่อเองก็เร่งร้อนตามอู่ซื่อไปด้วยเช่นกัน
“เ้าหูหนวกหรืออย่างไร?” ยายหลี่แค่นเสียงเย็น “ฟู่อินกล่าวว่าขอเพียงข้าขายโลงศพให้มารดานาง นางจะรับข้าไปดูแล เช่นนี้ไม่เหมาะสมตรงไหน?”
“ยิ่งกว่านั้น เ้าเป็ย่าของนางกลับไม่สนใจงานศพลูกสะใภ้ ยังมีหน้ามาห้ามข้าอีกหรือ?” มือไปไวกว่าคำพูด ยายหลี่สะบัดมือตบหน้าอีกฝ่ายหนึ่งฉาดอย่างรุนแรงั้แ่ยังพูดไม่ทันสิ้นคำ
“โอ้ย” อู่ซื่อกลอกตาด้วยความโมโห แสร้งทำท่ามึนงง ยายหลี่มองจ้าวซื่อที่ไล่ตามมาด้วยสายตาเ็า “จ้าวซื่อ เหตุใดไม่รีบจับตัวแม่สามีเ้าไว้หน่อย? กลับบ้านไปเสีย อย่ามาอยู่ให้ขายหน้าที่นี่!”
จ้าวซื่อรีบจับตัวอู่ซื่อไว้มิให้อีกฝ่ายล้มลง…
หลินฟู่เห็นเห็นยายหลี่เป็เช่นนี้ดวงตาก็ทอประกาย รัศมีจากหญิงชราผู้นี้ใช่ว่าสาวชาวป่าชาวบ้านทั่วไปจะมีได้…
แต่ยามนี้นางไม่ได้ใส่ใจมากมายนัก เพียงหยิบถุงเงินออกมาจากแขนเสื้อแล้วเดินเข้าห้อง
เมื่อเห็นฟู่อินเดินเข้ามา จูซื่อก็มองนางด้วยสายตาอาทรก่อนจะยิ้มพูด “ฟู่อิน น้องชายน้องสาวเ้ากินเก่งนอนเก่ง ตอนนี้ยังเด็กกันนักจึงกินไม่มาก แต่อีกหน่อยยิ่งโตยิ่งกินเยอะเ้าจะทำอย่างไร?”
“ลำบากท่านป้าสองแล้วเ้าค่ะ” หลินฟู่อินขอบคุณจากใจ ส่งถุงในมือให้กับอีกฝ่ายแล้วกล่าวเบา “ท่านป้าสองเ้าคะ น้องชายน้องสาวข้าอีกหน่อยคงต้องขอพึ่งพาให้ท่านป้อนนมแล้ว สิ่งนี้เป็ของขวัญจากข้าเ้าค่ะ”
ป้าสองนิ่วหน้าส่ายหัว “ฟู่อิน วันนี้ข้าป้อนนมให้น้องเ้า เทียบกับที่บ้านเ้าปฏิบัติดีต่อข้าแล้วเื่นี้ไม่นับว่าเป็อะไรเลย เ้าไม่ต้องจ่ายเงินให้ข้า ส่วนเด็กสองคนนี้แล้วยังมีบ้านข้าอีก ข้าคงป้อนนมเด็กสามคนไม่ไหว…”
จูซื่อพูดความจริง น้ำนมนางไม่เพียงพอเลี้ยงเด็กๆ ถึงสามคน
“ข้าทราบเ้าค่ะ จึง้าให้ท่านช่วยหาแม่นมที่สะอาดสะอ้านรู้ความสักคนให้ข้าไว้วางใจป้อนนมน้องๆ ได้” หลินฟู่อินกล่าวเสียงเบา
จูซื่อผงะไป มิคาดหลังเกิดเื่ใหญ่เพียงนี้แล้วเด็กผู้หญิงตัวแค่นี้ยังมีแก่ใจคิดเื่น้องๆ สองคนจนหาหนทางแก้ปัญหาได้เป็อย่างดี
“ช่วยข้าหาคนที่เชื่อถือได้หน่อยนะเ้าคะ หากเจอผู้ที่ยินยอมเป็แม่นมให้น้องๆ ข้าจะให้เงินผู้นั้นเดือนละสองตำลึงเ้าค่ะ ท่านเองก็เช่นกัน”
เงินเก็บที่นางมีรวมแล้วหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึง บนตัวตอนนี้มีอยู่สิบตำลึง ราคาเท่านี้นางจ่ายได้
เพื่อการดูแลน้องๆ ไม่ว่ายังไงอีกหน่อยเธอก็ต้องหาทางหาเงินให้ได้
“สองตำลึง…เงินหรือ?” จูซื่อชะงัก
ผู้ชายในบ้านนางทำงานในไร่จนเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งปียังหาเงินได้ไม่ถึงห้าตำลึง หากนางยอมป้อนนมเด็กสองคนนี้ นางสามารถหาเงินได้ถึงเดือนละสองตำลึง!
หนึ่งปีก็เป็ยี่สิบตำลึง!
แค่คิดนางยังไม่กล้า
“พูดจริงหรือฟู่อิน?” จำนวนเงินมากมายเท่านี้ชวนให้จิตใจหวั่นไหวเสียจนจูซื่อไม่ใส่ใจคำร่ำลือเื่ ‘ดาวหายนะ’ อะไรนั่นแล้ว
หลินฟู่อินเกรงอีกฝ่ายจะไม่รับงาน แต่เมื่อเห็นจูซื่อถามซ้ำเช่นนี้ก็พยักหน้าทันที “เป็ความจริงเ้าค่ะ ในถุงเงินนี้มีอยู่สองตำลึง ข้าจ่ายให้ก่อนเ้าค่ะ”
ดวงตาจูซื่อกลอกไปมา พอลองดูในถุงผ้าก็พบว่ามีสองตำลึงอยู่จริงๆ
“ได้ ฟู่อิน หากเ้าไม่ถือ ข้าจะช่วยเ้าดูแลเด็กๆ เอง” นางรีบตอบอย่างว่องไวก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อเห็นไม่มีใครใส่ใจเื่ในนี้ก็กระซิบกระซาบ “พี่สะใภ้ทางบ้านแม่ข้าเพิ่งจะมีลูกได้ครบเดือน น้ำนมเยอะดีมาก หากเ้า้าข้าจะไปบอกให้นางมาช่วยป้อนนมน้องๆ เ้า วางใจเถอะ นางเป็คนสะอาดนิสัยดีมาก…”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้