“ไอ้หยา พี่เป้าจื่อ พี่ว่าใครเป็คนสารเลวนะ? ผมทำอะไรพี่แล้วหรือ? ครั้งก่อนผมดีกับพี่จะตาย เราสองคนยังเรียกกันเป็พี่เป็น้องอยู่เลย ทำไม ก็แค่วางยาพี่นิดหน่อยเพื่อเพิ่มความสนุก พี่ก็ไม่ใช่ว่าสนุกจนมีความสุขมากหรือ ตอนนี้สาวน้อยคนนั้นยังจำพี่ได้อยู่นะ อ้อ อาจจะเป็สาวน้อยที่ผิด อืม หากเทียบกับฉันก็แก่ไปหน่อย แต่เทียบกับพี่แล้วก็พอๆ กัน ฉันจำได้ว่าพี่อายุสี่สิบสองแล้วใช่ไหม ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจะสี่สิบเอ็ด ปีที่แล้วที่พี่มาเธอเพิ่งจะอายุสี่สิบ เป็ดอกไม้งามดอกหนึ่งชัดๆ พี่ก็อย่าทำเป็ได้แล้วไม่ยอมรับสิ เธออาจจะมีที่มาไม่ค่อยดี ยืนอยู่ตามถนนมาก็หลายปีแล้ว แต่เงินที่หามาได้นั้นก็มาจากน้ำพักน้ำแรง และสะอาด พี่ก็อย่าได้ดูถูกเธอเพราะพี่เป็ปรมาจารย์วูซูจีน ได้เธอแล้วก็ไม่ยอมรับ”
ทันใดนั้นเสียงหยอกเย้าเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น วินาทีต่อมา เื่ที่ไม่มีใครรู้ก็แว่วมาเข้าหูของเจียงไป๋กับหัวหน้าซุนแล้ว
ชายหนุ่มหล่อเหลาที่สวมเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงลำลองสีดำ รองเท้าหนังปลายเงาวับคู่หนึ่ง และผมเผ้าชี้โด่ชี้เด่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเจียงไป๋แล้ว
ชายหนุ่มคนนี้อายุประมาณยี่สิบกว่าปี และก็อายุพอๆ กับเจียงไป๋ แต่จะอายุเท่าไรก็ดูไม่ออก ผิวพรรณขาวใส รูปโฉมหล่อเหลา บนใบหน้ายังมีรอยยิ้มที่ดูไม่มีพิษมีภัย
พูดตรงๆ เมื่อเห็นเมิงหวงเฉาที่เล่าลือกันแวบแรก เจียงไป๋รู้สึกประทับใจไม่เลว ดูแล้วไม่เหมือนกับคนเลว แต่พอเขาพูดออกมา กลับทำให้ความประทับใจของเจียงไป๋ที่มีต่อเขาลดลงมาก
“หากเป็คนก็ไม่ควรดูแค่ภายนอก ก็เหมือนน้ำในมหาสมุทรที่ไม่อาจวัดตวงได้!”
ตอนที่พูด เมิงหวงเฉาคนนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าของหวางเป้าแล้ว เขามองสีหน้าที่แดงก่ำของหวางเป้า ในขณะเดียวกันก็พูดเสริมว่า “อืม ใช่แล้ว พี่เป้า หรือว่าพี่รู้สึกว่าเธออ้วนไปหน่อย? จริงๆ แล้วพี่ไม่รู้หรือว่าผู้หญิงอ้วนหน่อยถึงจะสวยน่ะ? ผมก็รู้สึกว่าดีมากนะ แค่หนึ่งร้อยกว่ากิโลกรัมเอง แต่เธอก็สูงไม่ได้ดูอ้วนสักเท่าไร ตั้งร้อยห้าสิบกว่าเิเ สัดส่วนดีจะตาย หากยืนตามถนนรูปร่างก็คงไม่ดีอย่างนี้ หรือจะให้ผอมเหมือนกระบอกไม้ไผ่หรือ ดูแล้วก็ล้วนใจสั่น ผมตั้งใจเลี้ยงดูเพื่อมอบให้พี่โดยเฉพาะ พี่ก็อย่าไม่รับน้ำใจจากผมสิ ผมจำได้อย่างชัดเจนว่า เวลานั้นพี่ดื่มเหล้าช่วยเพิ่มความสุขที่ผมเตรียมไว้ให้พี่ นั่นก็คึกคักมาก คึกคักทั้งคืน ทำไมตอนนี้ถึงไม่ยอมรับแล้วล่ะ?”
คำพูดนี้เจียงไป๋กับหัวหน้าซุนฟังแล้วก็มีสีหน้าที่แปลกประหลาดเหลือเกิน และกลั้นหัวเราะไว้อย่างไม่กล้าปล่อยออกมา สีหน้าก็ล้วนม่วงทันที เกรงว่าหากหัวเราะออกมา จะทำให้ทางหวางเป้าแตกคอกับพวกเขาสองคนได้
เ้าเมิงหวงเฉาช่างเลวเกินไปแล้ว
สูงหนึ่งร้อยห้าสิบกว่า หนักหนึ่งร้อยกว่ากิโลกรัมมันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?
ยังจะบอกว่าสัดส่วนดีอีก?
นายล้อเล่นแล้ว นั่นมันก้อนเนื้อชัดๆ …
โดยเฉพาะเมื่อก่อนยังยืนอยู่ตามถนน?
ยังหลายปีอีก …
ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมเ้านี่ถึงคิดลูกไม้สกปรกอย่างนี้ได้ และยิ่งไม่รู้ว่าเวลานั้นหวางเป้าถูกมอมด้วยอะไรกันแน่ เ้านี่ถึงลงมือได้ แถมยังคึกคักทั้งคืนอีก?
ลองนึกถึงภาพเหตุการณ์ดูแล้ว … ก็งดงามจนไม่กล้าจะนึกถึง
“เมิงหวงเฉา!”
สีหน้าหวางเป้าเปลี่ยนไปอย่างมืดมนแล้ว เขาพูดอย่างโมโห
หากที่นี่ไม่ใช่บ้านของผู้าุโเมิง หากเมิงหวงเฉาไม่ใช่หลานของผู้าุโเมิง เขาก็คงจะลงมือซัดเ้าสารเลวคนนี้ให้ตายทันที
“ทำไม จะซัดผมหรือ? พี่เป้า พี่ต้องคิดให้ดีๆ ล่ะ คลิปวิดีโอยังอยู่ที่ผมนะ หากพี่ไม่ซัดผม เื่นี้มากสุดผมก็พูดเล่นๆ แต่หากพี่กล้าซัดผม ผมก็จะโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตทันที รับรองว่าพี่จะดังไปทั่วเพียงแค่คืนเดียว”
การกระทำของหวางเป้าทำให้เมิงหวงเฉาใกลัว และถอยหลังไปสองเมตร หลังจากนั้นก็พูดอย่างอวดดี
พอเถอะ เ้านี่ยังถ่ายคลิปวิดีโอไว้อีก มิน่าล่ะ หวางเป้าถึงได้เคราะห์ร้ายแล้ว พอพูดถึงเ้าสารเลวคนนี้ก็ตัวสั่นเป็ลูกนก และรีบเตือนเจียงไป๋ทันที แน่นอนว่าต้องเคยเสียเปรียบมาแล้ว
คิดๆ ดูปรมาจารย์วูซูจีนคนหนึ่งตกต่ำถึงขั้นนี้ เจียงไป๋ก็ล้วนเศร้าแทนเขา
“เอาคลิปวิดีโอกับภาพถ่ายมาให้ฉัน!” หวางเป้าแทบจะกัดฟันพูด
“ไม่ให้ นี่ก็เป็ยันต์ป้องกันตัวของผม คนอื่นไม่รู้ แต่ผมจะไม่รู้ได้หรือ? หากผมเอาให้พี่ พี่ก็จะกล้าซัดผมทันที คนสารเลวอย่างคุณปู่กับจ้าวอู๋จี๋ก็คอยเป็ใจให้พี่ พี่ก็ออกจะกล้ามาก ผมสู้พี่ไม่ได้ วางใจได้ พี่เป้า ผมเชื่อถือได้ พี่ดูสิ นี่ก็ปีกว่าแล้ว ผมก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ปล่อยคลิปออกไปหรือ? เก็บไว้ที่ผม พี่ก็วางใจได้ มากสุดผมก็แค่ดูเองเป็ครั้งคราว ไม่ให้คนอื่นดูเด็ดขาด”
เมิงหวงเฉาหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ
“เฮ้อ!”
หวางเป้าถอนหายใจใส่อย่างเยือกเย็น และก็หันหลังเดินจากไป
เื่นี้ค่อนข้างน่าอาย เขาอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ
สำหรับเื่ที่จะพาเจียงไป๋ออกไปอะไรนั้น เขาก็ลืมไปแล้ว คราวนี้ไม่มีหน้าสู้คนอื่นได้แล้ว หลังจากที่จ้องเมิงหวงเฉาด้วยสายตาที่แทบจะฆ่าให้ตายสักหมื่นหนแล้ว เขาก็หันหลังเดินจากไป
“อย่างนั้น … ฉันก็ลาก่อนล่ะ เสี่ยวไป๋ หากมีเื่อะไรก็โทรศัพท์ไปหาฉันได้ เบอร์ที่ฉันให้นายเป็เบอร์ส่วนตัว ปกติก็จะรับตลอด”
หลังจากที่หวางเป้าไปแล้ว หัวหน้าซุนก็หัวเราะ และหันหลังเดินจากไป ก่อนจะไปยังบอกกล่าวเจียงไป๋ไว้ด้วย
เขาเป็คนสนิทของผู้าุโเมิง ตอนที่เมิงหวงเฉาเพิ่งจะคลอด เขาก็ติดตามผู้าุโเมิงแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวเ้าเด็กอันธพาลคนนี้
จริงๆ แล้วเ้าเด็กอันธพาลคนนี้ก็ไม่กล้าก่อเื่ต่อหน้าเขา หากมีอะไรล้ำเส้นจริงๆ เขาก็ไม่พูด ไม่อย่างนั้นผู้าุโเมิงก็จะหักแข้งหักขาเ้าเด็กคนนี้ได้
ที่สำคัญคือ ลูกชายของเขาไม่ใช่ว่าคอยตามเ้าเด็กนี่หรือ หากล่วงเกินเ้าเด็กนี่ไปจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าเ้านี่อาจจะทำร้ายลูกชายของเขาหรอกหรือ!
ดังนั้นเพื่อลูกชายของตัวเอง หัวหน้าซุนจึงไม่ทำอะไรมั่วซั่ว แต่หันหน้าเดินจากไปทันที และทิ้งเจียงไป๋ไว้อย่างไร้น้ำใจมาก
“ทำไม นายเป็คนที่จ้าวอู๋จี๋พามาหรือ? หนุ่มมาก? ฉันยังคิดว่าเขาจะพาใครมาพบคุณปู่เสียอีก เหมือนจะสำคัญมาก อืม … อายุนาย … ไม่ใช่ว่าเป็ลูกนอกสมรสของเ้าสารเลวคนนั้นใช่ไหม?”
หลังจากที่คนทั้งสองไปแล้ว เมิงหวงเฉากอดอกมองเจียงไป๋ั้แ่หัวจดเท้า หลังจากนั้นก็พูดอย่างนี้
หลังจากนั้นก็ส่ายหน้า “ไม่เหมือน … นายไม่เหมือนจ้าวอู๋จี๋ น่าจะไม่ใช่ลูกนอกสมรสของเขา อย่างนั้นนายเป็ใครกันแน่? จริงๆ เลยเชียว ฉันยังอยากจะให้นายเรียกฉันว่าคุณอาเสียอีก แต่ตอนนี้ดูแล้วก็เรียกไม่ได้แล้วสิ ไป พี่จะพานายไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อย เดี๋ยวนายอยู่ที่เทียนตูนานๆ เข้าจะบ้านนอกเหมือนเป้าจื่อ ถึงแม้หลิงเฉวียนจะเทียบตี้ตูไม่ได้ และในทางเศรษฐกิจอาจจะแย่กว่าเทียนตูมาก แต่หากพูดถึงที่เที่ยว ฮ่าๆ ที่นี่ก็ไม่เลว ฉันจะบอกนายให้ สาวๆ สวยๆ ของตี้ตูมากมายต่างก็มาเที่ยวกันที่นี่ และจะพบของดีๆ อยู่บ่อยๆ”
“จะพาฉันไปเปิดหูเปิดตาหรือ?”
ั้แ่ต้นจนจบเจียงไป๋ก็ล้วนไม่พูดอะไร แต่ฟังถึงตรงนี้ ก็ปริปากพูดอย่างสนใจและมองเมิงหวงเฉาที่อยู่ตรงหน้า เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ
เ้านี่กล้าพูดจริงๆ เทียนตูสู้ตี้ตูไม่ได้หรือ แต่นี่ก็เป็หนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุด พูดถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ก็แอบเหนือกว่าตี้ตู และแข็งกว่าเมืองหลิงเฉวียนนี้ไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า จากปากของเขากลับกลายเป็บ้านนอกเสียนั่น ไม่รู้ว่าเ้านี่มีความรู้หรือไม่
“แน่นอนว่าคุณปู่มีปัญหา หากใครมาจากต่างถิ่น ครั้งแรกก็มักจะให้คนพาออกไปเที่ยวเล่น ฉันก็ล้วนท่องจำคำพูดของเขาได้แล้ว ครั้งนี้จะต้องให้หวางเป้าหรือว่าซุนเจิ้งพานายออกไปเที่ยวเล่นแน่นอน คนไม่มีน้ำใจสองคนนั้นก็ไปกันแล้ว แน่นอนว่าฉันไม่ปล่อยไปหรอก ไปกันเถอะ ฉันจะพานายออกไปเที่ยวเล่น?”
เมิงหวงเฉาเบ้ปากด้วยใบหน้าที่มีอาการอย่างฉันรู้ดี เมื่อพูดจบ ก็เดินนำไปด้านหน้าก่อน
เจียงไป๋คิดๆ ดูแล้วก็ฉีกยิ้มและเดินตามไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้