เวินซีปรากฏตัวท่ามกลางผู้คนที่มองมาด้วยสีหน้าและแววตาที่แตกต่างกัน นางกับจ้าวต้านเดินตรงไปยังห้องรับแขก
คนในตระกูลเวินมองนางด้วยสายตารังเกียจ ดูถูกเหยียดหยาม หรือแม้กระทั่งอยากจะฆ่าให้ตาย
“สมกับเป็บุตรสาวของเวินอี๋เหนียง ดูสิ เวินอี๋เหนียงตายไปได้ไม่เท่าไร นางก็หาบุรุษใหม่ได้แล้ว!”
แววตาของอี๋เหนียงสามแห่งตระกูลเวินเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
“ก็ใช่น่ะสิเ้าคะ หากจะให้กล่าวไป นางจะต้องใช้อุบายอันใดเป็แน่ มิฉะนั้นนางจะปรากฏตัวในสภาพนี้ได้อย่างไรกัน”
สาวรับใช้อวิ๋นเพ่ยพูดแทรกขึ้นจากด้านข้าง
เสียงของทั้งสองมิได้ดังนัก แต่เวินซีเป็นักฆ่า ทักษะการฟังของนางนั้นเยี่ยมยอดกว่าคนปกติ นางจึงได้ยินทุกคำพูด
หญิงสาวเหยียดยิ้มเล็กน้อย จู่ๆ ก็พลันเอ่ยปากขึ้นมา
“มิได้พบกันเสียนาน อี๋เหนียงสามกับอวิ๋นเพ่ยยังคงขี้นินทาเช่นเคยเลยนะเ้าคะ เ้าของเป็เช่นไรสุนัขก็เป็เช่นนั้นจริงๆ”
อี๋เหนียงสามไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะหูดีเช่นนี้ ใบหน้าของนางขาวซีด ยิ้มอย่างเก้ๆ กังๆ พร้อมเอ่ยปาก “ดูเ้าพูดเข้าสิ ข้ากับอวิ๋นเพ่ยแค่หมายความว่าเ้างามขึ้นมากก็เท่านั้น ราวกับถอดแบบจากเวินอี๋เหนียงมาเลยเชียว”
เวินซียิ้มประชดและไม่คิดจะสนใจนางอีก
“ซีเออร์กลับมาแล้วหรือ? เหตุใดพวกเ้าไม่บอกข้าก่อน?”
เวินอวิ๋นโปเดินเข้ามาในห้องรับแขก ใบหน้าแก่ชราของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มจอมปลอม
“ท่านพ่อ”
เวินซีเรียกเขาด้วยคำที่ไม่คุ้นเคย น้ำเสียงยังคงเยือกเย็น
เวินอวิ๋นโปมองนางด้วยความสงสัย เขามักจะรู้สึกว่าเด็กคนนี้มีบางอย่างแปลกไป
ก่อนหน้านี้เวินซีมักจะเรียกเขาว่าท่านพ่ออย่างกระตือรือร้นเสมอ เหตุใดมิได้เจอกันหลายวัน ไม่เพียงแค่รูปร่างที่เปลี่ยนไปเท่านั้น แต่นิสัยก็ยังนิ่งเงียบมากขึ้นอีกด้วย?
ทว่ายามที่นึกถึงธุระในวันนี้ เวินอวิ๋นโปก็กลับมาได้สติ และเก็บงำความสงสัยเอาไว้ทันที
เขาเดินไปหาเวินซีด้วยท่าทีรู้สึกผิด เอ่ยปากพร้อมน้ำเสียงที่เจือแววสะอื้น “ก่อนหน้านี้ ในบ้านได้เกิดเื่ขึ้น แม่ของเ้าจากไป ข้าทุกข์ทรมานใจยิ่งนัก...”
“ท่านพ่อปล่อยวางลงเถิดเ้าค่ะ” เวินซีหยักรอยยิ้มมุมปาก ตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“แต่ว่า ซีเออร์ พ่อได้ยินคนรับใช้เล่าเื่วันนั้นให้ฟัง เ้าทำอันใดกับท่านย่าหรือ? เหตุใดท่านย่าของเ้าจึงได้เกิดความปรารถนามากมายขึ้นั้แ่วันนั้น?”
ยามที่เอ่ยถามเช่นนั้น แววตาของเวินอวิ๋นโปพลันฉายประกายขุ่นมัว
“ก็แค่เครื่องหอมของตระกูลเวินที่เราทำเอง ข้าเพียงแค่หยิบมันออกมาใช้ก็เท่านั้นเองเ้าค่ะ”
ข้อแก้ตัวนี้ดูไร้สาระเป็อย่างยิ่ง แต่เวินอวิ๋นโปกลับมิกล้าเอ่ยถามละเอียดเพิ่มเติม เพราะวันนี้เขามีเื่ที่จะต้องขอร้องนาง ย่อมจะฉีกหน้ากันมิได้
“จริงด้วยเ้าค่ะ ท่านพ่อ บุรุษผู้นี้คือคนที่วันนั้นช่วยข้าเอาไว้ ยามที่ข้าถูกท่านย่านำไปทิ้งที่เนินเขารกร้างเ้าค่ะ”
สายตาของนางจับจ้องไปที่จ้าวต้าน
“เพื่อเป็การตอบแทน ข้าจึงแต่งงานกับเขา”
“เ้า! เ้าแต่งงานกับ... ชาวบ้านบนูเารกร้างหรือ?”
เวินอวิ๋นโปมองดูการแต่งกายของจ้าวต้าน สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ
เมื่อเห็นหนังด้านๆ บนมือของเขา แค่ดูก็รู้ว่ามิใช่คนร่ำรวยอันใด นอกจากใบหน้าที่พอจะดูได้อยู่บ้าง อย่างอื่นก็ไม่มีสิ่งใดดีเลย ทว่ากลับได้แต่งงานกับบุตรสาวของตน!
อย่างไรเสียเวินซีก็เป็บุตรสาวของตระกูลเวิน การที่นางแต่งงานกับคนประเภทนี้ ทำให้ตระกูลเวินอับอายขายหน้าแล้วจริงๆ
เวินอวิ๋นโปรับไม่ได้
“หากไม่ได้สามีช่วยข้าไว้ ข้าคงเป็ศพไปนานแล้ว ข้าจะรังเกียจเขาได้อย่างไร?”
เวินซีโค้งริมฝีปากที่เย็นะเืขึ้นสูงอย่างผิดปกติ
“ท่านพ่อ ในเมื่อข้าแต่งงานแล้ว ก็ควรจะให้สินเดิมแก่เขาถึงจะถูก หากไม่มีแม้แต่สินเดิม ยามที่ผู้ใดเอาออกไปพูด ก็คงพากันดูถูกท่านพ่อเป็แน่เ้าคะ”
เวินอวิ๋นโปขมวดคิ้ว เดิมทีเป็เพราะยาเม็ดแก้พิษเขาจึงตามหานาง แต่ตอนนี้ยังมิทันได้เอ่ยถึงเื่ยา เวินซีกลับสนทนาเื่สินสอดเสียก่อน!
ไม่เป็เหตุผลเอาเสียเลย!
“ในเมื่อแต่งงานแล้ว ต่อไปก็ใช้ชีวิตกันให้ดีเถิด” เขาพ่นลมหายใจเ็า พลันสะบัดชายเสื้อแสดงถึงความไม่พอใจ
“ท่านพ่อ ข้าจำได้ว่าท่านแม่เคยเตรียมสินเดิมไว้ให้ข้า หนึ่งในนั้นมีหน้าร้านแห่งหนึ่งอยู่ด้วย นางยังเคยพาข้าไปเยี่ยมชมอยู่เลย ท่านจำได้หรือไม่เ้าคะ?” เวินซีมองเขาด้วยสีหน้าที่ไร้พิษภัยกับแววตาใสซื่อ
“จะทำเช่นนั้นมิได้!”
ขณะนั้นเอง จู่ๆ ก็มีสตรีนางหนึ่งเดินเข้ามา นางคือนายหญิงแห่งตระกูลเวิน หวังซื่อ ก่อนหน้านี้นางไปปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัด เพิ่งจะกลับถึงจวนตระกูลเวินเมื่อวานนี้นี่เอง
เวินซีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ในเมื่อมันเป็สินเดิมที่เตรียมไว้ให้ข้า แล้วเหตุใดถึงมิได้ล่ะเ้าคะ?”
หวังซื่อเดินเข้ามาที่เก้าอี้อย่างช้าๆ นางวางท่า ใช้สายตาเหลือบมองจ้าวต้าน “เ้าแต่งงานโดยมิได้ผ่านสามสื่อหกพิธี [1] มิได้นั่งเกี้ยว รวมถึงมิได้รับการยินยอมจากบิดามารดา เป็การแต่งงานที่ไม่ถูกต้อง!”
“ในเมื่อพวกท่านไล่ข้าออกจากจวนแล้ว ข้าย่อมมิใช่คนตระกูลเวินอีกต่อไป ไม่ต้องมาเอ่ยถึงกฎเกณฑ์พวกนี้กับข้า และทรัพย์สินของมารดาข้าก็ควรคืนมาให้หมดเช่นกัน”
เวินซีหัวเราะเย้ยหยัน “หรือว่าพวกท่านคิดจะไม่คืน? เช่นนั้นข้าก็ไม่รังเกียจที่จะป่าวประกาศเื่นี้ออกไป ทับถมให้ชื่อเสียงของตระกูลเวินย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม ท่านพ่อ ท่านคิดให้ดีนะเ้าคะ ภาพลักษณ์ที่ท่านลำบากตรากตำสร้างมาจวนจะรักษาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว”
หวังซื่อหรี่ตาลงอย่างดุร้าย มองดูเวินซีที่ทั้งก้าวร้าวและดุดัน นางกัดฟันอย่างโกรธแค้น
เวินอวิ๋นโปได้ยินเช่นนั้นก็มีใบหน้ามืดครึ้มดำสนิท เขาหยิบกำไรคู่หนึ่งออกมาจากแขนเสื้อด้วยความไม่พอใจ
“นี่เป็สินเดิมที่พ่อกับแม่ของเ้าเตรียมไว้ให้เ้า ทั้งหมดนี้ข้าย่อมจัดเตรียมเอาไว้ให้เ้าั้แ่แรกแล้ว”
เมื่อเห็นกำไรทองคู่หนึ่งที่บางราวกับเส้นเหล็ก เวินซีก็เกือบจะพ่นเสียงหัวเราะออกมา
ร้านแห่งนั้นแลกกับกำไรคู่หนึ่ง?
คิดว่านางโง่จริงๆ หรือ?
“ท่านพ่อ วันนี้ข้าต้องได้สินเดิมของข้าคืนมาทั้งหมดเ้าค่ะ”
“พักเื่นี้ไว้ก่อนเถิด” เวินอวิ๋นโปรีบเปลี่ยนเื่ “่นี้พ่อได้ยินมาว่ามียาลึกลับอย่างหนึ่งที่มีสรรพคุณสามารถรักษาโรคที่เครื่องหอมตระกูลเวินสร้างไว้ได้อย่างหมดจด ยาเม็ดนั้นมาจากเ้าหรือ?”
นั่นสินะ ในที่สุดเขาก็อดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
“เ้าค่ะ” เวินซียิ้มและยอมรับอย่างใจกว้าง “ไม่ทราบว่าท่านพ่อ้าจะถามสิ่งใด?”
เมื่อเวินอวิ๋นโปได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขาพลันทอประกายสว่างวาบขึ้นมาทันที “ซีเออร์ ตระกูลเวิน้าสูตรลับของยาตัวนี้”
“ข้าถูกไล่ออกจากจวนแล้ว เื่ของตระกูลเวินหาได้เกี่ยวข้องอันใดกับข้าไม่” เวินซีกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา
ขณะนั้นมีเสียง ปัง ดังขึ้น
เป็หวังซื่อที่โมโหจนตบโต๊ะเสียงดัง
“เวินซี! เ้าอย่าลืมนะ ถึงอย่างไรตระกูลเวินก็เลี้ยงเ้ามาจนโต”
ตามด้วยอี๋เหนียงสามที่พูดจาแดกดันอยู่ข้างๆ ว่า “นายหญิง ท่านคงจะลืมไปแล้วกระมังว่าเมื่อก่อนท่านโหดร้ายกับเวินอี๋เหนียง กับนางอย่างไร ครั้นยามนี้จะมาขอความช่วยเหลือจากนาง คงไม่มีผู้ใดใช้ท่าทีแบบท่านกันหรอกเ้าค่ะ”
“ที่เ้าพูดมาหมายความอย่างไร!” หวังซื่อจ้องอี๋เหนียงสามเขม็ง ความโกรธเคืองพลันตกไปอยู่ที่นางแทน
“หวังซื่อ นั่งลง!” เวินอวิ๋นโปตะคอก พร้อมทั้งหันไปส่งสายตาเอ็ดอี๋เหนียงสาม
อี๋เหนียงสามไม่พอใจ จึงพาอวิ๋นเพ่ยเดินออกไป
หลังจากที่นางออกไปแล้ว เวินอวิ๋นโปก็เอ่ยปากด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อเป็เช่นนี้ เอาร้านแลกกับสูตรยาเม็ดของเ้า เ้าคิดเห็นเช่นไร?”
ใบหน้าของเวินอวิ๋นโปเต็มไปด้วยการคิดคำนวณที่เฉียบขาดและไร้เยื่อใย
เวินซีหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“สูตรลับให้ท่านมิได้หรอกเ้าค่ะ ส่วนร้านค้าแห่งนั้น จากราคาค่าหัวของตระกูลเวินตอนนี้ ข้าขอใช้เงินสิบตำลึงซื้อร้านไว้ ท่านคิดเช่นไรเ้าคะ?”
เงินสิบตำลึง?
เวินอวิ๋นโปรู้สึกหงุดหงิดเหลือจะทานทน ขณะที่เขากำลังจะตะคอกด่านาง เวินซีก็พูดปิดปากเขาไว้ได้เสียก่อน
“เดิมทีมันก็เป็ของของข้า ท่านมิยอมให้ข้า ข้าซื้อมันมาก็นับว่าเป็บุญของท่านแล้ว หากท่านยังคิดจะอิดออดไม่ยอมความอีก ข้าจะไปฟ้องทางการให้มาจัดการ ตัวข้าน่ะมีเวลาถมเถ เพียงแค่ไม่รู้ว่าตระกูลเวินจะยังคงยืนหยัดอยู่ได้ถึงตอนนั้นหรือไม่”
ทันทีที่สิ้นเสียงนาง ผู้คุมประตูก็พากันเดินเข้าไปใกล้เวินอวิ๋นโป ก่อนจะกระซิบบอกเขาสองสามประโยค
จากนั้นสีหน้าของเขาพลันฉายแววตื่นตะลึงขึ้นมาทันที ชายชรามองเวินซีด้วยความโกรธ “เ้าหมายความอย่างไร?”
“ข้ามิใช่คนตระกูลเวินแล้ว วันนี้ข้าก็แค่อยากจะทำธุรกิจกับท่าน มันคงไม่เกินไปหรอกกระมัง”
ความหมายก็คือ นางรักษาหน้าเขามามากพอแล้ว
เวลานี้เวินอวิ๋นโปโกรธจนแทบเสียสติ
หากเขารู้ว่าวันหนึ่งเวินซีจะหันกลับมาเล่นงานตระกูลเวินเช่นนี้ ในตอนที่คลอดนางออกมา เขาน่าจะบีบคอนางให้ตายเสีย
เชิงอรรถ
[1] สามสื่อหกพิธี 三媒六聘 เป็พิธีแต่งงานแบบจีนโบราณ 3 สื่อจะมีสื่อหมั้น (聘书) สื่อสินสอด (礼书) และสื่อการเชิญเ้าสาว (迎书) 6 พิธีคือการทาบทาม (纳彩) ถามชื่อ (问名) ดูดวงสมพงศ์ (纳吉) หมั้น (纳征) ดูฤกษ์ (请期) และรับตัวเ้าสาว (迎亲)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้