เนี่ยหลีชำเลืองมองไปทางเซียวหนิงเอ๋อ นางมีรูปร่างผอมบาง วันนี้สวมใส่เสื้อตัวสั้นสีเหลืองกับรองเท้าหุ้มข้อสีดำคู่หนึ่ง สีผมดำเป็มันของนางประบ่า นางมีดวงตาสดใส สองคิ้วโค้งเรียว ขนตางอนยาวกำลังกระพริบเบาๆ ผิวกระจ่างใสไร้ที่ติของนางสีชมพูระเรื่อ และริมฝีปากงดงามกดูราวกับกลีบกุหลาบแดงฉ่ำ
นอกจากจะให้ความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แล้ว ใบหน้าของนางยังแฝงไปด้วยความงดงามเ็าดุดันยากจะบรรยาย
เนี่ยหลีย้อนระลึกถึงอดีต จำได้ว่าเซียวหนิงเอ๋อเป็บุตรีคนโตของตระกูลเซียวซึ่งเป็หนึ่งในเจ็ดครอบครัวชนชั้นสูง พลังิญญาของนางเป็รองเยี่ยจื่ออวิ๋น ก่อนเมืองกวงฮุยล่มสลาย นางก็ก้าวขั้นเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินผู้หนึ่งไปแล้ว เมื่อคู่กับเยี่ยจื่ออวิ๋น พวกนางถูกเรียกขานว่าเป็ดาวคู่ราศีมิถุนรุ่นเยาว์
เพียงแต่ว่า เพื่อเป็การประจบสอพลอสามตระกูลหลักนั้น ตระกูลเซียวบังคับให้เซียวหนิงเอ๋อต้องแต่งเข้าตระกูลเสินเซิ่ง นางต้องแต่งกับพี่ชายของเสิ่นเยวี่ย ทว่านางไม่ยินยอม จึงหนีออกจากบ้านและเดินทางเข้าสู่ป่าปีศาจดำบนเขาเซิ่งจู่และไม่เคยกลับออกมาอีกเลย
ถือว่าเป็สตรีที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวผู้หนึ่ง!
เนี่ยหลีรู้สึกเศร้าใจกับเซียวหนิงเอ๋อ ชีวิตหนนี้หากมีโอกาส เขาจะต้องช่วยเซียวหนิงเอ๋ออย่างแน่นอน แต่หากจะถามว่าเขามีความรู้สึกรักใคร่ชอบพอเซียวหนิงเอ๋อหรือไม่ นั่นย่อมไม่มีอย่างแน่นอน ในใจของเนี่ยหลีมีเพียงเยี่ยจื่ออวิ๋นเพียงผู้เดียว
“อีกสองเดือนข้างหน้าก็จะมีการทดสอบเลื่อนชั้นขึ้นเป็นักสู้และผู้ควบคุมจิตอสูร ข้าหวังว่าจะมีผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวปรากฏขึ้นสักสองสามคน ทั้งตัวข้าและโรงเรียนเซิ่งหลานจะต้องภาคภูมิใจในตัวพวกเ้าอย่างแน่นอน!” เสิ่นซิ่วหัวเราะ
ระดับทองแดง เงิน ทอง ทองดำ ระดับตำนาน ทั้งห้าระดับนี้ แต่ละระดับแบ่งย่อยออกเป็ห้าดาว ดังนั้น ระดับทองแดงหนึ่งดาวถือเป็จุดเริ่มต้น
หากพละกำลังของนักสู้เลื่อนขึ้นถึงหนึ่งร้อยจุด หรือพลังิญญาของผู้ควบคุมจิตอสูรก้าวขึ้นถึงหนึ่งร้อยจุด พวกมันก็จะถูกจัดเป็ระดับทองแดงหนึ่งดาว
ก้าวแรกถือว่ายากลำบากพอสมควร มีหลายคนที่ใช้ทั้งชีวิตก็ไม่สามารถกลายเป็นักสู้หรือผู้ควบคุมจิตอสูรที่แท้จริงได้
ได้ยินคำพูดของเสิ่นซิ่ว นักเรียนในชั้นก็เริ่มส่งเสียงซุบซิบกัน เพื่อจะเป็นักสู้ระดับทองแดงหนึ่งดาวให้ได้นั้น ต้องสามารถถ่ายทอดพลังไปยกก้อนหินหนักร้อยจิน* และทำลายต้นไม้ขนาดหนึ่งคนโอบได้ภายในหมัดเดียว จึงจะถือว่าผ่านเข้าสู่ระดับทองแดงหนึ่งดาว สำหรับเด็กเหล่านี้ย่อมถือว่ายากเกินไป เว้นเสียแต่ว่าจะมีใครได้กินยาบำรุงมาั้แ่เกิด ไม่เช่นนั้นก็ยากจะทำสำเร็จได้ ส่วนการเป็ผู้ควบคุมจิตอสูร คนผู้นั้นจะต้องดูดซับพลังิญญาจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย สิ่งนี้ยังยากที่จะสำเร็จได้ยิ่งกว่าการเป็นักสู้เสียอีก
อาณาเขติญญาแบ่งออกเป็เจ็ดสี แดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า คราม ม่วง คนทั่วไปมีอาณาเขติญญาสีแดง สำหรับพวกเขา การจะกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรได้นั้นแทบเป็ไปไม่ได้เลย พวกเขาย่อมต้องเลือกที่จะเป็นักสู้แทน ส่วนคนที่มีอาณาเขติญญาสีส้มและสีเหลือง พวกเขามีความเหมาะสมที่จะฝึกพลังิญญามากกว่า ส่วนคนที่มีอาณาเขติญญาสีเขียวหรือสีฟ้านับว่าเป็ผู้มีพร์อันโดดเด่น
นักเรียนในชั้นทุกคนหันไปมองเยี่ยจื่ออวิ๋น เสิ่นเยวี่ยและเซียวหนิงเอ๋อ พวกเขาอิจฉาคนทั้งสามเพราะทั้งสามเป็คนกลุ่มเดียวที่สามารถกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งปี
เมื่อกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว พวกเขาจึงสามารถเลื่อนขั้นไปเรียนในชั้นเรียนการต่อสู้หรือชั้นเรียนการควบคุมจิตอสูรอย่างเป็ทางการ ถึงเวลานั้น พวกเขาก็จะไม่อยู่ในชั้นเรียนเดียวกันอีกต่อไป
รับรู้ได้ถึงสายตาของนักเรียนคนอื่นๆ เสิ่นเยวี่ยรีบยืดอกด้วยความภาคภูมิใจ ในฐานะที่เป็สมาชิกคนหนึ่งจากตระกูลเสินเซิ่ง เขาย่อมมียาบำรุงชั้นดีมากมายให้กินมาั้แ่เด็ก ตัวเขาจึงล้ำหน้าเพื่อนวัยเดียวกันมานานมากแล้ว การจะฝึกจนมีพลังิญญาถึงร้อยจุดภายในเวลาสองเดือนข้างหน้านั้น จึงเป็เื่ที่ง่ายดายยิ่งนัก เขาจึงตั้งตารอคอยการทดสอบที่จะมีขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้า
เสิ่นเยวี่ยจ้องมองเยี่ยจื่ออวิ๋นผู้งดงามที่อยู่ข้างๆ กายตน มีแต่เขาเท่านั้นที่คู่ควรกับนาง เนี่ยหลีหรือจะนับเป็สู้ได้! มันกลับกล้าพนันกับน้าของเขาว่าจะก้าวหน้าขึ้นเป็ผู้ฝึกตนระดับทองแดงหนึ่งดาวภายในเวลาสองเดือน ช่างโง่เง่าอวดดีนัก! เนี่ยหลีคิดว่ามันง่ายนักหรือที่จะได้เป็ผู้ฝึกตนระดับทองแดงหนึ่งดาว? อาณาเขติญญาสีแดงขยะผู้หนึ่งกล้าคุยโม้ท้าพนันเช่นนี้?
เยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อสบตากัน พวกนางต่างมีฐานะที่มาสูงส่ง เยี่ยจื่ออวิ๋นอยากเป็เพื่อนกับเซียวหนิงเอ๋อเสมอมา ทว่าเซียวหนิงเอ๋อกลับมองนางเป็คู่แข่ง นางถือว่าเยี่ยจื่ออวิ๋นเป็เป้าหมายและฝึกตนอย่างหนักเพื่อให้ทัดเทียมนาง
“ส่วนพวกที่คุยโวว่าจะก้าวขั้นไปถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวได้ภายในสองเดือนข้างหน้านั้น ข้าอยากจะเห็นนักเชียวว่าพวกมันจะไปได้ไกลสักแค่ไหน!” เสิ่นซิ่วชำเลืองมองเนี่ยหลีด้วยสายตาดูแคลนและเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหยามเหยียด
อาณาเขติญญาและพื้นฐานร่างกายถือเป็ตัวตัดสินความเร็วในการฝึกตนของผู้คน สำหรับสภาพของเนี่ยหลี ตามความเห็นโดยทั่วไป มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามปีหรือห้าปีจึงจะก้าวเข้าสู่ขั้นแรกได้สำเร็จ ต่อให้ก้าวขึ้นเป็นักสู้ระดับทองแดงหนึ่งดาวได้สำเร็จนั้น การกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรพร้อมทั้งอาณาเขติญญาสีแดงก็ยังถือว่าเป็เพียงความฝันเท่านั้น
เนี่ยหลีไม่เก็บคำพูดของเสิ่นซิ่วมาใส่ใจ
“สองเดือนใช่หรือไม่? มีเวลาเหลือเฟือ” เนี่ยหลีพูดพร้อมมุมปากขยับยกสูงขึ้น กลายเป็รอยยิ้มมั่นใจบางๆ คอยดูว่าข้าจะกลายเป็ผู้ฝึกตนระดับทองแดงหนึ่งดาวภายในสองเดือนได้อย่างไร!
เนี่ยหลี ลู่เพียวและตู้เจ๋อกำลังพูดคุยกัน
“เนี่ยหลี เ้าชอบเยี่ยจื่ออวิ๋นหรือ?” ลู่เพียวมองหน้าเนี่ยหลีพร้อมเอ่ยถาม
“ใช่แล้ว!” เนี่ยหลีเอ่ยตอบตามจริง
ลู่เพียวมองลึกเข้าไปในดวงตาของเนี่ยหลี ผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงทอดถอนใจ “เยี่ยจื่ออวิ๋นเป็คนสวยจริงๆ และเห็นแก่ที่เ้าเป็พี่น้องของข้า ข้าไม่ควรแข่งกับเ้า แต่ในฐานะพี่น้อง ข้าจำต้องเตือนเ้า ฐานะของเยี่ยจื่ออวิ๋นสูงส่งเกินไป นางไม่ใช่คนที่พวกเราจะคู่ควร” แม้ครอบครัวของเนี่ยหลีจะเป็หนึ่งในตระกูลขุนนาง ฐานะของเยี่ยจื่ออวิ๋นเมื่อเทียบกับของเขาแล้วย่อมถือว่าสูงส่งเกินไป
“พวกเ้าสองคนช่วยมองความเป็จริงกันให้มากสักหน่อยจะได้หรือไม่? เยี่ยจื่ออวิ๋นเป็ผู้มีพร์โดดเด่นพร้อมอาณาเขติญญาสีเขียวเชียวนะ! ไม่นานนางก็จะกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวแล้ว ข้าคำนวณแล้วว่าภายในเวลาสองเดือนนี้นางจะสามารถก้าวขั้นไปเรียนที่ชั้นผู้ฝึกควบคุมจิตอสูรได้อย่างแน่นอน เมื่อไปเรียนที่ชั้นนั้นแล้ว ฝีมือของนางก็คงต้องยิ่งก้าวหน้าขึ้นไปอีก นางจะยังจำเ้าได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ สิ่งที่ข้าเกลียดพวกลูกหลานชนชั้นสูงเช่นเ้าที่สุดก็คือวันๆ เอาแต่คิดหาวิธีไล่ตามก้นสาวๆ ในขณะที่พวกเ้ายังไม่รู้จักทำงานทำการหรือฝึกตนกันให้จริงจัง!” ตู้เจ๋อทำเสียงขึ้นจมูกเสียงกระด้าง
“เ้าหมายความว่าอย่างไรที่ว่าพวกชนชั้นสูงชอบวิ่งไล่ตามก้นสาวๆ? ใส่ร้ายกันเกินไปแล้ว! ข้าขยันขันแข็งฝึกตนอยู่เสมอ ข้าเพียงแค่ใช้เวลาครึ่งวันสนใจเื่สาวๆ เท่านั้นเอง!” ลู่เพียวยักไหล่
“พระเ้าช่วย! ข้ามารู้จักกับคนประเภทไหนกันนี่?” ตู้เจ๋อพูดพร้อมกลอกตาไปมา
พร์ของตู้เจ๋อนั้นไม่เลว เขามีอาณาเขติญญาสีเหลืองและตั้งใจขยันหมั่นเพียรฝึกตน ทั้งต่อไปเขายังจะได้พบกับความลึกลับพิสดารอย่างหนึ่งซึ่งช่วยให้เขาก้าวขึ้นไปเป็ถึงผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองหนึ่งดาวผู้หนึ่ง เขาจะนำพาครอบครัวก้าวขึ้นเป็ครอบครัวชนชั้นสูง นี่เป็ความสำเร็จที่น่าอัศจรรย์ใจ
ตู้เจ๋อเป็คนที่ซื่อสัตย์อย่างยิ่ง ทว่าค่อนข้างคร่ำครึและเห็นทุกอย่างเป็เื่จริงจังไปเสียหมด ตรงกันข้าม ลู่เพียวเป็คุณชายสะเพร่าผู้หนึ่ง แม้มีจะมีอาณาเขติญญาสีแดง แต่เขามีพร์ที่จะเป็นักสู้ระดับสูง หากเขามีความพยายามและขยันหมั่นเพียร ผลการฝึกตนของเขาย่อมต้องก้าวหน้า เสียแต่เขาี้เีเกินไป ในชีวิตหนก่อนของเนี่ยหลี เขาเพียงก้าวถึงระดับเงินเท่านั้น แตกต่างจากตู้เจ๋อมากมาย
แต่ชีวิตก็แสนประหลาด แม้ทั้งสองจะต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ยังคงกลายเป็พี่น้องกันได้ในชีวิตหนก่อน
ฟังลู่เพียงกับตู้เจ๋อถกเถียงกัน เนี่ยหลีในชีวิตหนก่อนเคยรู้สึกแสลงหู แต่มาเวลานี้หัวใจของเนี่ยหลีกลับรู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง เขามีพี่น้องเช่นนี้ ช่างวิเศษนัก!
“เนี่ยหลี ข้าขอเตือนเ้าจงยอมแพ้เสียเถอะ ตั้งใจฝึกวิทยายุทธ์ของเ้าจะดีกว่า” ตู่เจ๋อพูดโน้มน้าวเนี่ยหลีอย่างจริงจัง หากเนี่ยหลีชอบนางจริงๆ นั้นก็คงต้องกลายเป็เื่ที่น่าเศร้าสุดแสนแน่แท้
ในชีวิตหนก่อน เนี่ยหลีไม่อาจตัดใจจากนางได้ หลังจากที่ได้รู้ข่าวการหมั้นหมายของเสิ่นเยวี่ยกับเยี่ยจื่ออวิ๋น ใจเขาปวดร้าวยิ่งนัก แต่ในชีวิตนี้ หากเขายังจะเป็ท่อนไม้ไร้ประโยชน์เช่นเดิม ก็คงต้องฆ่าตัวตายแล้ว
“อย่าห่วงไป ข้ารู้ดีว่าตน้าสิ่งใดและมันก็จะต้องสำเร็จ!” เนี่ยหลีพูดด้วยความมั่นใจ
ฟังคำพูดของเนี่ยหลีแล้วตู้เจ๋อกับลู่เพียวก็ได้แต่ยักไหล่ครู่หนึ่ง พวกเขาคิดไม่ออกว่าเนี่ยหลีไปเอาความมั่นใจเช่นนี้มาจากไหน เมื่อเห็นสีหน้าของเนี่ยหลี พวกเขากลับบังเกิดความรู้สึกว่ามันจะต้องทำได้สำเร็จ อดไม่ได้ที่จะถูกอารมณ์ของเนี่ยหลีชักจูงไป
“เอาเถอะ ไม่ว่าเ้าจะทำอะไร พวกเราล้วนสนับสนุนเ้า!” ตู้เจ่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพูด
ถูกทำโทษยืนอยู่ด้วยกัน ทำให้พวกเขาได้สานสายใยพี่น้องให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
“ตู้เจ๋อ ลู่เพียว ข้าจะทำให้พวกเ้าทั้งสองกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรที่แข็งแกร่งที่สุด!” เนี่ยหลีพูดอย่างหนักแน่น ในชีวิตหนก่อน ตู้เจ๋อกับลู่เพียวร่วมเป็ร่วมตายกับเขา พวกเขาต่อสู้และปกป้องชีวิตเขาอยู่หลายครั้ง บัดนี้เมื่อเขาได้กลับมาแล้ว ย่อมต้องช่วยตู้เจ๋อกับลู่เพียวเติมเต็มความฝันของพวกเขา
“ข้าลืมมันไปเสียแล้ว ข้ามีเพียงอาณาเขติญญาสีแดง ด้วยยาบำรุงที่บ้านข้าคอยส่งเสริม จะกลายเป็นักสู้คนหนึ่งมิใช่เื่ยาก แต่หากจะเลื่อนเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรกลับยากเกินไป!” ลู่เพียวเริ่มเปลี่ยนใจ
“เป็นักสู้จะมีประโยชน์อันใด? ยิ่งเ้าปีนได้สูงเท่าไหร่ก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น แถมนักสู้ก็ไม่อาจเทียบกับผู้ควบคุมจิตอสูรได้ ในสนามรบ นักสู้ระดับตำนานผู้หนึ่งก็ยังสู้ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองดำผู้หนึ่งไม่ได้ เ้าต้องรู้ว่าผู้ควบคุมจิตอสูรนั้นเป็ขุมกำลังที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง!” ตู้เจ๋อกลับเต็มไปด้วยความหวังที่จะได้เป็ผู้ควบคุมจิตอสูร หากเขาอยากทำสิ่งใด เขาจะทุ่มเทสุดตัว นี่คือหลักการที่เขายึดถือเอาไว้
“ไม่จำเป็ต้องเป็นักสู้ระดับตำนานหรอก หากข้าได้แค่ระดับทองก็พอใจแล้ว” ลู่เพียวพูดโดยไม่อ้อมค้อม ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
ตู้เจ๋อพูดไม่ออกแล้ว ไม่รู้จะพูดอย่างไรกับคนที่ไร้จุดมุ่งหมายอย่างนี้ได้อีก
“เ้ามีอาณาเขติญญาสีแดง แล้วอย่างไร? ข้าก็มีอาณาเขติญญาสีแดง” เนี่ยหลีจ้องมองและพูดกับลู่เพียว
ลู่เพียวกับตู้เจ๋อสงสัย เนี่ยหลีมีอาณาเขติญญาสีแดง และเหตุใดยังมั่นใจที่จะพูดว่าตนจะก้าวขั้นเป็ผู้ฝึกตนระดับทองแดงหนึ่งดาวได้ภายในเวลาสองเดือน หรือเขาจะมีวิธีการพิเศษอันใด?”
“เนี่ยหลี เ้าจะใช้วิธีอะไรดูดซับพลังิญญาเพื่อยกระดับพลังควบคุมจิตอสูร?” ตู้เจ๋อเอ่ยถาม เขาสงสัยยิ่ง จากที่เขารู้มา ไม่มีผู้ใดค้นหาทางลัดสำหรับการฝึกพลังิญญาได้เลย
“ฟังข้าก็พอ ตราบใดที่เ้าไม่ยอมแพ้ เ้าสามารถเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรที่แข็งแกร่งได้เสมอ”
“ยอมแพ้หรือ? ไม่มีทาง!” ตู้เจ๋อยืนยัน เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นเพื่อเปลี่ยนโชคชะตาของครอบครัวเขาให้ได้ กับเื่นี้ เขาไม่เคยคิดจะยอมแพ้
หากมีความเป็ไปได้ที่จะกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูร ลู่เพียวย่อมต้องดีใจอย่างยิ่ง หากเขาสามารถกลายเป็ผู้ควบคุมจิตอสูร เขาก็จะไม่ถูกบิดาไล่ทุบตีเพราะหาว่าเขาเกียจคร้าน ลู่เพียวเป็คนประเภทที่หากมีโอกาสให้เกียจคร้าน มันก็จะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนั้นผ่านไป
“นี่จะเป็เื่ยากหรือไม่?” ลู่เพียวพึมพำ
ตู้เจ๋อเหลือบมอง เ้านี่หมดหวังเสียแล้ว มันอยากจะเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรแต่กลับกลัวความลำบาก จะเป็ผู้ควบคุมจิตอสูร จะไม่ลำบากได้อย่างไร? หากเขาได้เป็ผู้ควบคุมจิตอสูร เขาจะยอมทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใด!”
“ไม่ยากหรอก” เนี่ยหลีตอบพร้อมส่ายหัว สีหน้าธรรมดาขณะพูด “เราแค่้าเงินเยอะๆ”
“หากสามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ทุกอย่างก็ง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก” ลู่เพียวพูดขณะถอนลมหายใจ “เ้า้าเท่าไหร่? ข้ามีเยอะ ข้าเก็บเงินไว้ได้สองพันเหรียญจิตอสูร หากสามารถเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรได้ ข้ายอมจ่ายหมดเลย”
หากเงินสองพันเหรียญจิตอสูรสามารถซื้อคำเรียกขานเ้าเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรได้ นี่นับว่าวิเศษเกินไปแล้ว
เนี่ยหลี่เหล่มองลู่เพียว ลู่เพียวช่างกล้าคิดว่าสองพันเหรียญนี้นับว่ามากมาย
เนี่ยหลีได้แต่พูด “สองพันเหรียญจิตอสูรจะทำการสิ่งใดได้? แน่นอน มันยังไม่พอ เ้าจะต้องมีอย่างต่ำหนึ่งล้านเหรียญจิตอสูร หรืออาจจะเป็สิบล้านเหรียญจิตอสูร!”
สิบล้านเหรียญจิตอสูร? ทั้งตู้เจ๋อกับลู่เพียวสูดลมหายใจเข้าดังฟืด หนึ่งล้านเหรียญจิตอสูร นั่นเป็จำนวนเงินเท่ากับรายได้ตลอดทั้งปีของครอบครัวชั้นสูงครอบครัวเลยทีเดียว! แล้วพวกเขาจะไปหาเงินจำนวนมากมายขนาดนี้มาจากที่ใดกัน?
--------------------------------------
*จิน หน่วยน้ำหนักของจีน ๑ จินหนักครึ่งกิโลกรัม
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้