“ไม่ได้ ข้าไม่อยากให้เ้ามาตายเพื่อข้า ! ซ่งไท่สื่อจะไม่ยอมแน่!” ฉีซีคัดค้านทันที
“องค์หญิงเพคะ ท่านพ่อของข้ามีนิสัยเข้มแข็งและจะยอมสละชีพเพื่อชาติอย่างแน่นอน เมื่อรังนกตกลงมา ไข่ในรังย่อมไม่เหลือ ชีวิตของพระองค์คือชีวิตของหยวนฉี โปรดเปลี่ยนเสื้อผ้าเถิดเพคะ” ซ่งเหลี่ยนจวินฝืนยิ้มและถอดเสื้อคลุมของตนยื่นให้ฉีซี
“ข้าไม่ใช่ผู้สืบทอดบัลลังก์อันดับแรกของหยวนฉี! ข้ายังมีอนุชาอยู่อีก พวกเขาจะฟื้นฟูหยวนฉีเอง! ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เ้าจะตายเพื่อข้า!” ฉีซีพูดด้วยความโกรธและผลักมือของซ่งเหลี่ยนจวินออกไป
อาณาจักรหยวนฉี พระโอรสจะเป็ผู้สืบทอดบัลลังก์มาโดยตลอด และไม่เคยมีพระธิดาองค์ใดเป็ผู้สืบทอดบัลลังก์มาก่อน
“องค์หญิง ตอนนี้ต้าจิ้งไล่สังหารราชวงศ์จึงไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้และด้วยคำสั่งเสียของฮองเฮาเหยียงเหนียง พระองค์ควรรักษาชีวิตของพระองค์เอาไว้! เปลี่ยนเสื้อผ้าเถิดเพคะ!” หรงรั่วไม่สนใจการขัดขืนของฉีซีและลงมือถอดเสื้อคลุมของฉีซีออก
เป็เื่ยากที่คนหนึ่งคนจะเอาชนะคนสามคนได้ ท่ามกลางเสียงร้องไห้ ฉีซีก็เปลี่ยนไปสวมเสื้อผ้าของนางกำนัล
เสียงร้องไห้นี้ยังดึงดูดทหารต้าจิ้งมาอีกด้วย โชคดีที่ห้องลับของตำหนักหานซิ่วซ่อนอยู่อย่างมิดชิด หลังจากค้นหาอยู่นานก็ไม่พบ สุดท้ายทหารต้าจิ้งจึงจากไปด้วยความหงุดหงิด
เมื่อเสียงฝีเท้าห่างออกไป ฉีซีจึงกระซิบว่า "พวกเขาค้นหาตำหนักหานซิ่วสองรอบแล้วและคงจะไม่กลับมาค้นอีกเป็แน่ ซ่งเหลี่ยนจวิน เ้ารอเราอยู่ที่นี่เถิด ข้าจะไปหาชุดใหม่มาให้เ้าเปลี่ยน เ้ากับพวกเราจะได้หนีไปด้วยกัน”
“สถานการณ์ในตอนนี้สับสนวุ่นวาย ชีวิตของข้าไม่สลักสำคัญอันใด ชีวิตขององค์หญิงนั้นสำคัญกว่า หากเสียเวลาหาเสื้อผ้าจนพลาดโอกาสหลบหนี เหลี่ยนจวินคงรู้สึกละอายต่อหยวนฉี ต่อให้ต้องตายเป็พันครั้งก็ไม่พอที่จะชดใช้ความผิดนี้ได้ องค์หญิงไม่ต้องกังวลเพคะ พวกท่านรีบหนีไปเถิด ข้าจะหาโอกาสหลบหนีออกไปเอง”
“เ้าจะหนีออกไปได้จริงหรือ?” ฉีซีรู้สึกหวาดกลัว ทว่าสิ่งที่ทำให้นางไม่สบายใจมากกว่านั้นคือท่าทางของซ่งเหลี่ยนจวินที่เฉยชาราวกับคนใกล้ตาย ไร้ซึ่งความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตอยู่
“เหลี่ยนจวิน──” หรงรั่วจับมือซ่งเหลี่ยนจวิน นางมีความรู้สึกเช่นเดียวกับฉีซี ทว่านางก็เข้าใจดีว่าซ่งเหลี่ยนจวิน้าทำสิ่งใด
ทั้งสองไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ เพียงสบตากันก็เข้าใจความคิดของกันและกัน
เพราะนางก็อยากตามฮองเฮาซูไปด้วยเช่นกัน! ไม่ว่าผู้อื่นจะหัวเราะเยาะว่านางโง่เขลาหรือไม่ก็ตาม ทว่าตอนนี้นางตัดสินใจที่จะพาองค์หญิงหลิวเฟิงหนีออกจากพระราชวังต้องห้ามก่อน หลังจากนั้นนางจะหาโอกาสทวงความยุติธรรมและสังหารฮ่องเต้แห่งต้าจิ้งผู้พรากชีวิตฮองเฮาซูไป! มีเพียงการปฏิบัติตามคำฝากฝังของฮองเฮาซูก่อนสิ้นพระชนม์เท่านั้น นางถึงจะจะสามารถไปเข้าเฝ้าฮองเฮาด้วยรอยยิ้มได้
ทั้งสี่คนออกจากห้องลับ เหลี่ยนจี๋ร้องไห้สะอึกสะอื้นและจับมือของซ่งเหลี่ยนจวินไว้แน่น
ซ่งเหลี่ยนจวินจับมือของเหลี่ยนจี๋เบา ๆ แล้วปล่อยมือ
ฉีซีมองที่ซ่งเหลี่ยนจวินอย่างลังเลโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เพราะท้ายที่สุดซ่งเหลี่ยนจวินก็ตัดสินใจทำสิ่งนี้เพื่อปกป้องนาง
“องค์หญิง ระวังตัวด้วยเพคะ” ซ่งเหลี่ยนจวินโค้งคำนับฉีซีอย่างอ่อนน้อม
ฉีซีกลืนก้อนสะอื้น พยายามอย่างสุดชีวิตที่จะเค้นคำพูดออกมา เสียงของนางแหบพร่าไม่สดใสดังเดิม "เหลี่ยนจวิน... สัญญากับข้า... ห้ามตายนะ! รอดไปให้ได้!"
เหลี่ยนจวินพยักหน้า ริมฝีปากโค้งขึ้นเป็รอยยิ้มราวกับว่านี่เป็เพียงการอำลาตามปกติ "องค์หญิงก็เช่นเดียวกันเพคะ"
จากนั้นฉีซี หรงรั่ว และเหลี่ยนจี๋ก็ออกไปทางประตูด้านข้างของตำหนักหานซิ่ว
ทหารของต้าจิ้งยังคงลาดตระเวนอยู่ ทั้งสามคนอาศัยความคุ้นเคยกับพระราชวังเพื่อซ่อนตัวและเห็นว่าประตูตะวันออกอยู่ใกล้แค่เอื้อม ทว่ามีทหารประจำการอยู่และตรงปรี่มาหาพวกเธอ
พวกนางตื่นตระหนกไม่รู้จะซ่อนตัวที่ไหนจึงหันหลังและเตรียมจะวิ่งกลับไป
แต่ทันทีที่หันกลับมาก็ต้องตกตะลึงกับภาพตรงหน้าจนพูดไม่ออก
เปลวไฟโหมกระหน่ำ ควันดำพวยพุ่งขึ้นจากจุดที่พวกนางเพิ่งผ่านมา เหล่านางกำนัลต่างวิ่งกรูกันมาจากจุดนั้นพลางะโลั่นว่า "ไฟไหม้! ไฟไหม้! หนีเร็ว!"
เมื่อหันกลับมาอีกครั้ง ทหารต้าจิ้งก็มาอยู่ตรงหน้า ไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้แล้ว! ทั้งสามคนนั่งขดตัวอยู่บนพื้น คิดว่าตนคงต้องตายเป็แน่ ทว่าทหารต้าจิ้งกลับะโข้ามพวกนางมุ่งหน้าไปยังจุดที่เกิดไฟไหม้!
เหล่าข้าหลวงจำนวนมากกำลังวิ่งหนีมาทางพวกนาง เหลี่ยนจี๋รู้สึกถึงลางไม่ดีและรู้สึกกังวลใจ ทว่าทันใดนั้น ท่ามกลางฝูงชนก็เห็นขันทีน้อยที่คุ้นเคยวิ่งโซเซมาทางนี้
ขณะที่ขันทีน้อยผ่านพวกนาง นางก็คว้าแขนเสื้อของขันทีน้อยไว้แล้วถามอย่างร้อนรนว่า “พี่กั่ว ไฟไหม้ที่ไหนงั้นหรือ?”
ขันทีน้อยอวี้กั่วพยายามดิ้นรนจากผู้ที่กุมแขนเสื้อของเขาไว้ด้วยความตื่นตระหนก เมื่อได้ยินเสียงของเหลี่ยนจี๋ เขาจึงะโว่า "ที่ตำหนักหานซิ่วน่ะสิ! ที่ตำหนักหานซิ่ว! องค์หญิงหลิวเฟิงจุดไฟเผาตำหนักหานซิ่ว! เกรงว่าผู้ที่…"
ก่อนที่เขาจะพูดจบก็หลือบไปเห็นฉีซี ดวงตาของเขาเบิกกว้างและคำพูดที่ยังพูดไม่จบก็ติดอยู่ในลำคอ
“ชู่” เหลี่ยนจี๋รีบปิดปากอวี้กั่วแล้วกระซิบว่า “พี่กั่ว อย่าส่งเสียงดังนะ!”
อวี้กั่วพยักหน้าซ้ำๆ ในเวลานี้ทหารต้าจิ้งเริ่มสังหารผู้คนอีกครั้ง เสียงร้องไห้ระงมของบรรดานางกำนัลดังผสมปนเปกับเสียงฝีเท้ามากมาย อวี้กั่วไม่มีเวลาได้สนใจว่าตนเพิ่งเห็นใคร เขาวางมือทับลงบนมือของเหลี่ยนจี๋และกล่าวว่า "เหลี่ยนจี๋ รีบหนีไปกับข้าเถิด!" จากนั้นก็ดึงเหลี่ยนจี๋วิ่งไปที่ประตูตะวันออก!
“อ๊ะ! พี่อวี้กั่ว ไม่ได้! ข้าจะทิ้งองค์หญิงและพี่หรงรั่วไว้ไม่ได้!” เหลี่ยนจี๋อุทานด้วยความใ หันกลับไปมองฉีซีและหรงรั่ว
แม้ว่าอวี้กั่วจะเป็ขันที แต่รูปร่างและพละกำลังก็ยังเหนือกว่านางกำนัลจึงลากเหลี่ยนจี๋ตรงไปยังประตูตะวันออกได้
เมื่อหรงรั่วเห็นเช่นนั้นจึงคว้าฉีซีไว้แล้วกล่าวว่า "องค์หญิง! รีบฉวยโอกาสนี้หลบหนีออกจากวังเถิดเพคะ!" จากนั้นก็วิ่งตรงไปทางประตูตะวันออกอย่างบ้าคลั่ง
เกิดความโกลาหลที่ประตูตะวันออก ทหารของต้าจิ้งไม่มีเวลาสนใจเหล่าข้าหลวงที่กำลังหนีแตกกระเจิงมากนัก พวกเขาชักดาบออกมาและฟาดฟันผู้คนที่ผ่านไปมา!
ร่างของผู้คนมากมายล้มตายอยู่ที่ประตูตะวันออก เมื่อฉีซีเห็นว่าดาบใหญ่กำลังจะฟันลงใส่เหลี่ยนจี๋จึงกรีดร้องออกมาด้วยความใ ทว่าเหลี่ยนจี๋กลับสะดุดศพที่นอนอยู่เบื้องล่างทำให้ทั้งนางและอวี้กั่วล้มกลิ้งลงไปกับพื้น ทั้งสองกลิ้งตัวและคลานไปข้างหน้า สุดท้ายก็หนีผ่านด่านทหารต้าจิ้งไปได้
ฉีซีมีเหงื่อเย็นไหลซึมออกมา ไม่รู้ว่าตัวเองมีโชคดีมากแค่ไหนถึงหนีพ้นจากด่านดาบนั้นมาได้
หรงรั่วะโ "องค์หญิง วิ่งต่อไปอย่าหยุด! อย่าลังเล! ตามคนกลุ่มนั้นไปเพคะ!"
พวกนางวิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างสุดแรงเกิด พอใกล้จะถึงกลุ่มนางกำนัล หรงรั่วก็ยื่นมือออกไปผลักนางกำนัลคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างล้มลง นางกำนัลผู้นั้นเสียหลักล้มใส่ปลายดาบของทหารต้าจิ้งจนร่างของนางถูกดาบแทงทะลุ!
“กรี๊ด! กรี๊ด! กรี๊ด!”
ฉีซีกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว นางเห็นหรงรั่วที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวยื่นมือไปผลักนางกำนัลที่อยู่ทางด้านขวาทำให้นางล้มใส่ร่างทหารต้าจิ้งเพื่อช่วยพวกนางจากคมดาบ!
เพื่อช่วยขวางพวกนางจากคมดาบ ไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณหรือกลัวในความโหดร้ายเืเย็นของหรงรั่วดี
จากนั้นหรงรั่วก็คว้าแขนฉีซีไว้แน่น เหยียบศพของข้าหลวงในวังรีบรุดผ่านประตูตะวันออก มุ่งหน้าสู่อนาคตที่ไม่อาจรู้ได้!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้