เจียงไป๋ปริปากให้อู๋จงยั้งมือ เขาก็มองเจียงไป๋ที่อยู่ตรงหน้าอย่างจะขอโทษพลางพูดขอบคุณติดๆ กัน
เจียงไป๋ยกมือปรามอย่างยิ้มแย้ม “จริงๆ แล้วผมกับเขาก็ไม่ได้มีเื่อะไรกันมากมาย ก็แค่น้องชายของคุณคนนี้ร้ายกาจมาก คอยตามตื๊อประธานเหยาของบริษัทเราอยู่ได้ โดยเฉพาะครั้งก่อนเขามาหาผมบอกว่าจะจับผมถ่วงน้ำ ดังนั้นผมจึงไม่มีทาง ทำได้แค่รบกวนให้พี่เป้าจัดการ แต่ในเมื่อเป็เื่เข้าใจผิด ผมคิดว่าต่อไปคงไม่เกิดเื่อย่างนี้อีกแล้วใช่ไหม?”
“ไม่หรอก … ไม่หรอก … คุณวางใจได้ ผมสัญญาหลังจากกลับไปแล้วผมจะสั่งสอนมันให้ดีแน่นอน ต่อไปหากมันยังกล้าไปปรากฏตัวต่อหน้าประธานเหยาอีก ผมจะฆ่ามันทันที!” อู๋จงรีบตอบ
ต่อมาทั้งสองก็พูดคุยกันสักพัก แล้วอู๋จงก็กล่าวลา แน่นอนว่าก่อนจะอำลาก็ยังไม่ลืมที่จะเช็กบิล
เจียงไป๋พูดคุยอยู่กับพวก ผอ.จินอยู่สักครู่ จึงแยกย้ายกันไป
ก่อนจะไป ผอ.จินยังให้เบอร์โทรศัพท์ไว้กับเจียงไป๋ และตบอกพูดว่าหลังจากนี้หากมีเื่อะไรก็มาหาเขาได้
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เจียงไป๋ไม่ได้จริงจังนัก
ผอ.จินเกรงใจอย่างนี้ก็แค่เห็นแก่หน้าจ้าวอู๋จี๋ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา แต่บุคคลแบบนี้จะผูกมิตรไว้สักหน่อยก็ไม่เลว และเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ
พอออกจากประตู เจียงไป๋กับเหยาหลานก็กลับไปด้วยกัน ตลอดทางไม่ได้พูดอะไร มีเพียงสายตาของเหยาหลานที่มักจะเล็งไปที่ตัวเจียงไป๋โดยไม่รู้ตัว และก็ไม่รู้ว่ากำลังดูอะไรอยู่ เธอมองบอสเจียงไป๋อย่างอึดอัด
“หน้าผมมีอะไร? มองขนาดนี้”
เมื่อลงจากรถแล้ว เสี่ยวเทียนก็กลับไป และเจียงไป๋ก็เพิ่งจะพูดกับเหยาหลานที่อยู่ตรงหน้า
“เธอเป็ใครกันแน่? แล้วเพื่อนคนนั้นของเธอเป็ใครมาจากไหน แม้แต่คนใหญ่คนโตอย่าง ผอ.จิน เขาก็เชิญมาได้แถมยังเอาอกเอาใจเขาอีก ยังมีอีก ทำไมอู๋จงได้ยินชื่อเธอแล้วเหมือนจะกลัวมาก? อู๋จงคนนี้ฉันไม่รู้จัก แต่คนในวงการที่รู้จักอู๋เทียนก็มีมากมาย ได้ยินว่ามีที่มาที่ไปอย่างไม่ชอบธรรม และมีอำนาจมาก ทำไมพอได้ยินชื่อเธอก็อย่างกับหนูเห็นแมวไปได้ น้องชายเธอยิ่งทำให้พี่สาวแปลกใจขึ้นทุกทีแล้วนะ”
เหยาหลานปิดปากอมยิ้ม พลางถามด้วยใบหน้าที่แปลกใจมาก
“ผม? ผมก็แค่คนจริงจังคนหนึ่ง ไม่ใช่ว่าบอกคุณไปแล้วหรือ? ผมเป็ผู้ดูแลอยู่ที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเทียนตู อืม ตอนนี้ก็บวกกับเป็บอสของคุณ ผมก็มีงานแค่สองอย่างนี้ ไม่มีอะไรอย่างอื่นเป็พิเศษ มาพูดเื่สำคัญก่อน เื่กองถ่ายเมื่อไรคุณจะจัดการได้?”
เจียงไป๋หัวเราะและถามเื่อื่น โดยไม่ได้พูดถึงเื่นี้แล้ว
“วันนี้ฉันก็เริ่มลงมือแล้ว ผู้กำกับที่คุ้นเคยกันคนหนึ่งถือว่าเป็อันดับสองของประเทศ แต่ฝีมือการกำกับก็ดีมาก เรียกตัวมาได้ทุกเวลา ขาดก็แค่ภาพยนตร์ดีๆ สักเื่ เขาตั้งความหวังกับภาพยนตร์เื่นี้มาก ตอนบ่ายก็โทรศัพท์กลับหาฉันแล้วว่าจะรับงาน พรุ่งนี้เริ่มคัดเลือกตัวนักแสดง เชื่อว่าเร็วสุดก็หนึ่งสัปดาห์ถึงจะสามารถเริ่มถ่ายทำที่โรงถ่ายภาพยนตร์กูซูได้แล้ว”
พอพูดถึงเื่งาน เหยาหลานก็หุบยิ้มทันทีพลางพูดอย่างเอาจริงเอาจัง
“แต่ … ”
“แต่อะไร?”
“ต้นทุนจะต้องคิดสักหน่อยแล้ว ตอนบ่ายฝ่ายการเงินจัดทำแผนคำนวณงบประมาณ อิงตามความ้าของเธอแล้ว ภาพยนตร์เื่นี้เกรงว่าอย่างน้อยก็ต้องลงทุนสามสิบล้าน สำหรับอย่างมากนั้น ทางด้านฝ่ายการเงินของบริษัทตอนนี้ … ”
ยังพูดไม่ทันจบ เจียงไป๋ก็เข้าใจความหมายของเหยาหลานแล้ว
ถึงแม้หม่าฉางหยางจะใจกว้าง ตอนที่ขายบริษัทให้กับเขาก็ไม่ได้แตะต้องฝ่ายการเงินแม้แต่แดงเดียว แต่บริษัทนี้เดิมทีก็แค่เปิดเล่นๆ หากไม่มีเหยาหลานทุ่มเทความสามารถ แค่ลูกชายล้างผลาญของหม่าฉางหยางก็คงจะทำให้ที่นี่เจ๊งยับเยินไปนานแล้ว เป็ธรรมดาที่จะไม่มีเงินทุนมากมายมาลงทุนสร้างภาพยนตร์เองสักเื่
“เื่เงินพูดง่าย พรุ่งนี้จะมีเงินเข้าบัญชียี่สิบห้าล้าน สำหรับส่วนที่เหลือ ผมจะทยอยโอนเพิ่มให้ครบ”
จางฉางเกิงมอบเงินสดให้เจียงไป๋ยี่สิบล้านเต็มๆ ค่าต้นฉบับของเจียงไป๋ก็ทยอยเข้าบัญชี บวกกับต้าชื่อเจี้ยและกำไรอย่างต่อเนื่องของธุรกิจที่จางฉางเกิงให้เ่าั้ ตอนนี้เจียงไป๋ก็มีเงินอยู่ในมือยี่สิบแปดล้าน
ให้ไปยี่สิบห้าล้าน เหลือสามล้าน ส่วนที่เหลือคิดว่าใน่ถ่ายทำภาพยนตร์ค่อยโอนเพิ่มให้ครบก็ไม่ยาก
“น้องชายผู้แสนดี เธอยิ่งทำให้พี่ต้องมองเธอใหม่แล้ว นั่นก็เงินสดหลายสิบล้าน แค่ปุบปับก็เอาออกมาแล้ว? อู๋เทียน อู๋จงยังกลัวเธอขนาดนั้น ดูแล้วเธอคงมีเื้ัที่ไม่ธรรมดาเลย เป็คนใหญ่คนโตล่ะสิ! เธอดูสิพี่สาวเป็อย่างไรบ้าง? หรือไม่ …ประธานบริษัทนี้ของเธอพี่ไม่ทำแล้ว ต่อไปเธอรับเลี้ยงพี่ก็พอแล้ว อีกหน่อยพี่ก็จะเป็คนของเธอ ปกติก็จะไม่ทำอะไร กินข้าว ปรนนิบัติเธอ งานในอนาคตก็คือเป็คนรักของเธอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงไป๋แล้ว เหยาหลานก็ยิ้มหวาน และพุ่งมาหาอย่างน่าเอ็นดู เธอเข้ามาแนบข้างกายเจียงไป๋เป่าลมอุ่นๆ พลางพูดอย่างหยาดเยิ้ม
“เฮ้ … เหยาหลาน เธอเคารพกันบ้างสิ!”
การกระทำอย่างนี้ทำให้เจียงไป๋อึดอัดเหลือเกิน เขาดึงมือของเธอออกพลางพูดอย่างเคอะเขิน
หากเหยาหลานยอมทำอย่างนี้จริงๆ แน่นอนว่าเจียงไป๋ก็ไม่ติดอะไร แต่เขาก็รู้ดีว่าเหยาหลานตั้งใจหยอกเย้า หากเขาตอบตกลงจริงๆ เธอก็จะโกรธทันที
เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แล้วจะเอากระดูกมาแขวนคออีกทำไม
“เธอนี่น่าเบื่อจริงๆ!”
เหยาหลานทำเสียงงอนแกล้งพูดอย่างไม่พอใจ ทำให้เจียงไป๋กลอกตาใส่
“เธอไม่เบื่อ ไม่เบื่อก็ตั้งใจทำงาน ท่านประธานที่เคารพของผม หากคุณทำให้บริษัทดีขึ้นก็จะดีมาก สำหรับวิธีการอย่างนี้คุณเพลาๆ บ้างก็ดี ผมไม่กล้ายุ่งกับคุณหรอก” เจียงไป๋บ่นพึมพำ
“ตั้งใจทำอย่างไร? ว่าแต่ตอนนี้เธอก็เป็บอสของฉันแล้ว เมื่อก่อนฉันอาจจะกล้าหยอกเย้าเธอ แต่ตอนนี้ก็ไม่กล้าหรอก หากเธอไล่ฉันออกขึ้นมา แบบนั้นฉันก็ตกงานทันที ถึงเวลานั้นพี่สาวก็จะไม่มีงานทำ ดังนั้นตอนนี้ฉันก็กลัวเธอจริงๆ แล้ว พูดไปพูดมาน้องชายผู้แสนดี เธอจะขอร้องให้พี่สาวทำเื่ที่ไม่ควรทำบ้างไหม? พี่สาวก็เป็กุลสตรีคนหนึ่ง เธอก็อย่าทำอย่างนั้นกับฉันล่ะ อย่างน้อย … อย่างน้อยก็ไม่ควรทำที่บริษัท”
เหยาหลานมองเจียงไป๋พลางพูดอย่างน่าสงสาร ตอนที่พูดยังมีท่าทางเขินอาย ทำให้คนอื่นเริ่มคิดขึ้นมาเรื่อยๆ
“ผม … ”
เจียงไป๋เกลียดจนแทบจะลากเธอเข้าไปในป่าเล็กๆ ด้านข้าง แล้วจัดการให้มันเสร็จๆไป แต่เขายังพอรู้จักตัวเองดี หากทำอย่างนั้นจริงๆ เหยาหลานก็จะขัดขืนไม่ได้แน่นอน แต่ทั้งสองก็คงจบกันแค่นี้
เหยาหลานถึงภายนอกจะดูมั่นใจแต่ภายในบริสุทธิ์ ดูเหมือนจะอ่อยอย่างโจ่งแจ้ง แต่ภายในกลับรักษาความเด็ดเดี่ยว หากทำอย่างนี้จริงๆ เหยาหลานก็จะสู้ตายอย่างแน่นอน
ดังนั้นความคิดนี้ก็แค่ผุดขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนจะล้มเลิกไป และไม่สนใจผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้อีก เขาหันหลังเดินขึ้นอาคารไปอย่างไม่สนใจเหยาหลาน
เื่ของอู๋เทียนในวันนี้ ทำให้เจียงไป๋ได้แต้มบารมีหนึ่งร้อยกว่าแต้ม เขายังไม่ได้กลับไปศึกษาค้นคว้าให้ดีเลย
“เฮ้ เธออย่าไปสิ! ยังพูดไม่จบจะไปได้อย่างไร! เธอจะทำหรือไม่! ไปที่ห้องฉัน? บอสคะ บอสอย่าเพิ่งไป … รอเดี๋ยว เสื้อในที่ฉันซื้อมาใหม่เซ็กซี่มากนะ”
เธอมองเจียงไป๋จากไปอย่างตะลึงงัน และรีบเดินตามหลังไปทันที เธอเดินไปด้วยและะโไปด้วย ทั้งยังไม่สนใจท่าทางตะลึงจนตาค้างของยามที่อยู่ข้างๆ อาคาร แล้วยังพูดอย่างไร้ยางอายอีก
เธอเพิ่งพูดออกมา เจียงไป๋ก็ยิ่งเดินเร็วขึ้น
เขาไม่รอลิฟต์และรีบหายไปจากตรงหน้าเหยาหลานทันที
เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงบ้าๆ คนนี้แม้แต่น้อย!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้